Names
* ซาราห์, ซาราย
ข้อเท็จจริง
- ซาราห์เป็นภรรยาของอับราฮัม
- เดิมชื่อของเธอคือ"ซาราย" แต่พระเจ้าทรงเปลี่ยนให้เป็น "ซาราห์"
- ซาราห์ให้กำเนิดบุตรชายตามที่พระเจ้าทรงให้พระสัญญาไว้กับเธอและอับราฮัม
กรีก, ชาวกรีก
ข้อเท็จจริง
คำว่า "กรีก" อ้างถึงภาษาที่ใช้พูดในประเทศกรีซ กาษากรีกใช้พูดทั่วอาณาจักรโรมัน คำว่า "ชาวกรีก" หมายถึง "การพูดภาษากรีก"
- เนื่องจากคนที่ไม่ใช่ยิวส่วนมากในอาณาจักโรมันพูดภาษากรีก พวกคนาต่างชาติบ่อยครั้งอ้างถึง คน "กรีก" ในพันธสัญญาใหม่ เฉพาะอย่างยิ่งเพื่อให้แตกต่างจากคนยิว
- วลี "คนยิวกรีก" อ้างถึงคนยิวผู้พูดภาษากรีกเพื่อให้ตรงข้ามกับคำว่า "คนยิวฮีบรู" ผู้พูดเฉาะภาษาฮีบรูหรือบางทีภาษาอาราม
- วิธีอื่นในการแปล "ชาวกรีก" สามารถรวมถึง "การพูดภาษากรีก" หรือ "กรีกตามวัฒนธรรม" หรือ "กรีก"
- เมื่ออ้างถึงพวกที่ไม่ใช่ยิว "กรึก" สามารถแปลว่า "คนต่างชาติ"
กรีซ
ข้อเท็จจริง
ในสมัยพันธสัญญาใหม่ กรีซเป็นเมืองในอาณาจักรโรมัน
- เช่นเดียวกับประเทศกรีซสมัยใหม่ ประเทศนี้ตั้งอยู่บนคาบสมุทรที่ล้อมรอบด้วยทะเลเมดิเตอเรเนียนทะเลเอเจียน และทะเลไอโอเนียน
- อัครสาวกเปาโลได้เยี่ยมเยียนเมืองต่างๆ ในกรีซและตั้งคริสตจักรในเมืองโครินธ์ เธสะโลนิกาและเมืองฟิลิปปิ และบางทีเมืองอื่นๆ ด้วย
- คนที่มาจากกรีซเรียกว่า "คนกรีก" และภาษาของพวกเขาคือ "ภาษากรีก" มีหลายคนจากเขตโรมอื่น ๆ ก็พูดภาษากรีกด้วย รวมทั้งชาวยิวหลายคน
- บางครั้งคำว่า "คนกรีก" ก็ใช้อ้างถึงคนต่างประเทศ
กัท
ข้อเท็จจริง
กัทคือหนึ่งในห้าเมืองหลักของชนชาติฟิลิสเตีย ตั้งอยู่ทางทิศเหนือของเมืองเอโครนและทิศตะวันออกของเมืองอัชโดดและอัชเคโลน
- นักรบชาวฟิลิสเตียชื่อโกลิอัท มาจากเมืองกัท
- ระหว่างช่วงเวลาของซามูเอล คนฟิลิสเตียได้ขโมยหีบพันธสัญญาจากชนชาติอิสราเอลและเอาไปไว้พระวิหารของพระนอกรีตของพวกเขาที่อัชโดด แล้วก็ได้ย้ายไปที่กัทและต่อมาก็ได้ย้ายไปที่เอโครน แต่พระเจ้าทรงลงโทษคนของเมืองนั้นด้วยโรคร้าย ดังนั้นพวกเขาจึงได้ส่งหีบแห่งพันธสัญญากลับมาที่ชนชาติอิสราเอลอีกครั้ง
- เมื่อดาวิดได้หนีจากกษัตริย์ซาอูล พระองค์ได้หนีไปที่เมืองกัทและอยู่ที่นั่นพักหนึ่งกับภรรยาของท่านสองคนและทหารอีกหกร้อยคนผู้ที่จงรักภักดีต่อพระองค์
กาซา
ข้อเท็จจริง
ในช่วงเวลาของพระคัมภีร์ กาซาเคยเป็นเมืองที่รุ่งเรืองของชาวฟิลิสเตีย ตั้งอยู่ที่ชายฝั่งทะเลเมดิเตอร์เรเนียน ประมาณ 38 กิโลเมตรจากทางใต้ของอัชโดด เป็นเมืองหนึ่งในห้าเมืองหลักของชาวฟิลิสเตีย
- เพราะทำเลที่ตั้งของเมือง กาซาเป็นท่าเรือกุญแจสำคัญในเรื่องการค้าซึ่งเกิด
- ขึ้นระหว่างประชาชนจำนวนมากและจากหลายประเทศ
- ปัจจุบันนี้ เมืองกาซายังคงเป็นเมืองท่าที่สำคัญในตามชายฝั่งของกาซาซึ่งเป็นภาคแผ่นดินที่ตั้งอยู่ตามแนวชายฝั่งของทะเลเมดิเตอร์เรเนียน ซึ่งมีคนอิสราเอลทางเหนือและตะวันออก และทางใต้มีอียิปต์
- กาซาคือเมืองที่ชาวฟิลิสเตียเอาตัวแซมสันไปหลังจากที่พวกเขาจับแซมสันแล้ว
- ฟิลิปนักประกาศได้เดินตามถนนทะเลทรายไปยังเมืองกาซาเมื่อเขาเจอกับขันทีชาวเอธิโอเปีย
กาด
ข้อเท็จจริง
กาดเป็นชื่อของหนึ่งในบุตรชายของยาโคบหรืออิสราเอล
- ตระกูลของกาดกลายเป็นหนึ่งในสิบสองเผ่าของชนชาติอิสราเอล
- มีชายอีกคนหนึ่งในพระคัมภีร์ชื่อกาดเป็นผู้เผยพระวจนะผู้ที่เผชิญหน้ากับกษัตริย์ดาวิดด้วยเรื่องความบาปของดาวิดที่ทำการสำรวจสำมะโนครัวประชากรชนชาติอิสราเอล
- เมืองบาอัลกาดและมิกดัลกาด เป็นคำสองคำที่อยู่ในพระคัมภีร์ต้นฉบับและบางครั้งงก็เขียนว่า "บาอัล กาด" และ "มิกดัล กาด"
กาเบรียล
ข้อเท็จจริง
กาเบรียลคือชื่อของทูตสวรรค์องค์หนึ่งของพระเจ้า เขาถูกกล่าวถึงโดยชื่อนี้อีกหลายครั้งในพั้นธสัญญาเดิมและพันธสัญญาใหม่
- พระเจ้าได้ส่งกาเบรียลมาแจ้งข่าวแก่ผู้เผยพระวจนะดาเนียลถึงความหมายของนิมิตที่เขาได้เห็น
- อีกครั้งหนึ่ง ขณะที่ดาเนียลกำลังอธิษฐาน ทูตสวรรค์กาเบรียลได้บินมาหาเขาและให้คำพยากรณ์เกี่ยวกับสิ่งที่จะเกิดในอนาคต ดาเนียลได้บรรยายถึงเขาว่า "ผู้ชาย"
- ในพันธสัญญาใหม่มีการบันทึกว่ากาเบรียลได้มาหาเศคาริยาห์ให้คำพยากรณ์ว่าภรรยาสูงอายุของเขาเอลิซาเบธจะมีบุตรชายคือ ยอห์น
- หลังจากนั้นอีกหกเดือน กาเบรียลได้ถูกส่งมาหามารีย์เพื่อบอกกับเธอว่าพระเจ้าจะทำการอัศจรรย์ให้เธอตั้งครรภ์ซึ่งจะเป็น "พระบุตรของพระเจ้า" กาเบรียลได้บอกมารีย์ว่าชื่อของบุตรชายคือ "พระเยซู"
กาลาเทีย
ข้อเท็จจริง
ในพันธสัญญาใหม่ กาลาเทียเป็นแคว้นหนึ่งของกรุงโรมตั้งอยู่ใจกลางเมืองตุรกีในปัจจุบันนี้
- ส่วนของกาลาเทียเป็นชายเขตแดนทะเลดำไปทางเหนือ และมันยังเป็นชายเขตของเมืองต่างๆ ของเอเซีย บิไธเนีย คัปปะโดเซีย เซลลิเซีย และ พัมฟิเลีย
- อัครทูตเปาโลเขียนจดหมายถึงคริสเตียนคนที่อาศัยอยู่ในแคว้นกาลาเทีย จดหมายนั้นอยู่ในพันธสัญญาใหม่ชื่อพระธรรม "กาลาเทีย"
- หนึ่งในเหตุผลที่เปาโลเขียนจดหมายถึงพี่น้องในกาลาเทียก็เพื่อเน้นย้ำในเรื่องพระกิตติคุณของความรอดโดยพระคุณ ไม่ใช่ด้วยงานที่ทำ
- คริสเตียนต่างชาติในเมืองกาลาเทียได้รับการสอนจากคริสเตียนที่เป็นคนยิวให้รักษากฏบัญญัติของคนยิว
กาลิลี, ชาวกาลิลี
ข้อเท็จจริง
แคว้นกาลิลีตั้งอยู่ทิศเหนือสุดของอิสราเอล ทางทิศเหนือของแคว้นสะมาเรีย "ชาวกาลิลี" คือคนที่อาศัยอยู่ในเมืองกาลิลี
- แคว้นกาลิลี สะมาเรียและยูเดียคือแคว้นหลักสามแคว้นของอิสราเอลในช่วงเวลาของภาคพันธสัญญาใหม่
- แคว้นกาลิลีเป็นชายเขตด้านตะวันออกของทะเลสาบที่เรียกว่า "ทะเลกาลิลี"
- พระเยซูได้เติบโตและได้อาศัยอยู่ในเมืองนาซาเร็ธแคว้นกาลิลี
- การอัศจรรย์ส่วนมากและการสั่งสอนของพระเยซูเกิดขึ้นในแคว้นกาลิลี
กิเดโอน
ข้อเท็จจริง
กิเดโอนคือผู้ชายอิสราเอลคนที่พระเจ้าได้ยกขึ้นให้ช่วยกู้ชนชาติอิสราเอลจากศัตรูของพวกเขา
- ช่วงเวลาที่กิเดโอนมีชีวิตอยู่ กลุ่มคนที่เรียกว่ามีเดียนพยายามโจมตีชนชาติอิสราเอลและทำลายพืชผลของพวกเขา
- ถึงแม้ว่ากิเดโอนจะกลัว พระเจ้าได้ทรงใช้เขาให้นำชนชาติอิสราเอลที่จะต่อสู้คนมีเดียนและปราบปรามพวกเขา
- กิเดโอนเองก็ได้เชื่อฟังพระเจ้าโดยการทำลายแท่นบูชาพระเทียมเท็จบาอัลและพระอาเชราห์
- เขาไม่เพียงแค่นำคนเหล่านั้นในการโจมตีศัตรูของพวกเขา แต่ยังได้หนุนใจพวกเขาให้เชื่อพระเจ้าและนมัสการพระยาเวห์ พระเจ้าเที่ยงแท้แต่ผู้เดียว
กิเบอาห์
ข้อเท็จจริง
กิเบอาห์คือชื่อเมืองที่ตั้งอยู่ทางเหนือของกรุงเยรูซาเล็มและทางใต้ของเมืองเบธเอล
- กิเบอาห์อยู่ในเขตแดนของตระกูลเบนยามิน
- เป็นสถานที่ของการสู้รบครั้งใหญ่ระหว่างคนเผ่าเบนยามินและอิสราเอล
กิเบโอน, ชาวกิเบโอน
ข้อเท็จจริง
กิเบโอนคือเมืองที่ตั้งอยู่ทางทิศตะวันตกเฉียงเหนือของกรุงเยรูซาเล็มประมาณ 13 กิโลเมตร คนที่อาศัยอยู่ที่เมืองกิเบโอนเรียกว่าชาวกิเบโอน
- เมื่อชาวกิเบโอนได้ยินเรื่องที่ชนชาติอิสราเอลทำลายเมืองเยรีโคและเมืองอัย พวกเขาก็กลัว
- ดังนั้นชาวกิเบโอนจึงมาหาผู้นำของชนชาติอิสราเอลที่กิลกาลและแสร้งทำเป็นคนที่มาจากเมืองไกลแสนไกล
- ผู้นำของชนชาติอิสราเอลถูกหลอกและทำข้อตกลงกับคนกิเบโอนว่าพวกเขาจะปกป้องคนกิเบโอนและไม่ทำลายพวกเขา
กิลกาล
ข้อเท็จจริง
คำว่ากิลกาลคือเมืองทางตอนเหนือของเยรีโคและเป็นสถานที่แรกที่ชนชาติอิสราเอลตั้งค่ายหลังจากข้ามแม่จอร์แดนเพื่อเข้าไปยังแผ่นดินคานาอัน
- ที่กิลกาล โยชูวาได้ตั้งหินสิบสองก้อนที่เอามาจากแม่น้ำจอร์แดนตอนที่พวกเขาเพิ่งจะข้ามมา
- กิลกาลคือเมืองที่เอลียาห์และเอลีชาได้จากมาในขณะที่พวกเขาข้ามแม่น้ำจอร์แดน เมื่อเอลียาห์ถูกรับขึ้นไปบนสวรรค์
- ยังมีอีกหลายสถานที่ที่เรียกว่า "กิลกาล" ด้วยในพันธสัญญาเดิม
- คำว่า "กิลกาล" หมายถึง "หินวงกลม" บางทีอ้างถึงสถานที่ที่แท่นบูชาได้ถูกสร้างขึ้น
- ในพันธสัญญาเดิม ชื่อนี้มักจะเกิดขึ้นเสมอ คือ "กิลกาล" นี่อาจบ่งชี้ว่ามันไม่ได้เป็นชื่อของสถานที่แน่นอน แต่เป็นคำอธิบายถึงสถานที่ที่แน่นอนบางแห่งมากกว่า
กิเลอาด
ข้อเท็จจริง
กิเลอาดคือชื่อของภูเขาในดินแดนทางตะวันออกของแม่น้ำจอร์แดน ที่เผ่ากาด รูเบนและมนัสเสห์ของชนชาติอิสราเอลอาศัยอยู่
- บริเวณที่แห่งนี้ได้ถูกอ้างถึงด้วยว่า "เนินเขากิเลอาด" หรือ "ภูเขากิเลอาด"
- "กิเลอาด" คือชื่อของผู้ชายหลายคนในพันธสัญญาเดิม หนึ่งในผู้ชายเหล่านี้นั้นคือหลานชายของมนัสเสห์ กิเลอาดอีกคนคือพ่อของเยฟธาห์
เกชูร์
ข้อเท็จจริง
ช่วงเวลาของกษัตริย์ดาวิด เมืองเกชูร์เป็นอาณาจักรเล็กๆ ตั้งอยู่ทางฟากตะวันออกของทะเลกาลิลี ระหว่างประเทศอิสราเอลและอารัม
- กษัตริย์ดาวิดได้สมรสกับมาอาคาห์ธิดาของกษัตริย์แห่งเกชูร์และได้กำเนิดบุตรชายให้พระองค์คืออับซาโลม
- หลังจากที่ฆ่าอัมโนนพี่ชายต่างแม่ อับซาโลมก็หนีไปทิศตะวันออกเฉียงเหนือจากเยรูซาเล็มถึงเกชูร์ ระยะทางประมาณ 88 ไมล์ เขาได้อาศัยอยู่ที่นั่นสามปี
เกทเสมาเน
ข้อเท็จจริง
เกทเสมาเนคือสวนของต้นมะกอกเทศทางตะวันออกของกรุงเยรูซาเล็มเหนือหุบเขาขิดโรนและใกล้กับภูเขามะกอกเทศ
- สวนเกทเสมาเนคือสถานที่ที่พระเยซูและเหล่าสาวกของพระองค์มักจะไปที่นั่นเพื่อพักผ่อนจากฝูงชน
- ที่สวนเกทเสมาเนที่พระเยซูได้อธิษฐานในความโศกเศร้าอย่างสุดซึ้ง ก่อนการถูกจับที่นั่นโดยผู้นำชาวยิวทั้งหลาย
เกราร์
ข้อเท็จจริง
เกราร์คือเมืองในแผ่นดินคานาอัน ตั้งอยู่ทางทิศตะวันตกเฉียงใต้ของเมืองเฮโบรนและทิศตะวันตกเฉียงเหนือของเบเออร์เชบา
- กษัตริย์อาบีเมเลคคือผู้ปกครองของเมืองเกราร์เมื่ออับราฮัมและซาราห์มาตั้งรกรากที่นั่น
- คนฟิลิสเตียได้เข้ายึดครองเมืองเกราร์ระหว่างช่วงเวลาที่ชนชาติอิสราเอลอาศัยอยู่ในแผ่นดินคานาอัน
เกอกาชี, ชาวเกอกาชี
ข้อเท็จจริง
เกอกาชีคือกลุ่มคนที่อาศัยอยู่ใกล้กับทะเลกาลิลี ในแผ่นดินคานาอัน
- พวกเขาคือผู้สืบเชื้อสายของลูกชายของฮามคือคานาอันและเป็นหนึ่งในกลุ่มคนที่รู้จักกันว่าเป็น "ชาวคานาอัน"
- พระเจ้าได้ทรงสัญญากับชนชาติอิสราเอลว่าพระองค์จะช่วยพวกเขาต่อสู้กับคนเกอกาชีและคนคนนาอันกลุ่มอื่นๆ
- เหมือนกับคนคานาอันอื่นๆ คนเกอกาชีนมัสการพระเทียมเท็จและได้ทำสิ่งที่ผิดศีลธรรมซึ่งเป็นส่วนหนึ่งในการนมัสการของพวกเขา
โกเชน
ข้อเท็จจริง
โกเชนเป็นชื่อของดินแดนที่อุดมสมบูรณ์ที่ตั้งเลียบตามฝั่งแม่น้ำไนล์ ในส่วนตอนเหนือของอียิปต์
- เมื่อโยเซฟเป็นผู้ปกครองในอียิปต์ บิดาและพี่น้องของเขาและครอบครัวของเขาได้มาอาศัยอยู่ที่เมืองโกเชนเพื่อหนีการกันดารอาหารในคานาอัน
- พวกเขาและลูกหลานของพวกเขาได้อาศัยอยู่ในเมืองโกเชนอย่างดีมานานกว่า 400 ปี แล้วถูกพวกเขาบังคับให้เป็นทาสโดยฟาโรห์กษัตริย์ของอียิปต์
- ในที่สุดพระเจ้าได้ส่งโมเสสให้ช่วยคนอิสราเอลออกจากเมืองโกเชนและหนีจากการเป็นทาสนี้
โกโมราห์
ข้อเท็จจริง
โกโมราห์เป็นเมืองที่ตั้งอยู่ในหุบเขาที่อุดมสมบูรณ์แห่งหนึ่งทางตะวันออกของเมืองบาบิโลนสถานที่ที่หลานของอับราฮัมคือโลทได้เลือกที่จะมีชีวิต
- สถานที่ที่แน่นอนของโกโมราห์และเมืองโสโดมไม่เป็นที่ทราบ แต่มีข้อบ่งชี้หลายอย่างที่ทั้งสองเมืองนี้อาจจะตั้งอยู่ทางตอนใต้ของทะเลเกลือใกล้กั้บหุบเขาซิดดิม
- มีกษัตริย์หลายองค์ที่ทำสงครามในบริเวณที่ตั้งของเมืองโสโดมและเมืองโกโมราห์
- เมื่อครอบครัวของโลทถูกจับในข้อขัดแย้งระหว่างเมืองโสโดมและเมืองอื่น อับราฮัมและคนของเขาช่วยชีวิตพวกเขาเอาไว้
- ไม่นานหลังจากนั้น พระเจ้าได้ทำลายเมืองโสโดมและเมืองโกโมราห์เพราะความชั่วร้ายของผู้คนที่อาศัยอยู่ที่นั่น
โกลโกธา
ข้อเท็จจริง
คำว่า "โกลโกธา" คือชื่อของสถานที่ที่พระเยซูถูกตรึง คำนี้มาจากภาษาอารามหมายถึง "กะโหลก" หรือ "สถานที่แห่งหัวกะโหลก"
- โกลโกธาตั้งอยู่ด้านนอกกำแพงเมืองบางแห่งใกล้กับกรุงเยรูซาเล็ม บางทีอาจจะตั้งอยู่บนทางลาดของภูเขามะกอกเทศ
- ในพระคัมภีร์ฉบับภาษาอังกฤษดั้งเดิม โกลโกธาถูกแปลว่า "แคลวารี" ซึ่งมาจากภาษาลาตินแปลว่า "กะโหลก"
- พระคัมภีร์หลายฉบับใช้คำที่เหมือนกันคือคำว่า "โกลโกธา" ความหมายของคำนี้ก็ได้อธิบายไว้ในข้อพระคัมภีร์ และสามารถดูลิงค์ด้านล่างได้ว่าจะแปลคำนี้อย่างไร
How to Translate Names
โกลีอัท
ข้อเท็จจริง
โกลีอัทเป็นทหารตัวสูงใหญ่มากในกองทัพของคนฟิลิสเตียที่ถูกดาวิดฆ่าตาย
- โกลิอัทสูงประมาณสองถึงสามเมตร หลายครั้งจะถูกเอ่ยถึงว่าเหมือนยักษ์เพราะด้วยขนาดตัวที่ใหญ่โตของเขา
- ถึงแม้ว่าโกลีอัทได้มีอาวุธที่ดีกว่าและตัวใหญ่มากกว่าดาวิด พระเจ้าได้ทรงให้กำลังแก่ดาวิดและความสามารถที่จะปราบโกลีอัท
- ชนชาติอิสราเอลได้ประกาศชัยชนะเหนือคนฟิลิสเตียด้วยผลของชัยชนะของดาวิดเหนือโกลีอัท
คนเปริสซี
ข้อเท็จจริง
คนเปริสซีคือหนึ่งในกลุ่มชนชาติที่อาศัยอยู่ในดินแดนคานาอัน มีข้อมูลเพียงน้อยนิดเกี่ยวกับชนกลุ่มนี้ว่าบรรพบุรุษของพวกเขาคือใครและพวกเขาอาศัยอยู่ส่วนใดของดินแดนคานาอัน
- คนเปริสซีได้ถูกกล่าวถึงบ่อยในพันธสัญญาเดิมพระธรรมผู้วินิจฉัย ที่ได้บันทึกไว้ว่ามีการแต่งงานข้ามเผ่าพันธุ์ระหว่างคนเปริสซีและคนอิสราเอล ซึ่งภายหลังได้นำไปสู่การนมัสการพระเทียมเท็จทั้งหลาย
- หมายเหตุ คนในเผ่าเปเรศจะเรียกว่า "คนเปเรศซี" ซึ่งแตกต่างจากคนเปริสซี ในการแปลนั้นควรใช้การสะกดชื่อแตกต่างกันโดยสิ้นเชิงเพื่อให้เห็นข้อแตกต่างที่ชัดเจน
คนเยบุส
ข้อเท็จจริง
คนเยบุสเป็นกลุ่มชนในแผ่นดินคานาอัน พวกเขาเป็นพวกที่สืบเชื้อสายมาจากบุตรชายของฮาม คือ คานาอัน
- คนเยบุสได้อาศัยอยู่ในเมืองเยบุส ซึ่งต่อมาชื่อนี้ได้ถูกเปลี่ยนเป็น เยรูซาเล็มเมื่อกษัตริย์ดาวิดได้ชัยชนะเหนือเมืองนี้
- เมลลีเซเดค กษัตริย์ของซาเลม บางทีอาจเป็นต้นกำเนิดของคนเยบุส
คนอาโมไรต์
ข้อเท็จจริง
คนอาโมไรต์เป็นกลุ่มคนที่มีอำนาจมาก พวกเขาสืบเชื้อสายมาจากคานาอัน ซึ่งเป็นหลานชายของโนอาห์
- ชื่อของพวกเขามีความหมายว่า "ผู้ที่อยู่สูง" ซึ่งอาจหมายถึงพื้นที่ภูเขาที่พวกเขาอาศัยอยู่ หรือเป็นข้อเท็จจริงที่่ว่าพวกเขาเป็นที่รู้จักกันดีในเรื่องความเป็นคนตัวสูง
- คนอาโมไรต์อาศัยอยู่ในพื้นที่ทั้งสองฝั่งของแม่น้ำจอร์แดน เมืองอัยคือที่อาศัยของคนอาโมไรต์
- พระเจ้าได้เอ่ยถึง "ความบาปของคนอาโมไรต์" ซึ่งหมายถึงการที่พวกเขาบูชาพระเทียมเท็จและการกระทำผิดบาปรวมอยู่ด้วย
- โยชูวาได้พาคนอิสราเอลบุกไปทำลายคนอาโมไรต์ตามที่พระเจ้าทรงได้บัญชาให้ทำ
ครีต เครตัน
ข้อเท็จจริง
ครีตเป็นเกาะที่ตั้งอยู่นอกชายฝั่งทางตอนใต้ของประเทศกรีซ "เครตัน" คือคนที่อาศัยอยู่บนเกาะแห่งนี้
- อัครทูตเปาโลได้เดินทางไปที่เกาะครีตในระหว่างการเดินทางเพื่อการเผยแผ่ศาสนาของท่าน
- เปาโลได้ทิ้งเพื่อนร่วมงานของท่าน คือทิตัสไว้ที่เกาะครีตเพื่อสอนคริสเตียนและช่วยแต่งตั้งพวกผู้นำคริสตจักรที่นั่น
คาเดช, คาเดชบารเนีย, เมรีบาห์คาเดช
ข้อเท็จจริง
ชื่อคาเดช คาเดชบารเนีย และเมรีบาห์คาเดช ทั้งหมดอ้างถึงเมืองที่สำคัญเมืองหนึ่งในประวัติศาสตร์อิสราเอลซึ่งตั้งอยู่ทางตอนใต้ของอิสราเอล ใกล้กับแคว้นเอโดม
- เมืองคาเดชเป็นโอเอซิส คือ สถานที่ที่มีน้ำและดินดีในใจกลางของทะเลทรายชื่อว่าสิน
- โมเสสส่งผู้สอดแนมสิบสองคนเข้าไปในแผ่นดินคานาอันจากคาเดชบารเนีย
- อิสราเอลตั้งค่ายที่คาเดชในช่วง
- ระหว่างการกันดารอาหารในช่วงที่เดินทางรอนแรมไปในถิ่นทุรกันดารด้วย
- คาเดชบารเนียคือสถานที่ที่มิเรียมเสียชีวิต
- ที่เมรีบาห์คาเดช โมเสสไม่เชื่อฟังพระเจ้าและได้ตีก้อนหินทำให้น้ำไหลออกมาเพื่อชาวอิสราเอลแทนที่จะพูดกับก้อนหินตามที่พระเจ้าได้สั่งให้เขาทำ
- ชื่อ "คาเดช" มาจากคำภาษาฮีบรู มีความหมายว่า "ศักดิ์สิทธิ์" หรือ "แยกออกมา"
คานา
ข้อเท็จจริง
คานาเป็นหมู่บ้านหรือเมืองในแคว้นกาลิลี ตั้งอยู่ทางตอนเหนือของเมืองนาซาเร็ธ ห่างออกไปประมาณเก้าไมล์
- คานาเป็นบ้านเกิดของนาธานาเอลที่เป็นคนหนึ่งในสาวกสิบสองคน
- พระเยซูเสด็จไปร่วมงานเลี้ยงงานสมรสในหมู่บ้านคานา และทรงทำการอัศจรรย์ครั้งแรกที่นั่น โดยพระองค์ได้ทรงเปลี่ยนน้ำให้เป็นเหล้าองุ่น
- หลังจากนั้น บางครั้งพระเยซูได้เสด็จกลับไปที่หมู่บ้านคานา และได้พบกับข้าราชการคนหนึ่งจากคาเปอรนาอุมที่ได้ขอร้องให้พระองค์รักษาบุตรชายของเขา
คานาอัน, ชาวคานาอัน
ข้อเท็จจริง
คานาอันเป็นบุตรชายของฮาม ผู้ซึ่งเป็นบุตรชายคนหนึ่งของโนอาห์ ชาวคานาอันสืบเชื้อสายมาจากคานาอัน
- คำว่า "คานาอัน" หรือ "แผ่นดินคานาอัน" กล่าวถึงบริเวณแผ่นดินระหว่างแม่น้ำจอร์แดนกับทะเลเมดิเตอร์เรเนียน ขยายออกไปทางใต้จนถึงเขตแดนของประเทศอียิปต์ และทางตอนเหนือขึ้นไปถึงเขตแดนของประเทศซีเรีย
- แผ่นดินนี้เป็นที่อยู่อาศัยของชาวคานาอัน รวมทั้งกลุ่มคนอื่นๆ อีกหลายกลุ่ม
- พระเจ้าทรงสัญญาว่าจะมอบแผ่นดินคานาอันให้กับอับราฮัมและเชื่อสายของท่าน คือคนอิสราเอล
คาเปอรนาอุม
ข้อเท็จจริง
คาเปอรนาอุมเป็นหมู่บ้านชาวประมงอยู่ริมฝั่งทางตะวันตกเฉียงเหนือของทะเลกกาลิลี
- พระเยซูได้ทรงพักอาศัยอยู่ในหมู่บ้านคาเปอรนาอุม ในขณะที่ที่พระองค์ทรงกำลังสั่งสอนในแคว้นกาลิลี
- พวกสาวกของพระองค์หลายคนมาจากคารเปอรนาอุม
- พระเยซูทรงทำการอัศจรรย์หลายครั้งในเมืองนี้ รวมทั้งการทำให้เด็กหญิงคนหนึ่งกลับคืนมามีชีวิต
- คาเปอรนาอุมเป็นเมืองหนึ่งในสามเมืองที่พระเยซูทรงตำหนิต่อหน้าชุมชน เพราะผู้คนของเมืองเหล่านี้ปฎิเสธพระองค์ และไม่ศรัทธาในถ้อยคำของพระองค์ พระองค์ได้ทรงเตือนพวกเขาว่าพระเจ้าจะทรงลงโทษพวกเขาเพราะความไม่ศรัทธาของพวกเขา
คายาฟาส
ข้อเท็จจริง
คายาฟาสเป็นมหาปุโรหิตของอิสราเอล ในสมัยของยอห์นผู้ให้บัพติศมาและพระเยซู
- คายาฟาสมีบทบาทสำคัญในการสอบสวนและลงโทษพระเยซู
- มหาปุโรหิตอันนาสและคายาฟาสเป็นผู้ที่อยู่ในการสอบสวนเปโตรและยอห์นทุกข์เมื่อพวกเขาถูกจับกุม หลังจากที่รักษาคนเป็นอัมพาตให้หาย
- คายาฟาสเป็นคนที่พูดว่าเป็นการดีที่จะให้คนเดียวตายเพื่อคนทั้งชาติดีกว่าที่จะให้คนทั้งชาติต้องพินาศ พระเจ้าทรงทำให้เขาพูดเช่นนี้ตามที่มีคำพยากรณ์เกี่ยวกับการที่พระเยซูจะทรงสิ้นพระชนม์เพื่อช่วยประชากรของพระองค์ให้รอด
คารเมล, ภูเขาคารเมล
ข้อเท็จจริง
"ภูเขาคารเมล" กล่าวถึงเทือกเขาที่ตั้งตามแนวชายฝั่งทะเลเมดิเตอร์เรเนียนทางตอนเหนือของที่ราบชาโรน จุดที่สูงที่สุดของเทือกเขานี้สูง 546 เมตร
- มีเมืองหนึ่งที่ชื่อ "คารเมล" ด้วย ตั้งอยู่ในยูดาห์ ตอนใต้ของทะเลตาย
- นาบาลเจ้าของที่ดินที่ร่ำรวยกับอาบีกายิลภรรยาของเขาอาศัยอยู่ใกล้เมืองคารเมลที่ซึ่งดาวิดและคนของท่านเฝ้ายามให้กับคนเลี้ยงแกะของนาบาล
- บนภูเขาคาราเมล เอลียาห์ได้ท้าทายผู้พยากรณ์ของพระบาอัล ให้มีการแข่งขันเพื่อที่จะพิสูจน์ว่าพระยาห์เวห์ทรงเป็นพระเจ้าเที่ยงแท้พระองค์เดียว
- ขอให้ชัดเจนว่า ชื่อนี้ไม่ใช่ภูเขาลูกเดียว "ภูเขาคารเมล" สามารถแปลได้ว่า "ภูเขาบนเทือกเขาคารเมล" หรือ "เทือกเขาคาราเมล"
คาเลบ
ข้อเท็จจริง
คาเลบเป็นคนหนึ่งในคนสอดแนมชาวอิสราเอลสิบสองคนที่โมเสสส่งไปสำรวจแผ่นดินคานาอัน
- เขาและโยชูวาได้บอกประชาชนให้วางใจในพระเจ้าที่จะทรงช่วยพวกเขาให้มีชัยชนะเหนือชาวคานาอัน
- โยชูวาและคาเลบเป็นเพียงผู้ชายสองคนเท่านั้นในคนรุ่นของเขาที่ได้รับอนุญาตให้เข้าไปในแผ่นดินคานาอัน แผ่นดินแห่งพันธสัญญา
- คาเลบร้องขอให้มอบแผ่นดินเฮโบรนแก่เขาและครอบครัว เขารู้ว่าพระเจ้าได้ทรงช่วยให้เขาชนะคนที่อาศัยอยู่ที่นั่น
คาอิน
ข้อเท็จจริง
คาอินและอาเบลน้องชายของเขา เป็นบุตรชายสองคนแรกของอาดัมกับเอวาที่ได้กล่าวไว้ในพระคัมภีร์
- คาอินเป็นชาวสวนที่ผลิตธัญพืช ในขณะที่อาเบลเป็นคนเลี้ยงแกะ
- คาอินฆ่าอาเบลน้องชายของเขาเนื่องด้วยความอิจฉา เพราะพระเจ้าได้ทรงรับเครื่องบูชาของอาเบลแต่ไม่ทรงรับเครื่องบูชาของคาอิน
- ในการลงโทษ พระเจ้าได้ทรงไล่เขาออกไปจากเอเดนและบอกเขาว่า แผ่นดินจะไม่ให้ธัญพืชแก่เขาอีกต่อไป
- พระเจ้าทรงทำเครื่องหมายที่หน้าผากของคาอินเพื่อเป็นสัญญลักษณ์ว่าพระเจ้าจะทรงปกป้องเขาจากคนอื่นๆ ที่จะฆ่าเขาเมื่อเขาร่อนเร่ไป
คูช
ข้อเท็จจริง
คูช เป็นบุตรชายคนโตของฮาม เขาเป็นบรรพบุรุษของนิมโรด พี่น้องสองคนของเขาชื่ออียิปต์และคานาอัน
- ในสมัยพันธสัญญาเดิม "คูช" เป็นชื่อของพื้นที่ขนาดใหญ่ทางตอนใต้ของอิสราเอล เป็นไปได้ที่แผ่นดินนี้ได้รับการตั้งชื่อตามชื่อบุตรชายของฮาม คือคูช
- ในช่วงเวลาที่แตกต่างกัน พื้นที่ในสมัยโบราณของ คูช อาจครอบคลุมพื้นที่บางส่วนของประเทศซูดาน อียิปต์เอธิโอเปียและอาจจะรวมถึงประเทศซาอุดิอารเบียในปัจจุบัน
- ชายอีกคนหนึ่งที่ชื่อ คูช ที่ถูกกล่าวถึงในสดุดี เขาเป็นคนเบนยามิน
เคดาร์
ข้อเท็จจริง
เคดาร์เป็นชื่อของบุตรชายคนที่สองของอิชมาเอล เป็นชื่อของเมืองสำคัญ ซึ่งบางทีได้ชื่อมาจากผู้ชายคนนี้
- เมืองเคดาร์ตั้งอยู่ทางตอนเหนือของอาราเบียใกล้กับเขตแดนทางตอนใต้ของปาเลสไตน์ ในสมัยพระคัมภีร์ เป็นที่รู้จักกันดีว่าเป็นเมืองที่ยิ่งใหญ่และสวยงาม
- ลูกหลานของเคดาร์ได้รวมกลุ่มของประชาชนที่เรียกว่า "เคดาร์"
- คำว่า "เต็นท์ที่มืดมิดแห่งเคดาร์" อ้างถึงเต็นท์ขนแพะสีดำที่ประชาชนเคดาร์ได้อาศัยอยู่
- พวกประชาชนเหล่านี้ได้เลี้ยงแพะและแกะ พวกเขาได้ใช้อูฐในการส่งของ
- ในพระคัมภีร์ คำว่า "สง่าราศีแห่งเคดาร์" พูดถึงความยิ่งใหญ่ของเมืองนั้นและประชาชนของเมืองนั้น
เคเดช
ข้อเท็จจริง
เคเดชคือเมืองหนึ่งของคานาอันซึ่งถูกยึดครองโดยคนอิสราเอลเมื่อพวกเขาเข้าสู่แผ่นดินคานาอัน
- เมืองนี้ตั้งอยู่ในทางตอนเหนือของอาณาเขตของอิสราเอล ในส่วนของแผ่นดินที่ได้ถูกมอบให้แก่เผ่านัฟทาลี
- เคเดชเป็นเมืองหนึ่งของหลายเมืองที่ได้รับเลือกให้เป็นเมืองที่พวกปุโรหิตชาวเลวีสามารถอาศัยอยู่ เนื่องจากพวกเขาไม่ได้มีแผ่นดินเป็นของตนเอง
- มันเป็นเมืองที่ถูกแยกออกมาให้เป็น "เมืองของการลี้ภัย"
เคเรธี
ข้อเท็จจริง
คนเคเรธีเป็นกลุ่มคนที่อาจจะเป็นส่วนหนึ่งของคนฟิลิสเตีย ซึ่งมักจะเขียนว่า "เคเรธี"
- คนเคเรธีและคนเปเลท" เป็นกลุ่มทหารพิเศษจากกองทัพของกษัตริย์ดาวิดผู้ที่ถวายตัวเป็นองครักษ์ของดาวิด
- เบไนยาห์ บุตรของเยโฮยาดา เป็นคนหนี่งในคณะที่ปรึกษาของดาวิด เขาเป็นผู้นำของคนเคเรธีและคนเปเลท
- คนเคเรธียังคงอยู่กับดาวิด ในตอนที่ดาวิดเสด็จหนีออกจากกรุงเยรูซาเล็ม เพราะการกบฏของอับซาโลม
เคลเดีย, ชาวเคลเดีย
ข้อเท็จจริง
เคลเดียเป็นแคว้นในตอนใต้ของเมโสโปเตเมียหรือบาบิโลน คนที่อาศัยอยู่ในแคว้นนี้เรียกว่าชาวเคลเดีย
- เมืองเออร์ เมืองที่อับราฮัมจากมา ตั้งอยู่ในแคว้นเคลเดีย เมืองนี้มักจะถูกเรียกว่า "เมืองเออร์แห่งเคลเดีย"
- กษัตริย์เนบูคัดเนสซาร์เป็นคนหนึ่งในชาวเคลเดียหลายคนที่ได้เป็นกษัตริย์เหนือบาบิโลน
- หลังจากนั้นหลายปี ประมาณ 600 ก.ค.ศ.คำว่า "ชาวเคลเดีย" ได้หมายถึง "ชาวบาบิโลน"
- ในพระธรรมดาเนียล คำว่า "ชาวเคลเดีย" หมายถึงผู้ชายคนชั้นพิเศษที่มีการศึกษาสูงและศึกษาดวงดาว
แคว้นเอเชีย
ข้อเท็จจริง
ในสมัยพระคัมภีร์ "เอเชีย" เป็นชื่อของแคว้นหนึ่งของอาณาจักรโรม แคว้นนี้ตั้งอยู่ทางตะวันตกของประเทศตุรกีในปัจจุบันนี้
- เปาโลได้เดินทางไปยังแคว้นเอเชียและประกาศข่าวประเสริฐในหลายๆ เมืองที่นั่น ในท่ามกลางเมืองเหล่านี้มีเมืองเอเฟซัสและเมืองโคโลสี
- เพื่อไม่ให้สับสนกับทวีปเอเชียในปัจจุบัน อาจจำเป็นที่จะต้องแปลคำนี้ว่า "แคว้นหนึ่งของโรมสมัยโบราณชื่อเอเชีย" หรือ "แคว้นเอเชีย"
- คริสตจักรทั้งหมดที่ถูกเอ่ยถึงในพระธรรมวิวรณ์ทั้งหมดอยู่ในแคว้นเอเชียของโรม
โครเนลิอัส
ข้อเท็จจริง
โครเนลิอัสเป็นชาวต่างชาติหรือไม่ใช่ชาวยิวซึ่งเป็นนายทหารในกองทัพโรมัน
- เขาได้อธิษฐานเป็นประจำต่อพระเจ้าและมีใจกว้างมากในการให้ทานคนยากจน
- เมื่อโครเนลิอัสและครอบครัวของเขาได้รับฟังอัครสาวกเปโตรอธิบายเรื่องพระกิตติคุณ พวกเขาจึงกลายเป็นผู้ศรัทธาในพระเยซู
- คนในครัวเรือนของโครเนลิอัสเป็นคนกลุ่มแรกที่ไม่ใช่ชาวยิวที่กลายเป็นผู้ศรัทธาในพระเยซู
- เรื่องนี้แสดงให้เห็นว่าบรรดาสาวกของพระเยซูได้มาเพื่อช่วยทุกคนรวมทั้งคนต่างชาติ ให้ได้รับความรอด
โคราห์
ข้อเท็จจริง
โคราห์คือชื่อของคนสามคนในพันธสัญญาเดิม
- หนึ่งในบุตรชายของเอซาวชื่อว่า โคราห์ เขาได้เป็นผู้นำของคนหนึ่งในชุมชนของเขา
- โคราห์เป็นเชื้อสายของเลวีและได้รับใช้ในพลับพลาฐานะปุโรหิต เขาอิจฉาโมเสสและอาโรนและได้นำกลุ่มผู้ชายกบฎต่อพวกเขา
- ผู้ชายที่ชื่อโคราห์คนที่สามอยู่ในรายชื่อของลูกหลานของยูดาห์
เจสซี
ข้อเท็จจริง
เจสซีเป็นบิดาของกษัตริย์ดาวิด และเป็นหลานชายของรูธ และโบอาส
- เจสซีมาจากเผ่ายูดาห์
- เขาเป็น "คนเอฟราไธท์" ซึ่งหมายความว่าเขามาจากเมืองเอฟราธาท (เบธเลเฮ็ม)
- ผู้เผยพระวจนะอิสยาห์ได้เผยพระวจนะเกี่ยวกับ "หน่อ" หรือ "กิ่ง" มี่จะมาจาก "รากของเจสซี" และเกิดผล นี่อ้างถึงพระเยซูผู้เป็นเชื้อสายของเจสซี
ชาโรน, ที่ราบชาโรน
ข้อเท็จจริง
ชาโรนเป็นชื่อของพื้นที่ราบเป็นพื้นที่อุดมสมบูรณ์ตามแนวชายฝั่งของทะเลเมดิเตอร์เรเนียนตอนใต้ของภูเขาคาร์เมล เป็นที่รู้จักกันว่า"ที่ราบชาโรน"
- เมืองหลายเมืองที่กล่าวถึงในพระคัมภีร์ตั้งอยู่บนที่ราบชาโรนรวมถึงยัฟฟา ลีดดา ซีซารียา
- นี่สามารถแปลได้อีกว่า "ที่ราบที่เรียกว่าชาโรน" หรือ "ที่ราบชาโรน"
- คนที่อาศัยอยู่ในแถบชาโรนจะเรียกว่า "ชาวชาโรน"
ชาวฟิลิสเตีย
ข้อเท็จจริง
ชาวฟิลิสเตียคือกลุ่มชนชาติซึ่งได้ครอบครองแคว้นซึ่งมีชื่อว่าฟิลิสเตียซึ่งตั้งอยู่ติดกับชายฝั่งของทะเลเมดิเตอร์เรเนียน คำว่าฟิลิสเตียนั้นมีหมายความมว่า "ประชาชนแห่งทะเล"
- เมืองใหญ่ฟิลิสเตีย ได้แก่ เมืองอัชโดด เมืองอัชเคโลน เมืองเอโครน เมืองกัท และเมืองกาซา
- เมืองอัชโดดอยู่ทางตอนเหนือของฟิลิสเตีย ส่วนเมืองกาซานั้นอยู่ทางตอนใต้
- ชาวฟิลิสเตียบางทีรู้จักกันดีในเรื่องของการสู้รบกับชาวอิสราเอลเป็นเวลาหลายปี
- ผู้วินิจฉัยแซมสันเป็นนักรบที่มีชื่อเสียงซึ่งได้ทำการต่อสู้กับชาวฟิลิสเตียโดยใช้พลังเหนือธรรมชาติที่พระเจ้าประทานให้
- กษัตริย์ดาวิดบ่อยครั้งได้นำกองทัพในการสู้รบกับชาวฟิลิสเตีย รวมไปถึงครั้นเมื่อพระองค์ยังทรงพระเยาว์เมื่อพระองค์ปราบนักรบชาวฟิลิสเตียนามว่าโกลิอัทได้
ชาวมีเดีย, มีเดีย
ข้อเท็จจริง
มีเดียเป็นจักรวรรดิโบราณที่ตั้งอยู่ทางตะวันออกของอัสซีเรียและบาบิโลน และทางเหนือของเอลามและเปอร์เซีย ผู้คนที่อาศัยอยู่ในจักรวรรดิมีเดียถูกเรียกว่าเป็น "ชาวมีเดีย"
- มีเดียเป็นอาณาเขตที่ครอบคลุมส่วนของประเทศตุรกี อีหร่าน ไซเรีย อิรัก และอัฟกานิสถาน ในปัจจุบัน
- ชาวมีเดียมีความสัมพันธ์ใกล้ชิดกับชาวเปอร์เซีย และทั้งสองจักรวรรดิ์นี้ร่วมกำลังกองทัพเพื่อเอาชนะจักรวรรดิบาบิโลน
- บาบิโลนได้ถูกบุกรุกโดยดาริอุสชาวมีเดีย ระหว่างเวลาของผู้เผยพระวจนะดาเนียลขณะที่กำลังมีชีวิตอยู่ที่นั่น
ชินาร์
ข้อเท็จจริง
ชินาร์หมายความว่า "ประเทศที่มีแม่น้ำสองสาย" และเป็นชื่อของที่ราบหรือแคว้นที่อยู่ทางใต้ของเมโสโปเตเมีย
- ชินาร์ ต่อมาได้กลายเป็นที่รู้จักกันว่า "เคลเดีย" แล้วต่อมาเป็น "บาบิโลเนีย"
- คนสมัยโบราณอาศัยอยู่ในเมืองบาแบลในที่ราบของซินาห์ ได้สร้างหอสูงเพื่อทำให้พวกเขาดูยิ่งใหญ่
- คนรุ่นต่อมาอีกหลายรุ่น บรรพบุรุษของชาวยิวคืออับราฮัมได้อาศัยอยู่ที่เมืองเออร์ในแคว้นนี้ ที่เรียกตามเวลานั้นว่า "เคลเดีย"
ชิเมอี
ข้อเท็จจริง
ชิเมอีเป็นชื่อของผู้ชายหลายคนในพันธสัญญาเดิม
- ชิเมอีบุตรชายแห่งเกราเป็นชาวเบนยามินผู้แช่งสาปกษัตริย์ดาวิดและขว้างก้อนหินใส่พระองค์ในขณะที่พระองค์หนีจากกรุงเยรูซาเล็มเพื่อหลบนี้การถูกฆ่าโดยอับซาโลมโอรสของพระองค์
- ในพันธสัญญาเดิมยังมีปุโรหิตชาวเลวีหลายคนที่มีชื่อว่าชิเมอี
ชิโลห์
ข้อเท็จจริง
ชิโลห์เป็นเมืองด่านหน้าของคนคานาอันที่ถูกเอาชนะโดยชาวอิสราเอลภายใต้การนำของโยชูวา
- เมืองชิโลห์อยู่ทางตะวันตกของแม่น้ำจอร์แดนและตะวันออกเฉียงเหนือของเมืองเบธเอ็ล
- ในช่วงเวลาที่โยชูวานำอิสราเอลอยู่นั้น เมืองชิโลห์เป็นสถานที่นัดประชุมของคนอิสราเอล
- อิสราเอลสิบสองเผ่าได้พบกันที่ชิโลห์เพื่อมาฟังโยชูวากล่าวแก่พวกเขาว่าส่วนไหนของแผ่นดินคานาอันที่จะมอบให้พวกเขาแต่ละเผ่า
- ก่อนที่จะมีการสร้างพระวิหารขึ้นมาในกรุงเยรูซาเล็ม ชิโลห์เป็นสถานที่ที่ชาวอิสราเอลมาถวายเครื่องบูชาแด่พระเจ้า
- เมื่อซามูเอลยังเป็นเด็ก ฮันนาแม่ของเขาได้พาเขาไปอยู่ที่ชิโลห์เพื่อให้ปุโรหิตเอลีฝึกเขาให้ปรนนิบัติพระยาห์เวห์
เชเคม
ข้อเท็จจริง
เชเคมเป็นเมืองที่อยู่ในคานาอันตั้งอยู่ทางเหนือห่างจากเยรูซาเล็มประมาณ40ไมล์ เชเคมยังเป็นชื่อของผู้ชายคนหนึ่งในพันธสัญญาเดิม
- เมืองเชเคมเป็นเมืองที่ยาโคบได้ตั้งถิ่นฐานหลังจากที่ได้คืนดีกับเอซาวพี่ชายของเขา
- ยาโคบได้ซื้อที่ดินจากบุตรชายของฮาโมร์ชาวฮีไวท์ในเมืองเชเคม ที่ซึ่งต่อมากลายเป็นที่ฝังศพครอบครัวของเขาและเป็นสถานที่ที่บุตรชายทั้งหลายของยาโคบได้ฝังเขาไว้
- เชเคมบุตรชายของฮาโมร์ได้ข่มขืนดีนาห์บุตรสาวของยาโคบซึ่งเป็นผลให้บุตรชายของยาโคบฆ่าผู้ชายทุกคนในเมืองเชเคม
เชบา
ข้อเท็จจริง
ในสมัยโบราณ เชบาเป็นอารยธรรมโบราณหรือเป็นแคว้นที่อยู่บางแห่งในตอนใต้ของอารเบีย
- แคว้นเชบาหรือประเทศเชบาอาจตั้งอยู่ใกล้ซึ่งปัจจุบันเป็นประเทศเยเมนหรือประเทศเอธิโอเปียในปัจจุบัน
- คนที่อาศัยอยู่เป็นลูกหลานของฮาม
- ราชินีแห่งเชบาได้มาเยี่ยมเยียนกษัตริย์ซาโลมอนเมื่อพระนางได้ยินกิตติศัพท์ในความมั่งคั่งและสติปัญญาของพระองค์
- มีผู้ชายหลายคนที่มีชื่อว่า "เชบา" ที่ระบุลำดับวงศ์ตระกูลในพันธสัญญาเดิม เป็นไปได้ว่าชื่อของแคว้นเชบานั้นมาจากหนึ่งในผู้ชายเหล่านี้
- เมืองเบอร์เชบาถูกตัดให้สั้นเป็นเมืองเชบาหนึ่งครั้งในพันธสัญญาเดิม
เชม
ข้อเท็จจริง
เชมเป็นหนึ่งในหนึ่งในบุตรชายทั้งสามของโนอาห์ที่ได้ไปกับเขาในเรือขณะที่น้ำท่วมโลกที่ได้อธิบายไว้ในพระธรรมปฐมกาล
- เชมเป็นบรรพบุรุษของอับราฮัมและเชื้อสายของเขา
- เชื้อสายของเชมที่เป็นที่รู้จักกันคือ"เสไมต์" ผู้พูดภาษา "เสเมติก" อย่างเช่นภาษาฮีบรูและภาษาอาหรับ
- พระคัมภีร์บันทึกไว้ว่าเชมมีอายุยืนถึงเกือบ 600 ปี
ซอร์
ข้อเท็จจริง
ซอร์ เป็นเมืองเล็ก ๆ ที่โลท ได้หลบหนีเมื่อพระเจ้าทรงทำลายเมืองโสโดมและเมืองโกโมราห์
- ชื่อที่เป็นที่รู้จักกันก่อนหน้านี้คือ "เบลา" แต่ได้ถูกตั้งชื่อใหม่ว่า "ซอร์" เมื่อโลทได้ทูลขอพระเจ้าให้สงวนเมือง "เล็ก ๆ" นี้ไว้
- ซอร์ ได้คิดกันว่าเมืองนี้ได้ตั้งอยู่บนที่ราบของแม่น้ำจอร์แดน หรือทางตอนใต้สุดของทะเลตาย
ซามูเอล
ข้อเท็จจริง
ซามูเอลเป็นผู้เผยพระวจนะและผู้วินิจฉัยคนสุดท้ายของอิสราเอล เขาได้แต่งตั้งทั้งซาอูลและดาวิดให้เป็นกษัตริย์เหนืออิสราเอล
- ซามูเอลได้เกิดจากเอลคานาห์และนางฮันนาในเมืองรามาห์
- นางฮันนาเป็นหมันดังนั้นเธอจึงอธิษฐานอย่างสัตซื่อว่าต่อพระเจ้าจะประทานบุตรชายให้แก่เธอซึ่งซามูเอลก็เป็นคำตอบที่ได้อธิษฐานไว้
- นางฮันนาได้สัญญาไว้ว่าหากเขาเกิดมาตามคำอธิษฐานอย่างสิ้นหวังของฮันนาที่พระเจ้าจะประทานบุตรชายให้แก่เธอ เมื่อคำอธิษฐานได้รับการตอบ เธอจะถวายบุตรของเธอให้แด่พระยาห์เวห์
- เมื่อซามูเอลยังเป็นเด็ก ฮันนาได้ส่งเขาให้ไปช่วยปุโรหิตเอลีในพระวิหารเพื่อทำให้คำมั่นสัญญาของเธอต่อพระเจ้าเป็นจริง
- พระเจ้าได้ทรงยกชูซามูเอลให้เป็นผู้เผยพระวจนะที่ยิ่งใหญ่สำหรับพระองค์
ซาโลมอน
ข้อเท็จจริง
ซาโลมอนเป็นหนึ่งในบุตรของกษัตริย์ดาวิด พระมารดาของพระองค์คือเบธเชบา
- เมื่อซาโลมอนได้เป็นกษัตริย์แล้ว พระเจ้าได้ทรงบอกพระองค์ว่าให้ขออะไรก็ได้ที่กษัตริย์ซาโลมอนต้องการ ดังนั้นซาโลมอนจึงทูลขอสติปัญญาที่จะปกครองประชากรของพระองค์อย่างซื่อตรงและดี พระเจ้าทรงพอพระทัยคำทูลขอของกษัตริย์ซาโลมอนจึงประทานทั้งสติปัญญาและความมั่งคั่งให้พระองค์
- กษัตริย์ซาโลมอนมีชื่อเสียงในด้านการมีพระวิหารที่สำคัญที่ได้สร้างไว้ในกรุงเยรูซาเล็ม
- ถึงแม้ว่ากษัตริย์ซาโลมอนได้ทรงปกครองอย่างมีสติปัญญาในช่วงต้นของการปกครองของพระองค์ แต่ต่อมาพระองค์ทรงอภิเสกกับหญิงชาวต่างชาติอย่างโง่เขลาและเริ่มนมัสการบรรดาพระของผู้หญิงเหล่านั้น
- เพราะความไม่ซื่อสัตย์ของกษัตริย์ซาโลมอน หลังการสิ้นพระชนม์ของพระองค์พระเจ้าได้ทรงแบ่งแยกคนอิสราเอลเป็นสองอาณาจักร เป็นอิสราเอลและยูดาห์ บ่อยใครทั้งสองอาณาจักรก็ต่อสู้กัน
ซาอูล, (พันธสัญญาเดิม)
ข้อเท็จจริง
ซาอูลเป็นผู้ชายอิสราเอลคนหนึ่งผู้ซึ่งพระเจ้าได้ทรงเลือกให้เป็นกษัตริย์องค์แรกของชนชาติอิสราเอล
- ซาอูลเป็นคนมีรูปร่างสูงและหน้าตาหล่อเหลา และเป็นทหารแกล้วกล้า เขาเป็นคนประเภทที่ชนชาติอิสราเอลต้องการให้เป็นกษัตริษ์ของพวกเขา
- ถึงแม้ว่าเขาได้รับใช้พระเจ้าในตอนแรก แต่ต่อมาซาอูลกลายเป็นคนเย่อหยิ่งและไม่เชื่อฟังพระเจ้า ผลที่ตามมาคือพระเจ้าได้ทรงแต่งตั้งดาวิดให้เป็นกษัตริย์แทนที่ซาอูลและพระเจ้าให้ซาอูลถูกฆ่าตายในการสู้รบ
- ในพันธสัญญาใหม่ มีผู้ชายชาวยิวคนหนึ่งชื่อว่าเซาโล ผ฿่ที่เป็นที่รู้จักกันในนามว่า เปาโล และได้กลายมาเป็นอัครสาวกของพระเยซูคริสต์
ซิลีเซีย
ข้อเท็จจริง
ซิลีเซียเป็นแคว้นเล็กๆ ของโรมันตั้งอยู่ทางตอนใต้ซึ่งในปัจจุบันนี้เป็นประเทศตุรกี แคว้นนี้อยู่ติดกับทะเลอีเจียน
- อัครสาวกเปาโลเป็นพลเมืองของเมืองทาร์ซัสที่ตั้งอยู่ในแคว้นซิลีเซีย
- เปาโลใช้เวลาหลายปีในแคว้นซิลีเซียหลังจากที่ท่านได้พบกับพระเยซูบนถนนที่ไปยังเมืองดามัสกัส
- พวกยิวบางคนจากแคว้นซิลีเซียอยู่ในพวกคนที่เผชิญหน้ากับสเทเฟนและยุยงให้ประชาชนเอาก้อนหินขว้างเขาจนตาย
ซีซาร์
ข้อเท็จจริง
คำว่า "ซีซาร์" เป็นชื่อ หรือตำแหน่งที่ใช้กับผู้ครอบครองจักรวรรดิโรมันหลายคน ในพระคัมภีร์ ชื่อนี้หมายถึงผู้ครอบครองโรมันสามคนที่แตกต่างกัน
- ผู้ครอบครองโรมันคนที่แรกชื่อว่าซีซาร์ คือ "ซีซาร์ออกัสตัส" ที่ครอบครองในช่วงเวลาที่พระเยซูทรงบังเกิด
- ประมาณสามสิบปีหลังจากนั้น ในช่วงเวลาที่ยอห์นผู้ให้บัพติศมากำลังประกาศสั่งสอน ทิเบเรียสซีซาร์เป็นผู้ครอบครองจักรวรรดิโรมัน
- ทิเบเรียสซีซาร์ยังคงครอบครองกรุงโรมอยู่ ในเวลาที่พระเยซูบอกให้ประชาชนจ่ายสิ่งที่เป็นของซีซาร์ให้กับซีซาร์ และถวายสิ่งที่เป็นของพระเจ้าแด่พระเจ้า
- เมื่อเปาโลได้ถวายฎีกาถึงซีซาร์ คำนี้หมายถึง เนโร จักรพรรดิโรมัน ผู้ที่มีตำแหน่ง "ซีซาร์"ด้วย
- เมื่อคำว่า "ซีซาร์" ใช้บอกเป็นตำแหน่งในตัวมันเอง คำนี้ก็สามารถแปลได้ว่า "จักรพรรดิ" หรือ "ผู้ครอบครองชาวโรมัน"
- ในชื่ออย่างเช่น ซีซาร์ออกัสตัส หรือ ทิเบเรียสซีซาร์ คำว่า "ซีซาร์" สามารถที่จะสะกดให้ใกล้เคียงกับวิธีการสะกดตัวของภาษากลางที่ใช้สะกดคำนี้
ซีซารียา, ซีซารียาฟิลิปปี
ข้อเท็จจริง
ซีซารียาเป็นเมืองที่สำคัญบนชายฝั่งทะเลเมดิเตอร์เรเนียน อยู่ทางใต้ของภูเขาคารเมลประมาณ 39 กิโลเมตร ซีซารียา ฟีลิปปีเป็นเมืองที่ตั้งอยู่ในตอนเหนือของประเทศอิสราเอล ใกล้กับภูเขาเฮอร์โมน
- เมืองเหล่านี้ได้รับการตั้งชื่อตามกษัตริย์ที่ครอบครองจักรวรรดิโรมัน
- ซีซารียาที่อยู่ชายฝั่งทะเลกลายเป็นเมืองหลวงของของแคว้นยูเดีย โรมัน ในช่วงเวลาใกล้เคียงเวลาที่พระเยซูทรงบังเกิด
- อัครทูตเปโตรได้เทศนากับคนต่างชาติครั้งแรกที่เมืองซีซารียา
- เปาโลได้ลงเรือจากเมืองซีซารียาไปยังเมืองทาร์ซัส และไปทั่วเมืองนี้สองครั้งในการเดินทางทำพันธกิจของท่าน
- พระเยซูและพวกสาวกของพระองค์ได้เดินทางในเขตแดนรอบๆ เมืองซีซารียาฟิลิปปีในแคว้นซีเรีย ทั้งสองเมืองนี้ได้ถูกตั้งชื่อตามเฮโรด ฟีลิป
ซีนาย, ภูเขาซีนาย
ข้อเท็จจริง
ภูเขาซีนายเป็นชื่อของภูเขาที่อาจจะอยู่ทางส่วนทางตอนใต้ที่ปัจจุบันนี้เรียกว่าคาบสมุทรซีนาย และเป็นที่รู้จักกันในชื่อ "ภูเขาโฮเรบ" ด้วย
- ภูเขาซีนายเป็นส่วนหนึ่งของเทือกเขาทะเลทรายที่มีขนาดใหญ่
- ชาวอิสราเอลได้มายังภูเขาซีนายในขณะที่พวกเขาเดินทางจากอียิปต์เพื่อไปยังแผ่นดินที่ทรงสัญญา
- พระเจ้าได้ประทานบัญญัติสิบประการบนภูเขาซีนาย
ซีโมนพรรคชาตินิยม
ข้อเท็จจริง
ซีโมนเป็นหนึ่งในสาวกของพระเยซู
*ซีโมนถูกเอ่ยถึงสามครั้งในรายชื่อสาวกของพระเยซูคริสต์แต่มีคนน้อยมากที่รู้เกี่ยวกับเขา
*ซีโมนเป็นหนึ่งในสิบเอ็ดคนที่ร่วมอธิษฐานในกรุงเยรูซาเล็มหลังจากที่พระเยซูเสด็จขึ้นสู่สวรรค์แล้ว
*คำว่า"ชาตินิยม"อาจหมายถึงว่าซีโมนเป็นสมาชิกของ"พรรคชาตินิยม"ซึ่งเป็นพรรคทางศาสนาของชาวยิวที่กระตือรือร้นในการสนับสนุนกฏหมายของโมเสสเป็นช่วงขณะที่มีการต่อต้านอย่างรุนแรงการในรัฐบาลโรมัน
*หรือคำว่า"กระตือรือร้น"อาจหมายถึง"คนกระตือรือร้น"ที่หมายถึงความกระตือรือร้นของซีโมน
ซีเรีย
ข้อเท็จจริง
ซีเรียเป็นประเทศที่ตั้งอยู่ทางทิศตะวันออกเฉียงเหนือของประเทศอิสราเอล ในช่วงเวลาของพันธสัญญาใหม่ซีเรียเป็นอาณาเขตที่อยู่ใต้การปกครองของอาณาจักรโรม
- ในสมัยพันธสัญญาเดิม ชาวซีเรียเป็นกองทัพที่แข็งแกร่งที่เป็นศัตรูของชาวอิสราเอล
- นาฮามานเป็นผู้บัญชาการทหารของกองทัพซีเรียที่โรคเรื้อนของเขาได้รับการรักษาโดยผู้เผยพระวจนะเอลีชาห์
- ผู้ที่อาศัยในซีเรียหลายคนเป็นลูกหลานของอารัม ผู้สืบเชื้อสายมาจากเชมบุตรชายของโนอาห์
- ดามัสกัสเป็นเมืองหลวงของประเทศซีเรียที่ถูกกล่าวถึงกันหลายครั้งในพระคัมภีร์
- เซาโลได้ไปยังเมืองดามัสกัสด้วยแผนการที่จะไปข่มแห่งเหล่าคริสเตียนที่นั่น แต่พระเยซูคริสต์ได้ทรงหยุดยั้งเขา
เซนนาเคอริบ
ข้อเท็จจริง
เซนนาเคอริบเป็นกษัตริย์ที่มีอำนาจของอัสซีเรียผู้ซึ่งทำให้เมืองนีนะเวห์เป็นเมืองที่ร่ำรวยและสำคัญเมืองหนึ่ง
- กษัตริย์เซนนาเคอริบเป็นที่รู้จักกันในสงครามต่อบาบิโลนและอาณาจักรยูดาห์
- เซนนาเคอริบเป็นกษัตริย์ที่หยิ่งยโสและเป็นผู้ที่เย้ยหยันพระยาห์เวห์
- เซนนาริบกษัตริย์ได้โจมตีกรุงเยรูซาเล็มในช่วงเวลาของกษัตริย์เฮเซคียาห์
- พระยาห์เวห์ทรงทำให้กองทัพของกษัตริย์เซนนาเคอริบถูกทำลาย
- ในพันธสัญญาเดิมพระธรรมพงศ์กษัตริย์ และพงศาวดารได้บันทึกเหตุการณ์บางส่วนในสม้ยการปกครองของกษัตริย์เซนนาเคอริบ
แซมซัน
ข้อเท็จจริง
แซมซันเป็นหนึ่งในผู้วินิจฉัย หรือผู้ช่วยเหลือคนหนึ่งของชนชาติอิสราเอล เขามาจากเผ่าดาน
- พระเจ้าประทานพลังเหนือมนุษย์ให้แก่แซมซัน ซึ่งเขาได้ใช้ในการต่อสู้กับศัตรูของชนชาติอิสราเอล คือชาวฟีลิสเตีย
- แซมซันถูกให้อยู่ภายใต้คำปฏิญาณที่จะไม่ตัดผมของเขาและไม่ดื่มเหล้าองุ่น หรือเครื่องดื่มที่หมักดองใดๆ เลย ตราบเท่าที่เขารักษาคำปฏิญาณนี้ พระเจ้าประทานพลกำลังให้เขา อย่างต่อเนื่อง
- แต่สุดท้ายแซมซันได้ผิดคำปฏิญาณและยอมให้ผมของเขาถูกตัดซึ่งทำให้ชาวฟีลิสเตียจับกุมเขาได้
- ในขณะที่แซมซันถูกกักขัง พระเจ้าทรงทำให้เขาได้พลกำลังคืนมาอีกครั้ง และประทานโอกาสเขาทำลายวิหารของพระเทียมเท็จ ดาโกนพร้อมกับชาวฟีลิสเตียหลายคน
ไซดอน, ชาวไซดอน
ข้อเท็จจริง
ไซดอนเป็นบุตรชายคนโตของคานาอัน ยังมีเมืองของคนคานาอันที่เรียกว่าไซดอนด้วย เมืองนี้อาจถูกตั้งชื่อตามบุตรชายของคานาอัน
- เมืองไซดอนตั้งอยู่ทางทิศตะวันตกเฉียงเหนือของอิสราเอลบนชายฝั่งของทะเลเมดิเตอร์เรเนียนในแถบที่ปัจจุบันนี้ป็นประเทศเลบานอน
- "ชาวไซดอน" เป็นกลุ่มของชาวฟินีเชียผู้ที่ได้อาศัยอยู่ในเมืองไซดอนโบราณและแถบบริเวณล้อมรอบนั้น
- ในพระคัมภีร์ ไซดอนมีความสัมพันธ์อย่างใกล้ชิดกับไทร์ และเมืองทั้งสองนี้ก็มีชื่อเสียงในด้านความมั่งคั่งและพฤติกรรมที่ผิดศีลธรรมของคนในเมืองนั้น
ไซปรัส
ข้อเท็จจริง
ไซปรัสเป็นเกาะที่อยู่ในทะเลเมดิเตอเรเนียนซึ่งอยู่ห่างจากประเทศตุรกี(ปัจจุบัน)ประมาณ 64 กิโลเมตร
- บารนาบัสมาจากไซปรัสดังนั้นน่าจะเป็นไปได้ที่ลูกพี่ลูกน้องของเขา คือยอห์นมาระโกก็มาจากที่นั่นด้วย
- เปาโลและบารนาบัสได้เทศนาประกาศร่วมกันบนเกาะไซปรัสในตอนแรกของการเดินทางเผยแพร่คริสตศาสนาครั้งแรก ยอห์นมาระโกก็มาช่วยงานพวกเขาในการเดินทางครั้งนั้น
- ภายหลังบารนาบัสและมาระโกได้ไปเยี่ยมไซปรัสอีกครั้งหนึ่ง
- ในพันธสัญญาเดิม เกาะไซปรัสได้รับการกล่าวถึงว่าเป็นแหล่งที่อุดมไปด้วยต้นสนสามใบ
ไซรัส
ข้อเท็จจริง
ไซรัสเป็นกษัตริย์เปอร์เซียที่ก่อตั้งจักรวรรดิเปอร์เซียขึ้นในปี 550 ก่อนคริสต์ศักราช ด้วยการชนะสงคราม ในประวัติศาสตร์พระองค์เป็นที่รู้จักในฐานะไซรัสมหาราช
- กษัตริย์ไซรัสยึดเมืองบาบิโลนซึ่งนำไปสู่การปลดปล่อยคนอิสราเอลที่ถูกจับไปเป็นเชลยอยู่ที่นั่น
- กษัตริย์ไซรัสเป็นที่รู้จักในเรื่องทัศนคติที่อดทนหนักแน่นต่อประชาชนในประเทศต่าง ๆ ที่เขารบชนะ ความเมตตาของพระองค์ต่อคนยิวนำไปสู่การสร้างวิหารเยรูซาเล็มขึ้นใหม่ภายหลังการตกเป็นเชลย
- ไซรัสได้ครองราชสมบัติในช่วงเวลาที่ดาเนียล เอสราและเนหะมีย์มีชีวิตอยู่
ไซรีน
ข้อเท็จจริง
ไซรีนเป็นเมืองกรีกอยู่ทางชายฝั่งตอนเหนือของทวีปแอฟริกาบนทะเลเมดิเตอเรเนียน ทางใต้ของเกาะครีต
- ในสมัยพันธสัญญาใหม่ทั้งคนยิวและพวกคริสเตียนได้อาศัยอยู่ในไซรีน
- ไซรีนน่าจะเป็นที่รู้จักกันแพร่หลายมากที่สุดในพระคัมภีร์ว่าเป็นเมืองบ้านเกิดของชายคนหนึ่งที่ชื่อซีโมนซึ่งเป็นผู้ที่ได้แบกไม้กางเขนของพระเยซู
ดาน
ข้อเท็จจริง
ดานเป็นบุตรชายคนที่ห้าของยาโคบและเป็นหนึ่งในสิบสองเผ่าของอิสราเอล เขตปกครองที่ตั้งถิ่นฐานของชนเผ่าดานอยู่ทางภาคเหนือของคานาอัน ทั้งยังได้รับชื่อนี้ด้วย
- ในสมัยของอับรามมีเมืองหนึ่งชื่อดานตั้งอยู่ทางตะวันตกของกรุงเยรูซาเล็ม
- หลายปีต่อมาในช่วงเวลาที่ชนชาติอิสราเอลเข้าสู่ดินแดนที่พระเจ้าทรงสัญญาไว้ ยังมีอีกเมืองหนึ่งชื่อดานตั้งอยู่ห่างจากกรุงเยรูซาเล็มไปทางเหนือประมาณ 60 ไมล์
- คำว่า "คนดาน" กล่าวถึงเชื้อสายของดาน ผู้ซึ่งเป็นพวกสมาชิกของตระกูลของเขาด้วย
ดาเนียล
ข้อเท็จจริง
ดาเนียลเป็นชาวอิสราเอลผู้เผยพระวจนะที่เป็นชายหนุ่มถูกนำไปเป็นเชลยโดยเนบูคัดเนสซาร์ กษัตริย์บาบิโลนเมื่อประมาณ 600 ก่อนคริสตศักราช
- นี่เป็นช่วงเวลาที่พวกคนอิสราเอลหลายคนจากยูดาห์ได้ถูกนำไปเป็นเชลยอยู่ในบาบิโลนเป็นเวลา 70 ปี
- ดาเนียลได้รับชื่อเป็นภาษาบาบิโลนว่าเบลเทชัสซาร์
- ดาเนียลเป็นคนหนุ่มที่น่ายกย่องและชอบธรรม เป็นผู้ที่เชื่อฟังพระเจ้า
- พระเจ้าทรงช่วยเหลือให้ดาเนียลแปลความฝันหรือนิมิตหลายอย่างสำหรับกษัตริย์บาบิโลน
- เพราะความสามารถนี้และลักษณะนิสัยที่น่ายกย่องสรรเสริญของเขา ดาเนียลจึงได้รับตำแหน่งผู้นำระดับสูงในอาณาจักรบาบิโลน
- หลายปีต่อมาศัตรูของดาเนียลได้ใช้อุบายทำให้ดาริอัส กษัตริย์บาบิโลนออกกฎหมายห้ามมีการนมัสการผู้ใดยกเว้นกษัตริย์ ดาเนียลยังคงอธิษฐานต่อพระเจ้าอย่างต่อเนื่อง ดังนั้นเขาจึงถูกจับและถูกโยนเข้าไปในถ้ำสิงห์โต แต่พระเจ้าได้ทรงช่วยปกป้องเขาและเขาก็ไม่ได้รับอันตรายใด ๆ เลย
ดามัสกัส
ข้อเท็จจริง
ดามัสกัสเป็นเมืองหลวงของประเทศซีเรีย ที่ยังคงตั้งอยู่ในสถานที่เดียวกับที่เคยมีอยู่ในพระคัมภีร์
- ดามัสกัสเป็นเมืองที่เก่าแก่ที่สุดเมืองหนึ่งในโลก ที่ยังคงมีผู้คนอาศัยอยู่อย่างต่อเนื่อง
- ในช่วงเวลาของอับราฮัม ดามัสกัสเป็นเมืองหลวงของอาณาจักรอารัม (ที่ตั้งคือซีเรียในปัจจุบัน)
- ตลอดช่วงเวลาของพันธสัญญาเดิมมีการอ้างหลายครั้งถึงการมีปฏิสัมพันธ์ระหว่างชาวดามัสกัสกับชาวอิสราเอล
- หลายคำทำนายในพระคัมภีร์ทำนายถึงการทำลายเมืองดามัสกัส คำทำนายเหล่านี้ได้เกิดขึ้นจริง เมื่ออัสซีเรียทำลายเมืองในช่วงเวลาของพันธสัญญาเดิมหรืออาจจะมีทำลายเมืองนี้อีกในอนาคต จนเมืองนี้ถูกทำลายอย่างสิ้นซาก
- นนพันธสัญญาใหม่เซาโลคนฟาริสี (ภายหลังเป็นที่รู้จักในนามของเปาโล) กำลังจะไปจับกุมพวกคริสเตียนในเมืองดามัสกัส ในขณะเมื่อพระเยซูได้ทรงเผชิญหน้ากับเขาและทำให้เขากลายเป็นผู้ศรัทธาคนหนึ่ง
ดาริอัส
ข้อเท็จจริง
ดาริอัสเป็นชื่อของกษัตริย์หลายองค์ของเปอร์เซีย เป็นไปได้ว่า "ดาริอัส" น่าจะเป็นตำแหน่งแทนที่จะเป็นชื่อ
- "ดาริอัสคนมีเดีย" เป็นกษัตริย์ที่ถูกหลอกในการให้โยนผู้เผยพระวจนะดาเนียลเข้าไปในถ้ำสิงห์โตเพื่อเป็นการลงโทษที่นมัสการพระเจ้า
- "ดาริอัสชาวเปอร์เซีย" ได้ช่วยอำนวยความสะดวกในการซ่อมแซมพระวิหารในกรุงเยรูซาเล็มในช่วงเวลาของเอสราและเนหะมีย์
ดาวิด
ข้อเท็จจริง
ดาวิดเป็นกษัตริย์องค์ที่สองของอิสราเอล พระองค์ทรงรักและปรนนิบัติพระเจ้า พระองค์เป็นนักเขียนหลักของพระธรรมสดุดี
- เมื่อดาวิดยังเป็นเด็กหนุ่มคอยดูแลแกะของครอบครัวของเขาพระเจ้าทรงเลือกเขาให้เป็นกษัตริย์คนต่อไปของอิสราเอล
- ดาวิดได้กลายเป็นนักรบที่ยิ่งใหญ่และนำกองทัพอิสราเอลเข้าสู่สงครามกับศัตรูของพวกเขา ชัยชนะของพระองค์เหนือโกลิอัทคนฟีลิสเตียเป็นที่รู้จักกันดี
- กษัตริย์ซาอูลได้ทรงพยายามที่จะฆ่าดาวิด แต่พระเจ้าได้ทรงป้องกันท่านไว้และทรงตั้งท่านไว้ให้เป็นกษัตริย์เมื่อซาอูลสวรรคต
- ดาวิดได้ทรงกระทำบาปอย่างมหันต์ แต่พระองค์ได้ทรงกลับใจและพระเจ้าได้ทรงอภัยโทษให้พระองค์
- พระเยซู พระเมสสิยาห์ได้ทรงถูกเรียกว่า "บุตรของดาวิด" เพราะว่าพระองค์ทรงเป็นพงศ์พันธ์ุของกษัตริย์ดาวิด
เดลิลาห์
ข้อเท็จจริง
เดลิลาห์เป็นหญิงชาวฟิลิสเตียผู้ซึ่งแซมสันรัก แต่นางไม่ใช่ภรรยาของเขา
- เดลิลาห์ได้รักเงินมากกว่าที่เธอได้รักแซมซั่น
- คนฟิลิสเตียได้ติดสินบนเดลิลาห์เพื่อหลอกให้แซมสันบอกนางถึงวิธีที่จะทำให้เขาอ่อนแอลงได้ และเมื่อพละกำลังของเขาหมดไปแล้วเ คนฟีลิสเตียก็ได้จับกุมเขา
ตระกูลของดาวิด
ข้อเท็จจริง
สำนวน "ตระกูลของดาวิด" อ้างถึงครอบครัวหรือลูกหลานของกษัตริย์ดาวิด
- คำนี้สามารถแปลได้ว่า "ลูกหลานของดาวิด" หรือ "ครอบครัวของดาวิด" หรือ "เผ่าพันธุ์ของกษัตริย์ดาวิด"
- เนื่องจากพระเยซูทรงสืบเชื้อสายมาจากดาวิด พระองค์จึงทรงเป็นส่วนหนึ่งของ "ตระกูลของดาวิด"
- บางครั้ง "ตระกูลของดาวิด" หรือ "ครัวเรือนของดาวิด" อ้างถึงคนในครอบครัวของดาวิดที่ยังคงมีชีวิตอยู่
- ในเวลาอื่นๆ คำนี้จะมีความหมายโดยทั่วไปและหมายถึงเชื้อสายทั้งหมดของเขา รวมถึงคนเหล่านั้นที่เสียชีวิตไปแล้ว
ทะเล, ทะเลยิ่งใหญ่, ทะเลตำวันตก, ทะเลเมดิเตอร์เรเนียน
ข้อเท็จจริง
ในพระคัมภีร์ "ทะเลยิ่งใหญ่" หรือ "ทะเลตะวันตก" อ้างถึง "ทะเลเมดิเตอร์เรเนียน" ในปัจจุบัน ซึ่งในสมัยพระคัมภีร์เป็นสิ่งที่ใหญ่ที่สุดที่รู้จักกันของประชาชน
- ทะเลเมดิเตอร์เรเนียนถูกล้อมรอบโดย อิสราเอล (ทางทิศตะวันออก) ยุโรป (ทางทิศเหนือและตะวันตก) และอัฟริกา (ทางทิศใต้)
- ทะเลนี้มีความสำคัญมากในสมัยโบราณสำหรับการค้าขายและการเดินทางเพราะถูกโอบล้อมโดยหลายประเทศ เมื่องต่างๆ และประชาชนหลายกลุ่มตั้งอยู่ริมฝั่งของทะเลต่างก็รุ่งเรืองเพราะว่ามันเป็นการง่ายที่จะเข้าถึงสินค้าจากประเทศต่างๆ โดยเรือ
- เนื่องจากทะเลยิ่งใหญ่ตั้งอยู่ทางตะวันตกของอิสราเอล บางครั้งจึงถูกอ้างถึงว่าเป็น "ทะเลตะวันตก"
ทะเลกาลิลี, ทะเลชินเนอเร, ทะเลสาปเยนเนซาเร็ธ, ทะเลทิเบเรียส
ข้อเท็จจริง
"ทะเลกาลิลี" เป็นชื่อทะเลสาบที่อยู่ในอิสราเอลตะวันออก ในพันธสัญญาเดิมเรียกว่า "ทะเลชินเนอเรธ"
- น้ำจากทะเลสาบนี้ไหลลงทางใต้ผ่านแม่น้ำจอร์แดนและไหลลงสู่ทะเลเกลือ
- เมืองคาเปอร์นาอุม, เมืองเบธไซดา, เยนเนซาเร็ธ และทิเบเรียสเป็นเมืองบางส่วนที่ตั้งอยู่ที่ทะเลกาลิลีในช่วงเวลาของพันธสัญญาใหม่
- เหตุการณ์ต่างๆ ของชีวิตพระเยซูได้เกิดที่หรือใกล้กับทะเลกาลิลี
- ทะเลกาลิลียังถูกอ้างอิงถึง"ทะเลไทบิเรียส"และ"ทะเลเยนเนซาเร็ธ"
- คำศัพท์นี้สามารถใช้แปลได้ว่า "ทะเลสาบที่อยู่แถบกาลิลี" หรือ "ทะเลกาลิลี" หรือ "ทะเลสาบใกล้ไทบิเรียส(เยนเนซาเร็ธ)"
ทะเลเกลือ, ทะเลตาย
ข้อเท็จจริง
ทะเลเกลือ (เรียกอีกชื่อหนึ่งว่า ทะเลตาย) ตั้งอยู่ระหว่างอิสราเอลตอนใต้ทางทิศตะวันตกและโมอับทางทิศตะวันออก
- แม่น้ำจอร์แดนไหลลงทางใต้สู่ทะเลเกลือ
- เนื่องจากมันมีขนาดเล็กกว่าทะเลส่วนมาก จึงสามารถเรียกว่า"ทะเลเกลือ"
- ทะเลนี้มีความเข้มข้นของแร่ธาตุต่างๆ สูง (หรือ"เกลือต่างๆ ") ซึ่งหมายความว่าไม่มีสิ่งมีชีวิตอยู่ในน้ำนี้ได้ เป็นที่มาของชื่อ"ทะเลตาย"
- ในพันธสัญญาเดิม ทะเลนี้ยังถูกเรียกว่า"ทะเลอาราบาห์" และ "ทะเลของเนเกบ" เพราะสถานที่ตั้งอยู่ใกล้กับอาราบาห์และเนเกบ
ทะเลต้นกก ทะเลแดง
ข้อเท็จจริง
ทะเลต้นกก" เป็นชื่อของทะเลตั้งอยู่ระหว่างอียิปต์และอาระเบีย ปัจจุบันนี้เรียกว่า "ทะเลแดง"
- ทะเลแดงเป็นทะเลที่ยาวและแคบ เป็นทะเลที่ใหญ่กว่าทะเลสาบ หรือ แม่น้ำ แต่เล็กกว่ามหาสมุทรมาก
- ชนชาติอิสราเอลต้องข้ามทะเลแดงเมื่อพวกเขาหลบหนีออกจากอียิปต์ พระเจ้าได้กระทำการอัศจรรย์และทำให้น้ำในแม่น้ำแยกออก ดังนั้นประชาชนจึงสามารถเดินข้ามบนพื้นดินแห้งได้
- แผ่นดินคานาอันอยู่ทางเหนือของทะเลแห่งนี้
- นี่สามารถแปลเป็น "ทะเลต้นกก" ได้เช่นกัน
ทามาร์
ข้อเท็จจริง
ทามาร์เป็นชื่อของผู้หญิงหลายคนในพันธสัญญาเดิม และยังเป็นชื่อของเมืองหลายเมืองหรือหลายสถานที่ในพันธสัญญาเดิม
- ทามาร์เป็นลูกสะใภ้ของยูดาห์ เธอได้ให้กำเนิดเปเรศผู้ซึ่งเป็นบรรพบุรุษของพระเยซูคริสต์
- หนึ่งในลูกสาวของกษัตริย์ดาวิดก็มีชื่อว่าทามาร์เช่นกัน เธิเป็นน้องสาวของอับซาโลม พี่ชายต่างมารดาคืออัมโมนได้ข่มขืนเธอและได้ทิ้งให้เธอหดหู่ใจ
- เมืองที่เรียกว่า "ฮาเซโซน ทามาร์" เป็นชื่อเดียวกับเมืองเอ็นเกดิในฝั่งตะวันตกของทะเลเกลือ ยังมีเมือง "บาอัลทามาร์" ด้วย ยังมืการอ้างอิงทั่วไปถึงสถานที่ที่เรียกว่า "ทามาร์" ซึ่งอาจเป็นชื่อที่ต่างจากชื่อเมืองเหล่านี้
ทาร์ชิช
ข้อเท็จจริง
ทาร์ชิชเป็นชื่อของผู้ชายสองคนในพันธสัญญาเดิม และเป็นชื่อของเมือง
- หลานคนหนึ่งของยาเฟทมีชื่อว่า ทาร์ชิช
- ทาร์ชิชเป็นชื่อของหนึ่งในนักปราชญ์ของกษัตริย์อาหสุเอรัส
- ทาร์ชิชเป็นชื่อเมืองท่าเรือที่รุ่งเรือง ที่เรือสินค้าได้นำผลิตผลต่างๆ มาซื้อหรือขาย หรือแลกเปลี่ยน
- เมืองนี้มีสัมพันธ์กับเมืองไทร์และมีการคิดว่าเป็นเมืองของชาวฟีนิเซียนที่ค่อนข้างอยู่ห่างไกลจากอิสราเอล บางทีในชายฝั่งตะวันตกของสเปน
- ในพันธสัญญาเดิม ผู้เผยพระวจนะโยนาห์ได้โดยสารเรือไปเมืองทาร์ชิชแทนที่จะเชื่อฟังคำสั่งของพระเจ้าที่ให้ไปเทศนาที่นินาเวห์
ทาร์ซัส
ข้อเท็จจริง
ทาร์ซัสเป็นเมืองที่เจริญรุ่งเรือง ตั้งอยู่ในอาณาเขตโรมันแห่งซิลิเซียซึ่งปัจจุบันนี้เป็นตอนกลางภาคใต้ของประเทศตุรกี
- ทาร์ซัสตั้งขนานกับแม่น้ำสายหลักและอยู่ใกล้ชายฝั่งของทะเลเมดิเตอร์เรเนียน ทำให้เป็นส่วนหนึ่งของเส้นทางค้าขายที่สำคัญ
- ช่วงเวลาหนึ่งในประวัติศาสตร์ทาร์ซัสเป็นเมืองหลวงของซิลิเซีย
- ในพันธสัญญาใหม่ ทาร์ซัสเป็นที่รู้จักกันว่าเป็นบ้านเกิดของอัครสาวกเปาโล
ทิตัส
ข้อเท็จจริง
ทิตัสเป็นเป็นชาวต่างชาติที่ได้กลายเป็นผู้เชื่อโดยทางพันธกิจของอัครสาวกเปาโลเขาได้รับการฝึกฝนจากอัครทูตเปาโลให้เป็นผู้นำในคริสตจักรยุคแรก
- จดหมายฉบับหนึ่งของเปาโลที่เขียนถึงทิตัสเป็นพระธรรมเล่มหนึ่งในพันธสัญญาใหม่
- ในจดหมายฉบับนี้เปาโลได้สอนทิตัสให้เป็นผู้แต่งตั้งผู้ปกครองคริสตจักรต่างๆ บนเกาะครีต
- ในจดหมายฉบับอื่นๆ เปาโลได้กล่าวถึงทิตัสว่าเป็นบางคนที่ส่งเสริมและนำความยินดีมาให้
ทิโมธี
ข้อเท็จจริง
ทิโมธีเป็นชายหนุ่มจากลิสตราที่ได้กลายเป็นผู้ศรัทธาในพระคริสต์อันเป็นผลมาจากการพั้นธกิจของเปาโลในเมืองของเขา หลังจากนั้นเขาได้เข้าร่วมกับเปาโลในการเดินทางร่วมพันธกิจหลายครั้งและช่วยฟูมฟักหลายชุมชนของผู้เชื่อใหม่
- บิดาของทิโมธีเป็นชาวกรีก แต่ทั้งยาย ลูอิสและแม่ยูนิซของเขาเป็นชาวยิวและผู้เชื่อในพระคริสต์
- ผู้อาวุโสทั้งหลายและเปาโลได้แต่งตั้งทิโมธีอย่างเป็นทางการให้โดยการวางมือลงบนเขาและอธิษฐานเพื่อเขา
- หนังสือสองเล่มในพันธสัญญาใหม่ (I ทิโมธีและ 2 ทิโมธี) เป็นจดหมายที่เขียนขึ้นโดยเปาโลให้คำแนะนำแก่ทิโมธีในฐานะผู้นำที่หนุ่มแน่นของคริสตจักรท้องถิ่นหลายแห่ง
ทิระซาห์
ข้อเท็จจริง
ทิระซาห์ เป็นเมืองของชาวคานาอันที่สำคัญเมืองหนึ่งที่อิสราเอลมีชัยชนะเหนือเมืองนี้ ได้ชื่อมารจากบุตรสาวของกิเลอาด เชื้อสายของมนัสเสห์
- เมืองทีระซาห์ ตั้งอยู่ในแคว้นที่ครอบครองโดยเผ่ามนัสเสห์ คิดกันว่าเมืองนี้อยู่ห่าง 10 ไมล์ไปทางเหนือของเมืองเชเคม
- หลายปีต่อมา ทิระซาห์ได้กลายเป็นเมืองหลวงชั่วคราวของอาณาจักรอิสราเอลทางเหนือ สมัยการปกครองของกษัตริย์สี่พระองค์ของอิสราเอล
- ทิระซาห์ ยังเป็นชื่อของหลานสาวคนโตของมนัสเสห์คนหนึ่งที่ขอแบ่งส่วนหนึ่งของแผ่นดิน เนื่องจากพวกเขาไม่มีพี่น้องที่เป็นผู้ชายที่จะได้รับมรดกตามประเพณี
ทีคิกัส
ข้อเท็จจริง
ทีคิกัส เป็นคนหนึ่งในเพื่อนผู้รับใช้พระกิตติคุณของเปาโล
- ทีคิกัส ร่วมกับเปาโลอย่างน้อยหนึ่งครั้งในการเดินทางไปประกาศเผยแพร่ของเขาไปยังเอเชีย
- เปาโลได้อธิบายถึงเขา ว่า "ผู้ที่เป็นที่รัก" และ "ผู้ที่ซื่อสัตย์"
- ทีคิกัส ได้นำจดหมายของเปาโลไปยังเมืองเอเฟซัสและเมือง โคโลสี
ทูบาล
ข้อเท็จจริง
มีผู้ชายหลายคนในพันธสัญญาเดิมที่มีชื่อว่า "ทูบาล"
- ผู้ชายที่ชื่อว่าทูบาลคนหนึ่งเป็นบุตรชายของยาเฟท
- ผู้ชายที่ชื่อว่า "ทูบาล-คาอิน" เป็นบุตรชายของลาเมค และเป็นผู้สืบเชื้อสายของคาอิน
- ทูบาลเป็นชื่อของประชาชนกลุ่มหนึ่งที่ได้รับการกล่าวถึงโดยผู้เผยพระวจนะอิสยาห์และเอเศเคียล
เทราห์
ข้อเท็จจริง
เทราห์เป็นพงศ์พันธ์ุของเชมบุตรชายของโนอาห์ เขาเป็นบิดาของอับราม นาโฮร์และฮาราน
- เทราห์ ได้ออกจากบ้านของเขาในเมืองเออร์ เพื่อที่จะไปยังแผ่นดินคานาอันกับอับรามบุตรชายและโลตหลานชายของเขา และซาราห์ภรรยาของอับราม
- ระหว่างทางไปคานาอัน เทราห์และครอบครัวของเขาได้อาศัยอยู่หลายปีในเมืองฮารานในเมโสโปเตเมีย เทราห์ เสียชีวิตในเมืองฮาราน เมื่ออายุ 205 ปี
เธสะโลนิกา, ชาวเธสะโลนิกา
ข้อเท็จจริง
ในยุคพันธสัญญาใหม่ เธสะโลนิกา เป็นเมืองหลวงของมาซิโดเนียในจักรวรรดิโรมันโบราณ ประชาชนที่อาศัยอยู่ในเมืองนั้นเรียกว่า "ชาวเธสะโลนิกา"
- เมืองเธสะโลนิกาเป็นเมืองท่าที่มีความสำคัญและตั้งอยู่บนทางหลวงที่สำคัญซึ่งเชื่อมต่อกับกรุงโรมไปยังส่วนตะวันออกของอาณาจักรโรมัน
- เปาโลพร้อมกับสิลาสและทิโมธีได้ไปเยี่ยมเยียนเมืองเธสะโลนิกาในการเดินทางครั้งแรกของการเป็นมิชันนารีและผลที่เกิดขึ้นก็ได้มีคริสตจักรเกิดขึ้น ต่อมาเปาโลได้ไปเยี่ยมเยียนเมืองนี้อีกในการเดินทางครั้งสามของการเป็นมิชชันนารี
- เปาโลได้เขียนจดหมายสองฉบับให้คริสเตียนในเมืองเธสะโลนิกา จดหมายเหล่านี้คือ เธสะโลนิกา ฉบับที่ 1 และ เธสะโลนิกา ฉบับที่ 2 ซึ่งรวมอยู่ในพันธสัญญาใหม่ด้วย
โธมัส
ข้อเท็จจริง
โธมัสเป็นหนึ่งในสิบสองคนที่พระเยซูทรงเลือกให้เป็นสาวกของพระองค์ และต่อมาคือ อัครสาวกเขาเป็นที่รู้จักกันในฐานะ "ดิไดมัส" ซึ่งแปลว่า "ฝาแฝด"
- ใกล้จะถึงช่วงสุดท้ายของชีวิตของพระเยซู พระองค์ทรงบอกพวกสาวกของพระองค์ว่าพระองค์กำลังจะจากไปอยู่กับพระบิดาและไปจัดเตรียมที่สำหรับพวกเขาเพื่ออยู่กับพระองค์ โธมัสได้ถทูลถามพระเยซูว่าพวกเขาจะรู้ได้รู้จักทางไปถึงที่นั่นเมื่อพวกเขาไม่รู้ว่าพระองค์จะไปที่ไหน
- ภายหลังพระเยซูทรงเสด็จสวรรคตและฟื้นคืนพระชนม์ โธมัสได้กล่าวว่าเขาจะไม่เชื่อว่าพระเยซูทรงมีชีวิตอีกจนกว่าเขาจะได้เห็นและสัมผัสกับรอยแผลที่พระเยซูได้ทรงได้รับบาดเจ็บ
นัฟธาลี
ข้อเท็จจริง
นัฟธาลีคือบุตรชายคนที่หกของยาโคบ ลูกหลานของเขาได้รวบรวมเป็นกลุ่มชนนัฟธาลีขึ้นมา ซึ่งได้เป็นหนึ่งในเผ่าสิบสองเผ่าของอิสราเอล
- บางครั้งมีการใช้คำว่านัฟธาลีเพื่อแสดงถึงดินแดนซึ่งเผ่าดังกล่าวอาศัยอยู่ (ให้ดู : synecdoche)
- ดินแดนของนัฟธาลีนั้นตั้งอยู่ทางตอนเหนือของประเทศอิสราเอล ถัดจากเผ่าดานและเผ่าอาเชอร์ ยังติดกับเขตแดนด้านตะวันตกของทะเลคินเนเรทอีกด้วย
- เผ่านี้ถูกกล่าวถึงในพระคัมภีร์ทั้งพันธสัญญาเดิมและพันธสัญญาใหม่
นาซาเร็ธ, ชาวนาซาเร็ธ
ข้อเท็จจริง
นาซาเร็ธคือเมืองหนึ่งในแคว้นกาลิลีซึ่งตั้งอยู่ทางตอนเหนือของประเทศอิสราเอล ห่างจากเยรูซาเล็มไปทางตอนเหนือประมาณ 100 กิโลเมตร ซึ่งใช้เวลาประมาณสามถึงห้าวันในการเดินทางด้วยเท้า
- โยเซฟและมารีย์ได้มาจากเมืองนาซาเร็ธซึ่งเป็นเมืองที่ทั้งสองเลี้ยงดูพระเยซู ด้วยเหตุนี้เองพระเยซูจึงเป็นที่รู้กันโดยทั่วไปว่า "ชาวนาซาเร็ธ"
- พวกยิวหลายคนอาศัยอยู่ในเมืองนาซาเร็ธไม่ได้เคารพในคำสอนของพระเยซู เนื่องจากพระเยซูเติบโตขึ้นมาในท่ามกลางพวกเขา และพวกเขาคิดกันว่าพระองค์เป็นเพียงบุคคลธรรมดา
- เมื่อพระเยซูเริ่มสั่งสอนในธรรมศาลาในเมืองนาซาเร็ธ ชาวยิวพยายามที่จะฆ่าพระเยซูเพราะพระองค์ทรงประกาศว่าพระองค์คือพระเมสิยาห์และพระองค์ทรงตำหนิชาวเมืองนั้นที่ได้ปฏิเสธพระองค์
- สิ่งที่นาธานาเอลได้ตั้งข้อสังเกตเมื่อรู้ว่าพระเยซูมาจากนาซาเร็ธนั้น แสดงว่าเมืองนี้ไม่ได้อยู่ในความคิดว่าจะมีสิ่งดีอะไร
นาธาน
ข้อเท็จจริง
นาธานเป็นผู้เผยพระวจนะที่สัตย์ซื่อของพระเจ้าซึ่งมีชีวิตอยู่ในช่วงที่กษัตริย์ดาวิดปกครองเหนือประเทศอิสราเอล
- พระเจ้าทรงส่งนาธานเพื่อไปเผชิญหน้ากับกษัตริย์ดาวิดหลังจากที่ดาวิดได้ทำความบาปอย่างร้ายแรงต่ออุรีอาห์
- นาธานได้ตำหนิดาวิดถึงแม้ว่าดาวิดจะเป็นถึงกษัตริย์ก็ตาม
- ดาวิดในสำนึกในความผิดบาปของพระองค์หลังจากที่นาธานได้เผชิญหน้ากับพระองค์
นาอามาน
ข้อเท็จจริง
ในพันธสัญญาเดิม นาอามานคือผู้บัญชาการของกองทัพของกษัตริย์ของอาราม
- นาอามานป่วยเป็นโรคทางผิวหนังร้ายแรงเรียกว่าโรคเรื้อนซึ่งไม่สามารถรักษาให้หายได้
- ทาสชาวยิวในเรือนของนาอามานได้บอกกับเขาว่าให้ไปขอผู้เผยพระวจนะเอลีชาให้ช่วยรักษาเขาให้หาย
- เอลีชาได้บอกกับนาอามานให้ไปล้างตัวในแม่น้ำจอร์แดน เมื่อนาอามานได้ยอมเชื่อฟัง พระเจ้าทรงรักษาเขาให้หายป่วยจากโรคของเขา
- ผลที่ตามมา นาอามานจึงได้กลับใจมาเชื่อในพระเจ้าเที่ยงแท้องค์เดียวคือพระยาห์เวห์
- ผู้ชายอื่นที่มีชื่อ ว่านาอามานอีกสองคนเป็นลูกหลานของเบนยามินบุตรชายของยาโคบ
นาฮูม
ข้อเท็จจริง
นาฮูมคือผู้เผยพระวจนะผู้ซึ่งได้เทศนาในช่วงที่กษัตริย์มนัสเสห์ผู้ชั่วร้ายปกครองเหนืออาณาจักรยูดา
- นาฮูมมาจากเมืองเอลโขชซึ่งอยู่ห่างจากกรุงเยรูซาเล็มประมาณ 20 ไมล์
- พระธรรมนาฮูมในพันธสัญญาเดิมได้บันทึกคำพยากรณ์เกี่ยวกับการล่มสลายของเมืองนีนะเวห์ของอัสซีเรีย
นาโฮร์
ข้อเท็จจริง
นาโฮร์เป็นชื่อของญาติสองคนของอับราฮัม ปู่ของอับราฮัมและน้องชายของอับราฮัม
- น้องชายของอับราฮัมคือ นาโฮร์เป็นปู่ของเรเบคาภรรยาของอิสอัค
- วลี "เมืองของนาโฮร์" สามารถหมายถึง "เมืองของนาโฮร์" หรือ "เมืองซึ่งนาโฮร์เคยอาศัยอยู่" หรือ "เมืองของนาโฮร์"
นีนะเวห์, ชาวนีนะเวห์
ข้อเท็จจริง
เมืองนีนะเวห์เป็นเมืองหลวงของอัสซีเรีย "ชาวนีนะเวห์" คือบุคคลที่ใช้ชีวิตอยู่ในเมืองนีนะเวห์
- พระเจ้าได้ทรงส่งผู้เผยพระวจนะนามว่าโยนาห์ไปเพื่อไปเตือนชาวนีนะเวห์ให้กลับใจจากทางอันชั่วร้าย ชาวเมืองได้กลับใจและพระเจ้าจึงไม่ได้ทำลายชาวเมืองนั้น
- ชาวอัสซีเรียได้หันหลังให้กับพระเจ้าในเวลาต่อมา พวกเขาเอาชนะอาณาจักรอิสราเอลและกวาดต้อนผู้คนไปยังเมืองนีนะเวห์
เนเกบ
ข้อเท็จจริง
เนเกบเป็นดินแดนทะเลทรายทางตอนใต้ของอิสราเอล ทางตะวันตกเฉียงใต้ของทะเลเกลือ
- คำดั้งเดิมมีความหมายว่า"ทิศใต้" พระคัมภีร์ภาษาอังกฤษบางฉบับแปลคำว่าเนเกบว่าทิศใต้
- อาจเป็นไปได้ว่าสถานที่ทางตอนใต้ที่เนเกบเคยตั้งอยู่นั้น เป็นคนละที่กับทะเลทรายเนเกบในปัจจุบัน
- เมื่ออับราฮัมได้อาศัยอยู่ที่เมืองเคเดชนั้น เขาอยู่ที่เนเกบหรือแคว้นทางตอนใต้
- อิสอัคอาศัยอยู่ในเมืองเนเกบเมื่อเรเบคาได้เดินทางมาพบเขา และได้กลายมาเป็นภรรยาของเขา
- ชนเผ่ายิวของยูดาและสิเมโอนได้อาศัยอยู่ที่แคว้นทางตอนใต้นี้
- เมืองที่ใหญ่ที่สุดในแคว้นเนเกบคือเมืองเบเออร์เชบา
เนบูคัดเนสซาร์
ข้อเท็จจริง
เนบูคัดเนสซาร์เป็นกษัตริย์องค์หนึ่งของอาณาจักรบาบิโลน ซึ่งกองทัพทรงอำนาจของเขาได้มีชัยชนะเหนือชนหลายกลุ่มด้วยกันและหลายประเทศ
- ภายใต้การนำของเนบูคัดเนสซาร์ กองทัพบาบิโลนได้โจมตีและมีชัยชนะเหนืออาณาจักรยูดา และได้นำประชาชนส่วนใหญ่ของยูดาไปเป็นเชลยในบาบิโลนในฐานะเชลย "การตกเป็นเชลยที่บาบิโลน" นั้นนานถึง 70 ปี
- หนึ่งในเชลยที่ถูกจับไป คือ ดาเนียล ได้ทำนายฝันของกษัตริย์เนบูคัดเนสซาร์
- เชลยชาวอิสราเอลอีกสามคน คือ ฮานันยาห์ มิชาเอล และอาซาริยาห์ ได้ถูกโยนลงไปในเตาไฟเพราะเขาทั้งสามได้ปฎิเสธที่จะกราบไหว้รูปเคารพที่กษัตริย์เนบูคัดเนสซาร์สร้างขึ้น
- กษัตริย์เนบูคัดเนสซาร์นั้นหยิ่งผยองและกราบไหว้พระเทียมเท็จ เมื่อพระองค์รบชนะอาณาจักรยูดา พระองค์ได้ขโมยเอาเครื่องเงินและทองมาจากพระวิหารซึ่งตั้งอยู่ในกรุงเยรูซาเล็ม
- เพราะกษัตริย์เนบูคัดเนสซาร์หยิ่งผยองและปฏิเสธที่จะหันกลับจากการนมัสการพระเทียมเท็จ พระยาห์เวห์จึงให้พระองค์เสียสติอยู่อย่างสัตว์ป่าเป็นเวลาเจ็ดปี หลังจากเจ็ดปี พระเจ้าได้ทำให้กษัตริย์เนบูคัดเนสซาร์กลับหายเป็นปกติเมื่อพระองค์ได้ทรงถ่อมพระองค์ลงและได้สรรเสริญพระเจ้าเที่ยงแท้องค์เดียวคือพระยาห์เวห์
เนหะมีย์
ข้อเท็จจริง
เนหะมีย์คือชาวอิสราเอลที่อาศัยอยู่ในบาบิโลนเมื่อครั้งที่ชาวอิสราเอลและยูดาถูกจับไปเป็นเชลยโดยชาวบาบิโลน
- ขณะที่เนหะมีย์เป็นพนักงานถือถ้วยสำหรับกษัตริย์เปอร์เซียนามว่าอารทาเซอร์ซีสนั้น เนหะมีย์ได้ขออนุญาตกษัตริย์กลับไปยังกรุงเยรูซาเล็ม
- เนหะมีย์ได้นำชาวอิสราเอลในการสร้างกำแพงเมืองเยรูซาเล็ม ซึ่งได้ชาวบาบิโลนทำลายขึ้นมาอีกครั้ง
- เป็นเวลาถึง 12 ปีที่เนหะมีย์ได้เป็นผู้ว่าราชการของกรุงเยรูซาเล็ม ก่อนที่จะกลับไปยังพระราชวังของกษัตริย์
- พันธสัญญาเดิมในพระธรรมเนหะมีย์นั้นได้บอกเล่าเรื่องราวของการงานของเนหะมีย์ในการสร้างกำแพงเมืองขึ้นใหม่และการปกครองของท่านเหนือประชาชนในกรุงเยรูซาเล็ม
- ยังมีชื่อเนหะมีย์คนอื่นๆในพันธสัญญาเดิมอีกด้วย โดยปกติชื่อบิดาจะเพ่ิมต่อท้ายชื่อเพื่อให้เห็นความแตกต่างว่าพูดถึงเนหะมีย์คนไหน
โนอาห์
ข้อเท็จจริง
โนอาห์คือผู้ชายผู้มีชีวิตอยู่เมื่อ 4,000 กว่าปีมาแล้ว เมื่อครั้งที่พระเจ้าทรงให้น้ำท่วมโลกเพื่อทำลายคนชั่วทุกคนในโลก พระเจ้าตรัสสั่งให้โนอาห์สร้างเรือขนาดใหญ่ลำหนึ่ง อันเป็นที่ซึ่งเขาและครอบครัวของเขาจะสามารถอาศัยอยู่ในขณะที่น้ำท่วมทั่วผืนแผ่นดินโลก
- โนอาห์เป็นชายที่มีความชอบธรรมผู้ซึ่งเชื่อฟังพระเจ้าในทุกสิ่ง
- เมื่อพระเจ้าทรงบอกให้โนอาห์สร้างเรือลำใหญ่นั้น โนอาห์ได้ทำตามที่พระเจ้าตรัสสั่งทุกประการ
- ภายในเรือนั้น โนอาห์และครอบครัวของเขาได้อาศัยอยู่ที่นั้นอย่างปลอดภัย ภายหลังลูกหลานของโนอาห์ก็ได้ขยายเต็มโลกนี้อีกครั้ง
- ทุกคนที่เกิดในสมัยน้ำท่วมนั้นสืบเชื้อสายมาจากโนอาห์
บัทเชบา
ข้อเท็จจริง
บัทเชบาเป็นภรรยาของอุรียาห์ ทหารคนหนึ่งในกองทัพของกษัตริย์ดาวิด หลังจากที่อุรียาห์ตายแล้ว นางก็ได้กลายเป็นมเหสีของดาวิด และเป็นมารดาของซาโลมอน
- ดาวิดได้เป็นชู้กับนางบัทเชบาในขณะที่นางได้แต่งงานกับอุรียาห์แล้ว
- เมื่อนางบัทเชบาตั้งครรภ์กับดาวิด ดาวิดได้ทำให้อุรียาห์ถูกฆ่าตายในสนามรบ
- แล้วดาวิดก็แต่งงานกับบัทเชบาและนางก็ให้กำเนิดบุตรแก่ดาวิด
- พระเจ้าทรงได้ลงโทษดาวิดเพราะความบาปของเขา โดยทำให้บุตรของเขาตายหลังจากที่คลอดออกมาได้ไม่กี่วัน
- ภายหลังนางบัทเชบาได้ให้กำเนิดบุตรชายอีกคนหนึ่ง คือซาโลมอนผู้ที่ได้เติบโตขึ้นและกลายเป็นกษัตริย์ต่อจากดาวิด
บาชาน
ข้อเท็จจริง
บาชานเป็นดินแดนหนึ่งทางตะวันออกของทะเลกาลิลี ครอบคลุมพื้นที่ส่วนหนึ่งของประเทศซีเรียและที่ราบสูงโกลานในทุกวันนี้
- เมืองลี้ภัยในสมัยพันธสัญญาเดิมที่เรียกว่า "โกลาน" ตั้งอยู่ในดินแดนบาชาน
- บาชานเป็นพื้นที่ที่อุดมสมบูรณ์มีชื่อเสียงเรื่องต้นโอ๊กและทุ่งหญ้าเลี้ยงสัตว์
- ในปฐมกาลบทที่ 14 บันทึกไว้ว่าบาชานเป็นสนามรบระหว่างกษัตริย์หลายพระองค์และประเทศของพวกเขา
- ในช่วงที่คนอิสราเอลเดินวนเวียนอยู่ในทะเลทรายหลังจากออกมาจากอียิปต์แล้ว พวกเขาได้ยึดครองส่วนหนึ่งของดินแดนบาชาน
- หลายปีต่อมา กษัตริย์ซาโลมอนได้รับสิ่งของต่าง ๆ จากดินแดนนั้น
บาบิโลน, ชาวบาบิโลน
ข้อเท็จจริง
เมืองบาบิโลนเป็นเมืองหลวงของดินแดนบาบิโลนในสมัยโบราณ ซึ่งก็เป็นส่วนหนึ่งของอาณาจักรบาบิโลน
- กรุงบาบิโลนตั้งอยู่บนริมฝั่งแม่น้ำยูเฟรติส ในดินแดนเดียวกับที่หอบาเบลได้ถูกสร้างเมื่อหลายร้อยปีก่อนหน้านั้น
- บางครั้งคำว่า "บาบิโลน" กล่าวถึงอาณาจักรบาบิโลนทั้งหมด ยกตัวอย่างเช่น "กษัตริย์บาบิโลน" ปกครองอาณาจักรทั้งหมด ไม่ใช่แต่เฉพาะกรุงบาบิโลน
- ชาวบาบิโลนเป็นกลุ่มคนที่มีพลังอำนาจมาก ผู้ได้โจมตีอาณาจักรยูดาห์และจับผู้คนไปเป็นเชลยในกรุงบาบิโลนเป็นเวลา 70 ปี
- ส่วนหนึ่งของดินแดนนี้ถูกเรียกว่า "เคลเดีย" และผู้คนที่อาศัยอยู่พื้นที่นั้นถูกเรียกว่า "ชาวเคลเดีย" ผลก็คือ คำว่า "เคลเดีย" มักถูกใช้เพื่อหมายถึงอาณาจักรบาบิโลนอยู่บ่อยๆ (ดูที่:synecdoche)
- ในพันธสัญญาใหม่ คำว่า "บาบิโลน" บางครั้งถูกใช้เป็นภาพเปรียบเทียบเพื่อเอ่ยถึงสถานที่ ผู้คน หรือแนวความคิดที่เกี่ยวข้องกับการนมัสการรูปเคารพและการประพฤติบาปชั่วอื่นๆ
- คำว่า "นครบาบิโลนที่ยิ่งใหญ่" หรือ "นครที่ยิ่งใหญ่แห่งบาบิโลน" เป็นภาพเปรียบเทียบหมายถึงเมืองหรือประเทศที่ใหญ่โต ร่ำรวย และเต็มไปด้วยความบาป เหมือนกับที่นครบาบิโลนในสมัยโบราณที่เป็นอยู่ (ดูที่:Metaphor))
บาเบล
ข้อเท็จจริง
บาเบลเป็นเมืองสำคัญเมืองหนึ่งของพื้นที่ที่เรียกว่าชินาร์ ซึ่งตั้งอยู่ในทางภาคใต้ของเมโสโปเตเมีย ภายหลังเมืองชินาร์ถูกเรียกว่า บาบิโลน
- เมืองบาเบลได้ถูกสร้างโดยหลานชายของฮามที่ชื่อ นิมโรด ซึ่งเป็นผู้ครอบครองดินแดนชินาร์
- ชาวเมืองชินาร์ได้เริ่มหยิ่งผยองและตัดสินใจที่จะสร้างหอคอยสูงเทียมฟ้า ภายหลังเป็นที่รู้จักกันในนามว่า "หอบาเบล"
- เพราะประชาชนที่สร้างหอคอยไม่ต้องการกระจายออกไปตามที่พระเจ้าทรงได้บัญชาไว้ พระองค์จึงทำให้ภาษาของพวกเขาวุ่นวายไป ดังนั้นพวกเขาจึงไม่เข้าใจกัน นี่ทำให้พวกเขาต้องย้ายออกไปอาศัยตามที่ต่างๆ ทั่วโลก
- รากศัพท์ของคำว่า "บาเบล" คือ "ความวุ่นวาย" ถูกเรียกแบบนี้เมื่อพระเจ้าทรงได้ทำให้ภาษาของพวกเขาวุ่นวายไป
บารโธโลมิว
ข้อเท็จจริง
บารโธโลมิวเป็นหนึ่งในสาวกสิบสองคนของพระเยซู
- บารโธโลมิวได้ถูกส่งออกไปประกาศข่าวประเสริฐและทำการอัศจรรย์ในพระนามของพระเยซูพร้อมกับสาวกคนอื่นๆ
- เขาเป็นหนึ่งในบรรดากลุ่มคนที่ได้เห็นพระเยซูเสด็จกลับขึ้นไปยังสวรรค์
- ไม่กี่สัปดาห์หลังจากนั้น เขาได้อยู่กับพวกอัครทูตคนอื่นๆ ในกรุงเยรูซาเล็มในวันเพ็นเทคอส เมื่อพระวิญญาณบริสุทธิ์ได้เสด็จลงมาบนพวกเขา
บารนาบัส
ข้อเท็จจริง
บารนาบัสเป็นคริสเตียนคนหนึ่งในยุคแรก ที่มีชีวิตอยู่ในสมัยของพวกอัครทูต
- บารนาบัสเป็นคนอิสราเอล เผ่าเลวี จากเกาะไซปรัส
- เมื่อเซาโล (เปาโล) ได้กลายมาเป็นคริสเตียน บารนาบัสได้ชักชวนให้บรรดาผู้เชื่อคนอื่นๆ ยอมรับเปาโลในฐานะของเพื่อนผู้เชื่อด้วยกันคนหนึ่ง
- บารนาบัสและเปาโลเคยเดินทางด้วยกันเพื่อไปประกาศข่าวประเสริฐเรื่องพระเยซูตามเมืองต่างๆ
- เขามีชื่อเดิมว่าโยเซฟ แต่ถูกเรียกว่า "บารนาบัส" ซึ่งมีความหมายว่า "บุตรแห่งการหนุนใจ"
บารับบัส
ข้อเท็จจริง
บารับบัสเป็นนักโทษคนหนึ่งในกรุงเยรูซาเล็มในช่วงที่พระเยซูถูกจับ
- บารับบัสเป็นอาชญากรผู้ทำอาชญากรรมในเรื่องฆาตกรรมและกบฎต่อรัฐบาลโรม
- เมื่อปอนทิอัส ปีลาตเสนอให้เลือกปล่อยบารับบัสหรือพระเยซู ประชาชนเลือกให้ปล่อยบารับบัส
- ดังนั้นปีลาติจึงได้ปล่อยบารับบัสไป แต่ลงโทษให้ประหารชีวิตพระเยซู
บารุค
ข้อเท็จจริง
บารุคเป็นชื่อของผู้ชายหลายคนในพันธสัญญาเดิม
- บารุคคนหนึ่ง (บุตรชายของศับบัย) ผู้ซึ่งทำได้ทำงานกับเนหะมีย์ในการซ่อมกำแพงกรุงเยรูซาเล็ม
- ในสมัยของเนหะมีย์ มีบารุคอีกคนหนึ่ง (บุตรชายของโคลโฮเซห์) เป็นหนึ่งในบรรดาพวกผู้นำที่ตั้งถิ่นฐานอยู่ในกรุงเยรูซาเล็มหลังจากที่กำแพงเมืองได้ถูกซ่อมเสร็จแล้ว
- บารุคอีกคนหนึ่ง (บุตรชายของเนริยาห์) เป็นผู้ช่วยของผู้เผยพระวจนะเยเรมีย์ เป็นผู้ช่วยในงานปรนนิบัติหลายอย่าง เช่น การเขียนบันทึกข้อความที่พระเจ้าได้ประทานแก่เยเรมีย์ และอ่านให้ประชาชนฟัง
บาลาอัม
ข้อเท็จจริง
บาลาอัมเป็นผู้พยากรณ์นอกรีตที่กษัตริย์บาลาคได้จ้างให้ไปสาปแช่งอิสราเอลในขณะที่พวกเขาได้ตั้งค่ายอยู่ที่แม่น้ำจอร์แดน ทางตอนเหนือของโมอับ เพื่อเตรียมตัวเข้าสู่แผ่นดินคานาอัน
- บาลาอัมมาจากเมืองเปโธร์ ซึ่งตั้งอยู่ในดินแดนบริเวณแม่น้ำยูเฟรติส ห่างจากแผ่นดินโมอับประมาณ 400 ไมล์
- บาลาค กษัตริย์ของคนมีเดียนกลัวคนอิสราเอลที่แข็งแรงและมีจำนวนมาก พระองค์ทรงได้จ้างบาลาอัมให้มาสาปแช่งคนอิสราเอล
- เมื่อบาลาอัมกำลังเดินทางไปยังอิสราเอล ทูตของพระเจ้าได้ยืนขวางทางดังนั้นลาของบาลาอัมจึงหยุดเดิน พระเจ้าทรงได้ให้ลาสามารถพูดกับบาลาอัมได้
- พระเจ้าไม่ยอมให้บาลาอัมสาปแช่งคนอิสราเอลและทรงได้บัญชาให้เขาอวยพรแก่คนอิสราเอลแทน
- ต่อมาภายหลัง บาลาอัมก็ยังคงนำความชั่วมาสู่คนอิสราเอลเมื่อเขาได้ชักนำคนอิสราเอลไห้ไปนมัสการพระเทียมเท็จ คือพระบาอัลเปโอร์
บาอัล
ข้อเท็จจริง
"บาอัล" หมายความว่า "เจ้า" หรือ "นาย" และเป็นชื่อของพระเทียมเท็จที่คนคานาอันกราบไหว้นมัสการ
- มีพระเทียมเท็จท้องถิ่นที่มีคำว่า "บาอัล" อยู่ในชื่อของพวกเขาด้วย เช่น "บาอัลแห่งเปโอร์" บางครั้งพวกพระเหล่านี้ถูกเรียกรวมกันว่า "บรรดาพระบาอัล"
- บางคนมีชื่อที่มีคำว่า "บาอัล" อยู่ในชื่อด้วย
- การนมัสการพระบาอัลรวมถึงการทำชั่วอย่างเช่น การเอาเด็กบูชายัญและใช้หญิงโสเภณีมาร่วมพิธี
- หลายครั้งหลายคราวในตลอดประวัติศาสตร์ของพวกเขา คนอิสราเอลได้มีสัมพันธ์อย่างลึกซึ้งกับการนมัสการพระบาอัล การทำตามอย่างชนชาติที่ไม่มีพระเจ้าที่อยู่ล้อมรอบพวกเขา
- ในรัชสมัยของกษัตริย์อาหับ เอลียาห์ผู้เผยพระวจนะของพระเจ้าได้ท้าทายเพื่อพิสูจน์ให้ประชาชนได้เห็นว่าพระบาอัลไม่มีจริง และพระยาห์เวห์เท่านั้นที่เป็นพระเจ้าเที่ยงแท้องค์เดียว ผลก็คือ พวกผู้พยากรณ์ของพระบาอัลได้ถูกทำลายและประชาชนได้หันมานมัสการพระยาห์เวห์อีกครั้ง
บาอาชา
ข้อเท็จจริง
บาอาชาเป็นหนึ่งในกษัตริย์ที่ชั่วร้ายของอิสราเอล เป็นผู้ที่ชักนำให้คนอิสราเอลไปนมัสการรูปเคารพทั้งหลาย
- บาอาชาเป็นกษัตริย์องค์ที่สามของอิสราเอลและได้ปกครองนานเป็นเวลายี่สิบสี่ปี ในช่วงเวลาที่อาสาเป็นกษัตริย์ของยูดาห์
- เขาเป็นผู้บัญชาการทหารที่ได้กลายมาเป็นกษัตริย์โดยการปลงพระชนม์กษัตริย์องค์ก่อนคือ นาดับ
- ในรัชสมัยของบาอาชามีสงครามระหว่างอาณาจักรอิสราเอลและยูดาห์หลายครั้ง โดยเฉพาะอย่างยิ่งกับกษัตริย์อาสาแห่งยูดาห์
- เป็นเพราะความบาปมายมายของบาอาชา ในที่สุดพระเจ้าก็ปลดเขาออกจากตำแหน่งโดยความตายของเขา
เบธเชเมช
ข้อเท็จจริง
เบธเชเมช เป็นชื่อเมืองในแคว้นคานาอัน อยู่ห่างไปทางตะวันตกของกรุงเยรูซาเล็มประมาณ 30 กิโลเมตร
- ชนชาติอิสราเอลได้ยึดครองเมืองเบธเชเมชในสมัยที่โยชูวาเป็นผู้นำ
- เบธเชเมช เป็นเมืองที่ถูกแยกออกมาเป็นพื้นที่สำหรับปุโรหิตคนเลวีได้อาศัยอยู่
- เมื่อพวกฟิลิสเตียได้กำลังนำเอาหีบแห่งพันธสัญญากลับคืนมายังกรุงเยรูซาเล็ม เมืองเบธเชเมชเป็นเมืองแรกที่หีบนั้นหยุดอยู่ที่นั่น
เบธเลเฮม เอฟราธาร์
ข้อเท็จจริง
เบธเลเฮมเป็นเมืองเล็กๆ ในแผ่นดินอิสราเอลที่อยู่ใกล้กับกรุงเยรูซาเล็ม เมืองนี้เป็นที่รู้จักกันในชื่อว่า "เอฟราธาร์" ซึ่งบางทีอาจจะเป็นชื่อดั้งเดิมของเมืองนี้
- เบธเลเฮม ได้ถูกเรียกว่า "เมืองของดาวิด" เนื่องจากกษัตริย์ดาวิดประสูติที่นั่น
- ผู้เผยพระวจนะมีคาห์ได้กล่าวว่า พระเมสสิยาห์จะมาจาก "เบธเลเฮม เอฟราธาร์"
- พระเยซูประสูติในเบธเลเฮมในหลายปีต่อมา จึงทำให้สำเร็จตามคำพยากรณ์
- ชื่อ "เบธเลเฮม" หมายความว่า "บ้านแห่งขนมปัง" หรือ "บ้านแห่งอาหาร"
เบธเอล
ข้อเท็จจริง
เบธเอลเป็นเมืองที่ตั้งอยู่ทางตอนเหนือของกรุงเยรูซาเล็มในแผ่นดินคานาอัน ซึ่งเมื่อก่อนมีชื่อว่า "ลูส"
- หลังจากที่ได้รับพระสัญญาของพระเจ้าเป็นครั้งแรก อับราม (อับราฮัม) ได้สร้างแท่นบูชาถวายพระเจ้าใกล้เมืองเบธเอล ซึ่งชื่อของเมืองนี้ในขณะนั้นไม่ใช่ชื่อเบธเอล แต่โดยทั่วไปก็ยังเรียกเมืองนี้ว่า "เบธเอล" ซึ่งเป็นที่รู้จักกันมากกว่า
- เมื่อยาโคบกำลังหนีจากเอซาวพี่ชายของเขา เขาได้พักค้างคืนอยู่ใกล้กับเมืองนี้ และนอนหลับในที่โล่งบนพื้นดินที่นั่น ในขณะที่เขากำลังหลับอยู่นั้น เขาได้ฝันเห็นทูตสวรรค์กำลังขึ้นและลงบนบันไดที่ไปถึงท้องฟ้า
- เมืองนี้ไม่ได้มีชื่อว่า "เบธเอล" จนหลังจากที่ยาโคบได้ตั้งชื่อให้กับที่นี่ เพื่อให้ชัดเจน พระคัมภีร์บางฉบับอาจจะแปลชื่อเมืองนี้ว่า "ลูส" (ต่อมาภายหลัง เรียกว่าเบธเอล)" ในบทที่เกี่ยวกับอับราฮัม เช่นเดียวกับตอนที่ยาโคบมาถึงที่นั่นครั้งแรก (ก่อนที่เขาจะเปลี่ยนชื่อนั้น)
- เบธเอลได้ถูกกล่าวถึงบ่อยครั้งในพันธสัญญาเดิม และเป็นสถานที่ที่เกิดเหตุการณ์สำคัญมากมาย
เบธานี
ข้อเท็จจริง
หมู่บ้านเบธานีตั้งอยู่ที่เชิงเขาบนเนินด้านตะวันออกของภูเขามะกอกเทศ ประมาณ 2 ไมล์ทางด้านตะวันออกของกรุงเยรูซาเล็ม
- หมู่บ้านเบธานีอยู่ใกล้ถนนที่เชื่อมต่อระหว่างกรุงเยรูซาเล็มกับเมืองเยรีโค
- พระเยซูมักจะเสด็จมาหมู่บ้านเบธานี ซึ่งเป็นหมู่บ้านที่เพื่อนสนิทของพระองค์ คือ ลาซารัส มารธา และมารีย์อาศัยอยู่
- หมู่บ้านเบธานีเป็นที่รู้จักกันดีว่าเป็นที่ซึ่งพระเยซูทรงทำให้ลาซารัสเป็นขึ้นมาจากความตาย
เบธูเอล
ข้อเท็จจริง
เบธูเอลเป็นบุตรชายของนาโฮร์น้องชายของอับราฮัม
- เบธูเอลเป็นบิดาของเรเบคาห์และลาบัน
- มีอีกเมืองหนึ่งที่ชื่อเบธูเอล ซึ่งอาจจะตั้งอยู่ทางใต้ของยูดาห์ ไม่ไกลจากเมืองเบเออร์เชบา
เบนยามิน
ข้อเท็จจริง
เบนยามินเป็นบุตรชายคนสุดท้องที่เกิดจากยาโคบและราเชลภรรยาของเขา ชื่อของเขามีความหมายว่า "บุตรชายแห่งมือขวาของฉัน"
- เขากับพี่ชาย คือโยเซฟสองคนเท่านั้นที่เป็นบุตรของราเชลซึ่งตายหลังจากที่คลอดเบนยามิน
- เชื้อสายของเบนยามินกลายมาเป็นหนึ่งในสิบสองเผ่าของอิสราเอล
- กษัตริย์ซาอูลเป็นคนอิสราเอลมาจากเผ่าเบนยามิน
- อัครทูตเปาโลก็มาจากเผ่าเบนยามินด้วยเช่นเดียวกัน
เบไนยาห์
ข้อเท็จจริง
เบไนยาห์ เป็นชื่อของผู้ชายหลายคนในพันธสัญญาเดิม
- เบไนยาห์ บุตรชายของเยโฮยาดาเป็นคนที่เก่งกล้าคนหนึ่งของดาวิด เขาเป็นนักรบที่มีความเชี่ยวชาญ และได้รับตำแหน่งองครักษ์ของกษัตริย์ดาวิด
- เมื่อซาโลมอนได้รับการแต่งตั้งเป็นกษัตริย์ เบไนยาห์ได้ช่วยพระองค์ในการทำลายล้างอำนาจของศัตรู ภายหลังท่านได้รับการแต่งตั้งเป็นผู้บังคับบัญชาของกองทัพอิสราเอล
- ผู้ชายที่ชื่อเบไนยาห์คนอื่นๆ ในพันธสัญญาเดิมที่รวมถึงคนเลวีสามคนด้วย คนหนึ่งเป็นปุโรหิต คนหนึ่งเป็นนักดนตรี และอีกคนหนึ่งที่เป็นเชื้อสายของอาสาฟ
เบโรอา
ข้อเท็จจริง
ในสมัยพันธสัญญาใหม่ เมืองเบโรอา(Berea or Beroea)เป็นเมืองที่เจริญรุ่งเรืองของกรีก อยู่ทางตะวันออกเฉียงใต้ของแคว้นมาซิโดเนีย ประมาณ 80 กิโลเมตรทางใต้ของเมืองเธสะโลนิกา
- เปาโลกับสิลาสหนีไปยังเมืองเบโรอา หลังจากพี่น้องคริสเตียนได้ช่วยพวกท่านให้หนีรอดจากพวกยิวบางคนที่สร้างปัญหาให้กับพวกท่านในเมืองเธสะโลนิกา
- เมื่อผู้คนที่อาศัยอยู่ในเมืองเบโรอาได้ยินเปาโลเทศนา พวกเขาได้ค้นดูพระคัมภีร์เพื่อที่จะทำให้มั่นใจว่าสิ่งที่ท่านบอกกับพวกเขานั้นเป็นความจริง
เบเอลเซบูล
ข้อเท็จจริง
เบเอลเซบูล เป็นอีกชื่อหนึ่งของซาตาน หรือวิญญาณชั่ว
บางครั้งคำนี้ยังสะกดได้อีกว่า "เบเอลเซบุบ"
- ชื่อนี้มีความหมายตามตัวอักษรว่า "เจ้าแห่งแมลงวัน" ที่มีความหมายว่า "ผู้ปกครองพวกผี" แต่การแปลคำนี้ให้ดีที่สุดคือการแปลให้ใกล้เคียงกับการสะกดดั้งเดิมมากกว่าการแปลความหมาย
- คำนี้ยังสามารถแปลว่า "วิญญาณชั่วเบเอลเซบูล" ได้อีกด้วย เพื่อทำให้ชัดเจนว่าหมายถึงผู้ใด
- ชื่อนี้มีความเกี่ยวข้องกับชื่อของพระเทียมเท็จ "บาอัล-เซบูบ" ของเอโครน
เบเออร์เชบา
ข้อเท็จจริง
ในสมัยพันธสัญญาเดิม เบเออร์เชบาเป็นเมืองหนึ่งที่ตั้งอยู่ทางตะวันตกเฉียงใต้ของกรุงเยรูซาเล็ม ห่างออกไปประมาณ 45 ไมล์ ในบริเวณทะเลทรายซึ่งปัจจุบันนี้เรียกว่า ทะเลทรายเนเกฟ
- ทะเลทรายที่อยู่ล้อมรอบเบเออร์เชบาเป็นถิ่นทุรกันดาร ที่ซึ่งนางฮาการ์และอิชมาเอลได้ร่อนเร่ไป หลังจากที่อับราฮัมได้ขับไล่พวกเขาออกไปจากเต๊นท์ของท่าน
- ชื่อของเมืองนี้มีความหมายว่า "บ่อน้ำแห่งคำสาบาน" ชื่อนี้ได้ตั้งขึ้น เมื่ออับราฮัมได้ปฏิญาณคำสาบานที่จะไม่ทำโทษผู้คนของกษัตริย์อาบีเมเลคที่ยึดครองบ่อน้ำแห่งหนึ่งของอับราฮัม
โบอาส
ข้อเท็จจริง
โบอาสเป็นชายชาวอิสราเอลที่เป็นสามีของรูธ ซึ่งเป็นปู่ของกษัตริย์ดาวิด และบรรพบุรุษของพระเยซูคริสต์
- โบอาสมีชีวิตอยู่ในสมัยที่มีผู้วินิจฉัยในอิสราเอล
- เขาเป็นญาติกับหญิงชาวอิสราเอลที่ชื่อว่านาโอมี ที่ได้กลับมายังอิสราเอลหลังจากที่สามีและลูกชายของเธอตายในดินแดนโมอับ
- โบอาส "ไถ่" รูธ ลูกสะใภ้ของนางโอมี หญิงหม้าย โดยการแต่งงานกับเธอและให้อนาคตแก่เธอด้วยการเป็นสามีและให้บุตร
- โบอาสถูกมองเป็นภาพของการที่พระเยซูทรงช่วยเราให้รอด และทรงไถ่เราจากบาป
ปริสสิลลา
ข้อเท็จจริง
ปริสสิลลาและสามีของเธออควิลลาเป็นชาวยิวที่ร่วมงานกับคริสเตียนชาวยิวที่ทำงานกับอัครสาวกเปาโลในงานประกาศของเขา
- ปริสสิลลาและอควิลลาได้ออกจากโรมเนื่องจากจักรพรรดิได้บังคับให้คริสเตียนออกจากที่นั่น
- เปาโลได้พบกับปริสสิลลาและอควิลลาในเมืองโครินธ์ พวกเขาเป็นคนเย็บเต็น์และเปาโลก็ได้ร่วมทำงานกับพวกเขาในงานนี้ด้วย
- เมื่อเปาโลจากเมืองโครินธ์เพื่อไปซีเรียปริสสิลลาและอควิลลาก็ได้ไปกับเขาด้วย
- จากซีเรีย พวกเขาทั้งสามได้ไปยังเอเฟซัส เมื่อเปาโลจากเอเฟซัสปริสสิลลาและอควิลลายังอยู่ที่นั่นและได้ดำเนินการเทศนาประกาศพระกิตติคุณที่นั่น
- พวกเขาได้สอนผู้ชายที่ชื่ออปอลโลในเอเฟซัสโดยเฉพาะผู้ซึ่งเชื่อในพระเยซูและมีของประทานในการเป็นผู้พูดและผู้สอน
ปอนทัส
ข้อเท็จจริง
ปอนทัสเป็นจังหวัดหนึ่งของโรมันในช่วงสมัยของจักรวรรดิโรมันและคริสตจักรสมัยแรกเริ่ม ตั้งอยู่ตามแนวชายฝั่งทางใต้ของทะเลดำ ทางตอนเหนือที่ปัจจุบันเป็นประเทศตุรกี
- ตามที่มีบันทึกไว้ในพระธรรมกิจการ คนจากจังหวัดปอนทัสได้อยู่ที่กรุงเยรูซาเล็มเมื่อพระวิญญาณบริสุทธิ์เสด็จลงมาคครั้งแรกเหนือเหล่าอัครสาวกในวันเพ็นเทคอสต์
- ผู้เชื่อคนหนึ่งชื่อว่าอาควิลลาก็มาจากปอนทัส
- เมื่อเปโตรได้กำลังเขียนถึงคริสเตียนที่กระจาดกระจายไปในแคว้นต่างๆ ปอนทัสก็อยู่ในหนึ่งในแคว้นที่ท่านได้กล่าวถึง
ปัดดานอารัม
ข้อเท็จจริง
ปัดดานอารัมเป็นชื่อแคว้นหนึ่งซึ่งครอบครัวของอับราฮัมอาศัยอยู่ก่อนที่จะออกเดินทางไปยังดินแดนคานาอัน มีความหมายว่า "ที่ราบแห่งอารัม"
- เมื่ออับราฮัมได้จากเมืองฮารานในปัดดานอารัมเพื่อเดินทางไปยังดินแดนคานาอันนั้น ครอบครัวส่วนใหญ่ของอับราฮัมยังคงอาศัยอยู่ที่ฮาราน
- หลายปีต่อมา คนรับใช้ของอับราฮัมได้ไปที่ปัดดานอารัมเพื่อค้นหาภรรยาให้กับอิสอัคในหมู่ญาติของเขาซึ่งอาศัยอยู่ที่นั่น และได้พบกับเรเบคาซึ่งเป็นหลานสาวของเบธูเอล
- บุตรชายของอิสอัคและเรเบคาคือยาโคบได้เดินทางไปยังเมืองปัดดานอารัมและแต่งงานกับลูกสาวสองคนของลาบานน้องชายเรเบคาซึ่งอาศัยอยู่ในเมืองฮาราน
- อารัม, ปัดดานอารัม, และ อารัม นาหะริอัม ทุกเมืองเป็นส่วนแคว้นเดียวกันซึ่งปัจจุบันเป็นที่ตั้งของประเทศซีเรีย
ปาราน
ข้อเท็จจริง
ปารานเป็นทะเลทรายหรือถิ่นทุรกันดารทางตะวันออกของอียิปต์และดินแดนทางตอนใต้ของคานาอัน ยังมีภูเขาชื่อปารานซึ่งอาจเป็นอีกชื่อหนึ่งของภูเขาซีนาย
- สาวใช้ชื่อว่าฮาการ์และบุตรชายชื่อว่าอิขมาเอลได้ออกไปอาศัยอยู่ในถิ่นทุรกันดารปารานหลังจากที่นางซารายได้สั่งให้อับราฮัมส่งพวกเขาทั้งสองออกไป
- เมื่อโมเสสนำชาวอิสราเอลออกมาจากอียิปต์นั้น พวกเขาได้เดินทางผ่านถิ่นทุรกันดารแห่งปาราน
- จากคาเดชบาร์เนียในถิ่นทุรกันดารปารานที่โมเสสได้ส่งผู้ชายสิบสองคนไปสอดแนมดินแดนคานาอันและกลับมารายงาน
- ถิ่นทุรกันดารศินซึ่งอยู่ทางตอนเหนือของปารานและถิ่นทุรกันดารศินอยู่ทางตอนใต้ของปาราน
ปีลาต
ข้อเท็จจริง
ปีลาตคือข้าหลวงของโรมันในมณฑลยูเดียซึ่งเป็นผู้ตัดสินประหารพระเยซู
- เนื่องจากปีลาตเป็นข้าหลวง เขาจึงมีอำนาจในการสั่งตัดสินประหารบรรดาอาชญากร
- ผู้นำทางศาสนาชาวยิวต้องการให้ปีลาตตรึงพระเยซูบนกางเขน ดังนั้นพวกเขาจึงได้โกหกว่าพระเยซูเป็นอาชญากร
- ปีลาตได้ตระหนักว่าพระเยซูไม่ได้ทีความผิด แต่เขากลังฝูงชนและต้องการเอาใจฝูงชน ดังนั้นปีลาตจึงสั่งให้ทหารตรึงพระเยซูบนกางเขน
เปโตร, ซีโมนเปโตร, เคฟาส
ข้อเท็จจริง
เปโตรคือหนึ่งในสาวกสิบสองคนของพระเยซู เขาคือผู้นำคนสำคัญของคริสตจักรในยุคเริ่มแรก
- ก่อนที่พระเยซูจะเรียกให้เปโตรเป็นสาวกนั้น เปโตรมีชื่อว่าซีโมน
- ภายหลังพระเยซูจึงตั้งชื่อเปโตรว่า "เคฟาส" ซึ่งมีความหมายว่า "ศิลา" หรือ "ก้อนหิน" ในภาษาอาราเมค ชื่อเปโตรนั้นก็มีความหมายว่า "ศิลา" หรือ "ก้อนหิน" ในภาษากรีกด้วย
- พระเจ้าได้ทรงทำงานผ่านเปโตรในการรักษาโรคและการประกาศข่าวประเสริฐเกี่ยวกับพระเยซู
- พระธรรมสองเล่มในพระคัมภีร์ภาคพันธสัญญาใหม่คือจดหมายที่เปโตรได้เขียนเพื่อหนุนใจและสั่งสอนบรรดาผู้เชื่อทั้งหลาย
เปอร์เซีย, ชาวเปอร์เซีย
ข้อเท็จจริง
เปอร์เซีย คือประเทศหนึ่งที่ได้กลายเป็นอาณาจักรที่เรืองอำนาจโดยการสถาปนาของไซรัสมหาราช ใน 550 ก่อนคริสตกาล ประเทศเปอร์เซียตั้งอยู่ทางทิศตะวันออกเฉียงใต้ของบาบิโลนและอัสซีเรียในแถบที่ปัจจุบันนี่คือประเทศอิหร่าน
- คนของประเทศเปอร์เซีบเรียกว่า "คนเปอร์เซีย"
- ภายใต้คำประกาศของกษัตริย์ไซรัส ชาวยิวได้รับอิสระจากการเป็นเชลยในบาบิโลน และได้รับอนุญาตให้กลับไปยังบ้าน และได้มีการสร้างพระวิหารในกรุงเยรูซาเล็มขึ้นใหม่ด้วยเงินทุนจากอาณาจักรเปอร์เซีย
- กษัตริย์อารทาเซอร์ซีส คือผู้ครองอาณาจักรเปอร์เซียเมื่อผู้เผยพระวจนะเอสราและเนหะมีย์ได้กลับไปยังกรุงเยรูซาเล็มเพื่อสร้างกำแพงเมืองเยรูซาเล็มขึ้นใหม่
- เอสเธอร์ได้กลายเป็นพระราชินีแห่งอาณาจักรเปอร์เซียเมื่อพระนางได้อภิเสกสมรสกับกษัตริย์อารทาเซอร์ซีส
เปโอร์, ภูเขาเปโอร์, พระบาอัลแห่งเปโอร์
ข้อเท็จจริง
คำว่า "เปโอร์" หรือ "ภูเขาเปโอร์" อ้างถึงภูเขาซึ่งตั้งอยู่ทรงทิศตะวันออกเฉียงเหนือของทะเลเกลือ ในดินแดนโมอับ
- "เบธเปโอร์" คือชื่อเมืองซึ่งเป็นไปได้ว่าตั้งอยู่บนภูเขาหรือใกล้บริเวณนั้น บริเวณนี้เองที่เป็นที่ซึ่งโมเสสเสียชีวิตลงหลังจากที่พระเจ้าทรงได้ชี้ให้เขาเห็นดินแดนพันธสัญญา
- "พระบาอัลแห่งเปโอร์" เป็นพระเทียมเท็จของคนโมอับที่พวกเขานมัสการบนภูเขาเปโอร์ ชาวอิสราเอลเคยนมัสการรูปเคารพนี้และพระเจ้าทรงลงโทษพวกเขาเพราะการกระทำนั้น
เปาโล, เซาโล
ข้อเท็จจริง
เปาโลคือผู้นำของคริสตจักรในยุคเริ่มแรกซึ่งพระเยซูได้ส่งออกไปเพื่อประกาศข่าวประเสริฐแก่กลุ่มชนชาติทั้งหลาย
- เปาโลเป็นชาวยิวซึ่งกำเนิดในเมืองของโรมันเมืองหนึ่งชื่อเมืองทาร์ซัส ด้วยเหตุนี้เปาโลจึงเป็นชาวโรม
- เปาโล เดิมนั้นมีชื่อยิวว่าเซาโล
- เซาโลได้กลายมาเป็นผู้นำศาสนาชาวยิวและได้ทำการจับกุมชาวยิวซึ่งเปลี่ยนมาเป็นคริสเตียนเพราะเขาคิดว่าเขาเหล่านั้นไม่สัตย์ซื่อต่อพระเจ้าโดยมาเชื่อในพระเยซู
- พระเยซูทรงเปิดเผยพระองค์แก่เซาโลในแสงสว่างจ้าจากท้องฟ้า และตรัสบอกเซาโลให้เขาหยุดทำร้ายคริสเตียน
- เซาโลได้เชื่อในพระเยซูและได้เริ่มต้นสั่งสอนบรรดาชาวยิวเกี่ยวกับพระเยซู
- ต่อมาภายหลังพระเจ้าได้ทรงส่งเซาโลไปสั่งสอนประชาชนที่ไม่ใช่ชาวยิวเกี่ยวกับพระเยซูและได้เริ่มก่อตั้งคริสตจักรต่างๆ ในเมืองหลายเมืองของอาณาจักรโรม ในเวลานี้เองที่เขาถูกเรียกเขาด้วยชื่อโรมันว่า "เปาโล"
- นอกจากนี้เปาโลยังได้เขียนจดหมายหลายฉบับเพื่อหนุนใจและสั่งสอนคริสเตียนในคริสตจักรต่างๆ จดหมายหลายฉบับเหล่านี้อยู่ในพันธสัญญาใหม่
โปทิฟาร์
ข้อเท็จจริง
โปทิฟาร์เป็นเจ้าหน้าที่สำคัญคนหนึ่งของฟาโรห์แห่งอียิปต์ในช่วงเวลาที่โยเซฟถูกขายให้เป็นทาสของชาวอิชมาเอล
- โปทิฟาร์ได้ซื้อโยเซฟจากชาวอิชมาเอลและได้แต่งตั้งเขาให้เป็นหัวหน้าในครัวเรือนของเขา
- เมื่อโยเซฟถูกกล่าวหาอย่างไม่ถูกต้องว่าได้กระทำผิด โปทิฟาร์จึง ได้ขังโยเซฟไว้ในคุก
ผู้ชายของพระเจ้า
ข้อเท็จจริง
คำกล่าว "ผู้ชายของพระเจ้า" เป็นการกล่าวด้วยความเคารพถึงผู้เผยพระวจนะของพระยาห์เวห์ นี่ได้ใช้เพื่ออ้างถึงทูตสวรรค์ของพระยาห์เวห์
- เมื่ออ้างถึงผู้เผยพระวจนะ นี่สามารถแปลว่า "ผู้ชายผูที่เป็นของพระเจ้า" หรือ "ผู้ชายผู่ที่พระเจ้าได้ทรงเลือก" หรือ "ผู้ชายผู้ที่รับใช้พระเจ้า"
- เมื่ออ้างถึงทูตสวรรค์ นี่สามารถแปลว่า "ผู้ส่งข่าวของพระเจ้า" หรือ "ทูตสวรรค์ของท่าน" หรือ "ชาวสวรรค์จากพระเจ้าผู้ที่ดูเหมือนผู้ชายคนหนึ่ง"
ผู้สร้าง
ข้อเท็จจริง
โดยทั่วไปคำว่า "ผู้สร้าง" คือบางคนผู้ที่เนรมิตหรือทำสิ่งต่างๆ
- ในพระคัมภีร์ คำว่า "ผู้สร้าง" ในบางครั้งถูกใช้เป็นเหมือนชื่อหรือตำแหน่งของพระยาห์เวห์เพราะพระองค์ทรงสร้างสรรพสิ่ง
- โดยปกติคำนี้ถูกใช้รวมกับคำว่า "ของเขา" หรือ "ของฉัน" หรือ "ของท่าน"
คำแนะนำในการแปล
- คำว่า "ผู้สร้าง" สามารถแปลว่าเป็น "พระผู้สร้าง" หรือ "พระเจ้าผู้ทรงสร้าง" หรือ "ผู้ที่สร้างสรรพสิ่ง"
- วลี "ผู้สร้างของเขา" สามารถแปลว่า "ผู้หนึ่งที่ทรงเนรมิตสร้างเขา" หรือ "พระเจ้าผู้ทรงเนรมิตสร้างเขา"
- วลี "ผู้สร้างของท่าน" และ "ผู้สร้างของฉัน" สามารถแปลได้คล้ายคลึงกัน
ฟาโรห์, กษัตริย์ฟาโรห์
ข้อเท็จจริง
ในสมัยโบราณ กษัตริย์ซึ่งปกครองประเทศอียิปต์นั้นเรียกว่าฟาโรห์
- รวมทั้งสิ้น มีฟาโรห์มากกว่า 300 องค์ที่เคยปกครองอียิปต์ในเวลานานกว่า 2,000 ปี
- กษัตริย์ชาวอียิปต์ทุกพระองค์ล้วนมีอำนาจและมั่งคั่งอย่างยิ่ง
- มีการกล่าวถึงกษัตริย์ของอียิปต์หลายพระองค์ในพระคัมภีร์
- บ่อยครั้งตำแหน่งนี่ใช้แทนพระนามมากกว่าตำแหน่ง ในหลายกรณีนั้นคำว่า ฟาโรห์ ในภาษาอังกฤษจะขึ้นต้นด้วยอักษรตัวใหญ่
ฟิลิป, ฟิลิปผู้ประกาศ
ข้อเท็จจริง
คริสตจักรในสมัยเริ่มแรกซึ่งก่อตั้งในกรุงเยรูซาเล็ม ฟิลิปคือหนึ่งในผู้นำทั้งเจ็ดคนที่ได้รับการทรงเลือกให้ดูแลคนยากจนและคริสเตียนที่ขาดแคลน เฉพาะอย่างยิ่งบรรดาแม่หม้าย
- พระเจ้าทรงใช้ฟิลิปในการแบ่งปันข่าวประเสริฐให้กับผู้คนซึ่งอาศัยอยู่ในเมืองต่างๆ หลายเมืองในแคว้นยูดาและกาลิลี รวมไปถึงผู้ชายชาวเอธิโอเปียซึ่งฟิลิปได้พบบนถนนทะเลทรายระหว่างทางจากกรุงเยรูซาเล็มถึงเมืองกาซา
- หลายปีต่อมา ฟิลิปได้ไปอยู่ในเมืองซีซารียาเมื่อเปาโลและสหายของเขาได้เข้าไปพักอยู่ที่บ้านของเขาระหว่างเดินทางของพวกเขากลับไปยังกรุงเยรูซาเล็ม
- ผู้เชี่ยวชาญทางด้านพระคัมภีร์ส่วนใหญ่คิดว่าผู้ประกาศฟิลิปไม่ใช่ผู้ชายคนเดียวกับสาวกของพระเยซูที่ชื่อฟิลิป บางภาษาอาจชอบที่จะสะกดชื่อของชายทั้งสองคนนี้ต่างกันเล็กน้อยเพื่อชี้ให้เห็นชัดเจนว่าเป็นคนละคนกัน
ฟิลิป, อัครสาวก
ข้อเท็จจริง
ฟิลิปคือหนึ่งในสาวกรุ่นแรกสิบสองคนของพระเยซู เขามาจากเมืองเบธไซดา
- ฟิลิปได้นำนาธานาเอลมาพบกับพระเยซู
- พระเยซูได้ถามฟิลิปเกี่ยวกับการจัดหาอาหารมาเลี้ยงคนห้าพันคนได้อย่างไร
- ในอาหารมื้อสุดท้ายซึ่งพระเยซูได้รับประทานอาหารกับบรรดาสาวกของพระองค์ พระองค์ได้ทรงกล่าวกับพวกเขาเกี่ยวกับเรื่องพระเจ้า พระบิดาของพระองค์ ฟิลิปได้ขอให้พระเยซูสำแดงให้พวกเขาเห็นพระบิดา
- บางภาษาอาจชอบการสะกดชื่อฟิลิบคนนี้แตกต่างจากฟิลิป (ผู้ประกาศ) เพื่อหลีกเลี่ยงไม่ให้สับสน
ฟิลิปปี,
ข้อเท็จจริง
ฟิลิปปีเป็นเมืองใหญ่และเป็นอาณิคมของอาณาจักรโรมันซึ่งตั้งอยู่ในแคว้นมาซิโดเนียบริเวณทางตอนเหนือของกรีซโบราณ
- เปาโลและสิลาสได้เดินทางไปยังเมืองฟิลิปปีเพื่อเทศนาเกี่ยวกับพระเยซูให้คนที่นั่นฟัง
- ขณะที่เปาโลและสิลาสอยู่ในเมืองฟิลิปปีนั้น พวกเขาถูกจับกุม แต่พระเจ้าได้ปลดปล่อยพวกเขาให้เป็นอิสระอย่างน่าอัศจรรย์
- ในพันธสัญญาใหม่พระธรรมฟิลิปปีเป็นจดหมายที่อัครสาวกเปาโลได้เขียนถึงบรรดาคริสเตียนที่คริสตจักรในเมืองฟิลิปปี
- หมายเหตุ นี่เป็นคนละเมืองกับเมืองฟิลิปปีในแคว้นซีซารียา ซึ่งตั้งอยู่ทางตอนเหนือของอิสราเอลใกล้ภูเขาเฮอร์โมน
ฟิลิสเตีย
ข้อเท็จจริง
ฟิลิสเตียคือชื่อของแคว้นใหญ่ในแผ่นดินคานาอัน ซึ่งตั้งอยู่ติดกับชายฝั่งของทะเลเมดิเตอร์เรเนียน
- แคว้นฟิลิสเตียตั้งอยู่บนที่ราบอันสมบูรณ์ทางชายฝั่งจากเมืองยัฟฟาในทิศเหนือไปจนกระทั่งถึงเมืองกาซาทางตอนใต้ ระยะทางประมาณ 64 กิโลเมตรและความกว้างประมาณ 16 กิโลเมตร
- ฟิลิสเตียถูกครอบครองโดย "ชาวฟีลิสเตีย" ซึ่งเป็นกลุ่มชนชาติที่มีอำนาจและเป็นศัตรูซ้ำแล้วซ้ำเล่ากับชาวอิสราเอล
ฟีนีเซีย
ข้อเท็จจริง
ในสมัยโบราณ ฟีนีเซียเป็นชาติที่มีความมั่งคั่งในคานาอันติดกับชายฝั่งของทะเลเมดิเตอร์เรเนียนทางตอนเหนือของอิสราเอล
- ฟีนีเซียได้ครอบตรองดินแดนบริเวณทางทิศตะวันตกซึ่งเป็นประเทศเลบานอนในปัจจุบัน
- ในสมัยของพันธสัญญาใหม่ เมืองหลวงของประเทศฟินีเซียมีชื่อว่าเมืองไทระ และเมืองที่มีความสำคัญอีกเมืองหนึ่งของฟีนีเซียคือเมืองไซดอน
- ชาวฟินีเซียมีชื่อเสียงในเรื่องของทักษะงานไม้ พวกเขาใช้วัตถุดิบคือไม้สนซีดาร์ที่เติบโตอย่างอุดมสมบูรณ์ในประเทศนำมาใช้เป็นสีย้อมสีม่วงซึ่งมีราคาแพง นอกจากนี้พวกเขายังมีความสามารถในเรื่องของการค้าขายทางทะเลและมีทักษะอย่างมากในการต่อเรืออีกด้วย
- หนึ่งในตัวอักษรยุคเริ่มแรกนั้นถูกคิดค้นขึ้นโดยชาวฟินีเซีย ตัวอักษรของชาวฟินีเซียถูกใช้ไปอย่างแพร่หลายเพราะพวกเขาติดต่อสื่อสารกับชนหลายกลุ่มผ่านการค้าขาย
ฟีเนหัส
ข้อเท็จจริง
ฟีเนหัสเป็นชื่อของผู้ชายสองคนในพันธสัญญาเดิม
- หนึ่งในหลานชายของอาโรนคือปุโรหิตที่มีชื่อว่าฟีเนหัส ซึ่งได้ต่อต้านการนมัสการพระเทียมเท็จในอิสราเอลอย่างมาก
- ฟีเนหัสได้ช่วยให้ชาวอิสราเอลพ้นจากโรคระบาดซึ่งพระยาห์เวห์ได้ส่งมาเพื่อลงโทษชาวอิสราเอลที่ได้แต่งงานกับผู้หญิงชาวมีเดียนและการนมัสการพระเทียมเท็จ
- หลายโอกาสที่ฟีเนหัสได้เดินทางร่วมกับกองทัพอิสราเอลเพื่อทำลายคนมีเดียน
- ในพันธสัญญาเดิมได้กล่าวถึงผู้ชายที่ชื่อว่าฟีเนหัสอีกคนหนึ่งซึ่งเป็นหนึ่งในบุตรชายที่ชั่วร้ายของปุโรหิตที่มีชื่อว่าเอลีในสมัยของผู้เผยพระวจนะซามูเอล
- ฟีเนหัสและพี่น้องชายของเขาที่ชื่อว่าโฮฟนีถูกฆ่าตายเมื่อชาวฟิลิสเตียเข้าจู่โจมตีอิสราเอลและได้ขโมยหีบพันธสัญญาไป
ภูเขามะกอกเทศ
ข้อเท็จจริง
ภูเขามะกอกเทศคือภูเขาหรือเนินเขาขนาดใหญ่ซึ่งตั้งอยู่ทางตะวันออกของกรุงเยรูซาเล็ม มีความสูงประมาณ 787 เมตร
- ในพันธสัญญาเดิม ภูเขาแห่งนี้ถูกอ้างถึงว่า "ภูเขาที่อยู่ทางทิศตะวันออกของกรุงเยรูซาเล็ม"
- พันธสัญญาใหม่ได้บันทึกไว้หลายเหตุการณ์ว่า เมื่อพระเยซูและเหล่าสาวกได้ขึ้นไปที่ภูเขามะกอกเทศเพื่ออธิษฐานและพักผ่อน
- พระเยซูทรงถูกจับที่สวนเกทเสมณีซึ่งตั้งอยู่บนภูเขามะกอกเทศ
- สามารถแปลได้ว่า "เนินเขามะกอกเทศ" หรือ "ภูเขาต้นมะกอกเทศ"
ภูเขาเฮอร์โมน
ข้อเท็จจริง
ภูเขาเฮอร์โมนเป็นชื่อของภูเขาที่สูงที่สุดในอิสราเอล ที่ปลายด้านทิศใต้ของทิวเขาเลบานอน
- มันตั้งอยู่ทางตอนเหนือของทะเลกาลิลี บริเวณชายแดนตอนเหนือระหว่างประเทศอิสราเอลและประเทศซีเรีย
- ชื่ออื่นที่เรียกภูเขาเฮอร์โมนโดยคนชาติอื่น คือ "ภูเขาสีรีออน" และ "ภูเขาเสนีร์"
- ภูเขาเฮอร์โมนมียอดเขาใหญ่อยู่สามยอด ยอดเขาที่สูงที่สุดสูงประมาณ 2,800 เมตร
มนัสเสห์, เผ่ามนัสเสห์
ข้อเท็จจริง
มีผู้ชายห้าคนที่มีชื่อว่า มนัสเสห์ ในพันธสัญญาเดิม
- มนัสเสห์เป็นชื่อของบุุตรชายคนแรกของโยเซฟ
- ทั้งมนัสเสห์และน้องชายของเขาคือเอฟราอิมถูกรับเป็นบุตรบุญธรรมโดยบิดาของโยเซฟ คือยาโคบซึ่งได้ให้สิทธิพิเศษแก่เชื้อสายของพวกเขาในการได้อยู่ท่ามกลางชนอิสราเอลสิบสองเผ่า
- เชื้อสายของมนัสเสห์เป็นหนึ่งในเผ่าต่างๆ ของอิสราเอล
- เผ่ามนัสเสห์มักจะถูกเรียกว่าเป็น "ครึ่งเผ่าของมนัสเสห์" เพราะส่วนหนึ่งของเผ่าได้ตั้งรกรากอยู่ในดินแดนคานาอันทางด้านตะวักตกของแม่น้ำจอร์แดน อีกส่วนหนึ่งของเผ่าได้ตั้งรกรากในทางด้านตะวันออกของแม่น้ำจอร์แดน
- หนึ่งในบรรดากษัตริย์ของยูดาห์ชื่อว่า มนัสเสห์
- กษัตริย์มนัสเสห์เป็นกษัตริย์ที่ชั่วร้ายที่เอาบรรดาบุตรของเขาเองเผาเป็นเครื่องบูชาให้แก่พระเทียมเท็จ
- พระเจ้าทรงลงโทษกษัตริย์มนัสเสห์โดยการยอมให้เขาถูกจับตัวโดยกองทัพของศัตรู มนัสเสห์ได้หันกลับมาหาพระเจ้าและทำลายแท่นบูชาที่ใช้นมัสการพวกรูปเคารพ
- ผู้ชายสองคนที่ชื่อว่า มนัสเสห์ มีชีวิตอยู่ในช่วงยุคของเอสรา พวกเขาคือคนที่ต้องหย่ากับภรรยาต่างศาสนาเหล่านั้นเพราะพวกเธอมีอิทธิพลต่อพวกเขาในการนับถือพระเทียมเท็จ
- มนัสเสห์อีกคนหนึ่งเป็นปู่ของบางคนในเผ่าดานที่เป็นปุโรหิตของรูปเคารพของพระเทียมเท็จ
มัทธิว, เลวี
ข้อเท็จจริง
มัทธิวเป็นคนหนึ่งในผู้ชายสิบสองคนที่พระเยซูได้เลือกให้เป็นอัครสาวกของพระองค์ เขาเป็นที่รู้จักกันในนามของเลวี บุตรชายของอัลเฟอัส
- เลวี (มัทธิว) เป็นคนเก็บภาษีจากเมืองคาเปอร์นาอุมก่อนที่เขาจะได้พบพระเยซู
- มัทธิวได้เขียนพระกิตติคุณที่ใช้ชื่อของเขา
- มีคนหลายคนที่มีชื่อว่าเลวีในพระคัมภีร์
มาซิโดเนีย
ข้อเท็จจริง
ในสมัยพันธสัญญาใหม่ มาซิโดเนียเป็นแคว้นหนึ่งของโรมที่ตั้งอยู่ทางตอนเหนือของกรีซโบราณ
- เมืองที่สำคัญของมาซิโดเนียบางเมืองที่ถูกกล่าวถึงในพระคัมภีร์คือ เบเรีย ฟิลิปปี และเธสะโลนิกา
- ผ่านทางนิมิต พระเจ้าได้สั่งให้เปาโลเทศนาพระกิตติคุณในแคว้นมาซิโดเนีย
- เปาโลและเพื่อนร่วมงานของเขาได้ไปแคว้นมาซิโดเนียและได้สอนประชาชนที่นั่นเกี่ยวกับพระเยซูและได้ช่วยผู้เชื่อใหม่ให้เติบโตขึ้นในความเชื่อของพวกเขา
- ในพระคัมภีร์ มีจดหมายหลายฉบับที่เปาโลได้เขียนถึงผู้เชื่อในเมืองฟิลิปปีและเธสะโลนิกาของแคว้นมาซิโดเนีย
มารธา
ข้อเท็จจริง
มารธาเป็นผู้หญิงคนหนึ่งจากเบธานีที่ได้ติดตามพระเยซู
- มารธามีน้องสาวชื่อมารีย์และน้องชายชื่อลาซารัสผู้ที่ติดตามพระเยซูด้วยเช่นกัน
- ครั้งหนึ่งเมื่อพระเยซูได้มาเยี่ยมพวกเขาที่บ้าน มารธาได้ถูกกวนใจในการเตรียมอาหารขณะที่มารีย์น้องสาวของเธอได้นั่งและได้ฟังพระเยซูตรัสสอน
- เมื่อลาซารัสได้ตาย มารธาได้ทูลพระเยซูว่าเธอได้เชื่อว่าพระเยซูเป็นพระคริสต์พระบุตรของพระเจ้า
มารีย์ (น้องสาวของมารธา)
ข้อเท็จจริง
มารีย์เป็นผู้หญิงจากเบธานีผู้ที่ได้ติดตามพระเยซู
- มารีย์มีพี่สาวที่ชื่อว่ามารธาและน้องชายชื่อว่าลาซารัสผู้ที่ได้ติดตามพระเยซูเช่นกัน
- ครั้งหนึ่งพระเยซูได้กล่าวว่ามารีย์ได้เลือกสิ่งที่ดีที่สุดเมื่อเธอได้เลือกนั่งฟังพระองค์มากกว่าการวิตกกังวลเกี่ยวกับการเตรียมอาหารอย่างที่มารธากำลังทำอยู่
- พระเยซูได้นำน้องชายของมารีย์กลับฟื้นชีวิตมาใหม่
- บางครั้งหลังจากนั้น ขณะที่พระเยซูรับประทานอาหารที่บ้านของบางคนในเบธานี มารีย์ได้เทน้ำมันหอมราคาแพงบนเท้าของพระองค์เพื่อเป็นการนมัสการพระองค์
- พระเยซูทรงกล่าวยกย่องเธอสำหรับการกระทำนี้ และได้กล่าวว่าเธอกำลังเตรียมร่างของพระองค์เพื่อการฝังพระศพ
มารีย์ มารดาของพระเยซู
ข้อเท็จจริง
มารีย์เป็นผู้หญิงสาวที่อาศัยอยู่ในเมืองนาซาเร็ธผู้ที่ถูกผูกมัดให้แต่งงานกับผู้ชายที่ชื่อว่าโยเซฟ พระเจ้าทรงเลือกมารีย์ให้เป็นมารดาของพระเยซู พระเมสสิยาห์ พระบุตรของพระเจ้า
- พระวิญญาณบริสุทธิ์โดยการอัศจรรย์ได้ทำให้มารีย์ตั้งครรภ์ในขณะที่เธอยังเป็นหญิงพรหมจารี * ทูตสวรรค์ได้บอกแก่มารีย์ว่าทารกในครรภ์ของเธอคือพระบุตรของพระเจ้าและเธอจะตั้งชื่อให้กุมารนั้นว่าเยซู
- มารีย์รักพระเจ้าและได้สรรเสริญพระองค์ที่ได้โปรดปรานเธอ
- โยเซฟได้แต่งงานกับมารีย์ แต่มารีย์ยังคงเป็นหญิงพรหมจารีจนกระทั่งหลังจากทารกได้คลอดออกมาแล้ว
- มารีย์และโยเซฟได้นำพระกุมารเยซูไปถวายที่พระวิหาร ต่อมาพวกเขาได้พากันไปอียิปต์เพื่อหนีจากคำสั่งของเฮโรดที่ให้ฆ่าทารก หลังจากนั้นพวกเขาได้ย้ายกลับมาที่นาซาเร็ธ
- เมื่อพระเยซูทรงเป็นผู้ใหญ่แล้ว มารีย์ได้อยู่กับพระองค์เมื่อพระองค์ทรงเปลี่ยนน้ำให้เป็นเหล้าองุ่นในงานสมรสที่บ้านคานา
- พระกิตติคุณได้กล่าวว่ามารีย์ได้อยู่ที่กางเขนเมื่อพระเยซูกำลังจะตาย พระองค์ได้ทรงบอกให้สาวกยอห์นได้ดูแลเธอให้เหมือนแม่ของเขา
มารีย์ชาวมักดาลา
ข้อเท็จจริง
มารีย์ชาวมักดาลาคือหนึ่งในจะนวนผู้หญิงหลายๆ คนที่เชื่อในพระเยซูและได้ติดตามพระองค์ในงานพันธกิจของพระองค์ เธอเป็นที่รู้จักในฐานะที่เป็นคนที่พระเยซูได้รักษาจากปีศาจเจ็ดตนที่ได้ควบคุมเธอ
- มารีย์ชาวมักดาลาและผู้หญิงอื่นบางคนช่วยสนับสนุนพระเยซูและพวกอัครสาวกของพระองค์โดยถวายให้แก่พวกเขา
- เธอถูกอ้างถึงว่าเป็นผู้หญิงคนหนึ่งในกลุ่มผู้หญิงกลุ่มแรกที่เห็นพระเยซูหลังจากที่พระองค์เป็นขึ้นมาจากความตาย
- ขณะที่มารีย์ชาวมักดาลาได้ยืนอยู่นอกอุโมงค์ที่ว่างเปล่า เธอได้เห็นพระเยซูทรงยืนอยู่ที่นั่นและพระองค์ได้ทรงบอกเธอไปบอกให้สาวกคนอื่นๆ ว่าพระองค์ทรงฟื้นคืนพระชนม์
มาลาคี
ข้อเท็จจริง
มาลาคีเป็นหนึ่งในบรรดาผู้เผยพระวจนะของพระเจ้าในอาณาจักรยูดาห์ เขาได้มีชีวิตประมาณ 500 ปีก่อนพระคริสต์ได้อยู่ในโลก
- มาลาคีได้เผยพระวจนะในช่วงระยะเวลาที่พระวิหารของอิสราเอลกำลังถูกสร้างขึ้นมาใหม่หลังจากที่กลับมาจากการเป็นเชลยของบาบิโลน
- เอสราและเนหะมีย์มีชีวิตอยู่ประมาณเวลาเดียวกับมาลาคี
- พระธรรมมาลาคีคือพระธรรมเล่มสุดท้ายของพันธสัญญาเดิม
- เช่นเดียวกับผู้เผยพระวจนะทุกคนในพันธสัญญาเดิม มาลาคีได้กระตุ้นให้ประชาชนกลับใจจากบาปของพวกเขาและหันกลับมานมัสการพระยาห์เวห์
มาอาคาห์
ข้อเท็จจริง
มาอาคาห์ (หรือ มาอากาห์) เป็นหนึ่งในบรรดาบุตรชายของน้องชายของอับราฮัมที่ชื่อว่า นาโฮร์ มีคนอื่นในพันธสัญญาเดิมที่ใช้ชื่อนี้ด้วย
- เมืองมาอาคาห์หรือเบธมาอาคาห์ตั้งอยู่ไกลไปทางเหนือของอิสราเอลในแคว้นที่ถูกยึดครองโดยชนเผ่านัฟทาลี
- เป็นเมืองที่สำคัญและถูกศัตรูโจมตีหลายครั้ง
- มาอาคาห์เป็นชื่อของผู้หญิงหลายคนรวมถึงมารดาของบุตรชายของดาวิดที่ชื่อว่า อับซาโลม
- กษัตริย์อาสาได้ปลดมาอาคาห์ที่เป็นยายของพระองค์จากการเป็นราชินีเพราะเธอสนับสนุนการนมัสการอาเชราห์
มิชาเอล
ข้อเท็จจริง
มิชาเอลคือชื่อของผู้ชายสามคนในพันธสัญญาเดิม
- ผู้ชายคนหนึ่งนามว่ามิชาเอลคือญาติของอาโรน เมื่อบุตรชายของอาโรนทั้งสองถูกพระเจ้าประหารเสียหลังจากที่ไปถวายธูปในทางที่ไม่ปฎิบัติตามที่พระเจ้าได้ทรงสั่งให้กระทำ มิชาเอลและน้องชายของเขาได้รับมอบหมายให้เอาศพออกไปไว้นอกค่ายของชาวอิสราเอล
- ผู้ชายที่ชื่อว่ามิชาเอลอีกคนหนึ่ง คือผู้ชายที่ยืนอยู่ข้างเอสรา ตอนที่เขาคลี่หนังสือม้วนที่ค้นพบอีกครั้งเปิดออกอ่านแก่สาธารณชน
- เมื่อครั้งที่ชนชาติอิสราเอลถูกเนรเทศไปยังกรุงบาบิโลนนั้น ชายหนุ่มคนหนึ่งชื่อว่ามิชาเอลได้ถูกจับและถูกบังคับให้อาศัยอยู่ในกรุงบาบิโลน ชาวบาบิโลนได้ตั้งชื่อให้เขาว่า "เมเชค" เขาและเพื่อนของเขาคืออาซาริยาห์ (อาเบดเนโก) และ ฮานันยาห์ (ชัดรัค) ได้ปฏิเสธที่จะนมัสการต่อเทวรูปของกษัตริย์ และถูกโยนเข้ากองไฟ
มิเรียม
ข้อเท็จจริง
มิเรียมคือพี่สาวคนโตของอาโรนและโมเสส
- เมื่อเธอยังเป็นเด็กอยู่นั้น มิเรียมได้ถูกสอนจากมารดาของเธอให้เฝ้าดูน้องชายชื่อโมเสสที่ยังเป็นทารกที่อยู่ในตะกร้าไปซ่อนอยู่กลางต้นกกริมแม่น้ำไนล์ เมื่อธิดาของฟาโรห์ไปพบทารกเข้าจึงรับเอาไว้และจำเป็นต้องหาคนเพื่อให้ช่วยเลี้ยงดูทารกนั้นสำหรับเธอ มิเรียมจึงได้นำมาดาของเธอมาทำหน้าที่นั้น
- มิเรียมได้นำชาวอิสราเอลเต้นรำแสดงความชื่นชมยินดีและขอบพระคุณพระเจ้าหลังจากที่พวกเขาได้หนีออกจากอียิปต์โดยการข้ามทะเลแดง
- หลายปีต่อมาชาวอิสราเอลเดินทางท่องอยู่ในทะเลทราย มิเรียมและอาโรนได้เริ่มพูดไม่ดีเกี่ยวกับโมเสสเพราะเขาได้แต่งงานกับผู้หญิงชาวคูช
- เพราะการที่มิเรียมกบฎโดยการพูดต่อว่าโมเสสนั้น พระเจ้าจึงสาปแช่งให้มิเรียมป่วยเป็นโรคเรื้อน แต่ภายหลังพระเจ้าได้รักษาเธอให้หายเมื่อโมเสสได้อ้อนวอนพระเจ้าสำหรับเธอ
มิสปาห์
ข้อเท็จจริง
มิสปาห์คือชื่อของเมืองหลายแห่งที่ปรากฎในพันธสัญญาเดิม มีความหมายว่า "จุดชมวิว" หรือ "หอคอย"
- เมื่อดาวิดถูกซาอูลไล่ล่า เขาได้ปล่อยให้บิดามารดาของเขาอยู่ในเมืองมิสปาห์ ภายใต้การปกป้องของกษัตริย์โมอับ
- เมืองที่มีชื่อว่าเมืองมิสปาห์ตั้งอยู่ชายแดนระหว่างอาณาจักรยูดาและอิสราเอล เป็นศูนย์กองทัพใหญ่
มีคาห์
ข้อเท็จจริง
มีคาห์เป็นผู้เผยพระวจนะของยูดาห์เมื่อประมาณ 700 ปีก่อนคริสตกาล เมื่อผู้เผยพระวจนะอิสยาห์ยังทำพันธกิจที่แคว้นยูดาห์ มึผู้ชายอีกคนหนึ่งชื่อมีคาห์ได้มีชีวิตอยู่ในเวลาของผู้วินิจฉัย
- พระธรรมมีคาห์นั้นเป็นหนังสือเล่มที่อยู่ใกล้ตอนท้ายของพระคัมภีร์ภาคพันธสัญญาเดิม
- มีคาห์ได้พยากรณ์ถึงการล่มสลายของสะมาเรียโดยชาวอัสซีเรีย
- มีคาห์ได้ดุด่าประชากรแห่งยูดาห์ว่าพวกเขาไม่เชื่อฟังพระเจ้าและยังได้ตักเตือนอีกว่าพวกเขาจะถูกศัตรูโจมตี
- คำพยากรณ์ของมีคาห์ทิ้งท้ายไว้ด้วยข้อความแห่งความหวังในพระเจ้า ผู้ซึ่งสัตย์ซื่อและช่วยกู้ประชากรของพระองค์
- ในพระธรรมผู้วินิจฉัยได้บอกเล่าเรื่องราวของผู้ชายคนหนึ่งชื่อว่ามีคาห์ซึ่งอาศัยอยู่ในดินแดนเอฟราอิม ผู้ได้สร้างรูปเคารพจากเงิน ปุโรหิตหนุ่มชาวเลวีผู้ซึ่งได้เข้ามาอาศัยอยู่กับเขานั้นได้ขโมยรูปเคารพและสิ่งของอื่นๆ แล้วออกเดินทางไปกับชนเผ่าดาน ท้ายที่สุดชนเผ่าดานและพระจึงได้มาตั้งรกรากอยู่ในเมืองลาอิชและพวกเขาก็ได้จัดตั้งรูปเคารพที่ทำจากเงินเพื่อนมัสการ
มีคาเอล
ข้อเท็จจริง
มีคาเอลเป็นหัวหน้าของบรรดาทูตสวรรค์ผู้บริสุทธิ์ เชื่อฟังพระเจ้า เขาเป็นทูตสวรรค์องค์เดียวซึ่งได้ถูกอ้างถึงว่าเป็น "หัวหน้าทูตสวรรค์" ของพระเจ้า
- คำว่า "หัวหน้าทูตสวรรค์" ตามตัวอักษรหมายความว่า "หัวหน้าของทูตสวรรค์" หรือ "ทูตสวรรค์ผู้ซึ่งปกครอง"
- มีคาเอลเป็นนักรบผู้ซึ่งต่อสู้กับศัตรูขของพระเจ้าและพิทักษ์ประชากรของพระองค์
- เขาได้นำอิสราเอลต่อสู้กับกองทัพของเปอร์เซีย ในเวลาสุดท้ายเขาจะนำกองทัพของอิสราเอลในการต่อสู้ครั้งสุดท้ายกับกองกำลังของความชั่ว อย่างเช่นที่ได้ทำนายใน พระธรรมดาเนียล
- มีผู้ชายหลายคนในพระคัมภีร์ที่มีชื่อว่ามีคาเอล มีผู้ชายจำนวนมากถูกขนานนามว่าเป็น "บุตรชายของมีคาเอล"
มีเดียน, ชาวมีเดียน
ข้อเท็จจริง
มีเดียนเป็นบุตรชายของอับราฮัมและภรรยาของเขาเคทูรา และคำนี้เป็นชื่อของชนชาติหนึ่งและบริเวณที่ตั้งอยู่ตอนเหนือของทะเลทรายอาราเบียจรดตอนใต้ของดินแดนคานาอัน ประชาชนของชนชาติดังกล่าวเรียกว่า "ชาวมีเดียน"
- เมื่อโมเสสได้จากอียิปต์ครั้งแรก เขาได้ไปที่ดินแดนของมีเดี่ยน เป็นที่เขาได้พบบรรดาบุตรสาวของเยโธรและได้ช่วยพวกเขาให้น้ำฝูงสัตว์ ต่อมาโมเสสได้แต่งงานกับบุตรสาวคนหนึ่งของเยโธร
- โยเซฟถูกจับไปอียิปต์โดยกลุ่มผู้ค้าทาสชาวมีเดียน
- หลายปีต่อมาชาวมีเดียนได้โจมตีและได้ปล้นชาวอิสราเอลในดินแดนคานาอัน กิเดโอนจึงได้นำอิสราเอลในการต่อสู้จนได้รับชัยชนะเหนือชาวมีเดียน
- ชนเผ่าอาหรับสมัยใหม่หลายเผ่าเป็นผู้สืบเชื้อสายมาจากชนชาตินี้
เมเชค
ข้อเท็จจริง
เมเชค คือชื่อของผู้ชายสองคนซึ่งปรากฎอยู่ในพันธสัญญาเดิม
- เมเชคคนหนึ่งคือบุตรชายของยาเฟ
- เมเชคอีกคนหนึ่งคือหลานชายของเชม
- เมเชคยังเป็นชื่อของแคว้นในดินแดนแห่งหนึ่ง ซึ่งอาจได้รับการตั้งชื่อตามคนหนึ่งในสองคนดังกล่าว
- แคว้นเมเชคนั้นอาจจะเคยตั้งอยู่ดินแดนส่วนที่เป็นประเทศตุรกีในปัจจุบัน
เมมฟิส
ข้อเท็จจริง
เมมฟิสเป็นเมืองหลวงโบราณในอียิปต์ อยู่ข้างแม่น้ำไนล์
- เมมฟิสตั้งอยู่บริเวณอียิปต์ตอนใต้ ที่ดินดอนสามเหลี่ยมแม่น้ำไนล์ ที่มีความอุดมสมบูรณ์อย่างยิ่งเต็มไปด้วยพืชพันธุ์นานาชนิด
- เนื่องจากดินที่มีความอุดมสมบูรณ์และที่ตั้งอยู่ระหว่างอียิปต์ตอนบนและตอนล่าง ทำให้เมืองเมมฟิสกลายเป็นเมืองหลักในด้านการค้าขาย
เมลคีเซเดค
ข้อเท็จจริง
ในช่วงเวลาที่อับราฮัมมีชีวิตอยู่ เมลคีเซเดคได้เป็นกษัตริย์ของเมืองชาเลม (ซึ่งต่อมาเป็น "เยรูซาเล็ม")
- ชื่อของเมลคีเซเดคหมายถึง "กษัตริย์แห่งความชอบธรรม" และตำแหน่งของพระองค์ "กษัตริย์แห่งชาเลม" หมายถึง "กษัตริย์แห่งสันติสุข"
- พระองค์ถูกขนานนามว่า "ปุโรหิตของพระเจ้าผุ้สูงสุด"
- เมลคีเซเดคถูกกล่าวถึงครั้งแรกในพระคัมภีร์เมื่อเขามอบขนมปังและเหล้าองุ่นให้แก่อับรามหลังจากที่อับราฮัมช่วยหลานของเขาคือโลทจากบรรดากษัตริย์ที่มีอำนาจ อับรามถวายสิบชักหนึ่งจากของที่ปล้นมาได้จากชัยชนะของเขาให้แก่เมลคีเซเดค
- ในพันธสัญญาใหม่ เมลคีเซเดคได้ถูกอธิบายว่าเป็นใครคนหนึ่งที่ไม่มีบิดาหรือมารดา พระองค์ถูกเรียกว่าปุโรหิตและกษ้ตริย์ผู้จะครอบครองชั่วนิรันดร์
- ในพันธสัญญาใหม่ยังกล่าวอีกด้วยว่าพระเยซูเป็นปุโรหิตตามอย่าง "การจัดระเบียบของเมลคีเซเดค" พระเยซูไม่ได้สืบเชื้อสายเลวีเหมือนกับที่พวกปุโรหิตของอิสราเอล ความเป็นปุโรหิตของพระองค์มาจากพระเจ้าโดยตรง เช่นเดียวกับที่เมลคีเซเดคเป็น
- ขึ้นอยู่กับพื้นฐานคำอธิบายเหล่านี้ของพระองค์ในพระคัมภีร์ เมลคีเซเดคจึงเป็นปุโรหิตที่เป็นมนุษย์ผู้ที่ถูกเลือกโดยพระเจ้าเพื่อเป็นตัวแทนหรือชี้มาที่พระเยซูผู้เป็นกษัตริย์แห่งสันติสุขและความชอบธรรมชั่วนิรันดร์และทรงเป็นปุโรหิตผู้ยิ่งใหญ่ของพวกเรา
เมโสโปเตเมีย, อารัม นาหะราอิม
ข้อเท็จจริง
เมโสโปเตเมียเป็นพื้นที่ของแผ่นดินตั้งอยู่ระหว่างแม่น้ำไทกริสและยูเฟรติส ทำเลที่ตั้งของดินแดนนี้เป็นบริเวณที่ตั้งของประเทศอิรักในปัจจุบัน
- ในสัญญาเดิม ดินแดนนี้ได้ถูกเรียกว่า "อารัม นาหะราอิม"
- คำว่า "เมโสโปเตเมีย" หมายถึง "ระหว่างแม่น้ำ" วลีว่า "อารัม นาหะราอิม" หมายความว่า "อารัมของแม่น้ำสองสาย"
- อับราฮัมได้อาศัยอยู่ในเมืองต่างๆ ในดินแดนแถบเมโสโปเตเมียที่มีชื่อว่าเออร์และฮาราน ก่อนที่จะเดินทางย้ายไปสู่ดินแดนคานาอัน
- กรุงบาบิโลนเป็นเมืองสำคัญเมืองหนึ่งซึ่งอยู่ในดินแดนเมโสโปเตเมีย
- แคว้นซึ่งมีชื่อว่า "เคลเดีย" นั้นเป็นส่วนหนึ่งของดินแดนเมโสโปเตเมีย
เมืองของดาวิด
ข้อเท็จจริง
คำว่า "เมืองของดาวิด" เป็นอีกชื่อหนึ่งของทั้งกรุงเยรูซาเล็ม และเบธเลเฮม
- กรุงเยรูซาเล็มเป็นที่ซึ่งดาวิดประทับอยู่ในขณะที่พระองค์ทรงครอบครองอิสราเอล
- เบธเลเฮม เป็นเมืองที่ดาวิดเกิด
เมืองโครินธ์ ชาวโครินธ์
ข้อเท็จจริง
เมืองโครินธ์เป็นเมืองในประเทศกรีซห่างประมาณ 50 ไมล์ทางตะวันตกของกรุงเอเธนส์ ชาวโครินธ์เป็นคนที่อาศัยอยู่ที่เมืองโครินธ์
- เมืองโครินธ์เป็นที่ตั้งของคริสตจักรคริสเตียนยุคแรก ๆ
- พันธสัญญาใหม่ 1 โครินธ์และ 2 โครินธ์เป็นจดหมายที่เขียนโดยเปาโลถึงคริสเตียนที่อาศัยอยู่ในเมืองโครินธ์
- ในการเดินทางประกาศศาสนาครั้งแรก เปาโลอยู่ที่เมืองโครินธ์ประมาณ 18 เดือน
- เปาโลได้พบผู้ศรัทธาชื่ออาควิลลาและปริสสิลลาขณะที่อยู่ในเมืองโครินธ์
- บรรดาผู้นำคริสตจักรยุคแรก ๆ ที่เกี่ยวข้องกับเมืองโครินธ์ ได้แก่ ทิโมธี ทิตัส อพอลโลและสิลาส
เมืองโคโลสี, ชาวโคโลสี
ข้อเท็จจริง
ในสมัยพันธสัญญาใหม่ โคโลสีเป็นเมืองที่ตั้งอยู่ในแคว้นฟรีเจียของโรมัน ในปัจจุบันนี้อยู่ในบริเวณตะวันตกเฉียงใต้ของประเทศตุรกี ชาวโคโลสีเป็นคนที่อาศัยอยู่ในเมืองโคโลสี
- เมืองโคโลสีตั้งอยู่ในดินแดนที่ห่างจากทะเลเมดิเตอร์เรเนียนประมาณ 100 ไมล์ เมืองโคโลสีอยู่บนเส้นทางการค้าที่สำคัญระหว่างเมืองเอเฟซัสกับแม่น้ำยูเฟรตีส
- ขณะที่เปาโลอยู่ในคุกในกรุงโรม ท่านเขียนจดหมายถึง "ชาวโคโลสี"เพื่อแก้ไขคำสอนเท็จในหมู่ผู้ศรัทธาที่เมืองโคโลสี
- เมื่อเปาโลเขียนจดหมายนี้ ท่านไม่เคยไปเยี่ยมเยียนคริสตจักรที่เมืองโคโลสี แต่ได้ยินข่าวเกี่ยวกับผู้ศรัทธาที่นั่นจากเอปาเฟรสซึ่งเป็นเพื่อนร่วมงานของท่าน
- เอปาเฟรสอาจจะเป็นคริสเตียนที่ทำงานในการก่อตั้งคริสตจักรที่เมืองโคโลสี
- พระธรรมฟีเลโมนเป็นจดหมายที่เปาโลเขียนถึงผู้ที่เป็นเจ้าของทาสคนหนึ่งในเมืองโคโลสี
เมืองโตรอัส
ข้อเท็จจริง
เมืองโตรอัสเป็นเมืองท่าที่ตั้งอยู่ทางฝั่งตะวันตกเฉียงเหนือของจังหวัดโรมันโบราณของเอเชีย
- เปาโลได้ไปเยี่ยมเมืองโตรอัสอย่างน้อยสามครั้งในระหว่างการเดินทางไปยังแถบที่ต่างกันเพื่อเทศนาพระกิตติคุณ
- มีอยู่ครั้งหนึ่งในเมืองโตรอัส เปาโลได้เทศนาอย่างยาวนานไปจนถึงเวลากลางคืนและชายหนุ่มคนหนึ่งชื่อยูทีคัส ได้หลับไป เพราะเขานั่งฟัง เพราะว่าเขาได้นั่งอยู่ในหน้าต่างที่เปิดอยู่ ยูทีคัสได้ตกลงมาจากที่สูงและเสียชีวิต ด้วยฤทธิ์อำนาจของพระเจ้า เปาโลได้ชุขชีวิตให้ชายหนุ่มคนนี้กลับมาอีกครั้ง
- เมื่อเปาโลอยู่ในกรุงโรมเขาได้ขอทิโมธีนำม้วนหนังสือของเขาและเสื้อคลุมของเขาที่เขาทิ้งไว้ในเมืองโตรอัสมาด้วย
เมืองไทระ, คนไทระ
ข้อเท็จจริง
เมืองไทระเป็นเมืองเก่าแก่ของชาวคานาอันอยู่บนชายฝั่งทะเลเมดิเตอร์เรเนียน ซึ่งในขณะนี้ก็คือส่วนหนึ่งของประเทศเลบานอนสมัยปัจจุบัน ประชาชนของประเทศนี้เรียกว่า "คนไทระ"
- ส่วนหนึ่งของเมืองไทระตั้งอยู่บนเกาะในทะเลด้วย ประมาณหนึ่งกิโลเมตรจากชายฝั่ง
- ด้วยทำเลที่ตั้งและทรัพยากรธรรมชาติที่มีค่าต่างๆ เช่นต้นสีดาร์ เมืองไทระจึงมีอุตสาหกรรมการค้าที่มั่งคั่งและร่ำรวยมาก
- กษัตริย์ฮีรามแห่งไทระได้ส่งไม้สีดาร์และคนงานที่ชำนาญไปก่อสร้างพระราชวังของกษัตริย์ดาวิด
- หลายปีต่อมา ฮีรามได้มอบไม้ให้กษัตริย์ซาโลมอนและคนงานที่ชำนาญงานเพื่อก่อสร้างพระวิหาร ซาโลมอนได้จ่ายให้เขาด้วยข้าวสาลีและน้ำมันมะกอกจำนวนมาก
- เมืองไทระมักจะเกี่ยวข้องกับเมืองไซดอนโบราณ ที่อยู่ใกล้เคียงกัน สองเมืองนี้เป็นเมืองที่สำคัญในบริเวณคานาอัน ที่เรียกว่าโฟนีเซีย
แม่น้ำจอร์แดน, จอร์แดน
ข้อเท็จจริง
แม่น้ำจอร์แดนเป็นแม่น้ำที่ไหลจากทางทิศเหนือไปสู่ทิศใต้ และกั้นขอบเขตทางตะวันออกของแผ่นดินคานาอัน
- ปัจจุบันนี้ แม่น้ำจอร์แดนได้แบ่งอิสราเอลทางฝั้งตะวันตกและประเทศจอร์แดนทางฝั่งตะวันออก
- แม่น้ำจอร์แดนไหลผ่านทะเลกาลิลีแล้วจึงไหลลงไปในทะเลตาย
- เมื่อโยชูวาได้นำชาวอิสราเอลเข้าสู่คานาอัน พวกเขาได้ข้ามแม่น้ำจอร์แดน เพราะน้ำนั้นลึกมาก พระเจ้าได้หยุดน้ำไม่ให้ไหลด้วยการอัศจรรย์ ดังนั้นพวกเขาจึงสามารถข้ามไปได้
- บ่อยครั้งในพระคัมภีร์แม่น้ำจอร์แดนถูกอ้างถึงว่า "จอร์แดน"
แม่น้ำไนล์, แม่น้ำแห่งอียิปต์
ข้อเท็จจริง
แม่น้ำไนล์เป็นแม่น้ำสายที่ยาวและกว้างในทิศตะวันออกเฉียงเหนือของอัฟฟริกา เป็นที่รู้จักกันดีว่าแม่น้ำสายดังกล่าวเป็นแม่น้ำสายหลักของประเทศอียิปต์
- แม่น้ำไนล์ไหลจากทิศเหนือผ่านประเทศอียิปต์ลงสู่ทะเลเมดิเตอร์เรเนียน
- พืชพันธุ์สามารถเจริญเติบโตได้ดีตามตลิ่งสองข้างทางของแม่น้ำไนล์ซึ่งมีความอุดมสมบูรณ์อย่างมาก
- ชาวอียิปต์ส่วนใหญ่จะอาศัยอยู่ใกล้กับแม่น้ำไนล์เนื่องจาากแม่น้ำดังกล่าวเป็นแหล่งน้ำและอาหารที่สำคัญ
- ชาวอิสราเองส่วนใหญ่อาศัยอยู่ในแผ่นดินโกเชนซึ่งมีความอุดมสมบูรณ์อย่างมากเนื่องจากตั้งอยู่ติดกับแม่น้ำไนล์
- เมื่อโมเสสยังเป็นทารกนั้น พ่อแม่ของโมเสสได้นำเขาไปใส่ไว้ในตะกร้าท่ามกลางต้นกกในแม่น้ำไนล์เพื่อซ่อนโมเสสให้พ้นจากคนของฟาโรห์
แม่น้ำยูเฟรตีส
ข้อเท็จจริง
ยูเฟรตีสคือชื่อของหนึ่งในสี่แม่น้ำที่ไหลผ่านสวนเอเดน เป็นแม่น้ำสายที่ถูกเอ่ยถึงมากที่สุดในพระคัมภีร์
- ในปัจจุบัน แม่น้ำที่ถูกเรียกว่ายูเฟรตีสตั้งอยู่ในแถบตะวันออกกลาง และเป็นแม่น้ำสายที่ยาวที่สุดและสำคัญที่สุดในเอเชีย
- เมื่อไหลไปรวมกับแม่น้ำไทกริส แม่น้ำยูเฟรตีสเป็นพรมแดนของดินแดนที่รู้จักกันในชื่อ เมโสโปเตเมีย
- เมืองโบราณเออร์ เมืองที่อับราฮัมจากมาที่นั้น ตั้งอยู่ที่ปากแม่น้ำยูเฟรตีส
- แม่น้ำสายนี้คือหนึ่งในเขตแดนของแผ่นดินที่พระเจ้าทรงได้สัญญาว่าจะให้กับอับราฮัม (ปฐมกาล 15:18)
- บางครั้งแม่น้ำยูเฟรตีสถูกเรียกง่ายๆ ว่า "แม่น้ำ"
โมรเดคัย
ข้อเท็จจริง
โมรเดคัยเป็นผู้ชายชาวยิวที่มีชีวิตอยู่ในประเทศเปอร์เซีย เขาเป็นองครักษ์ของเอสเธอร์ญาติของเขาผู้ที่ต่อมาได้เป็นภรรยาของอาหสุเอรัส กษัตริย์ของเปอร์เซีย
- ขณะที่ทำงานอยู่ที่วัง โมเดรคัยได้ยินพวกผู้ชายกำลังวางแผนที่จะฆ่ากษัตริย์อาหสุเอรัส เขาได้รายงานเรื่องนี้และชีวิตของกษัตริย์ก็ปลอดภัย
- หลายปีต่อมา โมรเดคัยได้ล่วงรู้ถึงแผนการฆ่าพวกยิวทั้งหมดในอาณาจักรเปอร์เซีย เขาได้ให้คำแนะนำเอสเธอร์ให้ทูลเรื่องนี้ต่อกษัตริย์เพื่อช่วยเหลือประชาชน
โมเลค, โมล็อค
ข้อเท็จจริง
โมเลคเป็นชื่อของหนึ่งในพระเทียมเท็จซึ่งชาวคานาอันนมัสการ อาจมีการสะกดชื่ออีกว่า "โมล็อค" และ "โมเลค"
- ประชาชนที่นมัสการพระโมเลคโดยการบูชายันต์เด็กทั้งหลายโดยการเผาไฟ
- ประชาชนอิสราเอลบางคนได้นมัสการพระโมเลคแทนการนมัสการพระเจ้าเที่ยงแท้ คือพระยาห์เวห์ พวกเขาได้ปฎิบัติตามที่พวกนมัสการพระโมเลคได้กระทำ รวมทั้งการบูชายนต์เด็กทั้งหลายของพวกเขา
โมเสส
ข้อเท็จจริง
โมเสสเป็นผู้เผยพระวจนะและผู้นำของคนอิสราเอลนานมากกว่า 40 ปี
- เมื่อโมเสสยังเป็นทารก บิดามารดาของโมเสสได้ใส่เขาลงไปในตะกร้าในป่าต้นกกของแม่น้ำไนล์และซ่อนเขาไว้จากฟาโรห์แห่งอียิปต์ พี่สาวของโมเสส คือ มิเรียมได้เผ้าดูเขาที่นั่น ชีวิตของโมเสสได้ถูกสงวนไว้เมื่อธิดาของฟาโรห์ได้พบเขาและได้นำเขาไปที่พระราชวังและเลี้ยงเขาเหมือนลูกของนาง
- พระเจ้าได้ทรงเลือกโมเสสให้ปลดปล่อยคนอิสราเองจากการเป็นทาสในอียิปต์และนำพวกเขาไปยังดินแดนทรงสัญญา
- หลังจากที่พวกอิสราเอลหนีออกจากอียิปต์และขณะที่ท่องอยู่ในทะเลทรนาย พระเจ้าประทานหินสองแผ่นที่มีคำจารึกบัญญัติสิบประการบนแผ่นหินนั้นให้แก่โมเสส
- เมื่อใกล้จะเสียชีวิต โมเสสได้เห็นแผ่นดินทรงสัญญา แต่เขาไม่ได้เข้าไปใช้ชีวิตอยู่เพราะเขาไม่เชื่อฟังพระเจ้า
โมอับ, ชาวโมอับ
ข้อเท็จจริง
โมอับ นั้นเป็นชื่อลูกชายของบุตรสาวคนโตของโลท ต่อมาจึงกลายเป็นชื่อของดินแดนซึ่งโมอับและครอบครัวของโมอับอาศัยอยู่ คำว่า "ชาวโมอับ" อ้างถึงบุคคลซึ่งสืบเชื้อสายมาจากโมอับ หรือผู้ที่ได้อาศัยอยู่ในประเทศที่ชื่อว่าโมอับ
- ประเทศโมอับตั้งอยู่ทางทิศตะวันออกของทะเลเกลือ
- โมอับตั้งอยู่ทางทิศตะวันออกเฉียงใต้จากเมืองเบธเลเฮ็มที่ครอบครัวของนางนาโอมีเคยอาศัยอยู่
- ประชาชนในเบธเลเฮ็มนั้นเรียกนางรูธว่าเป็น "หญิงชาวโมอับ" เพราะว่านางรูธเป็นหญิงที่มาจากประเทศโมอับ คำนี้สามารถแปลได้ว่า "หญิงชาวโมอับ" หรือ "หญิงจากประเทศโมอับ"
ยอห์น (ผู้ให้บัพติศมา)
ข้อเท็จจริง
ยอห์นเป็นบุตรของเศคาริยาห์และเอลิซาเบธ เนื่องจากชื่อ "ยอห์น" เป็นชื่อที่ใช้กันทั่วไป เขาจึงถูกเรียกว่า "ยอห์นผู้ให้บัพติศมา" เพื่อให้แตกต่างจากคนอื่นที่ชื่อว่ายอห์น เช่น แตกต่างจากอัครสาวกยอห์น
- ยอห์นเป็นผู้เผยพระวจนะที่พระเจ้าส่งมาเพื่อเตรียมประชากรให้เชื่อและติดตามพระเมสสิยาห์
- ยอห์นได้บอกให้ผู้คนกลับใจจากความบาปของพวกเขาและหันมาหาพระเจ้า ให้พวกเขาหยุดทำบาป เพื่อพวกเขาจะพร้อมสำหรับการต้อนรับพระเมสสิยาห์
- ยอห์นได้ให้บัพติศมาในน้ำแก่ผู้คนมากมายเพื่อเป็นหมายสำคัญว่าพวกเขาเสียใจต่อการทำบาปของตนและหันกลับจากความบาปเหล่านั้น
- ยอห์นถูกเรียกว่า "ยอห์นผู้ให้บัพติศมา" เพราะเขาให้บัพติศมาแก่คนมากมาย
- เพื่อให้แนใจว่าประชาชนจะเข้าใจว่า "บัพติศมา" ไม่ได้อ้างถึงคริสตจักรที่ใช้ชื่อนี้ จึงจำเป็นที่จะต้องใช้ชื่อว่า "ยอห์นบัพติศมา" หรือ "ยอห์นผู้ให้บัพติศมา"
ยอห์น (อัครสาวก)
ข้อเท็จจริง
ยอห์นเป็นหนึ่งในอัครสาวกสิบสองคนและหนึ่งในพระสหายที่ใกล้ชิดที่สุดของพระเยซู
- ยอห์นและน้องชายของเขาเป็นบุตรชายของชาวประมงที่ชื่อว่าเศเบดี
- ในพระกิตติคุณที่เขาได้เขียนเกี่ยวกับชีวิตของพระเยซู ยอห์นได้อ้างถึงตัวเองว่า "สาวกที่พระเซูทรงรัก" นี่ดูเหมือนวจะบ่งชี้ว่ายอห์นเป็นสหายที่สนิทของพระเยซู
- อัครสาวกยอห์นได้เขียนพระคัมภีร์ห้าเล่มในพันธสัญญาใหม่ คือ พระกิตติคุณยอห์น วิวรณ์ของพระเยซูคริสต์ และจดหมายอีกสามฉบับที่เขียนถึงบรรดาผู้เชื่อทั้งหลาย
- หมายเหตุ อัครสาวกเป็นบุคคลคนละคนกับ ยอห์ผู้ให้บัพติศมา
ยอห์น มาระโก
ข้อเท็จจริง
ยอห์น มาระโก หรือเป็นที่รู้จักว่า "มาระโก" เป็นหนึ่งในบรรดาผู้ที่เดินทางร่วมกับเปาโลบนเส้นทางแห่งการเป็นมิชชันนารี เขาน่าจะเป็นผู้ที่เขียนพระกิตติคุณมาระโก
- ยอห์น มาระโก ได้เดินทางเป็นครั้งแรกร่วมกับญาติของเขาคือบารนาบัสและเปาโลในฐานะมิชชันนารี
- เมื่อเปโตรถูกกุมขังในคุณที่กรุงเยรูซาเล็ม มีพวกผู้เชื่อที่นั่นกำลังอธิษฐานเผื่อเขาที่บ้านมารดาของ ยอห์น มาระโก
- มาระโกไม่ได้เป็นอัครสาวกดั้งเดิม แต่ได้รับการสอนโดยเปาโลและเปโตร และได้ทำงานรับใช้ร่วมกันกับพวกเขา
ยัฟฟา
ข้อเท็จจริง
ในสมัยพระคัมภีร์ เมืองยัฟฟาเป็นเมืองท่าทางการค้าที่สำคัญตั้งอยู่บนทะเลเมดิเตอเรเนียนทางตอนใต้ของที่ราบแห่งชารอน
- แหล่งที่ตั้งโบราณของยัฟฟานั้น ปัจจุบันเป็นเมืองยัฟฟาซึ่งเป็นพื้นที่ส่วนหนึ่งของเมืองเทลอาวีฟ
- ในพันธสัญญาเดิม ยัฟฟาเป็นเมืองที่โยนาห์นั่งเรือไปยังทารชิช
- ในพันธสัญญาใหม่ ผู้หญิงคริสเตียนที่ชื่อทาบิธาเสียชีวิตในยัฟฟาและเปโตรชุบชีวิตให้แก่เธอ
ยากอบ (น้องชายของพระเยซู)
ข้อเท็จจริง
ยากอบเป็นบุตรชายของมารีย์และโยเซฟ และเป็นหนึ่งในน้องครึ่งหนึ่งของพระเยซู
- น้องครึ่งหนึ่งคนอื่นๆ ของพระเยซูคือ โยเซฟ ยูดาส และ ซีโมน
- ในช่วงชีวิตของพระเยซู ยากอบและพี่น้องของเขาไม่เชื่อว่าพระเยซูเป็นพระเมสสิยาห์
- ต่อมาหลังจากที่พระเยซูทรงเป็นขึ้นมาจากความตาย ยากอบเชื่อในพระองค์และกลายมาเป็นผู้นำของคริสตจักรในกรุงเยรูซาเล็ม
- ในพันธสัญญาใหม่พระธรรมยากอบเป็นนจดหมายที่ยากอบได้เขียนไปให้หคริสเตียนที่ได้หนีไปประเทศอื่นๆ เพื่อหนีจากการกดขี่ข่มเหง
ยากอบ (บุตรชายของเศเบดี)
ข้อเท็จจริง
ยากอบ บุตรชายของเศเบดีเป็นหนึ่งในอัครสาวกสิบสองคนของพระเยซู เขามีน้องชายคนหนึ่งชื่อยอห์นซึ่งเป็นหนึ่งในอัครสาวกของพระเยซูเช่นกัน
- ยากอบและยอห์นน้องชายของเขาทำงานโดยการหาปลากับเศเบดีบิดาของเขา
- ยากอบและยอห์นมีชื่อเล่นว่า "ลูกฟ้าร้อง" บางทีอาจเป็นเพราะว่าพวกเขาโกรธง่าย
- เปโตร ยากอบ และยอห์นเป็นอัครสาวกที่ใกล้ชิดพระเยซูมากที่สุดและได้อยู่กับพระองค์ในเหตุการณ์ที่น่าอัศจรรย์ อย่างเช่น พระเยซูทรงอยู่บนภูเขากับเอลียาห์และโมเสส และเมื่อพระเยซูทรงทำให้เด็กหญิงฟื้นชีพ
- นี่เป็นคนละคนกับยากอบที่เขียนหนังสือในพระคัมภีร์ ในบางภาษาอาจต้องเขียนชื่อของพวกเขาแตกต่างกันเพื่อทำให้ชัดเจนว่าพวกเขาเป็นคนละคนกัน
ยากอบ (บุตรชายของอัลเฟอัส)
ข้อเท็จจริง
ยากอบ บุตรชายของอัลเฟอัส เป็นหนึ่งในอัครสาวกสิบสองคนของพระเยซู
- ชื่อของเขามีอยู่ในรายชื่อของสาวกของพระเยซูในพระกิตติคุณมัทธิว มาระโกและลูกา
- เขายังถูกกล่าวถึงในหนังสือกิจการในฐานะที่เป็นหนึ่งในสาวกสิบเอ็ดคนที่มาอธิษฐานด้วยกันในกรุงเยรูซาเล็มหลังจากพระเยซูเสด็จขึ้นสู่สวรรค์แล้ว
ยาโคบ, อิสราเอล
ข้อเท็จจริง
ยาโคบเป็นบุตรฝาแฝดผู้น้องของอิสอัคและเรเบคาห์
- ชื่อของยาโคบหมายความว่า "เขาฉวยข้อเท้า" ซึ่งเป็นกำกล่าวที่หมายความว่า "เขาโกง" เมื่อยาโคบกำลังเกิด เขาได้จับข้อเท้าของคู่ผาแฝดของเขาคอื เอซาว
- หลายปีต่อมา พระเจ้าทรงเปลี่ยนชื่อของยาโคบเป็น "อิสราเอล" ซึ่งหมายความว่า "เขาปล้ำสู้กับพระเจ้า"
- ยาโคบเป็นคนฉลาดและเจ้าเล่ห์ เขาพบวิธีที่จะเอาพรเกิดคนแรกและสิทธิการรับมรดกจากพี่ชายของเขาคือเอซาว
- เอซาวรู้สึกโกรธและได้วางแผนจะฆ่าเขา ดังนั้นยาโคบจึงได้ออกจากบ้านเกิดไป แต่ในภายหลังเขากลับมาพร้อมกับภรรยาและลูกหลานในแผ่นดินคานาอันที่เอซาวได้ใช้ชีวิตอยู่ และครอบครัวของเขาทั้งสองก็ใช้ชีวิตร่วมกันอย่างสงบสุข
- ยาโคบมีบุตรชายสิบสองคน เชื้อสายของพวกเขากลายมาเป็นคนสิบสองเผ่าของอิสราเอล
- มีผู้ชายอื่นที่มีชื่อยาโคบในรายชื่อในฐานะบรรพบุรูษของโยเซฟในพระธรรมมัทธิว
ยาเฟท
ข้อเท็จจริง
ยาเฟทเป็นหนึ่งในบุตรชายสามคนของโนอาห์
- ในช่วงน้ำท่วมโลกที่ปกคลุมไปทั่วแผ่นดินโลกนั้น ยาเฟทและพี่น้องสองคนของเขาอยู่กับโนอาห์ในเรือพร้อมด้วยภรรยาของพวกเขา
- บุตรชายทั้งหลายของโนอาห์โดยปกติจะลำดับรายชื่อ "เชม ฮาม และยาเฟท" นี่แสดงว่ายาเฟทเป็นบุตรชายคนสุดท้อง
ยิซเรเอล
ข้อเท็จจริง
ยิซเรเอลเป็นชื่อของเมืองอิสราเอลที่สำคัญในดินแดนของเผ่าอิสสาคาร์ ซึ่งตั้งอยู่ในฝั่งตะวันตกเฉียงใต้ของทะเลเกลือ
- เมืองยิซเรเอลเป็นหนึ่งในที่ทางตะวันตกในที่ราบเมกิดโด ซึ่งเรียกได้อีกอย่างว่า "หุบเขาแห่งยิซเรเอล"
- กษัตริย์ของอิสราเอลหลายคนได้สร้างพระราชวังของเขาที่นั่น
- สวนองุ่นของนาโบทตั้งอยู่ใกล้กับพระราชวังของกษัตริย์อาหับในยิซเรเอล ผู้เผยพระวจนะเอลียาห์ได้เผยพระวจนะตักเตือนอาหับที่นั่น
- มเหสีที่ชั่วร้ายของอาหับถูกฆ่าในยิซเรเอล
- เหตุการณ์สำคัญอื่นๆมากมายเกิดขึ้นในเมืองนี้รวมถึงการสู้รบหลายครั้ง
ยูดาส บุตรของยากอบ
ข้อเท็จจริง
ยูดาส บุตรของยากอบ เป็นหนึ่งในสาวกสิบสองคนของพระเยซู บันทึกไว้ว่ายูดาสคนนี้ไม่ใช่คนเดียวกันกับยูดาส อิสคาริโอท
- บ่อยครั้งในพระคัมภีร์ เมื่อมีคนที่ชื่อเหมือนกันก็จะต่อท้ายว่าพวกเขาเป็นบุตรของใครเพื่อเป็นการแยกแยะ ที่นี่ยูดาสได้รับการระบุว่าเป็น "บุตรของยากอบ"
- ชายอีกคนที่ชื่อว่า ยูดาส เป็นน้องชายของพระเยซู เขาเป็นที่รู้จักดีในชื่อ "ยูดา"
- พระธรรม "ยูดา" ในพันธสัญญาใหม่นั้น เป็นไปได้ว่าเขียนโดยน้องชายของพระเยซู เนื่องจากเขาระบุถึงตัวเองว่าเป็น "น้องชายของยากอบ" ยากอบเป็นน้องชายอีกคนหนึ่งของพระเยซู
- จึงเป็นไปได้ด้วยเหมือนกันว่าพระธรรมยูดานั้นเขียนโดยสาวกของพระเยซูที่ชื่อว่า ยูดาส บุตรของยากอบ
ยูดาส อิสคาริโอท
ข้อเท็จจริง
ยูดาส อิสคาริโอทเป็นหนึ่งในสาวก สิบสองคนของพระเยซู เขาเป็นคนที่ทรยศพระเยซูกับพวกผู้นำชาวยิว
- ชื่อ "อิสคาริโอท" อาจหมายถึง "จากเคริโอท" บางทีอาจอ้างอิงถึงเมืองที่ยูดาสเติบโตขึ้นมา
- ยูดาส อิสคาริโอท ได่เป็นผู้จัดการเงินของอัครสาวกและขโมยเงินบางส่วนเก็บเอาไว้กับตัวเองอยู่เป็นประจำ
- ยูดาสได้ทรยศพระเยซูโดยการบอกพวกผู้นำศาสนาว่าพระเยซูอยู่ที่ไหนเพื่อพวกเขาสามารถจับกุมพระองค์ได้
- หลังจากพวกผู้นำศาสนาลงโทษพระเยซูให้ถึงความตาย ยูดาสเสียใจที่เขาทรยศพระเยซู ดังนั้นจึงฆ่าตัวตาย
- อัครสาวกอีกคนหนึ่งที่ชื่อว่ายูดาสด้วยเช่นกัน คนหนึ่งคือน้องชายของพระเยซูและสาวก มีอีกหลายคนที่ชื่อว่ายูดาสในพระคัมภีร์ เช่นน้องชายพระเยซูและอัครสาวกอีกคนหนึ่ง น้องชายของพระเยซูก็มีอีกชื่อว่า "ยูดาส"
ยูดาห์
ข้อเท็จจริง
ยูดาห์เป็นบุตรชายคนโตของยาโคบ มารดาของเขาคือเลอาห์ ลูกหลานของเขาถูกเรียกว่า "เผ่ายูดาห์
- ยูดาห์เป็นคนที่ได้บอกให้พี่ชายของเขาให้ขายน้องของพวกเขาดยเซฟให้เป็นทาสแทนที่จะปล่อยเขาให้ตายในบ่อลึก
- กษัตริย์ดาวิดและต่อมากษัตริย์ทุกพระองค์เป็นผู้สืบเชื้อสายมาจากยูดาห์ พระเยซูด้วยเช่นกัน เป็นผู้สืบเชื้อสายมาจากยูดาห์
- เมื่อสมัยการปกครองของซาโลมอนสิ้นสุดลงและประเทศอิสราเอลถูกแบ่งออก อาณาจักรยูดาห์เป็นส่วนทางใต้ของประเทศ
- ในพันธสัญญาใหม่ พระธรรมวิวรณ์ พระเยซูทรงถูกเรียกว่า " สิงห์แห่งยูดาห์"
- คำว่า "ยิว" และ "ยูเดีย" มาจากชื่อ "ยูดาห์"
ยูดาห์, อาณาจักรยูดาห์
ข้อเท็จจริง
เผ่ายูดาห์เป็นเผ่าที่ใหญ่ที่สุดในท่ามกลางสิบสองเผ่าของอิสราเอล อาณาจักรยูดาห์ได้ถูกแบ่งออกเป็นยูดาห์และเบนยามิน
- หลังจากที่กษัตริย์ซาโลมอนสวรรคต ประเทศอิสราเอลถูกแบ่งออกเป็นสองอาณาจักร คือ อิสราเอลและยูดาห์ อาณาจักรยูดาห์เป็นอาณาาจักรทางตอนใต้ตั้งอยู่ทางตะวันตกของทะเลเกลือ
- เมืองหลวงของอาณาจักรยูดาห์คือกรุงเยรูซาเล็ม
- กษัตริย์เจ็ดพระองค์ของอาณาจักรยูดาห์เชื่อฟังพระเจ้าและนำประชากรนมัสการพระองค์ แต่มีกษัตริย์หลายองค์ของยูดาห์ที่ชั่วร้ายและได้นำประชาชนไปนมัสการรูปเคารพ
- มากกว่า 120 ปีหลังจากอัสซีเรียได้ปราบปรามอิสราเอล (อาณาจักรทางตอนเหนือ) ยูดาห์ถูกพิชิตโดยชนชาติบาบิโลน ชาวบาบิโลนได้ทำลายเมืองและพระวิหาร และนำคนส่วนใหญ่จากอาณาจักรยูดาห์ไปเป็นเชลยที่บาบิโลน
ยูเดีย
ข้อเท็จจริง
คำว่า "ยูเดีย" อ้างถึงพื้นที่ของแผ่นดินในอิสราเอลโบราณ บางครั้งก็ถูกใช้ในความหมายที่แคบและบางครั้งก็ใช้ในความหมายที่กว้างกว่า
- บางครั้ง "ยูเดีย" ถูกใช้ในความหมายที่แคบเพื่ออ้างถึงแคว้นเจาะจงที่อยู่ทางตอนใต้ของอิสราเอลโบราณซึ่งอยู่ทางตะวักตกของทะเลตายเท่านั้น ฉบับแปลบางฉบับเรียกแคว้นนี้ว่า "ยูเดีย"
- บางครั้ง "ยูเดีย" ได้ใช้ในความหมายที่กว้างและอ้างถึงแคว้นทั้งหมดของอิสราเอลโบราณ ซึ่งรวมถึงแคว้นกาลิลี สะมาเรีย เปเรีย ไอดูเมีย และยูเดีย (ยูดาห์)
- ถ้าผู้แปลต้องการทำให้เห็นความแตกต่างอย่างชัดเจน ในความหมายที่กว้างของยูเดีย (เช่นใน ลูกา 1:5) สามารถแปลได้ว่า "ประเทศยูเดีย" และในความหมายที่แคบ (เช่นใน ลูกา 1:39) สามารถแปลได้ว่า "จังหวัดยูเดีย" หรือ "จังหวัดยูดาห์" เนื่องจากนี่คือส่วนหนึ่งของดินแดนอิสราเอลโบราณที่เผ่ายูดาห์ได้อาศัยอยู่ตั้งแต่ดั้งเดิม
เยเซเบล
ข้อเท็จจริง
เยเซเบลเป็นมเหสีที่ชั่วร้ายของกษัตริย์อาหับแห่งอิสราเอล
- เยเซเบลมีอิทธิพลในการทำให้อาหับและอิสราเอลทั้งหมดบูชารูปเคารพ
- นางได้ฆ่าผู้เผยพระวจนะของพระเจ้าหลายคน
- เยเซเบลได้ทำให้ผู้ชายบริสุทธิ์ชื่อนาโบทถูกฆ่าเพื่อที่ว่าอาหับจะได้ขโมยสวนองุ่นของนาโบท
- ในที่สุดเยเซเบลก็ถูกฆ่าเนื่องจากสิ่งชั่วร้ายทั้งหมดที่นางได้กระทำ เอลียาห์ได้เผยพระวจนะว่างนางจะตายอย่างไรและทุกสิ่งก็เกิดขึ้นอย่างที่เขาได้ทำนายทุกประการ
เยโธร, เรอูเอล
ข้อเท็จจริง
ชื่อ "เยโธร" และ "เรอูเอล" ถูกใช้ในการอ้างถึงบิดาของภรรยาของโมเสสคือศิปโปราห์ มีผู้ชายอีกสองคนที่ชื่อว่า "ราอูเอล" ในพันธสัญญาเดิม
- เมื่อโมเสสเป็นคนเลี้ยงแกะในดินแดนมีเดียน เขาได้แต่งงานกับบุตรสาวของชายมีเดียนชื่อเรอูเอล
- ต่อมาภายหลังเรอูเอลได้ถูกอ้างถึงในนาม "เยโธร ปุโรหิตแห่งมีเดียน" มันอาจจะเป็นได้ว่า "เรอูเอล" เป็นชื่อของเผ่าของเขา
- พระเจ้าได้ตรัสกับโมเสสจากพุ่มไม้ที่ไฟลุกโชน เมื่อโมเสสกำลังเลี้ยงฝูงแกะของเยโธรอยู่
- จากนั้นระยะหนึ่ง หลังจากที่พระเจ้าได้ช่วยกู้คนอิสราเอลจากอียิปต์แล้ว เยโธรออกมาหาโมเสสในถิ่นทุรกันดารและให้คำแนะนำที่ดีแก่เขาในเรื่องการตัดสินเรื่องราวของประชาชนห
- เขาได้เชื่อในพระเจ้าเมื่อเขาได้ยินเกี่ยวกับการอัศจรรย์ทั้งหมดที่พระเจ้าได้ทรงกระทำให้แก่อิสราเอลในอียิปต์
- หนึ่งในบุคชายของเอซาวมีชื่อว่า เรอูเอล
- ผู้ชายอีกคนที่ชื่อเรอูเอลทได้ถูกอ้างชื่อถึงในลำดับวงศ์ของอิสราเอลผู้ที่ได้กลับไปตั้งรกรากในยูดาห์หลังจากที่ถูกจับไปเป็นเชลยที่กรุงบาบิโลนได้จบลง
เยฟธาห์
ข้อเท็จจริง
เยฟธาห์เป็นนักรบจากกิเลอาดที่ทำหน้าที่เป็นผู้วินิจฉัย เหนืออิสราเอล
- ในฮีบรู 11:32 เยฟธาร์เป็นที่สรรเสริญ ในฐานะที่เป็นผู้นำคนสำคัญผู้ที่ปลดปล่อยประชาชนของเขาจากข้าศึก
- เขาได้ช่วยกู้คนอิสราเอลจากคนอัมโมนและกได้นำประชาชนของเขาในการเอาชนะคนเอฟราอิม
- อย่างไรก็ตาม เยฟธาร์ได้ให้คำสาบานอันโง่เขลาบ้าบิ่นแก่พระเจ้าซึ่งทำให้เขาต้องถวายบุตรสาวเป็นเครื่องเผาบูชา
เยรีโค
ข้อเท็จจริง
เยรีโคเป็นเมืองที่แข็งแกร่งในแผ่นดินคานาอัน มันตั้งอยู่ทางตะวันตกของแม่น้อจอร์แดนและเหนือทะเลเกลือ
- เช่นเดียวกับชาวคานาอันทั้งหมด ประชาชนเยรีโคนมัสการรูปเคารพเทียมเท็จ
- เมืองเยรีโคเป็นเมืองแรกในแผ่นดินคานาอันที่พระเจ้าได้ตรัสกับชาวอิสราเอลให้ยึดครอง
- เมื่อโยชูวาได้นำคนอิสราเอลให้ต่อสู้กับเยรีโค พระเจ้าทรงกระทำการอัศจรรย์อันยิ่งใหญ่ในการช่วยเหลือพวกเขาให้เอาชนะเมืองนั้นได้
เยรูซาเล็ม
ข้อเท็จจริง
เยรูซาเล็มแต่เดิมนั้นเป็นเมืองโบราณของคานาอันที่ต่อมากลายเป็นเมืองที่สำคัญที่สุดในอิสราเอล ๙ึ่งตั้งอยู่ประมาณ 34 กิโลเมตรทางตะวันตกของทะเลเกลือเหนือเมืองเบธเลเฮ็ม เมืองนี้ยังคงเป็นเมืองหลวงของอิสราเอลในปัจจุบัน
- ชื่อ "เยรูซาเล็ม" นี้กูกกล่าวถึงครั้งแรกในพระธรรมโยชูวา ชื่ออื่นในพันธสัญญาเดิมของเมืองนี้รวมถึง "ซาเล็ม" "เมืองของเยบุส" และ "ซีโอน" คำว่า" เยรูซาเล็ม" และ"ซาเล็ม" มาจากรากศัพท์เดียวกั้นหมายความว่า "สันติสุข"
- เยรูซาเล็มแต่เดิมเป็นเมืองป้อมของคนเยบุทเรียกว่า "ซีโอน" ซึงกษัตริย์ดาวิดยึดเอาและทำให้เป็นเมืองหลวง
- ซาโลมอนบุตรชายของดาวิดได้สร้างวิหารแห่งแรกบนภูเขาโมไรยาห์ในเยรูซาเล็ม ซึ่งเป็นภูเขาที่อับราฮัมได้ถวายบุตรชายของเขาอิสอัคต่อพระเจ้า พระวิหารได้ถูกสร้างที่นั่นอีกครั้งภายหลังจากที่ถูกทำลายดยชาวบาบิโลน
- เนื่องจากวิหารตั้งอยู่ในกรุงเยรูซาเล็มการเฉลิมฉลองเทศกาลของชาวยิวที่สำคัญๆ จึงได้จัดที่นั่น
- ประชาชนมักจะอ้างถึงการเดินทาง "ขึ้นไป" กรุงเยรูซาเล็ม เพราะเหตุว่าเมืองนี้ตั้งอยู่บนภูเขา
เยเรมีย์
ข้อเท็จจริง
เยเรมีย์เป็นผู้เผยพระวจนะของพระเจ้าในอาณาจักรยูดาห์ พันธสัญญาเดิมพระธรรมเยเรมีย์ได้บันทึกคำเผยพระวจนะของเขา
- เช่นเดียวกับผู้เผยพระวจนะส่วนใหญ่ เยเรมีย์มักจะตักเตือนผู้คนอิสราเอลว่าพระเจ้าจะทรงลงโทษพวกเขาสำหรับความบาปของพวกเขา
- เยเรมีย์ได้เผยพระวจนะว่าชาวบาบิโลนจะเข้ามายึดครองกรุงเยรูซาเล็ม ซึ่งทำให้ประชาชนบางคนในยูดาห์โกรธ ดังนั้นพวกเขาจึงได้โยนเขาลงไปในบ่อลึกแห้งและปล่อยเขาไว้ที่นั่นให้ตาย แต่กษัตริย์แห่งยูดาห์ได้ทรงสั่งให้คนรับใช้ไปช่วยเยเรมีย์ออกมาจากบ่อ
- เยเรมีย์ได้เขียนว่าเขาได้ปรารถนาให้ตากทั้งสองข้างเป็น "บ่อน้ำพุแห่งน้ำตา" เพื่อแสดงความเศร้าอย่างสุดซึ้งเหนือการกบฎและการทุกข์ยากของประชาชนของเขา
เยโรโบอัม
ข้อเท็จจริง
เยโรโบอัมบุตรชายเนบัทเป็นกษัตริย์องค์แรกของอาณาจักรทางเหนือของอิสราเอลประมาณ 900-910 ปีก่อนคริสตกาล กษัตริย์ชื่อเยโรโบอัมอีกองค์หนึ่งบุตรชายของเยโฮอาชปกครองเหนืออิสราเอลประมาณ 120 ปีต่อมา
- พระยาห์เวห์ประทานคำเผยพระวจนะแก่เยโรโบอัมบุตรชายเนบัทว่าเขาจะเป็นกษัตริย์ต่อจากซาโลมอนและเขาจะได้ปกครองเหนือชนสิบเผ่าของอิสราเอล
- เมื่อซาโลมอนตาย ชนสิบเผ่าของอิสราเอลได้กบฎต่อบุตรชายของซาโลมอนคือ เรโหโบอัมและได้ทำให้เยโรโบอัมเป็นกษัตริย์ของพวกเขา ปล่อยให้เรโหโบอัมเป็นกษัตริย์สำหรับสองเผ่าทางใต้ คือ ยูดาห์และเบนยามิน
- เยโรโบอัมเป็นกษัตริย์ที่ชั่วร้ายมากเป็นผู้ที่ได้สนับสนุนให้ประชาชนของอาณาจักรอิสราเอลนมัสการรูปเคารพแทนที่จะนมัสการพระยาห์เวห์ กษัตริย์ของอิสราเอลทั้งหมดก็ทำตามตัวอย่างและชั่วร้ายเหมือนกับเยโรโบอัม
- เกือบ 120 ปีต่อมา กษัตริย์อีกองค์หนึ่งชื่อเยโรโบอัมเริ่มต้นปกครองอาณาจักรทางเหนือแห่งอิสราเอล เยโรโบอัมพระองค์นี้เป็นบุตรชายของกษัตริย์เยโฮอาชและชั่วร้ายเหมือนกษัตริย์อิสราเอลองค์ก่อนๆ ทุกพระองค์
- แม้จะเป็นเช่นนั้น พระเจ้ายังทรงมีพระเมตตาต่ออิสราเอลและช่วยเหลือกษัตริย์เยโรโบอัมนี้ให้ได้แผ่นดินมาและก่อตั้งเขตแดนสำหรับดินแดนของตน
เยฮู
ข้อเท็จจริง
เยฮูเป็นชื่อของผู้ชายสองคนในพันธสัญญาเดิม
- เยฮูบุตรชายของฮันนานิเป็นผู้เผยพระวจนะในรัชสมัยของกษัตริย์อาหับแห่งอิสราเอลและกษัตริย์เยโฮชาฟัทแห่งยูดาห์
- เยฮูบุตรชาย (หรือผู้สืบเชื้อสาย) ของ เยโฮชาฟัท เป็นนายพลในกองทัพอิสราเอล
- ผู้ได้ถูกเจิมเป็นกษัตริย์โดยคำสั่งของผู้เผยพระวจนะเอลิชา
- เยฮูได้ฆ่ากษัตริย์ชั่วร้ายสองพระองค์คือโยรัมแห่งอิสราเอลและอาหัสยาห์แห่งยูดาห์
- เยฮูยังได้ฆ่ากษัตริย์บรรดาญาติทั้งหมดของอาหับกษัตริย์คนก่อนรวมถึงราชินีชั่วร้ายเยเซเบล
- เยฮูได้ทำลายสถานมัสการพระบาอัลทั้งหมดในสะมาเรียและได้ฆ่าผู้เผยพระวจนะของบาอัล
- กษัตริย์เยฮูได้รับใช้พระเจ้าเที่ยงแท้เพียงพระองค์เดียว และได้เป็นกษัตริย์เหนืออิสราเอลเป็นเวลายี่สิบแปดปี
เยโฮชาฟัท
ข้อเท็จจริง
เยโฮชาฟัทเป็นชื่อของผู้ชายอย่างน้อยสองคนในพันธสัญญาเดิม
- คนที่มีชื่อเสียงมากที่สุดที่มีชื่อนี้คือกษัตริย์เยโฮชาฟัทผู้เป็นกษัตริย์องค์ที่ 4 ที่ปกครองเหนืออาณาจักรยูดาห์
- พระองค์ทรงนำสันติภาพระหว่างยูดาห์และอิสราเอลกลับคืนมา และทำลายแท่นบูชาของพระเทียมเท็จ
- เยโฮชาฟัทอีกคนหนึ่งคือ "ผู้จดบันทึก" ของดาวิดและซาโลมอน หน้าที่ของเขารวมถึงการเขียนเอกสารสำหรับกษัตริย์ให้ลงพระนามและบันทึกประวัติศาสตร์ในเหตุการณ์สำคัญที่เกิดขึ้นในอาณาจักร
เยโฮยาคิน
ข้อเท็จจริง
เยโฮยาคินเป็นหนึ่งในกษัตริย์ที่ปกครองเหนืออาณาจักรยูดาห์
- เยโฮยาคินได้เป็นกษัตริย์เมื่ออายุได้ 18 ปี พระองค์ทรงครองราชย์เพียงสามเดือนและหลังจากนั้นพระองค์ทรงถูกจับโดยกองทัพบาบิโลนและถูกนำตัวไปยังบาบิโลน
- ในช่วงสั้นๆที่ทรงครองราชย์นั้น เยโฮยาคินได้ทรงกระทำสิ่งชั่วร้ายเหมือนอย่างที่กษัตริย์มนัสเสห์ผู้เป็นปู่และกษัตริย์เยโฮยาคิมผู้เป็นพ่อได้กระทำ
เยโฮยาคิม
ข้อเท็จจริง
เยโฮยาคิมเป็นกษัตริย์ชั่วร้ายที่ครองราชย์เหนืออาณาจักรยูดาห์ เริ่มต้นประมาณ 608 ปีก่อนคริสตกาล พระองค์เป็นโอรสของกษัตริย์โยสิยาห์ เดิมทีพระนามของพระองค์คือเอลียาคิม
- เนโค ฟาโรห์ของอียิปต์ได้เปลี่ยนชื่อของเอลียาคิมเป็นเยโฮยาคิมและแต่งตั้งให้พระองค์เป็นกษัตริย์แห่งยูดาห์
- เนโคบังคับให้เยโฮยาคิมจ่ายภาษาในอัตราที่สูงแก่อียิปต์
- ต่อมาเมื่อยูดาห์ถูกรุกรานโดยกษัตริย์เนบูคัดเนสซาร์ เยโฮยาคิมเป็นหนึ่งในคนเหล่านั้นที่ถูกจับและถูกนำตัวไปยังบาบิโลน
- เยโฮยาคิมเป็นกษัตริย์ที่ชั่วร้ายที่ได้นำยูดาห์ออกห่างจากพระยาห์เวห์ ผู้เผยพระวจนะเยเรมีย์ได้กล่าวคำเผยพระวจนะตักเตือนพระองค์
เยโฮยาดา
ข้อเท็จจริง
เยโฮยาดาเป็นปุโรหิตที่ช่วยซ่อนและปกป้องโอรสของกษัตริย์อาหัสยาห์คือโยอาชจนพระองค์โตพอที่จะได้รับการประกาศให้เป็นกษัตริย์
- เยโฮยาดาได้จัดทหารหลายร้อยคนเพื่อปกป้องโยอาชที่อายุยังน้อยในขณะที่พระองค์ได้รับการประกาศให้เป็นกษัตริย์โดยประชาชนในวิหาร
- เยโฮยาดาได้นำประชาชนให้ทำลายแท่นบูชาทั้งหมดที่เป็นของพระเทียมเท็จคือพระบาอัล
- ในช่วงชีวิตที่เหลือของเขา ปุโรหิตเยโฮยาดาได้ให้คำแนะนำแก่กษัตริย์โยอาชเพื่อช่วยให้พระองค์เชื่อฟังพระเจ้าและปกครองประชาชนด้วยความฉลาด
- ผู้ชายอีกคนหนึ่งที่ชื่อเยโฮยาดาคือบิดาของเบไนยาห์
เยโฮรัม, โยรัม
ข้อเท็จจริง
เยโฮรัมเป็นชื่อของกษัตริย์ที่สองพระองค์ในพันธสัญญาเดิม ทั้งสองพระองค์ทรงมีพระนามว่า "โยรัม"
- กษัตริย์เยโฮรัมพระองค์หนึ่งทรงปกครองเหนือยูดาห์เป็นเวลาแปดปี พระองค์เป็นบุตรชายของกษัตริย์เยโฮชาฟัท นี่เป็นกษัตริย์ที่รูัจักกันในพระนาม เยโฮรัม
- กษัตริย์เยโฮรัมอีกพระองค์หนึ่งทรงปกครองอาณาจักรอิสราเอลเป็นเวลาสิบสองปี พระองค์ทรงเป็นบุตรชายของกษัตริย์อาหับ
- กษัตริย์เยโหโบรัมแห่งยูดาห์ทรงปกครองระหว่างช่วงเวลาของผู้เผยพระวจนะเยเรมีห์ ดาเนียล โอบัดยาห์ และเอเสเคียลที่ทำการเผยพระวจนะในอาณาจักรยูดาห์
- เยโฮรัมทรงปกครองระหว่างเวลาที่พระบิดาของพระองค์คือกษัตริย์เยโอชาฟัททรงปกครองเหนือยูดาห์
- คำแปลบางฉบับอาจเลือกใช้ชื่อ "เยโฮรัม" อย่างต่อเนื่อง เมื่อกษัตริย์พระองค์นี้ของอิสราเอลได้ถูกเอ่ยในชื่อว่า "โยรัม" สำหรับกษัตริย์แห่งยูดาห์
- อีกวิธีหนึ่งในการทำให้ชัดเจนแต่ละชื่อควรจะรวมชื่อบิดาของเขาต่อท้ายชื่อด้วย
โยชูวา
ข้อเท็จจริง
มีผู้ชายอิสราเอลหลายคนที่ชื่อว่าโยชูวาในพระคัมภีร์ แต่คนที่เป็นที่รู้จักมากที่สุดคือ โยชูวา บุตรของนูนผู้ที่เป็นผู้ช่วยของโมเสส และผู้ที่ต่อมาได้กลายเป็นผู้นำที่สำคัญคนหนึ่งของประชากรของพระเจ้า
- โยชูวาเป็นหนึ่งในผู้สอดแนมสิบสองคนที่โมเสสส่งไปสำรวจแผ่นดินแห่งพันธสัญญา
- พร้อมกันกับคาเลบ โยชูวาได้แสดงความกล้าหาญและไว้วางใจในพระเจ้าเมื่อเขาหนุนใจชาวอิสราเอลเพื่อให้เชื่อฟังพระบัญชาของพระเจ้าเพื่อเข้าสู่แผ่นดินแห่งพันธสัญญาและปราบคนคานาอันให้พ่ายแพ้
- หลายปีต่อมา หลังจากที่โมเสสสิ้นชีวิต พระเจ้าได้ทรงแต่งตั้งให้โยชูวานำประชากรของอิสราเอลเข้าสู่แผ่นดินแห่งพันธสัญญา
- ในสงครามครั้งแรกและเป็นสงครามที่โด่งดังมากที่สุดในการสู้รบกับคนคานาอัน โยชูวาได้นำชาวอิสราเอลทำลายเมืองเยรีโค
- พระธรรมโยชูวาในพันธสัญญาเดิมได้ถูกบันทึกเอาไว้เกี่ยวกับเหตุการณ์ต่างๆ ที่เกิดขึ้นในช่วงการนำของโยชูวา ซึ่งรวมถึงการพิชิตแผ่นดินแห่งพันธสัญญาและการแบ่งดินแดนให้กับอิสราเอลเผ่าต่างๆ
- โยชูวาบุตรชายของโยซาดักถูกกล่าวถึงในพระธรรมฮักกัยและพระธรรมเศคารียาห์ในพันธสัญญาเดิม เขาเป็นมหาปุโรหิตที่ช่วยสร้างกำแพงกรุงเยรูซาเล็ม
- มีผู้ชายอีกหลายคนที่ชื่อว่าโยชูวาที่ถูกกล่าวถึงในลำดับวงศ์และที่อื่นๆ ในพระคัมภีร์
โยเซฟ (ในพันธสัญญาเดิม)
ข้อเท็จจริง
โยเซฟเป็นบุตรชายคนที่สิบเอ็ดของยาโคบและเป็นบุตรชายคนแรกของราเชลผู้เป็นมารดาของเขา
- โยเซฟเป็นบุตรชายที่บิดาของเขารักมาก ดังนั้นพวกพี่ชายของเขาจึงอิจฉาเขา พวกเขาขายโยเซฟไปเป็นทาส
- ขณะที่อยู่ในอียิปต์ โยเซฟถูกกล่าวหาผิดๆ และถูกจับเข้าคุก
- พระเจ้าได้นำเขาให้มีตำแหน่งสูงรองจากอำนาจสูงสุดในอียิปต์และได้ใช้เขาเพื่อช่วยประชาชนในเวลาที่มีอาหารไม่พอเพียง ประชาชนอียิปต์ และครอบครัวของเขาได้รับการช่วยให้พ้นจากจากความอดอยาก
โยเซฟ (ในพันธสัญญาใหม่)
ข้อเท็จจริง
โยเซฟเป็นบิดาในโลกนี้ของพระเยซูและได้รับเลี้ยงพระเยซูในฐานะบุตรชายคนหนึ่ง เขาเป็นคนชอบธรรมผู้ที่ทำงานเป็นช่างไม้
- โยเซฟได้หมั้นกับผู้หญิงสาวชาวยิวที่ชื่อว่า มารีย์ ผู้ซึ่งพระเจ้าได้เลือกให้เป็นมารดาของพระเยซูพระเมสสียาห์
- ทูตสวรรค์องค์หนึ่งได้บอกแก่โยเซฟว่าพระวิญญาณบริสุทธิ์ได้ทำการอัศจรรย์ด้วยการทำให้มารีย์ตั้งครรภ์ และบุตรของมารีย์คือพระบุตรของพระเจ้า
- ภายหลังเมื่อพระเยซูกได้บังเกิดแล้ว ทูตสวรรค์ได้เตือนโยเซฟให้นำกุมารและมารีย์ไปอียิปต์เพื่อที่จะหนีจากเฮโรด
- โยเซฟและครอบครัวของเขาใช้ชีวิตอยู่ในเมืองนาซาเร็ธแห่งกาลิลีที่เขาหาเลี้ยงชีพโดยการเป็นช่างไม้
โยธาม
ข้อเท็จจริง
ในพันธสัญญาเดิม มีผู้ชายสามคนที่ชื่อว่าโยธาม
- โยธามคนที่หนึ่ง เป็นบุตรชายคนเล็กของกิเดโอน โยธามได้ช่วยปราบพี่ชายคนโตของเขาให้พ่ายแพ้ คืออาบีเมเลคผู้ที่ทรยศและฆ่าพี่น้องที่เหลือทั้งหมดของเขา
- โยธามอีกคนหนึ่งเป็นกษัตริย์ปกครองเหนือยูดาห์เป็นเวลาสิบหกปีหลังจากการตายของบิดาของเขาคืออุสซียาห์ ( อาซาริยาห์)
- เหมือนกับบิดาของเขา กษัตริย์โยธามเชื่อฟังพระเจ้าและเป็นกษัตริย์ที่ดี
- อย่างไรก็ตามเขาไม่ได้กำจัดสถานนมัสการของรูปเคารพและนี่เป็นสาเหตุที่ทำให้ประชาชนของยูดาห์ของเขาหันออกจากพระเจ้าอีกครั้ง
- โยธามเป็นหนึ่งในรายชื่อของบรรพบุรุษในลำดับพงศ์ของพระเยซูคริสต์ในพระธรรมมัทธิว
โยนาธาน
ข้อเท็จจริง
โยนาธานเป็นชื่อของผู้ชายอย่างน้อยสิบคนในพันธสัญญาเดิม ชื่อนี้หมายความว่า " "พระยาห์เวห์ได้ประทาน"
- เพื่อที่ดีที่สุดของดาวิด โยนาธานเป็นที่รู้จักกันดีมากในพระคัมภีร์ในชื่อนี้ โยนาธาน คือบุตรชายคนโตของกษัตริย์ซาอูล
- โยนาธานคนอื่นๆ ที่ถูกกล่าวถึงในพันธสัญญาเดิม เช่น ลูกหลานของโมเสส หลานชายของกษัตริย์ดาวิด ปุโรหิตหลายคน รวมทั้งบุตรชายของอาบียาธา และอาลักษณ์ในพันธสัญญาเดิมที่บ้านของเขาเป็นที่คุมขังเยเรมีย์
โยนาห์
ข้อเท็จจริง
โยนาห์เป็นผู้เผยพระวจนะชาวฮีบรูในพันธสัญญาเดิม
- พระธรรมโยนาห์พูดถึงเรื่องเมื่อพระเจ้าส่งโยนาห์ไปเทศนาให้แก่ประชาชนในเมืองนีนะเวห์
- โยนาห์ได้ปฏิเสธที่จะไปนีนะเวห์และและลงเรือที่มุ่งหน้าไปยังอีกประเทศหนึ่งแทน
- พระเจ้าทรงทำให้เกิดพายุใหญ่เพื่อทำให้เกิดเรือล่ม
- เมื่อพวกผู้ชายที่อยู่ในเรือพบว่าโยนาห์ไม่เชื่อฟังพระเจ้า พวกเขาได้โยนเขาลงไปในทะเลและพายุก็หยุด
- โยนาห์ถูกกลืนโดยปลาใหญ่และเขาได้อยู่ในท้องปลาเป็นเวลาสามวันและหลายคืน
- หลังจากนั้น โยนาห์ได้ไปที่นีนะเวห์และได้เทศนาต่อผู้คนที่นั่น และพวกเขาหันกลับจากความบาปของพวกเขา
โยบ
ข้อเท็จจริง
โยบคือชายคนหนึ่งที่ได้รับการอธิบายในพระคัมภีร์ว่าเป็นคนที่ไร้ตำหนิและชอบธรรมต่อพระเจ้า เขามีชื่อเสียงดีที่สุดเรื่องการยืนหยัดในความเชื่อในพระเจ้าผ่านช่วงเวลาแห่งการทนทุกข์อย่างเลวร้าย
- โยบได้อาศัยอยู่ในดินแดนอูสซึ่งตั้งอยู่ในบางพื้นที่ทางด้านตะวันออกของดินแดนคานาอัน เป็นไปได้ว่าตั้งอยู่ใกล้กับแคว้นเอโดม
- คิดกันว่าเขาอาศัยอยู่ในช่วงเวลาหนึ่งในสมัยของเอซาวและยาโคบเพราะหนึ่งในเพื่อนของเขาเป็นคน "เทมาไนท์" ซึ่งเป็นกลุ่มคนที่มาจากเชื้อสายของหลานชายของเอซาว
- ในพันธสัญญาเดิม พระธรรมโยบบอกเล่าถึงวิธีการที่โยบและคนอื่นๆ ตอบสนองต่อการทนทุกข์ของเขา และยังให้มุมมองของพระเจ้าในฐานะผู้สร้างผู้เป็นองค์อธิปไตยและผู้ครอบครองจักรวาลด้วย
- หลังจากภัยพิบัติทั้งหมด พระเจ้าทรงรักษาโยบและประทานบุตรทั้งหลายกับความมั่งคั่งให้แก่เขา
- พระธรรมโยบกล่าวว่าเขาชรามากตอนที่เขาตาย
โยราม
ข้อเท็จจริง
โยรามเป็นบุตรชายของอาหับกษัตริย์ของอิสราเอล เขาถูกอ้างถึงในบางครั้งในชื่อ "เยโฮราม"
- กษัตริย์โยรามแห่งอิสราเอลครองราชย์ในช่วงเวลาเดียวกันกับกษัตริย์เยโฮรามแห่งยูดาห์
- โยรามเป็นกษัตริย์ที่ชั่วร้ายที่ได้นมัสการพระเทียมเท็จและนำอิสราเอลให้ทำบาป
- กษัตริย์โยรามแห่งอิสราเอลได้ครองราชย์ในช่วงเวลาของผู้เผยพระวจนะเอลียาห์และโอบัดยาห์
- ผู้ชายอีกคนที่ชื่อโยรามเป็นบุตรชายของกษัตริย์เทาแห่งฮามาธเมื่อดาวิดได้เป็นกษัตรย์
โยสิยาห์
ข้อเท็จจริง
โยสิยาห์เป็นกษัตริย์ที่ชอบธรรมผู้ครองราชย์เหนืออาณาจักรยูดาห์เป็นเวลาสามสิบเอ็ดปี เขาทำหลายสิ่งหลายอย่างเพื่อหนุนใจประชากรของยูดาห์ให้กลับใจและนมัสการพระยาเวห์
- หลังจากพระบิดาของเขาคือกษัตริย์อาโมนถูกปลงพระชนม์ โยสิยาห์ได้กลายมาเป็นกษัตริย์ปกครองยูดาห์เมื่อเขามีอายุได้เพียงแปดขวบ
- ในช่วงปีที่สิบแปดแห่งการครองราชย์ของพระองค์ กษัตริย์โยสิยาห์สั่งให้ฮีลคียาห์ผู้เป็นมหาปุโรหิตรื้อฟื้นการสร้างพระวิหารของพระเจ้า ในขณะที่กำลังดำเนินการนี้ หนังสือธรรมบัญญัติต่างๆ ก็ถูกค้นพบ
- เมื่อหนังสือแห่งธรรมบัญญัติต่างๆ ได้รับการอ่านให้แก่โยสิยาห์ เขาร่ำไห้ถึงการไม่เชื่อฟังพระเจ้าของประชากรของเขา เขาสั่งให้ทำลายทุกสถานนมัสการของรูปเคารพทั้งหมดและให้ฆ่าพวกปุโรหิตของพระเทียมเท็จ
- เขายังสั่งให้ประชากรเริ่มเฉลิมฉลองเทศกาลปัสกาอีกครั้ง
โยอาช
ข้อเท็จจริง
โยอาชเป็นชื่อของผู้ชายหลายคนในพันธสัญญาเดิม
- โยอาชคนหนึ่งเป็นบิดาของผู้ปลดปล่อยคนอิสราเอลคือกิเดโอน
- ผู้ชายอีกคนหนึ่งที่ชื่อโยอาชเป็นเชื้อสายของบุตรชายคนสุดท้องของยาโคบคือเบนยามิน
- โยอาชคนที่มีชื่อเสียงมากที่สุดได้กลายมาเป็นกษัตริย์แห่งยูดาห์เมื่ออายุได้เจ็ดปี พระองค์เป็นบุตรชายของอาหัสยาห์กษัตริย์แห่งยูดาห์ผู้ถูกปลงพระชนม์
- ตอนที่โยอาชยังเป็นเด็กอยู่ ป้าของพระองค์ได้ช่วยพระองค์ให้รอดจากการถูกฆ่าโดยซ่อนไว้จนพระองค์เติบโตพอที่จะครองราชย์เป็นกษัตริย์
- กษัตริย์โยอาชได้เป็นกษัตริย์ที่ดีในตอนต้น เชื่อฟังพระเจ้า แต่ พระองค์ไม่ได้ย้ายสถานสูงและพวกอิสราเอลได้เริ่มต้นนมัสการรูปเคารพอีกครั้ง
- กษัตริย์โยอาชทรงปกครองยูดาห์ระหว่างบางช่วงกับปีที่กษัตริย์เยโฮอาชทรงปกครองอิสราเอล ทั้งสองเป็นกษัตริย์คนละองค์
โยอาบ
ข้อเท็จจริง
โยอาบเป็นผู้นำทางทหารคนสำคัญสำหรับกษัตริย์ดาวิดตลอดรัชสมัยของพระองค์
- ก่อนที่ดาวิดจะเป็นกษัตริย์ โยอาบก็เป็นผู้ติดตามที่จงรักภักดีของพระองค์แล้ว
- ภายหลัง ในช่วงที่ดาวิดครองราชย์เป็นกษัตริย์เหนืออิสราเอลแล้ว โยอาบได้กลายมาเป็นผู้บัญชาการเหนือกองทัพของกษัตริย์ดาวิด
- โยอาบเป็นหลานชายของดาวิดด้วย เพราะมารดาของโยอาบเป็นหนึ่งในน้องสาวของกษัตริย์ดาวิด
- เมื่อบุตรชายของดาวิดคืออับซาโลมได้ทรยศพระองค์โดยพยายามที่จะยึดครองความเป็นกษัตริย์ โยอาบได้ฆ่าอับซาโลมเพื่อที่จะปกป้องกษัตริย์
- โยอาบเป็นนักรบที่แข็งกร้าวและได้ฆ่าหลายคนที่เป็นศัตรูของอิสราเอล
โยเอล
ข้อเท็จจริง
โยเอลคือชื่อของผู้เผยพระวจนะคนหนึ่งที่มีชีวิตอยู่สมัยการครองราชย์ของกษัตริย์โยอัสของยู
ดาห์ ยังมีผู้ชายหลายคนในพันธสัญญาเดิมที่ใช้ชื่อว่า โยเอล
- พระธรรมโยเอลคือพระธรรมที่สั้นหนึ่งในสิบสองเล่นในส่วนสุดท้ายของพันธสัญญาเดิม
- ข้อมูลส่วนตัวอย่างเดียวที่เรามีเกี่ยวกับผู้เผยพระวจนะโยเอลคือบิดาของเขาชื่อว่า เปธูเอล
- ในคำเทศนาของเปโตรในวันเพ็นเทคอส อัครสาวกเปโตรได้อ้างจากพระธรรมโยเอล
รับบาห์
ข้อเท็จจริง
รับบาห์เป็นเมืองที่สำคัญที่สุดของชาวอัมโมน
- ในการต่อสู้กับชาวอัมโมน ชาวอิสราเอลได้โจมตีเมืองรับบาห์อยู่บ่อยครั้ง
- กษัตริย์ของชนชาติอิสราเอล คือกษัตริย์ดาวิดได้ยึดครองเมืองรับบาห์ซึ่งเป็นหนึ่งในเมืองสุดท้ายที่พระองค์พิชิตได้
- เมืองอัมมานจอร์แดนในปัจจุบันนี้เคยเป็นที่ตั้งของเมืองรับบาห์ในอดีต
ราเชล
ข้อเท็จจริง
ราเชลเป็นหนึ่งในบรรดาภรรยาของยาโคบ เธอและพี่สาวของเธอ ลีอาห์เป็นบุตรสาวของลาบันผู้ซึ่งเป็นลุงของยาโคบ
- ราเชลเป็นมารดาของโยเซฟและเบนยามินซึ่งลูกหลานของพวกเขากลายมาเป็นสองเผ่าในสิบสองเผ่าของชนชาติอิสราเอล
- เป็นเวลาหลายปีที่ราเชลไม่สามารถมีบุตรได้ ดังนั้นพระเจ้าทำให้ราเชลให้กำเนิดโยเซฟ
- หลายปีต่อมา ราเชลเสียชีวิตหลังจากให้กำเนิดเบนยามิน และยาโคบได้ฝังเธอใกล้กับเบธเลเฮม
รามาห์
ข้อเท็จจริง
รามาห์เป็นเมืองโบราณของชาวอิสราเอล ตั้งอยู่ประมาณ 8 กิโลเมตรจากกรุงเยรูซาเล็ม เมืองรามาห์อยู่ในดินแดนที่ที่เผ่าเบนยามินได้อาศัยอยู่
- เมืองรามาห์เป็นสถานที่ที่นางราเชลตายหลังจากให้กำเนิดเบนยามินแล้ว
- ตอนที่ชนชาติอิสราเอลถูกวาดต้อนไปเป็นเชลยที่บาบิโลน พวกเขาถูกนำไปที่เมืองรามาห์ก่อนที่จะย้ายไปที่เมืองบาบิโลน
- รามาห์เป็นถิ่นกำเนิดของมารดาและบิดาของซามูเอล
ราโมธ
ข้อเท็จจริง
ราโมธ เป็นเมืองสำคัญเมืองหนึ่งที่อยู่บนภูเขากิเลอาดใกล้กับแม่น้ำจอร์แดน มันถูกเรียกว่า ราโมธกิเลอาดด้วย
- ราโมธเป็นเมืองของอิสราเอลเผ่ากาดและได้ถูกออกแบบให้เป็นเมืองลี้ภัย
- กษัตริย์อาหับแห่งอิสราเอลและกษัตริย์เยโฮชาฟัทแห่งยูดาห์ได้ร่วมกันต่อสู้กับกษัตริย์แห่งอารัมที่เมืองราโมธ กษัตริย์อาหับถูกฆ่าตายในสงครามนั้น
- เวลาต่อมา กษัตริย์อาหัสยาห์ และ กษัตริย์โยรัมได้พยายามชิงเอาเมืองราโมธจากกษัตริย์แห่งอารัม
- ราโมธกิเลอาดเป็นที่ที่เยฮูถูกเจิมให้เป็นกษัตริย์เหนืออิสราเอล
ราหับ
ข้อเท็จจริง
ราหับเป็นผู้หญิงที่อาศัยอยู่ในเมืองเยรีโคเมื่อคนอิสราเอลโจมตีเมืองเยรีโค และเธอเป็นหญิงโสเภณี
- ราหับได้ซ่อนคนอิสราเอลสองคนที่มาสอดแนมเมืองเยรีโคก่อนที่อิสราเอลจะโจมตีเมืองนั้น นางราหับได้ช่วยให้คนอิสราเอลสองคนนี้หนีกลับไปที่ค่ายของอิสราเอล
- ราหับได้กลายเป็นผู้เชื่อในพระยาห์เวห์
- เธอและครอบครัวของเธอได้รับการไว้ชีวิตเมื่อเมืองเยรีโคถูกทำลายและพวกเขาทั้งหมดได้มาอาศัยอยู่กับชาวอิสราเอล
ริมโมน
ข้อเท็จจริง
ริมโมนเป็นชื่อของผู้ชายและสถานที่หลายแห่งที่ได้กล่าวถึงในพระคัมภีร์ และยังเป็นชื่อของพระเทียมเท็จ
- ผู้ชายคนหนึ่งชื่อริมโมนเป็นชาวเบนยามินจากเมืองเบเอโรทในเศบูลูน บุตรชายของผู้ชายคนนี้ได้ฆ่าอิชโบเชท บุตรชายที่พิการของโยนาธาน
- ริมโมนเป็นเมืองทางตอนใต้ของยูดาห์ ในแคว้นนั้นถูกยึดครองโดยเผ่าเบนยามิน
- "หินแห่งริมโมน" เป็นสถานที่ปลอดภัยที่ชาวเบนยามินได้หลบหนีไปอยู่จากการถูกไล่ฆ่าในการสู้รบ
- ริมโมน-เปเรศ เป็นสถานที่ไม่รู้ตำแหน่งที่ตั้งที่อยู่ในถิ่นทุรกันดารยูเดีย
- นาอามานผู้บัญชาการชาวซีเรียได้พูดถึงวิหารของพระเทียมเท็จริมโมน ที่ซึ่งกษัตริย์ซีเรียได้นมัสการ
รูธ
ข้อเท็จจริง
รูธเป็นผู้หญิงชาวอาโมไบท์ที่ได้แต่งงานกับผู้ชายอิสราเอลแล้วได้ย้ายไปยังโมอับพร้อมด้วยครอบครัวของเขาในช่วงเวลาที่เหล่าผู้วินิฉัยนำอิสราเอล
- สามีของรูธได้ตายและช่วงหลังจากนั้นเธอได้จากโมอับเพื่อเดินทางไปกับนาโอมีแม่สามีของเธอผู้ที่กำลังกลับไปยังเบธเลเฮมอิสราเอลบ้านเกิดของเธอ
- รูธซื่อสัตย์ต่อนาโอมีและทำงานหนักเพื่อจัดหาอาหารให้เธอ
- เธอยังอุทิศตัวเองว่าจะรับใช้พระเจ้าที่เที่ยงแท้ของอิสราเอล
- รูธได้แต่งงานกับชาวอิสราเอลชื่อโบอาสและให้กำเนิดบุตรชายคนหนึ่งผู้ซึ่งได้กลายมาเป็นปู่ของกษัตริย์ดาวิดและบรรพบุรุษของพระเยซูคริสต์
รูเบน
ข้อเท็จจริง
รูเบนเป็นบุตรชายคนแรกของยาโคบ แม่ของเขาคือเลอาห์
- เมื่อพี่น้องของเขาวางแผนจะฆ่าน้องชายของพวกเขาคือโยเซฟ รูเบนได้ช่วยชีวิตของโยเซฟโดยการบอกให้พวกเขาหย่อนเขาลงไปในหลุมแทน
- รูเบนได้กลับมาเพื่อช่วยโยเซฟ แต่น้องคนอื่นๆ ได้ขายเขาให้กับพ่อค้าที่ผ่านมาให้เป็นทาส
- เชื้อสายของรูเบนกลายมาเป็นหนึ่งในสิบสองเผ่าของอิสราเอล
เรเบคาห์
ข้อเท็จจริง
เรเบคาห์เป็นหลานสาวของน้องชายอับราฮัมที่มีชื่อว่า นาโฮร์
- พระเจ้าได้เลือกเรเบคาห์ให้เป็นภรรยาของบุตรชายอับราฮัม คือ อิสอัค
- เรเบคาห์ได้ออกจากดินแดนฮารัมนาฮาราอิมที่เธออาศัยอยู่และไปกับคนใช้ของอับราฮัมสู่ดินแดนเนเกบซึ่งเป็นที่ที่อิสอัคอาศัยอยู่
- เป็นเวลาหลายปีที่นางเรเบคาห์ไม่มีบุตร แต่ในที่สุดพระเจ้าก็อวยพรเธอโดยการประทานบุตรแฝดชายที่มีชื่อว่า เอซาวและยาโคบ
เรโหโบอัม
ข้อเท็จจริง
เรโหโบอัมเป็นหนึ่งในบรรดาโอรสของกษัตริย์ซาโลมอนและกลายเป็นกษัตริย์ของชนชาติอิสราเอลหลังจากที่ซาโลมอนตาย
- ช่วงแรกในการครองราชย์ของพระองค์ เรโหโบอัมได้รุนแรงต่อประชากรของพระองค์ ดังนั้น คนอิสราเอลสิบเผ่าได้กบฏต่อพระองค์และได้ตั้ง "อาณาจักรแห่งอิสราเอล" ที่ทางเหนือ
- เรโหโบอัมยังได้ปกครองต่อเนื่องเป็นกษัตริย์แห่งอาณาจักรใต้ของ
- ยูดาห์ซึ่งประกอบไปด้วยสองเผ่า คือเผ่ายูดาห์และเบนยามิน
- เรโหโบอัม เป็นกษัตริย์ที่ชั่วร้าย ผู้ที่ไม่เชื่อฟังพระยาเวห์ แต่กลับนมัสการบรรดาพระเทียมเท็จ
โรม, ชาวโรม
ข้อเท็จจริง
ในช่วงเวลาพันธสัญญาใหม่ กรุงโรมเป็นศูนย์กลางของจักรวรรดิโรมัน ปัจจุบันเป็นเมืองหลวงประเทศของอิตาลีในสมัยใหม่
- จักรวรรดิโรมันได้ปกครองเหนือแคว้นทั้งหมดแถบทะเลเมดิเตอร์เรเนียนรวมถึงอิสราเอลด้วย
- คำว่า "โรมมัน" อ้างถึงทุกอย่างที่เกี่ยวข้องกับแคว้นที่รัฐบาลในโรมได้ครอบครอง รวมไปถึงประชาชนโรมและเจ้าหน้าที่โรม
- อัครสาวกเปาโลถูกนำไปยังกรุงโรมในฐานะนักโทษเพราะเขาได้เทศนาข่าวประเสริฐเกี่ยวกับพระเยซู
- ในพันธสัญญาใหม่ พระธรรม "โรม" เป็นจดหมายที่เปาโลได้เขียนถึงคริสเตียนในกรุงโรม
ลาซารัส
ข้อเท็จจริง
ลาซารัสและพี่สาวทั้งหลายของเขา มาเรียและมารธาเป็นเพื่อนพิเศษของพระเยซู พระองค์มักจะประทับกับพวกเขาที่บ้านของพวกเขาที่เบธานี
- ลาซารัสเป็นที่รู้จักกันดีสำหรับข้อเท็จจริงว่าพระเยซูได้ชุบชีวิตเขาจากความตายหลังจากที่ถูกฝังที่อุโมงค์แล้วหลายวัน
- ผู้นำชาวยิวทั้งหลายโกรธและอิจฉาว่าพระเยซูได้ทำสิ่งอัศจรรย์และพวกเขาพยายามหาทางฆ่าพระเยซูและลาซารัส
- พระเยซูได้ทรงเล่าคำอุปมาเรื่องผู้ชายขอทานยากจนคนหนึ่งและเศรษฐีคนหนึ่งซึ่งขอทานนนั้นมีชื่อว่าลาซารัส
ลาบัน
ข้อเท็จจริง
ในพันธสัญญาเดิม ลาบันเป็นลุงและพ่อตาของยาโคบ
- ยาโคบอาศัยอยู่กับครอบครัวของลาบันในปาดานอารัมและดูแลจัดการฝูงแพะแกะซึ่งเป็นเงื่อนไขในการแต่งงานกับลูกสาวของลาบัน
- ยาโคบนั้นมีความพึงพอใจราเชลลูกสาวของลาบันมาเป็นภรรยาของเขา
- ลาบันหลอกลวงยาโคบและให้เขาแต่งงานกับลูกสาวคนโตคือเลอาห์ก่อนที่จะมอบราเชลให้แก่เขาเพื่อเป็นภรรยา
ลาเมค
ข้อเท็จจริง
ลาเมคเป็นชื่อของผู้ชายสองคนที่ได้รับการกล่าวถึงในพระธรรมปฐมกาล
- ลาเมคคนแรกที่ได้รับการกล่าวถึงเป็นเชื้อสายของคาอิน เขาได้โอ้อวดต่อภรรยาทั้งสองของเขาว่าเขาได้ฆ่าชายคนหนึ่งที่ทำให้เขาได้รับบาดเจ็บ
- ลาเมคคนที่สองเป็นเชื้อสายของเสธ เขาเป็นบิดาของโนอาห์
ลิสตรา
ข้อเท็จจริง
ลิสตราเป็นชื่อของเมืองหนึ่งในเอเชียไมเนอร์โบราณซึ่งเปาโลได้ไปเยี่ยมเยียนในการเดินทางเป็นมิชชันารี เมืองนี้ตั้งอยู่ในแคว้นไลคาวเนียซึ่งตอนนี้เป็นประเทศตุรกีในปัจจุบัน
- เปาโลและเพื่อนร่วมงานของเขาได้หนีไปยังเดรบีและลิสตราเมื่อพวกเขาถูกขู่เข็นโดยพวกยิวในเมืองค็อนยา
- ในลิสตรา เปาโลได้พบกับทิโมธีผู้ที่ได้กลายมาเป็นเพื่อนนักประกาศและก่อตั้งคริสตจักรด้วยกัน
- หลังจากเปาโลได้รักษาชายพิการในเมืองลิสตรา ประชาชนที่นั่นพยายามนมัสการเปาโลและบารนาบัสเป็นพระเจ้า แต่พวกอัครสาวกได้ตำหนิพวกเขาและหยุดยั้งพวกเขาในการทำสิ่งนั้น
ลูกา
ข้อเท็จจริง
ลูกาเป็นผู้เขียนพระธรรมสองเล่มในพันธสัญญาใหม่ คือ พระกิตติคุณลูกา และพระธรรมกิจการ
- ในจดหมายของเปาโลที่เขียนถึงผู้เชื่อในเมืองโคโลสี เปาโลอ้างถึงลูกาว่าเป็นแพทย์ เปาโลยังได้กล่าวถึงลูกาในจดหมายอื่นอีกสองฉบับของเขาด้วย
- เคยคิดกันว่า ลูกาเป็นชาวกรีกและคนต่างชาติก่อนที่จะมารู้จักพระเยซู ในพระกิตติคุณของเขา ลูการ่วมหลายตอนที่แสดงให้เห็นถึงความรักของพระเยซูสำหรับทุกคน ทั้งยิวและคนต่างชาติ
- ลูการ่วมเดินทางเป็นมิชชันนารีกับเปาโลสองครั้งและได้ช่วยเปาโลในการทำงานของเขา
- ในงานเขียนบางชิ้นงานของคริสตจักรยุคแรก ได้กล่าวเอาไว้ว่าลูกาได้เกิดในเมืองอันทิโอกในซีเรีย
เลบานอน
ข้อเท็จจริง
เลบานอนเป็นแถบดินแดนสวยงานที่ตั้งอยู่บนภูเขาตามชายฝั่งทะเลเมดิเตอร์เรเนียนทางตอนเหนือของอิสราเอล ในสมัยพระคัมภีร์ ดินแดนแถบนี้เป็นป่าทีบพร้อมด้วยป่าสน อย่างเช่นต้นสีดาร์และต้นสน
- กษัตริย์ซาโลมอนได้ส่งคนงานไปเลบานอนไปตัดต้นสีดาห์เพื่อใช้ในการสร้างพระวิหารของพระเจ้า
- ชาวเลบานอนในสมัยโบราณนั้นพำนักอาศัยอยู่กับชาวฟินิเซียซึ่งมีทักษะในการสร้างเรือใหญ่ที่ถูกใช้เพื่อการค้าอุตสาหกรรมอย่างสำเร็จผล
- เมืองไทระและไซดอนตั้งอยู่ในเลบานอน ในเมืองเหล่านี้เองที่มีการใช้ผ้าย้อมสีม่วงราคาแพงเป็นครั้งแรก
เลวี, คนเลวี
ข้อเท็จจริง
เลวีคือบุตรชายคนหนึ่งในสิบสองคนของยาโคบ คำว่า "เลวี" อ้างถึงบุคคลผู้เป็นสมาชิกของเผ่าอิสราเองที่บรรพบุรุษเป็นคนเลวี
- คนเลวีมีหน้าที่รับผิดชอบในพระวิหารและการทำพิธีกรรมทางศาสนา รวมถึงการถวายเครื่องบูชาปละอธิษฐาน
- พวกปุโรหิตชาวยิวทั้งหมดเป็นคนที่มาจากเผ่าเลวี และบางส่วนของเผ่าเลวี (อย่างไรก็ตามไม่ใช่คนในเผ่าเลวีทุกคนจะเป็นปุโรหิต)
- พวกปุโรหิตที่เป็นคนเลวีจะถูกแยกออกและได้อุทิศตัวสำหรับทำงานพิเศษในการปรนนิบัติพระเจ้าในพระวิหาร
- มีผู้ชายสองคนที่ชื่อ "เลวี" เป็นบรรพบุรุษของพระเยซูและชื่อของพวกเขาอยู่ในลำดับพงศ์ในพระกิตติคุณลูกา
- สาวกของพระเยซูคนหนึ่ง คือ มัทธิว ก็ถูกเรียกว่าเลวี
เลวีอาธาน
ข้อเท็จจริง
คำว่า "เลวีอาธาน" อ้างถึงสัตว์มหึมาที่สูญพันธ์ุไปแล้วที่ได้รับการกล่าวถึงในบันทึกช่วงตอนต้นของพันธสัญญาเดิม ในพระธรรมโยบ สดุดี และอิสห์ยา
- เลวีอาธานได้ถูกอธิบายว่าเป็นสัตว์ใหญ่มหึมา เหมือนงู แข็งแรง ดุร้าย และสามารถทำให้น้ำรอบตัวของมัน "เดือด" คำอธิบายเกี่ยวกับมันเหมือนกับคำอธิบายถึงไดโนเสาร์
- ผู้เผยพระวจนะอิสยาห์อ้างถึงเลวีอาธานว่าเป็น "งูใหญ่เลื้อย"
- โยบเขียนจากความรู้ที่ได้มาโดยตรงถึงเลวีอาธาน ดังนั้นสัตว์นี้ดูเหมือนจะมีชีวิตอยู่ในช่วงเวลาที่เขายังมีชีวิตอยู่
เลอาห์
ข้อเท็จจริง
เลอาห์เป็นภรรยาคนหนึ่งของยาโคบ เธอเป็นมารดาของบุตรชายสิบคนของยาโคบที่ลูกหลานเป็นบางเผ่าในสิบสองเผ่าของอิสราเอล
- บิดาของเลอาห์คือลาบัน ผู้เป็นพี่ชายของเรเบคคาห์แม่ของยาโคบ
- ยาโคบไม่ได้รักเลอาห์เท่ากับที่เขารักภรรยาของเขาอีกคนหนึ่งคือ ราเชล แต่พระเจ้าก็ทรงโปรดปรานเลอาห์อย่างมากโดยทรงให้เธอมีบุตรมากมาย
- บุตรชายคนหนึ่งของเลอาห์ คือยูดาห์ เป็นบรรพบุรุษของกษัตริย์ดาวิดและพระเยซู
โลท
ข้อเท็จจริง
โลทเป็นชื่อของหลานชายของอับราฮัม
- เขาเป็นบุตรชายของพี่ชายของอับราฮัมที่ชื่อว่าฮาราน
- โลทได้เดินทางไปกับอับราฮัมเพื่อไปยังดินแดนคานาอันและได้ตั้งรกรากอยู่ในเมืองโสโดม
- โลทเป็นบรรพบุรุษของชาวโมอับและชาวอัมโมน
- เมื่อกษัตริย์ที่เป็นศัตรูได้โจมตีเมืองโสโดมและได้จับตัวโลท อับราฮัมได้มาพร้อมกับบุรุษหลายร้อยคนเพื่อช่วยกู้โลทและยึดข้าวของของเขาคืนมา
- ผู้คนที่อาศัยอยู่ในเมืองโสโดมได้อ่อนกำลังอย่างมาก ดังนั้นพระเจ้าจึงได้ทรงทำลายเมืองนั้น แต่พระองค์ได้ทรงบอกโลทและครอบครัวของเขาก่อนเพื่อให้พวกเขาหนีออกจากเมืองนั้น
วัชที
ข้อเท็จจริง
ในพันธสัญญาเดิม พระธรรมเอสเธอร์ วัชทีเป็นมเหสีของอาหสุเอรัส กษัตริย์แห่งเปอร์เซีย
- กษัตริย์อาหสุเอรัสได้เนรเทศมเหสีวัชทีไป เมื่อพระนางปฏิเสธที่จะปฏิบัติตามคำสั่งของพระองค์ให้มางานเลี้ยงอาหารค่ำของพระองค์และแสดงความงามของเธอให้กับบรรดาแขกขี้เมาของพระองค์
- ผลก็คือ จึงมีการค้นหาผู้ที่จะเป็นราชินีองค์ใหม่และในที่สุดเอสเธอร์ก็ได้รับเลือกให้เป็นราชินีองค์ใหม่ของกษัตริย์
ศักเคียส
ข้อเท็จจริง
ศักเคียส เป็นคนเก็บภาษีจาก เมืองเยริโค ผู้ได้ปีนขึ้นต้นไม้เพื่อจะสามารถมองเห็นพระเยซูผู้ที่ถูกล้อมรอบโดยฝูงประชาชนจำนวนมาก
- ศักเคียส ได้เปลี่ยนไปอย่างสิ้นเชิงเมื่อเขาได้เชื่อในพระเยซู
- เขาได้สำนึกผิดในความบาปของเขาที่ได้หลอกลวงประชาชนและได้สัญญาว่าจะให้ทรัพย์สมบัติของเขาครึ่งหนึ่งแก่คนยากจน
- เขายังได้สัญญาว่าเขาจะจ่ายเงินคืนให้กับประชาชนจำนวนสี่เท่าตามจำนวนที่เขาได้เก็บภาษีของพวกเขาเกินมา
ศาโดก
ข้อเท็จจริง
ศาโดกเป็นชื่อของมหาปุโรหิตคนสำคัญในอิสราเอลในรัชสมัยการปกครองของกษัตริย์ดาวิด
- เมื่ออับซาโลมได้กบฏต่อกษัตริย์ดาวิด ศาโดกได้สนับสนุนดาวิดและได้ช่วยนำหีบพันธสัญญาไปยังกรุงเยรูซาเล็ม
- หลายปีต่อมาเขาได้มีส่วนร่วมในพิธีสถาปนาซาโลมอนราชบุตรของดาวิดให้เป็นกษัตริย์
- ชายสองคนที่ต่างกัน ที่มีชื่อศาโดกได้ช่วยสร้างกำแพงกรุงเยรูซาเล็มขึ้นใหม่ในช่วงเวลาของเนหะมีย์
- ศาโดกเป็นชื่อของปู่ของกษัตริย์โยธาม
เศคาริยาห์ (พันธสัญญาเดิม)
ข้อเท็จจริง
เศคาริยาห์เป็นผู้เผยพระวจนะผู้ที่ได้เผยพระวจนะในรัชสมัยของกษัตริย์ดาริอัสที่ 1 ของเปอร์เซีย ในพันธสัญญาเดิม พระธรรมเศคาริยาห์ได้บันทึกถ้อยคำเผยพระวจนะของเขาไว้ ซึ่งกระตุ้นการกลับจากการเป็นเชลยเพื่อไปก่อสร้างพระวิหารขึ้นใหม่อีกครั้ง
- ผู้เผยพระวจนะเศคาริยาห์ มีชีวิตอยู่ในสมัยเดียวกับเอสรา เนหะมีย์ เศรุบบาเบล และฮักกัย เขาถูกเอ่ยชื่อโดยพระเยซูในฐานะผู้เผยพระวจนะคนสุดท้ายที่ถูกฆาตกรรมในสมัยพันธสัญญาเดิม
- ผู้ชายอีกคนหนึ่งที่ชื่อเศคาริยาห์ เป็นยามเฝ้าประตูพระวิหารในช่วงเวลาของดาวิด
- เศคาริยาห์ เป็นชื่อของปุโรหิตที่ถูกประชาชนอิสราเอลเอาหินขว้างตายเมื่อเขาได้ตำหนิพวกเขาที่ไปนมัสการรูปเคารพ
- กษัตริย์เศคาริยาห์เป็นบุตรชายของเยโรโบอัมและเขาได้ปกครองเหนืออิราเอลเพียงหกเดือนก่อนถูกสังหาร
เศคาริยาห์ (พันธสัญญาใหม่)
ข้อเท็จจริง
ในพันธสัญญาใหม่ เศคาริยาห์เป็นปุโรหิตชาวยิวผู้เป็นบิดาของยอห์นผู้ให้บัพติศมา
- เศคาริยาห์ได้รักพระเจ้าและได้เชื่อฟังพระองค์
*เป็นเวลาหลายปีเศคาริยาห์และภรรยาของเขาเอลิซาเบธ ได้อธิษฐานอย่างจริงจังขอให้มีบุตร แต่ก็ยังไม่มีเลยสักคน เมื่อพวกเขามีอายุมากแล้วพระเจ้าก็ได้ทรงตอบคำอธิษฐานของพวกเขาและให้พวกเขามีบุตรชายหนึ่งคน
*เศคาริยาห์ได้ทำนายว่ายอห์นบุตรชายของเขาจะเป็นผู้เผยพระวจนะผู้ที่จะประกาศและเตรียมทางสำหรับพระเมสสิยาห์
เศเดคียาห์
ข้อเท็จจริง
เศเดคียาห์ บุตรชายของโยชีอา เป็นกษัตริย์องค์สุดท้ายของยูดาห์ (597-587 ก่อนคริสตศักราช) นอกจากนี้ยังมีอีกหลายคนที่ชื่อเศเดคียาห์ในพันธสัญญาเดิม
- กษัตริย์เนบูคัดเนสซาร์ได้ตั้งเศเดคียาห์เป็นกษัตริย์แห่งยูดาห์หลังจากที่ได้จับกษัตริย์เยโฮยาคีน และได้นำเขาไปยังกรุงบาบิโลน เศเดคียาห์ ต่อมาได้กบฏและผลที่ตามมา กษัตริย์เนบูคัดเนสซาร์ได้จับกุมเขาและได้ทำลายกรุงเยรูซาเล็มทั้งสิ้น
- เศเดคียาห์ บุตรชายของเคนาอันยาห์ เป็นผู้เผยพระวจนะเทียมเท็จในรัชสมัยของกษัตริย์อาหับแห่งอิสราเอล
- ผู้ชายที่ชื่อ เศเดคียาห์ เป็นหนึ่งในคนเหล่านั้นที่ได้ลงนามในข้อตกลงกับองค์พระผู้เป็นเจ้าในสมัยของเนหะมีย์
เศบูลุน
ข้อเท็จจริง
เศบูลุนเป็นบุตรชายคนสุดท้ายที่เกิดแก่ยาโคบและเลอาห์และเป็นชื่อของเผ่าหนึ่งในสิบสองเผ่าของอิสราเอล
- ชาวอิสราเอลเผ่าเศบูลุนได้รับแผ่นดินทางฝั่งตะวันตกของทะเลตาย
- บางครั้งชื่อ "เศบูลุน" ถูกนำมาใช้เพื่ออ้างถึงดินแดนที่ชนเผ่าอิสราเอลเหล่านี้ได้อาศัยอยู่
เศเบดี
ข้อเท็จจริง
เศเบดี เป็นชาวประมงจากกาลิลี ผู้ซึ่งเป็นที่รู้จักเพราะบุตรชายของเขาคือ เจมส์ และ ยอห์นเป็นสาวกของพระเยซู พวกเขาถูกระบุในพันธสัญญาใหม่บ่อยๆ ในฐานะ "บุตรชายของเศเบดี"
- พวกบุตรชายของเศเบดีก็เป็นชาวประมงด้วยเช่นกันและได้ทำงานกับเขาในการจับปลา
- เจมส์ และยอห์น ได้ละการทำประมงของบิดาของพวกเขา คือเศเบดี และได้จากไปติดตามพระเยซู
เศฟันยาห์
ข้อเท็จจริง
เศฟันยาห์ บุตรชายของคูชิ ผู้เผยพระวจนะที่ได้อาศัยอยูในกรุงเยรูซาเล็มและเป็นผู้เผยพระวจนะในรัชกาลโยสิยาห์กษัตริย์ของยูดาห์ เขาได้มีชีวิตอยู่ในสมัยเดียวกันกับเยเรมีย์
- เศฟันยาห์ได้ตำหนิประชาชนของยูดาห์ที่ไปนมัสการพระเทียมเท็จทั้งหลาย การเผยพระวจนะของเขาได้ถูกบันทึกไว้ในพระธรรมเศฟันยาห์ในพันธสัญญาเดิม
- มีผู้ชายอีกหลายคนในพันธสัญญาเดิมที่ชื่อ เศฟันยาห์ ส่วนใหญ่เป็นปุโรหิต
เศรุบบาเบล
ข้อเท็จจริง
เศรุบบาเบล เป็นชื่อของคนอิสราเอลสองคนในพันธสัญญาเดิม
- หนึ่งในสองคนนี้เป็นเชื้อสายของเยโฮยาคิมและเศเดคียาห์
- เศรุบบาเบลอีกคนเป็นบุตรชายของเชอัลเทียล เป็นหัวหน้าตระกูลยูดาห์ ในช่วงสมัยของเอสราและเนหะมีย์ เมื่อไซรัสกษัตริย์เปอร์เซียได้ปลดปล่อยคนอิสราเอลออกจากการเป็นทาสที่กรุงบาบิโลน
- เศรุบบาเบลและมหาปุโรหิตโยชูวาได้อยู่ในหมู่คนเหล่านั้นผู้ที่ช่วยสร้างพระวิหารและแท่นบูชาของพระเจ้า
สเทเฟน
ข้อเท็จจริง
สเตเฟนเป็นผู้ที่ถูกจดจำมากที่สุดในฐานะด้วยเขาเป็นคริสเตียนคนแรกที่ถูกฆ่าตายเพราะความเชื่อในพระเยซู ความจริงเกี่ยวกับชีวิตและความตายของเขานั้นถูกบันทึกไว้ในพระธรรมกิจการ
- สเทเฟนได้รับการแต่งตั้งโดยคริสตจักรยุคแรกในกรุงเยรูซาเล็มให้รับใช้คริสเตียนในฐานะมัคนายกเพื่อจัดเตรียมอาหารสำหรับแม่หม้ายและคริสเตียนอื่นๆ ที่ต้องการความช่วยเหลือ..
- ชาวยิวบางคนกล่าวหาสเทเฟนอย่างผิดๆ ว่าเขาพูดต่อต้านพระเจ้าและต่อต้านกฎบัญญัติของโมเสส
- สเทเฟนได้พูดอย่างกล้าหาญถึงความจริงเกี่ยวกับพระเยซูพระเมสิยาห์ เริ่มด้วยประวัติศาสตร์ที่พระเจ้าได้เกี่ยวข้องกับประชาชนอิสราเอล
- ผู้นำชาวยิวได้โกรธสเทเฟนมากและประหารชีวิตสเทเฟนโดยการกว้างก้อนหินใส่เขาจนตายนอกเมือง
- การถูกประหารของเขาได้ถูกเป็นพยานโดยเซาโลแห่งทาร์ซัส ซึ่งต่อมาได้เป็นอัครทูตเปาโล
*สเทเฟนยังเป็นที่รู้จักกันดีด้วยคำพูดสุดท้ายของเขาก่อนที่เขาจะเสียชีวิตว่า "องค์พระผู้เป็นเจ้า ขอทรงอย่าให้บาปนี้ตกแก่พวกเขาเลย" ซึ่งเป็นการแสดงความรักที่เขามีต่อผู้อื่น
สะมาเรีย ชาวสะมาเรีย
ข้อเท็จจริง
สะมาเรีย เป็นชื่อเมืองและบริเวณโดยรอบในภาคเหนือของอิสราเอล แถบนี้ตั้งอยู่ระหว่างที่ราบแห่งชารอนทางตะวันตกและแม่น้ำจอร์แดนทางตะวันออก
- ในพันธสัญญาเดิม เมืองสะมาเรียเป็นเมืองหลวงของอาณาจักรทางเหนือของอิสราเอล ต่อมาแถบที่อยู่โดยรอบก็ถูกเรียกว่า สะมาเรียด้วย
- เมื่อชาวอัสซีเรียได้พิชิตอาณาจักรทางเหนือของอิสราเอลแล้ว พวกเขาได้ยึดครองเมืองสะมาเรียและบังคับชาวอิสราเอลส่วนใหญ่ที่อยู่ทางเหนือให้ออกจากแถบนี้และอพยพคนเหล่านี้ไปยังเมืองต่างๆ ที่อยู่ไกลในอัสซีเรีย
- ชาวอัสซีเรียได้นำชาวต่างชาติหลายคนเข้ามาอยู่ในแถบสะมาเรียเพื่อไปแทนที่ชาวอิสราเอลที่ถูกย้ายออกไป
- ชาวอิสราเอลส่วนหนึ่งที่เหลืออยู่ในแถบสะมาเรียได้แต่งงานกับชาวต่างชาติที่ได้ย้ายเข้ามาอยู่ที่นั่น และลูกหลานของพวกเขาถูกเรียกว่า ชาวสะมาเรีย
- ชาวยิวเหยียดหยามชาวสะมาเรียเพราะว่าพวกเขาเป็นชาวยิวเพียงส่วนเดียวและเพราะว่าบรรพบุรุษของพวกเขาได้นมัสการพระเทียมเท็จ
- ในยุคพันธสัญญาใหม่แถบสะมาเรียได้ถูกกันเขตแดนโดยแถบกาลิลีทางเหนือและแถบยูเดียทางตอนใต้
สิเมโอน
ข้อเท็จจริง
ในพระคัมภีร์มีผู้ชายหลายคนที่ชื่อว่าสิเมโอน
- ในพันธสัญญาเดิมบุตรชายคนที่สองของยาโคบ (อิสราเอล) และเลอาห์ก็ชื่อสิเมโอน บรรดาเชื้อสายของเขากลายมาเป็นหนึ่งในอิสราเอลสิบสองเผ่า
- เผาสิเมโอนได้ครอบครองดินแดนที่อยู่ทางใต้สุดในแผ่นดินที่ทรงสัญญาของคานาอัน บนพื้นที่ที่เป็นส่วนมรดกของยูดาห์
- เมื่อโยเซฟและมารีย์ ได้นำทารกเยซูไปยังพระวิหารในกรุงเยรูซาเล็มเพื่อถวายพระองค์ให้แด่พระเจ้า ชายผู้อาวุโสชายท่านหนึ่งชื่อสิเมโอนได้สรรเสริญพระเจ้าที่ทรงให้เขาได้เห็นพระเมสิยาห์
สิลาส, สิลวานัส
ข้อเท็จจริง
สิลาสเป็นผู้นำคนหนึ่งท่ามกลางในหมู่ผู้เชื่อในกรุงเยรูซาเล็ม
- ผู้ปกครองทั้งหลายของคริสตจักรในกรุงเยรูซาเล็มได้แต่งตั้งสิลาสให้เดินทางไปกับเปาโลและบารนาบัสเพื่อนำจดหมายไปส่งยังเมืองอันทิโอก
- ต่อมาสิลาสได้เดินทางร่วมกับเปาโลไปยังเมืองต่างๆ เพื่อสอนผู้คนถึงเรื่องพระเยซู
- เปาโลและสิลาสถูกขังคุกในเมืองฟิลิปปี พวกเขาได้สรรเสริญพระเจ้าในขณะที่พวกเขาอยู่ที่นั่น และพระเจ้าได้ทรงปล่อยพวกเขาออกจากคุก ผู้คุมคุกจึงกลับใจมาเป็นคริสเตียนซึ่งเป็นผลมาจากคำพยานของพวกเขา
สุคท
ข้อเท็จจริง
สุคทเป็นชื่อของเมืองสองเมืองในพันธสัญญาเดิม คำว่า "สุคท"(หรือ "สุคคท") หมายความว่า "ที่พักอาศัย"
- เมืองแรกมีชื่อว่าสุคทเป็นเมืองที่ตั้งอยู่ในฝั่งตะวันออกของแม่น้ำจอร์แดน
- ยาโคบได้อยู่ที่สุคทกับครอบครัวของเขา พร้อมด้วยฝูงแกะและได้สร้างที่พักอาศัยสำหรับพวกเขานั่น
- หลายร้อยปีต่อมา กิเดโอนและพร้อมด้วยเหล่าทหารที่แสนเหน็ดเหนื่อยของเขาได้หยุดพักที่สุคทในระหว่างที่พวกเขาได้ไล่ตามชาวมีเดียน แต่ผู้คนที่นั่นไม่ยอมให้อาหารพวกเขาเลย
- เมืองสุคทเมืองที่สองตั้งอยู่ทางเหนือของเขตแดนอียิปต์และเป็นที่ซึ่งชาวอิสราเอลได้หยุดพักหลังจากที่พวกเขาได้เดินทางข้ามทะเลแดงในขณะที่พวกเขาหนีจากการเป็นทาสจากอียิปต์
เสท
ข้อเท็จจริง
ในพระธรรมปฐมกาล เสทเป็นบุตรชายคนที่สามของอาดัมและเอวา
- เอวาได้กล่าวว่าเธอได้เสทมาเป็นบุตรชายแทนอาแบลซึ่งเป็นบุตรชายอีกคนหนึ่งของเอวาที่ถูกฆ่าโดยคาอินพี่ชายของเขา
- โนอาห์เป็นหนึ่งในผู้สืบเชื้อสายจากเสท ดังนั้นทุกคนที่มีชีวิตอยู่ตั้งแต่ช่วงน้ำท่วมโลกก็เป็นผู้สืบเชื้อสายของเสทด้วยเช่นกัน
- เสทและครอบครัวของเขาเป็นประชาชนกลุ่มแรกที่ "ออกพระนามของพระผู้เป็นเจ้า"
โสโดม
ข้อเท็จจริง
โสโดมเป็นเมืองที่อยู่ตอนใต้ของคานาอัน ซึ่งเป็นสถานที่หลานชายของอับราฮาม คือ โลทอาศัยอยู่กับภรรยาและลูกหลานของเขา
- แผ่นดินของพื้นที่รอบเมืองโสโดมเป็นพื้นที่ชุ่มน้ำและอุดมสมบูรณ์ ดังนั้นจึงนั่นเป็นที่ที่โลทได้เลือกที่จะอาศัยอยู่ในตอนที่ตั้งถิ่นฐานในคานาอัน
- สถานที่ตั้งที่แน่นอนของเมืองนี้ไม่เป็นที่ทราบชัด เพราะว่าเมืองโสโดมและเมืองที่อยู่ใกล้เมืองโกโมราห์ทั้งหมดถูกพระเจ้าทรงทำลายอย่างสิ้นซาก เพื่อเป็นการลงโทษสิ่งชั่วร้ายที่ประชาชนได้กระทำอยู่
- ความบาปที่ชั่วร้ายที่สุดที่ประชาชนในเมืองโสโดมและเมืองโกโมราห์กระทำอยู่คือการรักร่วมเพศ
หุบเขาขิดโรน
ข้อเท็จจริง
หุบเขาขิดโรนเป็นหุบเขาลึกอยู่นอกกรุงเยรูซาเล็ม อยู่ระหว่างกำแพงทางทิศตะวันออกกับภูเขามะกอกเทศ
- หุบเขานี้ลึกมากกว่า 1,000 เมตร และยาวประมาณ 32 กิโลเมตร
- เมื่อกษัตริย์ดาวิดกำลังหลบหนีจากบุตรชายของเขาคือ อับซาโลม พระองค์ได้ผ่านหุบเขาขิดโรนเพื่อไปยังภูเขามะกอกเทศ
- กษัตริย์โยสิยาห์และกษัตริย์อาสาแห่งยูดาห์ได้สั่งให้สถานสูงและแท่นบูชาของพระเทียมเท็จต้องถูกทำลายและถูกเผาเสีย และขี้เถ้าถูกทิ้งในหุบเขาขิดโรน
- ในช่วงระหว่างการครองราชย์ของกษัตริย์เฮเซคียาห์ หุบเขาขิดโรนคือที่ที่บรรดาปุโรหิตได้ทิ้งทุกสิ่งที่ไม่บริสุทธิ์ที่พวกเขากำจัดออกจากพระวิหาร
- พระราชินีที่ชั่วร้ายคือ อาธาลิยาห์ ได้ถูกสังหารในหุบเขานี้เพราะสิ่งชั่วร้ายที่เธอได้กระทำ
อปอลโล
ข้อเท็จจริง
อปอลโลเป็นคนยิวที่มาจากเมืองอเล็กซานเดรียในอียิปต์ เขามีความสามารถพิเศษในการสอนเรื่องพระเยซูให้แก่ผู้คน
- อปอลโลเป็นคนที่มีการศึกษาดีในพระคัมภีร์ฮีบรูและมีของประทานในเรื่องการพูด
- เขาได้รับการอบรมจากคริสเตียนสองคนในเมืองเอเฟซัสชื่อ อาควิลลาและปริสสิลลา
- เปาโลได้เน้นว่าทั้งท่านและอปอลโล เป็นเช่นเดียวกันกับพวกผู้ประกาศข่าวประเสริฐและครูคนอื่นๆ ซึ่งกำลังทำงานเพื่อเป้าหมายเดียวกันในการช่วยให้ผู้คนศรัทธาในพระเยซู
อมรี
ข้อเท็จจริง
อมรีเป็นผู้บัญชาการกองทัพผู้ที่ได้กลายเป็นกษัตริย์องค์ที่หกของอิสราเอล
- กษัตริย์อมรีทรงครอบครอง 12 ปีในเมืองทีรซาห์
- เช่นเดียวกับกษัตริย์ทุกพระองค์ก่อนหน้าพระองค์ กษัตริย์อมรีทรงเป็นกษัตริย์ที่ชั่วร้ายมากที่ได้นำประชากรอิสราเอลให้นมัสการพระอื่น
- อมรียังเป็นบิดาของกษัตรย์อาหับอีกด้วย
อัชเคโลน
ข้อเท็จจริง
ในสมัยพระคัมภีร์ อัชเคโลนเป็นเมืองหลักของฟีลิสเตียที่ตั้งอยู่บนชายฝั่งทะเลเมดิเตอร์เรเนี่ยน และยังคงมีอยู่ในอิสราเอลจนทุกวันนี้
- เมืองอัชเคโลนเป็นหนึ่งในห้าเมืองที่สำคัญที่สุดของฟีลิสเตีย เช่นเดียวกับเมืองอัชโดด เมืองเอโครน เมืองกัท และเมืองกาซา
- คนอิสราเอลไม่ได้รับชัยชนะอย่างเด็ดขาดเหนือชาวเมืองอัชเคโลน แม้ว่าอาณาจักรยูดาห์จะได้ยึดครองประเทศเทือกเขาเหล่านี้
- อัชเคโลนได้ถูกยึดครองโดยฟีลิสเตียเป็นเวลาหลายร้อยปี
อัชโดด, อาโซทัส
ข้อเท็จจริง
อัชโดดเป็นหนึ่งในห้าเมืองที่สำคัญที่สุดของคนฟีลิสเตีย ตั้งอยู่ในภาคตะวันตกเฉียงใต้ของคานาอันใกล้กับทะเลเมดิเตอร์เรเนี่ยน อยู่ระหว่างทางจากเมืองกาซาไปเมืองยัฟฟา
- วิหารของพระดาโกน พระเทียมเท็จของคนฟีลิสเตียตั้งอยู่ในเมืองอัชโดด
- พระเจ้าทรงลงโทษชาวเมืองอัชโดดเมื่อคนฟีลิสเตียได้ขโมยเอาหีบพันธสัญญาไป และเอาไปไว้ในวิหารพระนอกรีตในเมืองอัชโดด
- ชื่อภาษากรีกของเมืองนี้คือ อาโซทัส เป็นหนึ่งในเมืองที่ผู้ประกาศข่าวประเสริฐฟีลิปได้ประกาศข่าวประเสริฐ
อันดูรว์
ข้อเท็จจริง
อันดูรว์เป็นหนึ่งในผู้ชายสิบสองคนที่พระเยซูทรงได้เลือกให้เป็นสาวกที่ใกล้ชิดที่สุด (ภายหลังเรียกว่าพวกอัครทูต)
- พี่ชายของอันดูรว์คือซีโมน เปโตร พวกเขาทั้งสองเป็นชาวประมง
- เปโตรและอันดูรว์กำลังหาปลาในทะเลกาลิลี เมื่อพระเยซูทรงเรียกพวกเขาให้มาเป็นสาวกของพระองค์
- ก่อนที่เปโตรและอันดูรว์จะพบกับพระเยซู พวกเขาเคยเป็นสาวกของยอห์นผู้ให้บัพติศมามาก่อน
อันทิโอก
ข้อเท็จจริง
อันทิโอกเป็นชื่อของเมืองสองเมืองในพันธสัญญาใหม่ เมืองหนึ่งอยู่ในแคว้นซีเรีย ใกล้กับชายฝั่งทะเลเมดิเตอร์เรเนี่ยน อีกเมืองหนึ่งอยู่ในแคว้นปีสีเดียของอาณาจักรโรม ใกล้กับเมืองโคโลสี
- คริสตจักรท้องถิ่นในเมืองอันทิโอก แคว้นซีเรีย เป็นคริสตจักรแห่งแรกที่บรรดาผู้ศรัทธาในพระเยซูถูกเรียกว่า "คริสเตียน" คริสตจักรที่นั่นได้ร้อนรนในการส่งผู้ประกาศข่าวประเสริฐไปยังคนต่างชาติ
- พวกผู้นำคริสตจักรในกรุงเยรูซาเล็มได้ส่งจดหมายฉบับหนึ่งไปยังผู้ศรัทธาในคริสตจักรที่เมืองอันทิโอก แคว้นซีเรียเพื่อช่วยให้พวกเขารู้ว่าในการที่จะเป็นคริสเตียนนั้น พวกเขาไม่ต้องรักษาบทบัญญัติของยิว
- เปาโล บารนาบัส และยอห์น มาระโก ได้เดินไปทางไปยังเมืองอันทิโอก แคว้นปิสิเดียเพื่อประกาศข่าวประเสริฐ มีคนยิวบางคนจากเมืองอื่นๆ มาสร้างปัญหาก่อกวนและพยายามฆ่าเปาโล แต่มีคนมากมายทั้งคนยิวและคนต่างชาติได้ฟังคำสอนและได้ศรัทธาในพระเยซู
อันนาส
ข้อเท็จจริง
อันนาสเป็นมหาปุโรหิตคนยิวในกรุงเยรูซาเล็มเป็นเวลา 10 ปี ประมาณปี ค.ศ. 6 ถึง ค.ศ. 15 แล้วก็ถูกรัฐบาลโรมปลดออกจากการเป็นมหาปุโรหิต แต่เขาก็ยังเป็นผู้นำที่ทรงอิทธิพลท่ามกลางคนยิวต่อไป
- อันนาสเป็นพ่อตาของคายาฟาสซึ่งเป็นมหาปุโรหิตในสมัยที่พระเยซูทรงกระทำพันธกิจ
- หลังจากที่มหาปุโรหิตเกษียณแล้ว พวกเขายังคงให้ใช้ชื่อตำแหน่งต่อไป พร้อมกับมีหน้าที่รับผิดชอบอยู่บ้าง ดังนั้นอันนาสยังถูกเอ่ยถึงว่าเป็นมหาปุโรหิตอยู่ในยุคของมหาปุโรหิตคายาฟาสและคนอื่นๆ
- ในช่วงการแก้คดีต่อหน้าพวกผู้นำยิว พระเยซูทรงถูกนำมาให้อันนาสใต่สวนก่อน
อับซาโลม
ข้อเท็จจริง
อับซาโลมเป็นพระโอรสองค์ที่สามของกษัตริย์ดาวิด เขาได้ชื่อว่าเป็นคนรูปหล่อและเจ้าอารมณ์
- เมื่อทามาร์น้องสาวของอับซาโลมถูกข่มขืนโดยอัมโนนซึ่งเป็นพี่น้องต่างมารดา อับซาโลมได้วางแผนฆ่าอัมโนน
- หลังจากที่ฆ่าอัมโนนแล้ว อับซาโลมได้หนีไปยังแคว้นของคนเกชูร์ (ที่ซื่งมาอาคาห์มารดาของเขาจากมา) และอยู่ที่นั่นสามปี แล้วกษัตริย์ดาวิดทรงได้บอกให้เขากลับมายังกรุงเยรูซาเล็ม แต่ทรงไม่อนุญาตให้เข้าเฝ้าเป็นเวลาสองปี
- อับซาโลมได้ชักชวนประชาชนบางส่วนให้ต่อต้านกษัตริย์ดาวิดและกบฎต่อพระองค์
- ทหารของดาวิดได้ต่อสู้กับอับซาโลมและได้ฆ่าเขาเสีย ดาวิดเสียใจเป็นอย่างยิ่งต่อเหตุการณ์นี้
อับเนอร์
ข้อเท็จจริง
ในพันธสัญญาเดิม อับเนอร์เป็นลูกพี่ลูกน้องของกษัตริย์ซาอูล
- อับเนอร์เป็นผู้บัญชาการกองทหารของซาอูล และได้พาเด็กหนุ่มดาวิดไปเฝ้าซาอูลหลังจากที่ดาวิดได้ฆ่ายักษ์โกลิอัทแล้ว
- หลังจากที่กษัตริย์ซาอูลสวรรคต อับเนอร์ได้แต่งตั้งอิชโบเชทพระโอรสของซาอูลเป็นกษัตริย์ของอิสราเอล ในขณะที่ดาวิดได้รับการแต่งตั้งให้เป็นกษัตริย์ของยูดาห์
- ภายหลัง โยอาบซึ่งเป็นผู้บัญชาการทหารของดาวิดได้แอบฆ่าอับเนอร์
อับราฮัม, อับราม
ข้อเท็จจริง
อับรามเป็นคนเคลเดียมาจากเมืองเออร์ เป็นผู้ได้รับการทรงเลือกจากพระเจ้าให้เป็นบรรพบุรุษของคนอิสราเอล พระเจ้าทรงได้เปลี่ยนชื่อของท่านเป็น "อับราฮัม"
- ชื่อ "อับราม" หมายความว่า "บิดาที่ได้รับการยกย่อง"
- "อับราฮัม" หมายความว่า "บิดาของคนทั้งหลาย"
- พระเจ้าทรงได้สัญญากับฮับราอัมว่า เขาจะมีเชื้อสายมากมาย ซึ่งพวกเขาทั้งหลายจะกลายเป็นชนชาติใหญ่
- อับราฮัมได้ศรัทธาในพระเจ้าและเชื่อฟังพระองค์ พระเจ้าทรงได้นำอับราฮัมให้ย้ายออกจากถิ่นของคนเคลเดียไปยังแผ่นดินคานาอัน
- ในขณะที่อาศัยอยู่ในแผ่นดินคานาอัน เมื่อพวกเขาชรามากแล้ว อับราฮัมและนางซาราห์ภรรยาของเขาก็ได้มีบุตรชายคนหนึ่งชื่อ อิสอัค
อัมโนน
ข้อเท็จจริง
อัมโนนเป็นโอรสองค์โตของกษัตริย์ดาวิดกับอาหิโนอัม มเหสีของพระองค์
- อัมโนนได้ข่มขืนทามาร์น้องสาวต่างมารดาของเขา ซึ่งเป็นน้องสาวของอับซาโลม
- เพราะเหตุนี้ อับซาโลมจึงได้วางแผนร้ายต่ออัมโนนและได้ฆ่าอัมโนนเสีย
อัมโมน, คนอัมโมน, หญิงอัมโมน
ข้อเท็จจริง
คำว่า "ประชาชนอัมโมน" หรือ "คนอัมโมน" คือกลุ่มคนในแผ่นดินคานาอัน พวกเขาสืบเชื้อสายมาจากเบน-อัมมี ผู้ซึ่งเป็นบุตรชายของโลทที่เกิดจากลูกสาวคนเล็กของโลท
- คำว่า "หญิงอัมโมน" กล่าวถึงผู้หญิงอัมโมนโดยเฉพาะ คำนี้สามารถแปลได้อีกว่า "ผู้หญิงชาวอัมโมน"
- คนอัมโมนอาศัยอยู่ฝั่งตะวันออกของแม่น้ำจอร์แดน และเป็นพวกศัตรูของคนอิสราเอล
- มีครั้งหนึ่ง คนอัมโมนได้จ้างผู้เผยพระวจนะคนหนึ่งชื่อว่าบาลาอัม เพื่อให้ไปแช่งสาปอิสราเอล แต่พระเจ้าไม่ทรงอนุญาต
อัย
ข้อเท็จจริง
ในสมัยของพันธสัญญาเดิม อัยเป็นชื่อเมืองของชาวคานาอัน ที่ตั้งอยู่ทางทิศใต้ของเมืองเบธเอล อยู่ห่างจากเมืองเยรีโคไปทางทิศตะวันตกเฉียงเหนือประมาณ 8 กม.
- หลังจากเอาชนะเมืองเยรีโคแล้ว โยชูวาได้นำพวกอิสราเอลบุกโจมตีเมืองอัย แต่ว่าพวกเขากลับพ่ายแพ้อย่างง่ายดายเพราะพระเจ้าไม่ทรงพอพระทัยในพวกเขา
- มีคนอิสราเอลคนหนึ่งชื่อ อาคาน ได้ขโมยทรัพย์สินที่ยึดมาจากเมืองเยรีโค และพระเจ้าได้ทรงบัญชาให้ฆ่าเขาทั้งครอบครัว แล้วพระเจ้าได้ทรงช่วยให้พวกอิสราเอลเอาชนะชาวเมืองอัยได้
อัสซีเรีย, คนอัสซีเรีย, อาณาจักรอัสซีเรีย
ข้อเท็จจริง
อัสซีเรียเป็นชนชาติที่มีอำนาจมากในสมัยที่คนอิสราเอลอาศัยอยู่ในแผ่นดินคานาอัน อาณาจักรอัสซีเรียเป็นกลุ่มประเทศต่างๆ ที่ถูกปกครองโดยกษัตริย์อัสซีเรีย
- ประเทศอัสซีเรียตั้งอยู่ในพื้นที่ทางภาคเหนือของประเทศอิรักในปัจจุบัน
- คนอัสซีเรียต่อสู้กับคนอิสราเอลหลายครั้งในประวัติศาสตร์ของพวกเขา
- ในปี 722 ก.ค.ศ. คนอัสซีเรียได้ชัยชนะเด็ดขาดเหนืออาณาจักรอิสราเอลและบังคับให้คนอิสราเอลมากมายย้ายไปอยู่ในอัสซีเรีย
- คนอิสราเอลที่เหลือในประเทศได้แต่งงานกับคนต่างชาติที่คนอัสซีเรียนำเข้ามาจากสะมาเรียให้มาอยู่ในอิสราเอล เชื้อสายของคนที่แต่งงานกับคนต่างชาตินั้น ภายหลังถูกเรียกว่าคนสะมาเรีย
อาควิลลา
ข้อเท็จจริง
อาควิลลาเป็นคริสเตียนชาวยิวที่มาจากแคว้นปอนทัส ซึ่งเป็นพื้นที่ยาวไปตามชายฝั่งทางใต้ของทะเลดำ
- อาควิลลาและปริสสิลลาอาศัยอยู่ในกรุงโรม ประเทศอิตาลีระยะหนึ่ง แต่เมื่อจักรพรรดิ์โรมคือ คลาวดิอัส บังคับให้คนยิวทั้งหมดให้ออกไปจากกรุงโรม
- หลังจากนั้น อาควิลลาและปริสสิลลาได้เดินทางมายังเมืองโครินธ์ ที่ซึ่งพวกเขาได้พบกับอัครทูตเปาโล
- พวกเขาได้ทำงานเป็นช่างเย็บเต็นท์กับเปาโล และยังช่วยงานการประกาศของเปาโลด้วย
- ทั้งอาควิลลาและปริสสิลาได้สอนบรรดาผู้ที่ศรัทธาถึงความจริงเรื่องพระเยซู หนึ่งในบรรดาผู้ศรัทธานั้นเป็นคนมีของประทานในการเป็นครูสอนเขามีชื่อว่า อปอลโล
อาเช-ราห์, เสาอาเช-ราห์, อัชโทเรท
ข้อเท็จจริง
อาเชราห์เป็นชื่อของเจ้าแม่ที่คนคานาอันกราบไหว้ในสมัยพันธสัญญาเดิม "อัชโทเรท" อาจเป็นอีกชื่อหนึ่งของ "อาเชราห์" หรืออาจเป็นเจ้าแม่อีกองค์หนึ่งที่คล้ายๆ กัน
- คำว่า "เสาอาเชราห์" กล่าวถึงเสาไม้ที่ถูกแกะสลักรูปหรือต้นไม้ที่ถูกแกะสลักเพื่อใช้เป็นตัวแทนของเจ้าแม่
- เสาอาเชราห์มักจะตั้งอยู่ใกล้ๆ แท่นบูชาพระเทียมเท็จบาอัล ซึ่งผู้คนคิดว่าเป็นสามีของเจ้าแม่อาเชราห์ คนบางกลุ่มกราบไหว้พระบาอัลเป็นเหมือนเทพแห่งดวงอาทิตย์ และเจ้าแม่อาเชราห์หรืออัชโทเรทเป็นเหมือนเจ้าแม่แห่งดวงจันทร์
- พระเจ้าทรงสั่งให้คนอิสราเอลทำลายรูปแกะสลักของอาเชราห์ทั้งหมด
- ผู้นำอิสราเอลบางคนเช่นกิเดโอน กษัตริย์อาสา และกษัตริย์โยสิยาห์ เชื่อฟังพระเจ้า และได้พาประชาชนทำลายรูปเคารพเหล่านี้
- แต่ผู้นำอิสราเอลคนอื่นๆ เช่น กษัตริย์ซาโลมอน กษัตริย์มนัสเสห์ และกษัตริย์อาหับ ไม่ได้ทำลายเสาอาเชราห์ และยังได้ชักชวนให้ประชาชนกราบไหว้รูปเคารพเหล่านี้
อาเชอร์
ข้อเท็จจริง
อาเชอร์เป็นบุตรชายคนที่แปดของยาโคบ เชื้อสายของเขาได้กลายเป็นหนึ่งสิบสองเผ่าของอิสราเอลซึ่งมีชื่อเผ่าว่า "อาเชอร์" ด้วย
- มารดาของอาเชอร์คือนางศิลปาห์ เป็นสาวใช้ของนางเลอาห์
- ชื่อของเขามีความหมายว่า "ความสุข" หรือ "เป็นสุข"
- อาเชอร์ยังเป็นชื่อของดินแดนที่มอบให้แก่เผ่าอาเชอร์ เมื่อคนอิสราเอลได้เข้าไปในแผ่นดินแห่งพระสัญญา
อาซาริยาห์
ข้อเท็จจริง
อาซาริยาห์เป็นชื่อของผู้ชายหลายคนในพันธสัญญาเดิม
- อาซาริยาห์คนหนึ่งเป็นที่รู้จักกันดีในชื่อภาษาบาบิโลนว่า อาเบดเนโก เขาเป็นหนึ่งในคนอิสราเอลมากมายที่มาจากยูดาห์ ผู้ที่ถูกจับไปเป็นเชลยโดยกองทัพของเนบูคัดเนสซาร์ และถูกนำไปอยู่ในกรุงบาบิโลน อาซาริยาห์และเพื่อนคนอิสราเอลของเขาคือ ฮานันยาห์ และมิชาเอล ได้ปฏิเสธที่จะนมัสการกษัตริย์บาบิโลน ดังนั้นพวกเขาจึงถูกโยนเข้าเตาไฟเพื่อเป็นการลงโทษ แต่พระเจ้าทรงได้คุ้มครองพวกเขา และพวกเขาไม่ได้รับบาดเจ็บใดๆ เลย
- อุสซียาห์ กษัตริย์ของยูดาห์ก็ถูกเรียกว่า "อาซาริยาห์" ด้วย
- อาซาริยาห์อีกคนหนึ่งเป็นมหาปุโรหิตในพันธสัญญาเดิม
- ในสมัยของผู้เผยพระวจนะเยเรมีย์ มีชายคนหนึ่งชื่อ อาซาริยาห์ ได้ชักชวนให้คนอิสราเอลไม่เชื่อฟังพระเจ้าโดยการให้ละทิ้งบ้านเกิดของตนเอง
อาณาจักรอิสราเอล
ข้อเท็จจริง
คำว่า "อาณาจักรอิสราเอล" อ้างถึงส่วงทางเหนือของประเทศอิสราเอลเมื่อสิบสองเผ่าของอิสราเอลถูกแบ่งออกเป็นสองอาณาจักรหลังจากหลังจากกษัตริย์ซาโลมอนสวรรคต
- อาณาจักรของอิสราเอลในตอนเหนือมีสิบเผ่าและอาณาจักรยูดาห์ในตอนใต้มีสองเผ่า
- เมื่อหลวงของอาณาจักรอิสราเอลคือสะมาเรีย ซึ่งอยู่ห่างประมาณ 50 กิโลเมตรจากกรุงเยรูซาเล็ม เมืองหลวงของยูดาห์
- กษัตริย์ทุกพระองค์แห่งราชอาณาจักรอิสราเอลล้วนชั่วร้าย พวกเขาใช้อิทธิพลให้ประชากรปรนนิบัติรูปเคารพและพระเทียมเท็จแทน
- พระเจ้าได้ทรงส่งอัสซีเรียดจมต่อาณาจักรอิสราเอล ประชาชนอิสราเลจำนวนมากถูกจับเป็นเชลยและถูกกวาดต้อนไปใช้ชีวิตในอัสซีเรีย
- พวกอัสซีเรียได้นำพวกคนต่างชาติเขามาอาศัยร่วมอยู่กับประชากรที่เหลืออยู่เพียงเล็กน้อยในอาณาจักรอิสราเอล คนต่างชาติเหล่านี้แต่งงานกับชาวอิสราเอลและเชื้อสายของพวกเขาคือชาวสะมาเรีย
อาดัม
ข้อเท็จจริง
อาดัมเป็นบุคคลแรกที่พระเจ้าได้ทรงสร้าง เขาและเอวาภรรยาของเขาถูกสร้างตามพระฉายาของพระเจ้า
- พระเจ้าทรงได้สร้างอาดัมขึ้นมาจากดินและระบายลมหายใจแห่งชีวิตเข้าไปในเขา
- ชื่ออาดัมคล้ายกับคำในภาษาฮีบรูที่แปลว่า "ดินแดง" หรือ "พื้นดิน"
- คำว่า "อาดัม" เป็นคำเดียวกับคำในพันธสัญญาเดิมที่ใช้เรียก "มนุษยชาติ" หรือ "มนุษย์"
- มนุษย์ทุกคนเป็นเชื้อสายของอาดัมและเอวา
- อาดัมและเอวาไม่เชื่อฟังพระเจ้า ทำให้พวกเขาได้แยกตัวออกจากพระเจ้า และทำให้เกิดความบาปและความตายเข้ามาในโลก
อาโดนียาห์
ข้อเท็จจริง
อาโดนียาห์เป็นพระโอรสองค์ที่สี่ของกษัตริย์ดาวิด
- อาโดนียาห์ได้พยายามที่จะยึดอำนาจเป็นกษัตริย์อิสราเอล หลังจากการเสียชีวิตพี่ชายของเขาคืออับซาโลมและอัมโนน
- แต่ว่าพระเจ้าทรงได้สัญญาที่จะมอบบัลลังก์ให้แก่ซาโลมอน พระโอรสของดาวิด ดังนั้นแผนของอาโดนียาห์จึงล้มเหลวและซาโลอนทรงได้ขึ้นครองบัลลังก์
- เมื่ออาโดนียาห์ได้พยายามครั้งที่สอง ที่จะตั้งตัวเองเป็นกษัตริย์ ซาโลมอนทรงได้สั่งประหารชีวิตเขาเสีย
อาธาลิยาห์
ข้อเท็จจริง
อาธาลิยาห์เป็นมเหสีที่ชั่วร้ายของกษัตริย์เยโฮรัมแห่งยูดาห์ นางเป็นหลานสาวของกษัตริย์อมรีผู้ชั่วร้ายแห่งอิสราเอล
- อาหัสยาห์ โอรสของพระนางอาธาลิยาห์ได้ขึ้นเป็นกษัตริย์หลังจากที่กษัตริย์เยโฮรัมสวรรคต
- เมื่อกษัตริย์อาหัสยาห์ โอรสของพระนางได้สวรรคต อาธาลิยาห์ได้วางแผนที่จะฆ่าราชวงค์ของกษัตริย์ที่เหลืออยู่เสีย
- แต่โยอาช หลานคนเล็กของพระนางอาธาลิยาห์ได้ถูกซ่อนไว้โดยป้าของเขา และรอดพ้นจากการถูกฆ่า ต่อมาภายหลังโยอาชได้กลายเป็นกษัตริย์ของยูดาห์
อาบีเมเลค
ข้อเท็จจริง
อาบีเมเลคเป็นกษัตริย์ฟีลิสเตียที่ปกครองแคว้นเก-ราห์ในช่วงเวลาที่อับราฮัมและอิสอัคอาศัยอยู่ในแผ่นดินคานาอัน
- อับราฮัมได้โกหกกษัตริย์อาบีเมเลคว่าซาราห์เป็นน้องสาวของเขาแทนที่จะบอกว่านางเป็นภรรยาของท่าน
- อับราฮัมและอาบีเมเลคได้ทำข้อตกลงกันเรื่องสิทธิ์การเป็นเจ้าของบ่อน้ำที่เบเออร์เชบา
- หลายปีต่อมา อิสอัคก็ได้หลอกอาบีเมเลคและผู้ชายทั้งหลาย แห่งเก-ราห์ ว่าเรเบคาห์เป็นน้องสาว ไม่ใช่ภรรยาของเขา
- กษัตริย์อาบีเมเลคทรงได้ตำหนิอับราฮัมและอิสอัคในเรื่องการโกหกพระองค์
- บุตรชายคนหนึ่งของกิเดโอนมีชื่อว่าอาบีเมเลค เขาเป็นพี่ชายคนหนึ่งของโยธาม พระคัมภีร์บางฉบับได้สะกดชื่อของเขาแตกต่างกันบ้างเล็กน้อย เพื่อทำให้แตกต่างจากชื่อกษัตริย์อาบีเมเลค
อาบียาธาร์
ข้อเท็จจริง
ในสมัยของกษัตริย์ดาวิด อาบียาธาร์ได้เป็นมหาปุโรหิตของชนชาติอิสราเอล
- เมื่อกษัตริย์ซาอูลฆ่าพวกปุโรหิต อาบียาธาร์ได้หลบหนีไปหาดาวิดในถิ่นทุรกันดาร
- อาบียาธาร์และมหาปุโรหิตอีกท่านหนึ่งชื่อศาโดกได้รับใช้ดาวิดอย่างซื่อสัตย์ตลอดรัชสมัยของดาวิด
- หลังจากดาวิดสวรรคต อาบียาธาร์ได้พยายามสนับสนุนอาโดนียาห์ขึ้นเป็นกษัตริย์แทนที่จะเป็นซาโลมอน
- เพราะเหตุนี้ กษัตริย์ซาโลมอนจึงทรงได้ปลดอาบียาธาร์ออกจากการเป็นปุโรหิต
(ดูที่: Zadok · Saul (OT) · David · Solomon · Adonijah)
อาบียาห์
ข้อเท็จจริง
อาบียาห์เป็นชื่อของกษัตริย์องค์หนึ่งของยูดาห์ ผู้ซึ่งปกครองตั้งแต่ปี 915-913 ก.ค.ศ. พระองค์ทรงเป็นพระโอรสคนเดียว ของกษัตริย์เรโหโบอัม ในพันธสัญญาเดิมมีผู้ชายอีกหลายคนที่มีชื่อว่า อาบียาห์
- บุตรชายของซามูเอลชื่อ อาบียาห์และโยเอลได้เป็นผู้นำประชาชนอิสราเอลที่เบเออร์เชบา แต่เพราะอาบียาห์และน้องชายของเขาไม่ซื่อสัตย์และมีความโลภ ประชาชนจึงได้ขอร้องให้ซามูเอลแต่งตั้งกษัตริย์เพื่อปกครองพวกเขา
- ปุโรหิตคนหนึ่งของพระวิหารในสมัยของกษัตริย์ดาวิดชื่ออาบียาห์
- อาบียาห์เป็นชื่อพระโอรสองค์หนึ่งของกษัตริย์เยโรโบอัม
- อาบียาห์เป็นชื่อของหัวหน้าปุโรหิตผู้ที่กลับจากการเป็นเชลยของชาวบาบิโลน มายังกรุงเยรูซาเล็มพร้อมกับเศรุบบาเบล
อาเบล
ข้อเท็จจริง
อาเบลเป็นบุตรชายคนที่สองของอาดัมและเอวา เขาเป็นน้องชายของคาอิน
- อาเบลเป็นคนเลี้ยงแกะ
- อาเบลได้ถวายสัตว์ของเขาเป็นเครื่องบูชาแด่พระเจ้า
- พระเจ้าทรงพอพระทัยอาเบลและเครื่องบูชาของเขา
- บุตรชายคนโตของอาดัมและเอวาคือคาอินได้ฆ่าอาเบล
อามอส
ข้อเท็จจริง
อามอสเป็นบิดาของผู้เผยพระวจนะอิสยาห์
- ท่านถูกกล่าวถึงในพระคัมภีร์เพียงครั้งเดียวเพื่อแสดงถึงที่มาของอิสยาห์ว่า "เป็นบุตรชายของอามอส"
- ชื่อนี้แตกต่างจากชื่อของผู้เผยพระวจนะอาโมส และควรสะกดคำนี้ให้แตกต่างกันด้วย
อามาซิยาห์
ข้อเท็จจริง
อามาซิยาห์ได้กลายเป็นกษัตริย์ปกครองเหนืออาณาจักรยูดาห์ เมื่อกษัตริย์โยอาช พระบิดาของท่านถูกปลงพระชนม์
- กษัตริย์อามาซิยาห์ได้ปกครองเหนือยูดาห์เป็นเวลายี่สิบเก้าปี จากปี 796 ก.ค.ศ.ถึง 767 ก.ค.ศ.
- พระองค์ทรงเป็นกษัตริย์ที่ดี แต่พระองค์ทรงไม่ได้ทำลายสถานสูงทั้งหลายที่ซึ่งใช้บูชารูปเคารพ
- กษัตริย์อามาซิยาห์ทรงได้ประหารบรรดาคนที่มีส่วนในการปลงประชนม์พระบิดาของพระองค์
- พระองค์ทรงเอาชนะคนเอโดมที่กบฎ และทำให้พวกเขาอยู่ภายใต้การปกครองของอาณาจักรยูดาห์
- พระองค์ทรงท้าทายกษัตริย์เยโฮอาชของอิสราเอลให้มาสู้รบกัน แต่กลับพ่ายแพ้ กำแพงเมืองเยรูซาเล็มส่วนหนึ่งได้พังลงมา และภาชนะเงินและทองทั้งหลายของพระวิหารได้ถูกขโมยไป
- หลายปีต่อมากษัตริย์อามาซิยาห์ทรงได้หันหลังให้พระยาห์เวห์ และมีบางคนในกรุงเยรูซาเล็มได้วางแผนร่วมกันและได้ปลงพระชนม์พระองค์
อามาเลข, คนอามาเลข
ข้อเท็จจริง
คนอามาเลขเป็นกลุ่มคนที่เร่ร่อนกลุ่มหนึ่งซึ่งอาศัยอยู่ทั่วไปในตอนใต้ของแผ่นดินคานาอัน จากทะเลทรายเนเกบไปจนถึงประเทศอาระเบีย คนกลุ่มนี้เป็นเชื้อสายของอามาเลข ผู้เป็นหลานชายของเอซาว
- คนอามาเลขเป็นศัตรูคู่อาฆาตกับอิสราเอลตั้งแต่สมัยเมื่ออิสราเอลมาอาศัยอยู่ในแผ่นดินคานาอันครั้งแรก
- บางครั้งคำว่า "อามาเลข" ถูกใช้เป็นภาพเล็งถึงคนอามาเลขทั้งหมด (ดูที่: synecdoche)
- ครั้งหนึ่งในสงครามต่อสู้กับคนอามาเลข เมื่อโมเสสยกมือของท่านขึ้น คนอิสราเอลก็ได้ชัยชนะ เมื่อโมเสสเมื่อยและมือตกลงมา คนอิสราเอลก็พ่ายแพ้ ดังนั้นอาโรนและเฮอร์จึงได้ช่วยพยุงมือของโมเสสให้ชูขึ้นจนกระทั่งกองทัพของคนอิสราเอลได้เอาชนะคนอามาเลข
- ทั้งกษัตริย์ซาอูลและกษัตริย์ดาวิดได้เคยนำกองทัพบุกโจมตีคนอามาเลข
- ครั้งหนึ่งหลังจากที่มีชัยชนะเหนือคนอามาเลข ซาอูลทรงไม่เชื่อฟังพระเจ้าโดยแอบเก็บของที่ริบมาได้ และทรงไม่ฆ่ากษัตริย์ของคนอามาเลขตามที่พระเจ้าทรงได้บัญชาให้ทำ
อาโมส
ข้อเท็จจริง
อาโมสเป็นผู้เผยพระวจนะอิสราเอลคนหนึ่งซึ่งมีชีวิตอยู่ในสมัยของอุสซียาห์ กษัตริย์ยูดาห์
- ก่อนที่ท่านจะถูกเรียกให้เป็นผู้เผยพระวจนะ อาโมสเป็นคนเลี้ยงแกะและทำสวนมะเดื่ออยู่ในอาณาจักรยูดาห์
- อาโมสได้พยากรณ์ต่อต้านอาณาจักรฝ่ายเหนือ คืออิสราเอลเกี่ยวกับเรื่องที่พวกเขาไม่มีความยุติธรรมต่อประชาชน
อารทาเซอร์ซีส
ข้อเท็จจริง
อารทาเซอร์ซีสเป็นกษัตริย์ผู้ปกครองอาณาจักรเปอร์เซียจากประมาณปี 464 ก.ค.ศ.ถึง 424 ก.ค.ศ.
- ในสมัยการปกครองของอารทาเซอร์ซีส คนอิสราเอลจากยูดาห์ตกเป็นเชลยในกรุงบาบิโลน ซึ่งอยู่ภายใต้อำนาจของเปอร์เซียในเวลานั้น
- อารทาเซอร์ซีสทรงอนุญาตให้ปุโรหิตเอสรา และผู้นำยิวคนอื่นๆ ออกจากกรุงบาบิโลน กลับไปยังกรุงเยรูซาเล็มเพื่อสั่งสอนพระบัญญัติของพระเจ้าให้แก่คนอิสราเอล
- ต่อมาภายหลัง อารทาเซอร์ซีสทรงได้อนุญาตให้พนักงานถือจอกของพระองค์คือ เนหะมีย์กลับมายังกรุงเยรูซาเล็มเพื่อนำคนยิวในการซ่อมกำแพงรอบๆ เมือง
- เป็นเพราะกรุงบาบิโลนอยู่ภายใต้การปกครองของเปอร์เซีย บางครั้งอารทาเซอร์ซีสถูกเรียกว่า "กษัตริย์แห่งบาบิโลน"
- ให้สังเกตว่าอารทาเซอร์ซีสเป็นคนละคนกับเซอร์ซีส (อาหสุเอรัส)
อาระเบีย, ชาวอาระเบีย
ข้อเท็จจริง
อาระเบียเป็นแหลมที่ใหญ่ที่สุดในโลก พื้นที่ครอบคลุมสามล้านตารางกิโลเมตร ตั้งอยู่ทางทิศตะวันออกเฉียงใต้ของอิสราเอล มีเขตแดนติดกับทะเลแดง ทะเลอาระเบียน และอ่าวเปอร์เซีย
- คำว่า "ชาวอาระเบีย" ถูกใช้เมื่อเอ่ยถึงบางคนที่อาศัยอยู่ในอาระเบีย หรือบางสิ่งที่เกี่ยวข้องกับอาระเบีย
- คนรุ่นแรกที่อาศัยอยู่ในอาระเบียเป็นหลานของเชม ในยุคแรกคนอื่นๆ ที่อาศัยอยู่ในอาระเบียก็รวมถึงอิชมาเอล บุตรชายของอับราฮัมและบรรดาเชื้อสายของเขา เช่นเดียวกับเชื้อสายของเอซาวด้วย
- พื้นที่ทะเลทรายที่คนอิสราเอลได้เดินวนเวียนเป็นเวลา 40 ปีก็อยู่ในอาระเบีย
- หลังจากที่อัครทูตเปาโลได้กลายเป็นผู้ศรัทธาในพระเยซูแล้ว ท่านได้ใช้เวลาสองสามปีอยู่ในทะเลทรายอาราเบีย
- ในจดหมายที่เปาโลเขียนถึงคริสเตียนในเมืองกาลาเทีย เปาโลได้เอ่ยถึงภูเขาซีนายที่ตั้งอยู่ในอาระเบียน
อารัม, คนอารัม หรือ คนซีเรีย
ข้อเท็จจริง
"อารัม" เป็นชื่อของชายสองคนในพันธสัญญาเดิม และยังเป็นชื่อของพื้นที่ทางทิศตะวันออกเฉียงเหนือของคานาอัน เป็นที่ตั้งของประเทศซีเรียในปัจจุบันนี้
- คนที่อาศัยอยู่ในอารัม เป็นที่รู้จักกันว่าคือ "คนอาราเมี่ยน" และพูดภาษา "อาราเมค" พระเยซูและคนยิวอื่นๆ ในสมัยของพระองค์พูดภาษาอาราเมคด้วย
- บุตรชายคนหนึ่งของเชมมีชื่อว่า อารัม ชายที่มีชื่อว่าอารัมอีกคนหนึ่งเป็นลูกพี่ลูกน้องของเรเบคาห์ บางทีดินแดนอารัมอาจถูกเรียกตามชื่อของคนใดคนหนึ่งในสองคนนี้
- ภายหลัง อารัมเป็นที่รู้จักกันในชื่อภาษากรีกว่า "ซีเรีย"
- คำว่า "ปัดดาน อารัม" หมายความว่า "ที่ราบอารัม" ตั้งอยู่ทางภาคเหนือของอารัม
- ญาติของอับราฮัมบางคนอาศัยอยู่ในเมืองฮาราน ซึ่งตั้งอยู่ใน "ปัดดาน อารัม"
- ในพันธสัญญาเดิม บางครั้งคำว่า "อารัม" และ "ปัดดาน อารัม" มักถูกใช้เรียกพื้นที่เดียวกัน
- คำว่า "อารัม-นาหะราอิม" อาจหมายความว่า "อารัมแห่งแม่น้ำสองสาย" ดินแดนนี้ตั้งอยู่ทางตอนเหนือของเมโสโปเตเมีย และอยู่ทางตะวันออกของ "ปัดดาน อารัม"
อาราบาห์
ข้อเท็จจริง
ในพันธสัญญาเดิม คำว่า "อาราบาห์" มักกล่าวถึงทะเลทรายที่กว้างใหญ่และพื้นที่ราบซึ่งรวมถึงหุบเขาที่อยู่ล้อมรอบแม่น้ำจอร์แดน และยาวจากทางใต้ลงไปถึงตอนเหนือสุดของทะุเลแดง
- คนอิสราเอลได้เดินทางผ่านพื้นที่ทะเลทรายนี้เมื่อตอนที่พวกเขาอพยพออกจากอียิปต์มุ่งไปสู่แผ่นดินคานาอัน
- "ทะเลแห่งอาราบาห์" อาจแปลได้อีกว่า "ทะเลที่อยู่ในพื้นที่ทะเลทรายอาราบาห์" ทะเลนี้มักจะถูกเรียกว่า "ทะเลเกลือ" หรือ "ทะเลตาย"
- คำว่า "อาราบาห์" โดยทั่วๆ ไปสามารถกล่าวถึงพื้นที่ทะเลทรายใดๆ ก็ได้
อารารัต
ข้อเท็จจริง
ในพระคัมภีร์ "อารารัต" เป็นชื่อใช้เรียกแผ่นดิน อาณาจักร และเทือกเขา
- "แผ่นดินแห่งอารารัต" อาจตั้งอยู่ในพื้นที่ทางภาคเหนือของประเทศตุรกีในทุกวันนี้
- อารารัตเป็นที่รู้จักกันดีในชื่อของภูเขาที่เรือของโนอาห์มาติดค้างหลังจากน้ำท่วมใหญ่ได้เริ่มที่จะลดลง
- ในปัจจุบันนี้ ภูเขาที่ถูกเรียกว่า "ภูเขาอารารัต" มักถูกคิดว่าเป็นที่เดียวกับ "ภูเขาอารารัต" ในพระคัมภีร์
อาโรน
ข้อเท็จจริง
อาโรนเป็นพี่ชายของโมเสส พระเจ้าทรงได้เลือกอาโรนให้เป็นมหาปุโรหิตคนแรกสำหรับชนชาติอิสราเอล
- อาโรนได้ช่วยโมเสสในการทูลต่อฟาโรห์เรื่องการปล่อยคนอิสราเอลให้เป็นอิสระ
- ในระหว่างที่คนอิสราเอลได้กำลังเดินทางผ่านทะเลทราย อาโรนได้ทำบาปโดยการสร้างรูปเคารพให้ประชาชนกราบไหว้
- พระเจ้าได้ทรงแต่งตั้งอาโรนและเชื้อสายของเขาให้เป็นปุโรหิตสำหรับชนชาติอิสราเอลpriest
อาสา
ข้อเท็จจริง
อาสาเป็นกษัตริย์ผู้ปกครองอาณาจักรยูดาห์เป็นเวลาสี่สิบปี จากปี 913-873 ก.ค.ศ.
- กษัตริย์อาสาเป็นกษัตริย์ดี พระองค์หนึ่งผู้ที่ขจัดรูปเคารพของเท็จทั้งหลายออกไป และทำให้คนอิสราเอลเริ่มนมัสการพระยาห์เวห์อีกครั้งหนึ่ง
- พระยาห์เวห์ทรงให้กษัตริย์อาสามีชัยชนะในการทำสงครามกับชนชาติอื่นๆ
- ในตอนปลายรัชกาล กษัตริย์อาสาทรงไม่ไว้วางใจในพระยาห์เวห์ และประชวรด้วยโรคร้ายจนกระทั่งสวรรคต
อาสาฟ
ข้อเท็จจริง
อาสาฟเป็นปุโรหิตชาวเลวีและเป็นนักดนตรีที่เก่ง เป็นผู้แต่งทำนองสำหรับเพลงสดุดีของกษัตริย์ดาวิด เขาได้เขียนเพลงสดุดีของตัวเองด้วย
- อาสาฟไดรับแต่งตั้งจากกษัตริย์ดาวิดให้เป็นหนึ่งในสามนักดนตรีที่รับผิดชอบในการจัดเตรียมเพลงต่างๆ สำหรับนมัสการในพระวิหาร บางเพลงก็เป็นคำพยากรณ์ด้วย
- อาสาฟได้ฝึกบูตรชายทั้งหลายของเขาให้รับผิดชอบหน้าที่นี้ต่อไป ในการเล่นเครื่องดนตรีต่างๆ และการพยากรณ์ในพระวิหาร
- เครื่องดนตรีบางชิ้นรวมถึง ปี่ พิณ เขาสัตว์ และฉาบ
- สดุดี บทที่ 50 และสดุดี บทที่ 73-88 ได้บอกว่ามาจากอาสาฟ อาจเป็นไปได้ว่าเพลงสดุดีเหล่านี้บางเพลงถูกเขียนโดยสมาชิกบางคนในครอบครัวของเขา
อาหสุเอรัส
ข้อเท็จจริง
อาหสุเอรัสเป็นกษัตริย์ผู้ปกครองเหนืออาณาจักรเปอร์เซียโบราณเป็นเวลายี่สิบปี
- นี่เป็นช่วงเวลาที่คนยิวที่ถูกเนรเทศออกไปอาศัยอยู่ในกรุงบาบิโลน ซึ่งอยู่ภายใต้การปกครองของชาวเปอร์เซีย
- อีกพระนามหนึ่งของกษัตริย์องค์นี้อาจเป็น เซอร์เซส
- หลังจากที่ทรงได้ขับไล่พระราชินีของพระองค์เองเพราะความโกรธแล้ว ต่อมาภายหลังกษัตริย์อาหสุเอรัสได้เลือกหญิงชาวยิวชื่อ เอสเธอร์ ให้เป็นมเหสีและราชินีองค์ใหม่ของพระองค์
อาหับ
ข้อเท็จจริง
อาหับเป็นกษัตริย์ผู้ชั่วร้ายผู้ซึ่งปกครองอาณาจักรเหนือของอิสราเอลจากปี 875 ก.ค.ศ.จนถึงปี 854 ก.ค.ศ.
- กษัตริย์อาหับเกลี้ยกล่อมให้ประชาชนอิสราเอลนมัสการพระเทียมเท็จทั้งหลาย
- ผู้เผยพระวจนะเอลียาห์ได้เผชิญหน้ากับกษัตริย์อาหับ และบอกพระองค์ว่าจะมีการกันดารอาหารอย่างรุนแรงเป็นเวลาสามปีครึ่งเพื่อเป็นการลงโทษความบาปที่อาหับชักชวนอิสราเอลให้กระทำ
- อาหับ และ เยเซเบล มเหสีของพระองค์ทรงได้กระทำสิ่งที่ชั่วร้ายมากมาย รวมถึงการใช้อำนาจของพระองค์ในการเข่นฆ่าประชาชนผู้บริสุทธิ์
อาหัส
ข้อเท็จจริง
อาหัสเป็นกษัตริย์ผู้ชั่วร้ายผู้ที่ปกครองอาณาจักรยูดาห์ จากปี 732 ก.ค.ศ.ถึง 716 ก.ค.ศ. ซึ่งเป็นเวลาประมาณ 140 ปีก่อนที่ถึงยุคที่ประชาชนทั้งในแผ่นดินอิสราเอลและยูดาห์จะถูกจับไปเป็นเชลยที่กรุงบาบิโลน
- ในขณะที่พระองค์ทรงกำลังปกครองยูดาห์ อาหัสได้สร้างแท่นบูชาเพื่อนมัสการพวกพระเทียมเท็จของชาวอัสซีเรีย ซึ่งทำให้ประชาชนหันไปจากพระยาห์เวห์ พระเจ้าผู้เที่ยงแท้องค์เดียว
- กษัตริย์อาหัสมีอายุ 20 พรรษาเมื่อพระองค์ได้ทรงเริ่มขึ้นปกครองยูดาห์ และพระองค์ได้ทรงปกครองเป็นเวลา 16 ปี
อาหัสยาห์
ข้อเท็จจริง
อาหัสยาห์เป็นนามของกษัตริย์สององค์ องค์หนึ่งปกครองอาณาจักรอิสราเอล และอีกองค์หนึ่งปกครองอาณาจักรยูดาห์
- กษัตริย์อาหัสยาห์แห่งยูดาห์เป็นพระโอรสของกษัตริย์เยโฮรัม พระองค์ทรงปกครองเป็นเวลาหนึ่งปี (ปี 841 ก.ค.ศ.) แล้วถูกเยฮู ผู้เป็นพระโอรสเยาว์วัยของอาหัสยาห์ฆ่า ในที่สุดโยอาชได้ขึ้นมาเป็นกษัตริย์แทน
- กษัตริย์อาหัสยาห์แห่งอิสราเอลเป็นพระโอรสของกษัตริย์อาหับ พระองค์ปกครองเป็นเวลาสองปี (ปี ก.ค.ศ. 850-49) พระองค์สวรรคตจากอาการบาดเจ็บจากการตกจากที่สูงในพระราชวังของพระองค์ และโยรัมน้องชายได้ขึ้นเป็นกษัตริย์แทน
อาหิยาห์
ข้อเท็จจริง
อาหิยาห์เป็นชื่อของหลายคนในพันธสัญญาเดิม ซึ่งมีดังต่อไปนี้
- อาหิยาห์เป็นชื่อของปุโรหิตท่านหนึ่งในสมัยของซาอูล
- มีชายคนหนึ่งชื่ออาหิยาห์เป็นเลขานุการในรัชสมัยของกษัตริย์ซาโลมอน
- อาหิยาห์เป็นชื่อของผู้เผยพระวจนะท่านหนึ่งจากชิโลห์ ผู้ที่ทำนายว่าชนชาติอิสราเอลจะถูกแบ่งแยกออกเป็นสองอาณาจักร
- พระบิดาของกษัตริย์บาอาชาแห่งอิสราเอลก็มีนามว่า อาหิยาห์
อิโคนิยูม
ข้อเท็จจริง
อิโคนิยูมเป็นเมืองในทางใต้ของตอนกลางซึ่งปัจจุบันนี้คือประเทศตุรกี
- ในการเดินทางเป็นมิชชันนารีครั้งแรกของเปาโล เขาและบาร์นาบัสได้เดินทางไปยังเมืองอิโคนิยูมหลังจากที่พวกยิวได้บังคับให้พวกเขาออกจากเมืองอันทิโอก
- แล้วคนยิวและคนต่างชาติที่ไม่เชื่อในเมืองอิโคนิยูมๆก้วางแผนที่จะเอาหินขว้างเปาโลและเพื่อนร่วมงานของเขา แต่พวกเขาได้หลบหนีไปยังเมืองใกล้เคียงที่ชื่อลิสตรา
- หลังจากนั้นผู้คนจากเมืองอิโคนิยูมและอันทิโอกได้มายังเมืองลิสตราและยุยงให้ผู้คนที่นั่นเอาหินขว้างเปาโล
อิชมาเอล
ข้อเท็จจริง
อิชมาเอลเป็นบุตรชายของอับราฮัมและคนรับใช้ของซาราห์คือฮาการ์ มีผู้ชายหลายคนในพันธสัญญาเดิมที่มีชื่อว่าอิชมาเอล
- คำว่า "อิชมาเอล" หมายถึง "พระเจ้าทรงได้ยิน"
- พระเจ้าทรงสัญญาว่าจะอวยพรบุตรชายของอับราฮัมคืออิชมาเอล แต่เขาไม่ใช่บุตรชายที่พระเจ้าได้ทรงสัญญาว่าจะพันธสัญญาด้วย
- พระเจ้าทรงปกป้องฮาการ์และอิชมาเอลเมื่อพวกเขาถูกส่งออกไปในทะเลทราย
- อิชมาเอลบุตรชายของเนธันอาห์เป็นเจ้าหน้าที่กองทัพจากยูดาห์ผู้ที่ได้นำกลุ่มผู้ชายไปฆ่าผู้ว่าราชการผู้ที่ถูกแต่งตั้งโดยกษัตริย์บาบิโลนคือ เนบูคัดเนสซาร์
- มีผู้ชายอีกสี่คนที่มีชื่อว่าอิชมาเอลในพันธสัญญาเดิม
อิสยาห์
ข้อเท็จจริง
อิสยาห์เป็นผู้เผยพระวจนะของพระเจ้าผู้เผยพระวจนะในช่วงการครองราชย์ของกษัตริย์สี่พระองค์ของยูดาห์ คือ อูซียาห์ โยธาม อาหัส และเฮเซคียาห์
- เขาได้อาศัยอยู่ในกรุงเยรูซาเล็มในช่วงเวลาที่อัสซีเรียกำลังโจมตีเมืองหลวงระหว่างการปกครองของเฮเซคียาห์
- ในพันธสัญญาเดิมพระธรรมอิสยาห์เป็นหนังสือสำคัญในพระคัมภีร์
- อิสยาห์เขียนคำเผยพระวจนะมากมายที่ได้เกิดขึ้นจริงในขณะที่เขายังมีชีวิตอยู่
- อิสยาห์เป็นที่รู้จักจากคำเผยพระวจนะที่เขาเขียนเกี่ยวกับพระเมสสิยาห์ที่เกิดขึ้นจริง 700 ปีต่อมาเมื่อพระเยซูได้ทรงมีชีวิตอยู่บนโลก
- พระเยซูและสาวกของพระองค์ได้อ้างถึงคำเผยพระวจนะของอิสยาห์เพื่อสอนผู้คนเกี่ยวกับพระเมสสิยาห์
อิสสาคาร์
ข้อเท็จจริง
อิสสาคาร์เป็นบุตรชายคนที่ห้าของยาโคบ มารดาของเขาคือเลอาห์
- เผ่าอิสสาคาร์เป็นหนึ่งในสิบสองเผ่าของอิสราเอล
- แผ่นดินของอิสสาคาร์ถูกล้อมรอบโดยเนฟทาลี เศบูลุน มนัสเสห์ และ กาด
- แผ่นดินนี้ตั้งอยู่ทางทิศใต้ของทะเลกาลิลี
อิสอัค
ข้อเท็จจริง
อิสอัคเป็นบุตรชายคนเดียวของอับราฮัมและซาราห์ พระเจ้าได้ทรงสัญญาว่าจะประทานบุตรชายให้แก่พวกเขาแม้ว่าพวกเขาจะชราแล้ว
- ชื่อ "อิสอัค" หมายความว่า "เขาหัวเราะ" เมื่อพระเจ้าตรัสกับอับราฮัมว่าเขาและซาราห์จะมีบุตรชาย อับราฮัมได้หัวเราะเพราะเขาทั้งสองชรามากแล้ว ต่อมาภายหลัง ซาราห์ก็ได้หัวเราะเช่นกันเมื่อเธอได้ทราบข่าวนี้
- แต่พระเจ้าทรงทำให้คำสัญญาของพระองค์สำเร็จและอิสอัคก็ได้เกิดให้อับราฮัมและซาราห์ในวัยชราของพวกเขา
- พระเจ้าได้ทรงบอกอับราฮัมว่าพันธสัญญาที่พระองค์ได้ทำกับอับราฮัมจะเป็นของอิสอัคและผู้สืบเชื้อสายของเขาตลอดกาล
- เมื่ออิสอัคเป็นหนุ่ม พระเจ้าทรงทดสอบความเชื่อของอับราฮัมโดยสั่งเขาให้ถวายบูชาอิสอัค
- บุตรของอิสอัคคือยาโคบผู้ซึ่งมีบุตรชายสิบสองคน ภายหลังเชื้อสายของพวกเขาได้กลายมาเป็นสิบสองเผ่าของชนชาติอิสราเอล
อียิปต์, ชาวอียิปต์
ข้อเท็จจริง
อียิปต์เป็นประเทศในภาคตะวันออกเฉียงเหนือของทวีปแอฟริกาทางตะวันตกเฉียงใต้ของแผ่นดินคานาอัน คนอียิปต์เป็นคนที่มาจากประเทศอียิปต์
- ในสมัยโบราณอียิปต์เป็นประเทศมหาอำนาจและมั่งคั่ง
- อียิปต์โบราณแบ่งออกเป็นสองส่วน อียิปต์ตอนล่าง(ตอนเหนือ เป็นที่ซึ่งแม่น้ำไนล์ไหลลงสู่ทะเล) และอียิปต์ตอนบน(ตอนใต้) ในพันธสัญญาเดิม ส่วนต่าง ๆ เหล่านี้ถูกกล่าวถึงว่าเป็น "อียิปต์" และ "ปัทโรส" ในภาษาต้นฉบับดั้งเดิม
- หลายครั้งเมื่อขาดแคลนอาหารในคานาอัน บรรพบุรุษอิสราเอลได้เดินทางไปยังอียิปต์เพื่อซื้ออาหารสำหรับครอบครัวของพวกเขา
- เป็นเวลาหลายร้อยปี คนอิสราเอลตกเป็นทาสในอียิปต์
- โยเซฟกับมาเรีย ลงไปอียิปต์พร้อมกับพระกุมารเยซูเพื่อหนีเฮโรดมหาราช
อุรียาห์
ข้อเท็จจริง
อุรียาห์เป็นคนชอบธรรมและเป็นหนึ่งในทหารที่ดีที่สุดของกษัตริย์ดาวิด เขาได้รับอ้างอิงเสมอว่าเป็น อุรียาห์ชนฮิตไตท์
- อุรียาห์มีภรรยาสวยมากชื่อบัทเชบา
- ดาวิดทรงประพฤติล่วงประเวณีกับภรรยาของอุรียาห์และเธอตั้งครรภ์มีบุตรกับดาวิด
- เพื่อปกปิดบาปนี้ ดาวิดทำให้อุรียาห์ถูกสังหารในสงคราม แล้วดาวิดจึงแต่งงานกับบัทเชบา
- ชายอีกคนหนึ่งชื่อว่าอุรียาห์ เป็นปุโรหิตในช่วงสมัยกษัตริย์อาหัส
อุสซียาห์, อาซาริยาห์
ข้อเท็จจริง
อุสซียาห์ได้กลายเป็นกษัตริย์ยูดาห์ตอนอายุ 16 ปีและครองราชย์ 52 ปีซึ่งเป็นรัชกาลที่ยาวนานผิดปกติ อุสซียาห์ยังเป็นที่รู้จักในชื่อ "อาซาริยาห์"
- กษัตริย์อุซซียาห์เป็นที่รู้จักพระองค์ในเรื่องทหารที่มีการจัดการและเชี่ยวชาญในการรบ พระองค์ทรงมีหอคอยที่สร้างขึ้นเพื่อปกป้องเมืองและมีอาวุธสงครามที่ออกแบบมาเป็นพิเศษเพื่อใช้ขี่พวกมันเพื่อยิงลูกศรและโยนก้อนหินขนาดใหญ่ได้สะดวก
- ตราบเท่าที่อุสซียาห์ปรนนิบัติพระเจ้าพระองค์ก็ทรงเจริญขึ้น เมื่อใกล้จะสิ้นรัชกาลของพระองค์อย่างไรก็ตาม พระองค์กลับอวดดีจองหองและไม่เชื่อฟังพระเจ้าด้วยการเผาเครื่องหอมในพระวิหารซึ่งมีเพียงปุโรหิตเท่านั้นที่ได้รับอนุญาตกระทำได้
- เพราะความบาปนี้อุสซียาห์ได้ป่วยเป็นโรคเรื้อนและต้องมีชีวิตที่แยกตัวออกจากคนอื่นจวบจนสิ้นรัชกาลของพระองค์
เอโครน
ข้อเท็จจริง
เอโครนเป็นเมืองใหญ่ของฟิลิสเตียซึ่งตั้งอยู่ห่างจากทะเลเมดิเตอร์เรเนียนประมาณเก้าไมล์
- วิหารของพระเทียมเท็จเบเอล เซบุบ ตั้งอยู่ที่เอโครน
- เมื่อฟิลิสเตียได้ยึดเอาหีบพันธสัญญาและนำไปที่เมืองอัชโดด จากนั้นได้ย้ายไปที่เมืองกาด และเมืองเอโครน ด้วยเหตุนี้เองพระเจ้าทรงจึงทำให้หลายคนป่วยและตายในเมืองต่าง ๆ ที่หีบพันธสัญญาได้ถูกย้ายไป สุดท้ายคนฟีลิสเตียจึงได้ส่งหีบกลับคืนมายังอิสราเอล
- เมื่อกษัตริย์อาเฮซียาห์ตกจากหลังคาพระราชวังของพระองค์และได้รับบาดเจ็บ พระองค์ทรงได้ทำบาปโดยการสอบถามจากพระเทียมเท็จบาอัล ซาบุบแห่งเอโครนว่าพระองค์จะตายหรือไม่จากการบาดเจ็บนี้ของพระองค์ เพราะบาปนี้เอง พระยาห์เวห์ได้ตรัสว่าพระองค์จะตายแน่
เอซาว
ข้อเท็จจริง
เอซาวเป็นหนึ่งในลูกแฝดของอิสอัคกับเรเบคาห์ เขาเป็นทารกที่เกิดก่อน น้องชายฝาแฝดของเขาคือยาโคบ
- เอซาวขายสิทธิหัวปีให้แก่ยาโคบน้องชาย เพื่อแลกกับอาหารหนึ่งถ้วย
- เมื่อเอซาวเป็นบุตรคนแรก อิสอัคพ่อของเขาหวังว่าจะให้พรพิเศษแก่เขา แต่ยาโคบหลอกอิสอัคให้พรแก่เขาแทน ตอนแรกเอซาวโกรธมาก เขาอยากจะฆ่ายาโคบ แต่ภายหลังเขาได้ให้อภัยยาโคบ
- เอซาวมีบุตรและหลานมากมาย และบุตรหลานเหล่านี้ได้ประกอบกันเข้าเป็นประชาชนกลุ่มใหญ่ที่อาศัยอยู่ในแผ่นดินคานาอัน
เอเดน สวนเอเดน
ข้อเท็จจริง
ในสมัยโบราณ เอเดนเป็นพื้นที่ที่มีสวนที่พระเจ้าทรงให้ ชายและหญิงคู่แรกอาศัยอยู่
- สวนที่อาดัมและเอวา อาศัยอยู่เป็นเพียงส่วนหนึ่งของนเอเดนเท่านั้น
- ตำแหน่งที่แน่นอนของบริเวณเอเดนนั้นไม่แน่นอน แต่ว่าแม่น้ำไทกริสและแม่น้ำยูเฟรติสไหลผ่านที่นี่
- คำว่า "เอเดน" มาจากคำภาษาฮีบรูที่มีความหมายว่า "นำมาซึ่งความปิติยินดียิ่ง"
เอโดม ชาวเอโดม อีดูเมีย
ข้อเท็จจริง
เอโดมเป็นอีกชื่อหนึ่งของเอซาว พื้นที่ที่เขาอาศัยอยู่เป็นที่รู้จักกันในชื่อว่า "เอโดม" และในภายหลังได้เรียกว่า "อีดูเมีย" ชาวเอโดมเป็นพงศ์พันธ์ุของเขา
- พื้นที่เอโดมได้เปลี่ยนที่ตั้งไป ส่วนใหญ่ตั้งอยู่ทางตอนใต้ของอิสราเอล และขยายเข้าไปทางใต้ของยูดาห์
- ในสมัยพัรธสัญญาใหม่ เอโดมมีพื้นที่ครอบคลุมทางใต้ของแคว้นยูดาห์ครึ่งหนึ่ง กรีกได้เรียกเอโดมว่า "อีดูเมีย"
- ชื่อเอโดม หมายถึง "สีแดง" ซึ่งอ้างถึงความจริงที่ว่าเอซาวถูกปกคลุมด้วยขนสีแดงเมื่อเขาเกิดมา หรืออาจกล่าวถึงถั่วแดงต้ม ที่เอซาวได้แลกกับสิทธิหัวปีของเขา
- ในพันธสัญญาเดิม ประเทศเอโดม มักถูกกล่าวถึงว่าเป็นศัตรูของอิสราเอล
- พระธรรมโอบาดีห์ทั้งเล่มเป็นเรื่อง เกี่ยวกับการทำลาย เอโดม และผู้เผยพระวจนะในพันธสัญญาเดิมอื่น ๆ ยังได้กล่าวคำพยากรณ์เชิงลบต่อต้านเอโดม
เอธิโอเปีย ชาวเอธิโอเปีย
ข้อเท็จจริง
เอธิโอเปียเป็นประเทศในแอฟริกาที่ตั้งอยู่ทางตอนใต้ของอียิปต์ มีแม่น้ำไนล์เป็นพรมแดนทางทิศตะวันตก และทะเลสีแดงอยู่ทางทิศตะวันออก คนที่มาจากประเทศเอธิโอเปียเรียกว่า "ชาวเอธิโอเปีย"
- เอธิโอเปียโบราณตั้งอยู่ทางใต้ของประเทศอียิปต์ และรวมถึงดินแดนที่เป็นส่วนหนึ่งของหลายประเทศของแอฟริกา เช่นซูดาน เอธิโอเปียในปัจจุบัน โซมาเลีย เคนย่า ยูกันดา สาธารณรัฐแอฟริกากลาง และชาด
- ในพระคัมภีร์ เอธิโอเปียบางครั้งถูกเรียกว่า "คูช" หรือ "นูเบีย"
- ประเทศเอธิโอเปีย ('คูช') และอียิปต์มักถูกกล่าวร่วมกันในพระคัมภีร์ บางทีอาจเป็นเพราะประเทศทั้งสองอยู่ติดกัน และประชากรของทั้งสองประเทศอาจมีบรรพบุรุษเดียวกัน
- พระเจ้าทรงได้ส่งฟิลิปผู้ประกาศข่าวประเสริฐไปยังทะเลทรายที่ซึ่งเขาได้แบ่งปันข่าวประเสริฐเรื่องพระเยซูกับขันทีชาวเอธิโอเปีย
เอน เกดี
ข้อเท็จจริง
เอน เกดี เป็นชื่อของเมืองที่อยู่ในถิ่นทุรกันดารของยูดาห์ทางตะวันออกเฉียงใต้ของกรุงเยรูซาเล็ม
- เอน เกดี ตั้งอยู่ทางฝั่งตะวันตกของทะเลเกลือ
- ส่วนหนึ่งของชื่อหมายถึง "น้ำพุ" อ้างถึงน้ำพุที่ไหลลงมาจากเมืองสู่ทะเล
- เอน เกดี เป็นที่รู้จักเนื่องจากมีไร่องุ่นที่สวยงามและดินอุดมสมบูรณ์อีกด้วย ซึ่งอาจเป็นเพราะการรดน้ำอย่างต่อเนื่องโดยน้ำพุนั่นเอง
- มีที่มั่นใน เอน เกดี ซึ่งดาวิดได้หนีไปอยู่ เมื่อเขาถูกไล่ล่าโดยกษัตริย์ซาอูล
เอโนค
ข้อเท็จจริง
เอโนคเป็นชื่อของชายสองคนในพันธสัญญาเดิม
- ชายคนหนึ่งชื่อเอโนคได้สืบเชื้อสายมาจากเซท เขาเป็นปู่ทวดของโนอาห์
- เอโนคคนที่มีความสัมพันธ์ใกล้ชิดกับพระเจ้าและเมื่อเขาอายุ 365 ปี พระเจ้าทรงนำเขาไปสวรรค์โดยไม่ต้องตาย
- ผู้ชายอีกคนหนึ่งที่ชื่อเอโนค คือบุตรชายของคาอิน
เอฟราธาห์ คนเอฟราธาห์
ข้อเท็จจริง
เอฟราธาห์เป็นชื่อของเมือง และแคว้นทางตอนเหนือของอิสราเอล ในเวลาต่อมาเมืองเอฟราธาห์ได้ถูกเรียกว่า "เบธเลเฮม" หรือ "เอฟราธาห์ - เบธเลเฮม"
- เอฟราธาห์เป็นชื่อบุตรชายคนหนึ่งของคาเลบ เมืองเอฟราธาห์อาจได้ชื่อตามชื่อของเขา
- คนที่มาจากเมืองเอฟราธาห์ถูกเรียกว่า "คนเอฟราธาห์"
- โบอาสปู่ทวดของดาวิดเป็นคนเอฟราธาห์
เอฟราอิม
ข้อเท็จจริง
เอฟราอิมเป็นบุตรชายคนที่สองของโยเซฟ พงศ์พันธ์ุของเขาคือเผ่าเอฟราอิม และเป็นหนึ่งในสิบสองเผ่าของอิสราเอล
- เผ่าเอฟราอิมเป็นหนึ่งในสิบเผ่าซึ่งตั้งอยู่ทางตอนเหนือของอิสราเอล
- บางครั้งชื่อเอฟราอิมจะถูกใช้ในพระคัมภีร์เพื่ออ้างถึงอาณาจักรทางตอนเหนือของอิสราเอลทั้งหมด (ดูที่: synecdoche)
- เห็นได้ชัดว่าเอฟราอิมเป็นพื้นที่ที่เป็นภูเขา หรือเนินเขา ด้วยเหตุนี้ จึงกล่าวว่าเป็น "ภูเขาแห่งเอฟราอิม" หรือ "เทือกเขาเอฟราอิม"
เอเฟซัส
ข้อเท็จจริง
เมืองเอเฟซัสเป็นเมืองกรีกโบราณที่ตั้งอยู่ทางชายฝั่งตะวันตกซึ่งปัจจุบันคือประเทศตุรกี
- ในช่วงยุคต้น ๆ ของคริสเตียน เอเฟซัสเป็นเมืองหลวงของเอเชียซึ่งเป็นจังหวัดเล็ก ๆ ของชาวโรมันในเวลานั้น
- เนื่องจากที่ตั้งของเมือง เมืองนี้จึงเป็นศูนย์กลางการค้าและการท่องเที่ยวที่สำคัญ
- วิหารของคนต่างชาติ ที่รู้จักกันดีสำหรับนมัสการ เทพธิดาอาร์ทิมิส (ไดอาน่า) ตั้งอยู่ในเมืองเอเฟซัส
- เปาโลได้อาศัยและทำงานในเมืองเอเฟซัสนานกว่าสองปีและภายหลังจึงได้แต่งตั้งทิโมธีเพื่อนำผู้ศรัทธาใหม่ที่นั่น
- พระธรรมเอเฟซัสในพันธสัญญาใหม่เป็นจดหมายที่เปาโลได้เขียนถึงบรรดาผู้ศรัทธาในเมืองเอเฟซัส
เอลาม
ข้อเท็จจริง
เอลามเป็นบุตรชายของเชมและเป็นหลานชายของโนอาห์
- พงศ์พันธ์ุของเอลาม เรียกว่าชาว "เอลาม" และพวกเขาอาศัยอยู่ในภูมิภาคที่เรียกว่า "เอลาม"
- ภูมิภาคของเอลามตั้งอยู่ทางตะวันออกเฉียงใต้ของแม่น้ำไทกริส ปัจจุบันนี้เป็นทางตะวันตกของอิหร่าน
เอลีชา
ข้อเท็จจริง
เอลีชาเป็นผู้เผยพระวจนะในอิสราเอลในหลายรัชสมัยของกษัตริย์อิสราเอล ได้แก่ อาหับ อาฮาซียาห์ เยโฮราม เยฮู เยโฮอาฮาซ และเยโฮอาช
- พระเจ้าได้ตรัสกับผู้เผยพระวจนะเอลียาห์ให้เจิมเอลีชาเป็นผู้เผยพระวจนะ
- เมื่อเอลียาห์ได้ถูกนำไปสู่สวรรค์ด้วยรถม้าไฟแล้ว เอลีชาก็ได้เป็นผู้เผยพระวจนะของพระเจ้าต่อกษัตริย์แห่งอิสราเอล
- เอลีชาได้ทำการอัศจรรย์หลายอย่าง รวมทั้ง การรักษาผู้ชายที่เป็นโรคเรื้อนจากซีเรียให้หาย และทำให้บุตรชายของหญิงคนหนึ่งจากเมืองชูเนมให้ฟื้นจากความตาย
เอลีซาเบธ
ข้อเท็จจริง
เอลีซาเบธ เป็นมารดาของยอห์นผู้ให้บัพติศมา สามีของเธอชื่อเศคาริยาห์
- เศคาริยาห์และเอลิซาเบธ ไม่เคยมีบุตร แต่เมื่อถึงวัยชราพระเจ้าทรงได้สัญญากับเศคาริยาห์ว่าเอลิซาเบธ จะคลอดบุตรชายคนหนึ่ง
- พระเจ้าทรงได้รักษาสัญญาของพระองค์ และในไม่ช้าเศคาริยาห์และเอลิซาเบธ ก็สามารถที่จะตั้งครรภ์และคลอดบุตรชาย และนางได้ตั้งชื่อทารกนั้นว่ายอห์น
- เอลีซาเบธ เป็นญาติของมารีย์มารดาของพระเยซูด้วย
เอลียาคิม
ข้อเท็จจริง
เอลียาคิมเป็นชื่อของชายสองคนในพะันธสัญญาเดิม
- ชายคนหนึ่งชื่อเอลียาคิมเป็นผู้จัดการพระราชวังภายใต้กษัตริย์เฮเซคียาห์
- ชายอีกคนหนึ่งชื่อเอลียาคิมเป็นโอรสของกษัตริย์โยสิยาห์ พระองค์ทรงเป็นกษัตริย์ของยูดาห์โดยนีโค ฟาโรห์อียิปต์
- นีโคได้เปลี่ยนชื่อเอลียาคิมเป็นเยโฮยาคิม
เอลียาห์
ข้อเท็จจริง
เอลียาห์เป็นผู้เผยพระวจนะที่สำคัญที่สุดคนหนึ่งของพระยาห์เวห์ เอลียาห์ได้พยากรณ์ในช่วงหลายรัชสมัยของกษัตริย์อิสราเอลหรือยูดาห์ รวมทั้งกษัตริย์อาหับ
- พระเจ้าทรงได้ทำการอัศจรรย์มากมายผ่านเอลียาห์ รวมถึงการที่ทำให้เด็กชายที่ตายแล้วกลับมามีชีวิตอีก
- เอลียาห์ได้ตำหนิกษัตริย์อาหับที่ไปนมัสการพระเทียมเท็จบาอัล
- ท่านท้าทายผู้พยากรณ์ของพระบาอัลให้ทดสอบที่จะพิสูจน์ว่าพระยาห์เวห์ทรงเป็นพระเจ้าองค์เดียวเท่านั้น
- ในบั้นปลายชีวิตของเอลียาห์ พระเจ้าทรงได้พาเขาขึ้นไปยังสวรรค์อย่างมหัศจรรย์ในขณะที่เขายังมีชีวิตอยู่
- หลายร้อยปีต่อมา เอลียาห์พร้อมด้วยโมเสสได้ปรากฏตัวขึ้นพร้อมกับพระเยซูบนภูเขาและพวกเขาได้พูดคุยกันเกี่ยวกับความทุกข์ทรมานและความตายที่จะมาถึงพระเยซูในเยรูซาเล็ม
เอเลอาซาร์
ข้อเท็จจริง
เอเลอาซาร์เป็นชื่อของผู้ชายหลายคนในพระคัมภีร์
- เอเลอาซาร์ผู้เป็นบุตรชายคนที่สามของอาโรน พี่ชายของโมเสส หลังจากอาโรนสิ้นชีวิตแล้วเอเลอาซาร์ก็ได้เป็นมหาปุโรหิตในอิสราเอล
- เอเลอาซาร์ยังเป็นชื่อของ "นักรบผู้เก่งกล้า" ของดาวิด
- เอเลอาซาร์อีกคนหนึ่งเป็นหนึ่งในบรรพบุรุษของพระเยซู
เอวา
ข้อเท็จจริง
นี่คือชื่อของผู้หญิงคนแรก ชื่อของเธอหมายถึง "ชีวิต" หรือ "มีชีวิต"
- พระเจ้าทรงได้สร้างเอวาขึ้นมาจากกระดูกซี่โครงที่พระองค์ดึงออกมาจากอดัม
- เอวาได้ถูกสร้างมาให้เป็น "ผู้อุปถัมภ์" ของอดัม เธออยู่เคียงข้างอดัมเพื่อช่วยเขาในงานที่พระเจ้าได้มอบหมายให้พวกเขาทำ
- เอวาได้ถูกล่อลวงโดยซาตาน (ในรูปแบบของงู) และนั่นก็คือการทำบาปครั้งแรกโดยการกินผลที่พระเจ้าได้ตรัสว่าห้ามกิน
เอสเธอร์
ข้อเท็จจริง
เอสเธอร์เป็นหญิงชาวยิวที่ได้เป็นราชินีแห่งอาณาจักรเปอร์เซียในช่วงเวลาที่พวกยิวถูกนำไปเป็นเชลยในบาบิโลน
- พระธรรมเอสเธอร์เล่าเรื่องราวการที่เอสเธอร์ได้กลายเป็นราชินีแห่งอาหสุเอรัส กษัตริย์เปอร์เซียและวิธีการที่พระเจ้าได้ใช้เธอช่วยประชาชนของเธอ
- เอสเธอร์เป็นเด็กกำพร้าที่ถูกเลี้ยงดูมาโดยญาติผู้สูงวัยที่ศรัทธาในพระเจ้า ชื่อโมร์เดคัย
- การที่เธอเชื่อฟังพ่อบุญธรรมของเธอได้ช่วยให้เธอในการเชื่อฟังพระเจ้า
- เอสเธอร์ได้เชื่อฟังพระเจ้าและเสี่ยงชีวิตเพื่อช่วยประชาชนของเธอ คือคนยิว
- เรื่องราวของเอสเธอร์แสดงให้เห็นถึงการครอบครองของพระเจ้าครอบคลุมเหนือเหตุการณ์ในประวัติศาสตร์ โดยเฉพาะอย่างยิ่งวิธีที่พระองค์ทรงปกป้องประชากรของพระองค์ และทรงทำงานผ่านผู้ที่เชื่อฟังพระองค์
เอสรา
ข้อเท็จจริง
เอสราเป็นปุโรหิตอิสราเอล และรอบรู้ด้านกฏหมายของคนยิว ผู้ที่บันทึกประวัติศาสตร์การกลับกรุงเยรูซาเล็มของคนอิสราเอลจากกรุงบาบิโลน ที่พวกเขาได้ถูกจับตัวไปเป็นเชลยที่นั่นนาน 70 ปี
- เอสราได้จดบันทึกประวัติศาสตร์ของคนอิสราเอลส่วนนี้ในพระธรรมเอสรา และเขายังอาจได้เขียนพระธรรมเนหะมีย์ ตั้งแต่พระธรรมทั้งสองเล่มนี้ยังเป็นเล่มเดียวกันมาก่อน
- เมื่อเอสราได้กลับมายังกรุงเยรูซาเล็ม เขาได้ทำการก่อตั้งธรรมบัญญัติขึ้นใหม่ ตั้งแต่ที่คนอิสราเอลไม่เชื่อฟังธรรมบัญญัติเรื่องวันสะบาโตและได้ไปแต่งงานกับหญิงที่นับถือศาสนาอื่น
- เอสรายังได้ช่วยบูรณะพระวิหารที่ถูกทำลายลงโดยชาวบาบิโลนเมื่อพวกเขายึดครองกรุงเยรูซาเล็ม
- ยังมีชายอีกสองคนที่ชื่อเอสราที่ได้ถูกเอ่ยถึงในพันธสัญญาเดิม
เอเสเคียล
ข้อเท็จจริง
เอเสเคียลเป็นผู้เผยพระวจนะของพระเจ้าในช่วงเวลาที่ถูกเนรเทศ เมื่อคนยิวจำนวนมากถูกนำไปยังกรุงบาบิโลน
- เอเสเคียลคือปุโรหิตคนหนึ่งที่อาศัยอยู่ในอาณาจักรยูดาห์เมื่อเขาและคนยิวคนอื่นๆ ถูกจับไปโดยกองทัพบาบิโลน
- เป็นเวลามากกว่ายี่สิบปี เขาและภรรยาได้อาศัยอยู่ในกรุงบาบิโลน ใกล้แม่น้ำ และคนยิวได้มาหาเขาเพื่อฟังถ้อยคำจากพระเจ้า
- ท่ามกลางสิ่งอื่นๆ เอเสเคียลได้เผยพระวจนะเรื่องการทำลายและการบูรณะกรุงเยรูซาเล็มและพระวิหาร
- เขาได้เผยพระวจนะถึงอาณาจักรของเมสิยาในอนาคตห์อีกด้วย
เออร์
ข้อเท็จจริง
เออร์ เป็นเมืองที่มีความสำคัญตามแถบแม่น้ำยูเฟรติสในเขตโบราณของคาลเดีย ซึ่งเคยเป็นส่วนหนึ่งของเมโสโปตาเมีย เขตนี้ตั้งอยู่ในพื้นที่ของประเทศอิรัคในปัจจุบัน
- อับราฮัมมาจากเมืองเออร์และจากที่นั่นพระเจ้าทรงเรียกให้เขาจากไปยังแผ่นดินคานาอัน
- ฮาราน น้องชายของอับราฮัมและบิดาของโลทได้สิ้นชีวิตในเออร์ นี้บางทีจะเป็นสาเหตุทีมีอิทธพลต่อโลทให้จากเมืองเออร์ ได้ไปกับอับราฮัม
โอบาดีย์
ข้อเท็จจริง
โอบาดีย์ เป็นผู้เผยพระวจนะในพันธสัญญาเดิมที่เผยพระวจนะต่อต้านชาวเมืองเอโดมซึ่งเป็นลูกหลานของเอซาว ยังมีผู้ชายอีกหลายคนในพันธสัญญาเดิมที่มีชื่อว่าโอบาดีย์ด้วย
- พระธรรมโอบาดีย์เป็นพระธรรมเล่มที่สั้นที่สุดในพันธสัญญาเดิม และบอกถึงคำพยากรณ์ที่โอบาดีย์ได้รับผ่านทางนิมิตจากพระเจ้า
- ยังไม่เป็นที่ชัดเจนว่าโอบาดีย์มีชีวิตอยู่หรือเผยพระวจนะเมื่อใด อาจเป็นช่วงการปกครองของกษัตริย์แห่งยูดาคือกษัตริย์เยโฮรัม, อาหัสยาห์, โยอาช, และอาธาลิยาห์ ผู้เผยพระวจนะดาเนียล, เอเสเคียล, และเยเรมีย์ก็อาจทำการเผยพระวจนะในช่วงเวลาเดียวกันด้วย
- โอบาดีย์อาจมีชีวิตอยู่ในช่วงท้ายการปกครองของเศเดคียาห์ และช่วงเวลาที่เป็นเชลยในบาบิโลน
- บุคคลอื่นที่มีชื่อว่าโอบาดีย์รวมถึง ผู้สืบเชื้อสายมาจากกษัตริย์ซาอูล, ผู้ชายจากเผ่ากาดซึ่งต่อมากลายเป็นคนของดาวิด, ผู้ดูแลพระราชวังของกษัตริย์อาหับ, ข้าราชการของกษัตริย์เยโฮชาฟัทได้แก่ผู้ชายที่ช่วยซ่อมพระวิหารในสมัยของกษัตริย์โยซียาห์ ผู้ชายชาวเลวีผู้เฝ้าประตูในสมัยของผู้เผยพระวจนะเนหะมีย์
- อาจเป็นไปได้ผู้เขียนพระธรรมโอบาดีย์นั้นอาจเป็นผู้ชายเหล่านี้คนใดคนหนึ่ง
ฮักกัย
ข้อเท็จจริง
ฮักกัยเป็นผู้เผยพระวจนะของยูดาห์ในช่วงเวลาที่คนยิวกลับมาจากถูกจับไปเป็นเชลยที่บาบิโลน
- ในสมัยที่ฮักกัยเผยพระวจนะ กษัตริย์อุสซียาห์กำลังปกครองเหนือยูดาห์
- ผู้เผยพระวจนะเศคาริยาห์ก็กำลังเผยพระวจนะอยู่ในช่วงเวลานี้ด้วย
- ฮักกัยและเศคาริยาห์ได้กระตุ้นชาวยิวให้สร้างพระวิหารอีกครั้งที่ได้ถูกทำลายไปโดยชาวบาบิโลนที่อยู่ภายใต้การปกครองของกษัตริย์เนบูคัดเนสซาร์
ฮันนาห์
ข้อเท็จจริง
ฮันนาห์เป็นมารดาของผู้เผยพระวจนะซามูเอลในพันธสัญญาเดิม เธอเป็นหนึ่งในภรรยาสองคนของเอลคานาห์
- ฮันนาห์ไม่สามารถมีบุตรได้ ซึ่งเป็นเรื่องเศร้าอย่างมากสำหรับเธอ
- ในพระวิหาร ฮันนาห์ได้อธิษฐานต่อพระเจ้าด้วยใจร้อนรนให้พระองค์ประทานบุตรให้ โดยปฎิญาณว่าจะมอบถวายเขาให้รับใช้พระเจ้า
- พระเจ้าได้ประทานให้ตามที่เธอขอและเมื่อเด็กชายซามูเอลโตพอแล้ว เธอได้พาเขามารับใช้ในพระวิหาร
- พระเจ้ายังประทานบุตรคนอื่นๆ ให้แก่ฮันนาห์หลังจากนั้น
ฮาการ์
ข้อเท็จจริง
ฮาการ์เป็นผู้หญิงชาวอียิปต์ที่เป็นทาสรับใช้ส่วนตัวของซาราย
- เมื่อซารายไม่สามารถให้กำเนิดบุตรได้ เธอได้มอบฮาการ์ให้แก่อับรามสามีของเธอเพื่อให้มีบุตรโดยอับรามนั้น
- ฮาการ์ตั้งครรภ์และให้กำเนิดบุตรชายให้แก่อับราม คืออิชมาเอล
- พระเจ้าทรงปกป้องดูแลฮาการ์เมื่อนางประสบความทุกข์ยากในทะเลทรายและได้สัญญาที่จะอวยพระพรแก่เชื้อสายของเธอ
ฮานานิยาห์
ข้อเท็จจริง
ฮานานิยาห์เป็นชื่อของผู้ชายหลายคนในพันธสัญญาเดิม
- ฮานานิยาห์คนหนึ่งเป็นเชลยอิสราเอลในบาบิโลนชื่อของเขาได้เปลี่ยนเป็น "ชัดรัค"
- เขาได้ถูกมอบตำแหน่งผู้รับใช้กษัตริย์เนื่องจากเขามีบุคลิกลักษณะที่เป็นเลิศและมีความสามารถ
- ครั้งหนึ่งฮานานิยาห์ (ชัดรัค) และเพื่อนคนหนุ่มคนอิสราเอลอีกสองคนถูกโยนลงไปในไฟในเตาหลอมเพราะพวกเขาปฎิเสธที่จะนมัสการกษัตริย์ พระเจ้าทรงสำแดงฤทธิ์อำนาจของพระองค์โดยการปกป้องพวกเขาไว้จากอันตราย
- มีชายคนอื่นที่ชื่อฮานานิยาห์ ถูกเรียงลำดับเป็นผู้สืบเชื้อสายของกษัตริย์ซาโลมอน
- ฮานานิยาห์อีกคนหนึ่งเป็นผู้เผยพระวจนะเท็จในสมัยของผู้เผยพระวจนะเยเรมีย์
- ผู้ชายอีกคนหนึ่งที่ชื่อฮานานิยาห์เป็นปุโรหิตผู้ที่ได้ช่วยนำการฉลองระหว่างเวลาของเนหะมียห์
ฮาบากุก
ข้อเท็จจริง
ฮาบากุกเป็นผู้เผยพพระวจนะในพันธสัญญาเดิมซึ่งได้มีชีวิตอาศัยอยู่ประมาณในรัชสมัยของกษัตริย์เยโฮยาคิมแห่งเผ่ายูดาห์ ผู้เผยพระวจนะเยเรมีห์ก็ได้มีชีวิตอยู่ในบางช่วงของเวลานี้
- ผู้เผยพระวจนะคนนี้ได้เขียนหนังสือฮาบากุกก่อนที่กรุงเยรูซาเล็มจะถูกยึดครองโดยชาวบาบิโลนประมาณ 600 ปีก่อนคริสตศักราช
- พระยาห์เวห์ทรงให้ฮาบากุกได้ทำนายเกี่ยวกับ "ชาวเคลเดีย" (ชาวบาบิโลน) จะมาและมีชัยชนะเหนือคนยูดาห์อย่างไร
- หนึ่งในคำพูดที่เป็นที่รู้จักกันดีคือคำกล่าว : "คนชอบธรรมจะมีชีวิตอยู่โดยความเชื่อของเขา"
ฮาม
ข้อเท็จจริง
ฮามเป็นบุตรชายคนที่สองในจำนวนบุตรชายสามคนของโนอาห์
- ในช่วงเวลาน้ำท่วมโลกที่ปกคลุมทั่วทั้งโลกนั้น ฮามและพี่น้องของเขาอยู่กับโนอาห์ในเรือ พร้อมด้วยภรรยาของพวกเขา
- หลังจากน้ำท่วมโลกแล้ว เกิดเหตุการณ์ที่ฮามไม่ให้เกียรติแก่โนอาห์บิดาของเขา ผลที่ตามมา โนอาห์จึงสาปแช่งคานาอันบุตรของฮามและเชื้อสายของเขาทั้งหมด ที่ในท้ายที่สุดแล้วรู้จักกันในนามชาวคานาอัน
ฮามัธ, เลโบ ฮามัธ, คนฮามัธ
ข้อเท็จจริง
ฮามัธเป็นเมืองสำคัญในซีเรียตอนเหนือ ซึ่งอยู่ทางเหนือของแผ่นดินคานาอัน คนฮามัธเป็นผู้สืบเชื้อสายของคานาอันบุตรชายของโนอาห์
- คำว่า "เลโบ ฮามัธ" บางทีอ้างถึงทางผ่านภูเขาที่อยู่ใกล้กับเมืองฮามัธ
- ในบางฉบับแปล "เลโบ ฮามัธ" ว่า "ทางผ่านเข้าสู่เมืองฮามัธ"
- กษัตริย์ดาวิดเอาชนะศัตรูของกษัตริย์โทอูแห่งฮามัธซึ่งทำให้พวกเขาเป็นมิตรต่อกัน
- ฮามัธเป็นเมืองหนึ่งที่เป็นสถานที่เก็บรักษาเสบียงของซาโลมอน
- แผ่นดินฮามัธเป็นสถานที่ที่กษัตริย์เศเดคียาห์ถูกฆ่าโดยกษัตริย์เนบูคัดเนสซาร์และเป็นสถานที่ที่กษัตริย์เยโฮอาอาสถูกจับไปโดยฟาโรห์ของอียิปต์
- คำว่า "คนฮามัธ" สามารถแปลว่า "ประชาชนจากฮามัธ"
ฮาเมอร์
ข้อเท็จจริง
ฮาเมอร์เป็นผู้ชายคนคานาอันที่อาศัยอยู่ในเมืองเชเคมเมื่อยาโคบและครอบครัวของเขาได้อาศัยอยู่ใกล้เมืองสุคคท เขาเป็นคนฮีไวท์
- ยาโคบได้ซื้อที่ฝังศพสำหรับครอบครัวจากบุตรชายของฮาเมอร์
- ขณะที่พวกเขาได้อยู่ที่นั่น เชเคมบุตรชายของฮาเมอร์ได้ข่มขืนดีนาห์บุตรสาวของยาโคบ
- พี่ชายของนางจึงได้แก้แค้นฮาเมอร์และครอบครัวของเขา และได้ฆ่าผู้ชายทั้งหมดในเมืองเชเคม
ฮาราน
ข้อเท็จจริง
ฮารานเป็นน้องชายของอับราฮัมและเป็นบิดาของโลท
- ฮารานยังเป็นชื่อของเมืองที่อับรามและครอบครัวของเขาได้อาศัยอยู่ชั่วระยะเวลาหนึ่งระหว่างการเดินทางจากเมืองอูร์ไปยังแผ่นดินคานาอัน
- มีผู้ชายอีกคนที่ชื่อว่าฮารานเป็นลูกชายของคาเรบ
- ผู้ชายคนที่สามในพระคัมภีร์ที่ชื่อว่าฮารานเป็นเชื้อสายของเลวี
ฮิตไทต์
ข้อเท็จจริง
ฮิตไทต์เป็นผู้สืบเชื้อสายของฮามผ่านทางบุตรชายของเขาคานาอัน พวกเขาได้กลายมาเป็นอาณาจักรใหญ่ตั้งอยู่ในสถานที่ที่ปัจจุบันคือตุรกีและปาเลสไตน์เหนือ
- อับราฮัมได้ซื้อที่ดินจากเอโฟรนคนฮิตไทต์ ดังนั้นเขาจะได้ฝังศพภรรยาที่เสียชีวิตไปของเขาคือซาราห์ในถ้ำที่นั่น ในที่สุดอับราฮัมและเชื้อสายของเขาหลายคนได้ถูกฝังไว้ในถ้ำนั้นเช่นกัน
- พ่อแม่ของเอซาวได้เศร้าโศกเมื่อเขาแต่งงานกับหญิงคนฮิตไทต์สองคน
- หนึ่งในบรรดาคนเก่งกล้าของดาวิดคนหนึ่งมีชื่อว่าอุรีอาห์คนฮิตไทต์
- หญิงต่างด้าวส่วนหนึ่งที่เป็นนางสนมของซาโลมอนเป็นคนฮิตไทต์ หญิงเหล่านี้ได้ทำให้ใจของซาโลมอนออกห่างจากพระเจ้าเพราะพระเทียมเท็จที่พวกนางได้นมัสการ
- พวกฮิตไทต์มักจะคุกคามพวกคนอิสราเอลบ่อยครั้ง ทั้งด้านร่างกายและจิตวิญญาณ
ฮิลคียาห์
ข้อเท็จจริง
ฮิลคียาห์เป็นชื่อของมหาปุโรหิตในรัชสมัยของกษัตริย์โยสิยาห์
- เมื่อมีการซ่อมแซมวิหาร มหาปุโรหิตฮิลคียาห์ได้พบหนังสือธรรมบัญญัติและสั่งให้นำไปให้กษัตริย์โยสิยาห์
- หลังจากได้มีการอ่านหนังสือธรรมบัญญัติให้เขาฟัง โยสิยาห์รู้สึกโศกเศร้าและเป็นต้นเหตุให้ผู้คนในยูดาห์มานมัสการพระยาห์เวห์อีกครั้งและเชื่อฟังธรรมบัญญัติของพระองค์
- ผู้ชายอีกคนหนึ่งที่ชื่อฮิลคียาห์เป็นบุตรของเอลียาคิมและทำงานในพระราชวังในสมัยของกษัตริย์เฮเซคียาห์
ฮีไวต์
ข้อเท็จจริง
คนฮีไวต์เป็นหนึ่งในกลุ่มคนใหญ่เจ็ดกลุ่มที่อาศัยอยู่ในแผ่นดินคานาอันเมื่อโยชูวาได้นำคนอิสราเอลมาครอบครองแผ่นดินนั้น
- เหมือนกับคนทั้งหมดในกลุ่มนี้ คนฮีไวต์สืบเชื้อสายมาจากคานาอัน ผู่ซึ่งเป็นหลานชายของโนอาห์
- เชเคม คนฮีเวต์ได้ข่มขืนดินาห์บุตรสาวของยาโคบ และพี่ชายของเธอได้ฆ่าคนฮีไวต์หลายคนเป็นการแก้แค้น
- เมื่อโยชูวาได้นำคนอิสราเอลมาครอบครองแผ่นดินคานาอัน พวกอิสราเอลได้เล่นเล่ห์เหลี่ยมทำสัญญากับคนฮีไวต์แทนที่จะปราบเอาชนะพวกเขา
เฮเซคียาห์
ข้อเท็จจริง
เฮเซคียาห์เป็นกษัตริย์องค์ที่ 13 แห่งอาณาจักรยูดาห์ เขาเป็นกษัตริย์ผู้ที่ได้ไว้วางใจและเชื่อฟังพระเจ้า
- ไม่เหมือนกับกับอาหัสบิดาของเขาที่เป็นกษัตริย์ชั่วร้าย กษัตริย์เฮเซคียาห์เป็นกษัตริย์ที่ดีผู้ได้ทำลายสถานนมัสการรูปเคารพทั้งหมดในยูดาห์
- ครั้งหนึ่งเมื่อเฮเซคียาห์ได้ป่วยมากและเกือบเสียชีวิต พระองค์ได้อธิษฐานอย่างร้อนรน พระเจ้าทรงรักษาเขาจากโรคร้ายแรงและให้เขามีชีวิตอยู่อีก 15 ปี
- และเป็นสัญญาณต่อเฮเซคียาห์ว่าสิ่งนี้จะเกิดขึ้น พระเจ้าาทรงได้กระทำการอัศจรรย์และทรงทำให้เวลาได้ย้อนกลับ
- พระเจ้าทรงตอบคำอธิษฐานของเฮเซคียาห์เพื่อช่วยประชาชนของเขาจากกษัตริย์เซนนาเคอริบแห่งอัสสิเรียผู้ทีกำลังโจมตีพวกเขา
เฮโบรน
ข้อเท็จจริง
เฮโบรนเป็นเมืองที่ตั้งอยู่บนเนินเขาหินสูงห่างจากกรุงเยรูซาเล็มไปทางใต้ประมาณ 20 ไมล์
- เมืองนี้ถูกสร้างประมาณ 2000 ปีก่อนคริสตกาล ในสมัยของอับราม เป็นเมืองที่ถูกกล่าวถึงหลายครั้งในเรื่องราวทางประวัติศาสตร์ที่มีระบุในพันธสัญญาเดิม
- เฮโบรนมีบทบาทสำคัญมากในชีวิตของกษัตริย์ดาวิด ลูกหลายคนของพระองค์รวมถึงอับซาโลมก็เกิดที่นั่น
- เมืองนี้ถูกทำลายประมาณปีคริสตศักราชที่ 70 โดยชาวโรมัน
เฮโรด มหาราช
ข้อเท็จจริง
เฮโรดมหาราช ได้ปกครองหนือยูดาห์ในเวลาที่พระเยซูทรงบังเกิด เขาเป็นพวกผู้ปกำครองชาวเอโดมคนแรกที่มีชื่อว่าเฮโรดผู้ได้ปกครองเหนือหลายส่วนของอาณาจักรโรมัน
- บรรพบุรุษของเขาได้เปลี่ยนมานับถือลัทธิยูดาห์และเขาถูกเลี้ยงดูมาเหมือนคนยิว
- ซีซาร์ออกัสตัสได้ตั้งชื่อเขาว่า "กษัตริย์เฮโรด" ถึงแม้ว่าเขาไม่ได้เป็นกษัตริย์ที่แท้จริงก็ตาม เขาได้ปกครองเหนือชาวยิวในยูเดียเป็นเวลา 33 ปี
- เฮโรดมหาราชได้เป็นที่รู้จักกันในฐานะที่ได้สั่งให้มีการก่อสร้างอาคารที่สวย รวมทั้งการบูรณะพระวิหารของพวกยิวในกรุงเยรูซาเล็ม
- เฮโรดองค์นี้โหดร้ายมากและเขาได้สั่งให้ประหารประชาชนหลายคน เมื่อเขาได้ยินว่า " กษัตริย์ของยิว" อีกองค์หนึ่งได้ประสูติในเบธเลเฮ็ม เขาได้สั่งให้ประหารทารกชายทั้งหมดในเมืองนั้น
- บุตรชายของเขา เฮโรด อันทิปัสและเฮโรด ฟิลิปและหลานชายของเขา เฮโรด อากริปปาได้กลายมาเป็นผู้ปกครองโรมัน เหลนชายของเขา เฮโรด อากริปปาที่สอง (เรียกกันว่า "กษัตริย์อากริปปา") ได้ปกครองทั่วทั้งอาณาเขตยูเดีย
เฮโรด อันทิปัส
ข้อเท็จจริง
ระหว่างเกือบชั่วชีวิตของพระเยซู เฮโรด อันทิปัสเป็นผู้ปกครองส่วนของอาณาจักรโรมันซึ่งรวมทั้งแคว้นกาลิลี
- เหมือนกับบิดาของเขาคือเฮโรดมหาราช บางครั้งอันทิปัสได้ถูกอ้างถึงในนาม "กษัตริย์เฮโรด" แม้ว่าเขาจะไม่ใช่กษัตริย์ที่แท้จริงก็ตาม
- เฮโรด อันทิปัสปกครองหนึ่งในสี่ของอาณาจักรโรมัน และเขายังถูกเรียกว่า "เฮโรดเจ้าเมือง"
- อันทิปัสคือ "เฮโรด" ที่สั่งให้ประหารยอห์นผู้ให้บัพติศมาโดยการตัดศีรษะ
- เป็นเฮโรด อันทิปัส ผู้ที่ได้ซักถามพระเยซูก่อนที่พระองค์จะถูกตรึงที่กางเขน
- "เฮโรด" อีกคนหนึ่งในพันธสัญญาใหม่ คือ บุตรชายของอันทิปัส (อากริปปา) และหลาน (อากริปปา ที่ 2) ผู้ได้ปกครองระหว่างเวลาของบรรดาอัตรสาวก
เฮโรเดียส
ข้อเท็จจริง
เฮโรเดียสเป็นมเหสีของกษัตริย์เฮโรด อันทิปัส ในแคว้นยูเดียในสมัยของยอห์น ผู้ให้บัพติศมา
- แต่เดิมเฮโรเดียสเป็นมเหสีของฟิลิป พี่ชายของเฮโรด อันทิปัส แต่ต่อมาได้สมรสอย่างไม่ถูกต้องตามกฏหมายกับเฮโรด อันทิปัส
- ยอห์นผู้ให้บัพติศมาได้ตำหนิเฮโรดและเฮโรเดียสในเรื่องการสมรสอย่างไม่ถูกต้องตามกฏหมาย ด้วยเหตุนี้ เฮโรดจึงขังยอห์นไว้ในคุกและในที่สุดก็สั่งให้ตัดศีรษะเขา
โฮเชยา
ข้อเท็จจริง
โฮเชยาเป็นผู้เผยพระวจนะของอิสราเอลประมาณ 750 ปีก่อนพระคริสต์
- พันธกิจของเขาคงอยู่เป็นเวลาหลายปีตลอดรัชสมัยของกษัตริย์หลายพระองค์ เช่น เยโรโบอัม เศคาริยาห์ อุสซียาห์ โยธาม อาหัส โฮเชยา อูซียาห์ และเฮเซคียาห์
- พระเจ้าตรัสกับโฮเชยาให้แต่งงานกับหญิงโสเภณีที่ชื่อว่าโกเมอร์และรักนางต่อไป แม้ว่านางจะไม่ซื่อสัตย์กับเขา
- นี่เป็นภาพของความรักของพระเจ้าสำหรับคนของพระองค์ที่ไม่สัตย์ซื่อคืออิสราเอล
- โฮเชยาได้กล่าวคำเผยพระวจนะต่อประชากรอิสราเอลโดยการเตือนพวกเขาให้เลิกบูชารูปเคารพ
โฮเชยา
ข้อเท็จจริง
โฮเชยาเป็นชื่อกษัตริย์ของอิสราเอลเป็นเวลาเก้าปีในระหว่างส่วนหนึ่งของรัชสมัยของอาหัสและเฮเซคียาห์ กษัตริย์แห่งยูดาห์
- โยชูวาบุตรชายของนูนก่อนหน้านั้นเคยชื่อว่าโฮเชยา โมเสสได้เปลี่ยนชื่อโฮเชยาเป็นโยเชวาก่อนที่จะส่งเขาและผู้ชายอีกสิบเอ็ดคนไปสอดแนมในแผ่นดินคานาอัน
- หลังจากที่โมเสสเสียชีวิตแล้ว โยชูวานำประชากรอิสราเอลเข้าไปครอบครองแผ่นดินคานาอัน
- ผู้ชายอีกคนหนึ่งที่ชื่อโยเชวาเป็นบุตรชายของอาซาไซอาห์และเป็นผู้นำคนหนึ่งของเผ่าเอฟราอิม
โฮเรบ
ข้อเท็จจริง
ภูเขาโฮเรบเป็นอีกชื่อหนึ่งของภูเขาซีนาย ที่พระเจ้าได้ประทานแผ่นหินจารึกพระบัญญัติสิบประการให้แก่โมเสส
- ภูเขาโฮเรบได้ชื่อว่า "ภูเขาของพระเจ้า"
- โฮเรบเป็นสถานที่ที่โมเสสได้มองเห็นพุ่มไม้ที่ไฟลุกโชนอยู่เมื่อเขากำลังเลี้ยงดูฝูงแกะ
- ภูเขาโฮเรบเป็นสถานที่พระเจ้าได้เปิดเผยพันธสัญญาแก่คนอิสราเอลดดยให้พวกเขาได้รับแผ่นหินที่มีพระบัญญัติของพระองค์เขียนบนแผ่นหินเหล่านั้น
- นี่เป็นสถานที่ที่พระเจ้าต่อมาได้ตรัสกับโมเสสให้ตีหินเพื่อจัดหาน้ำให้กับคนอิสราเอลที่กระหายน้ำขณะที่เขากำลังเดินทางอยู่ในทะเลทราย
- สถานที่แน่นอนของภูเขานี้ไม่เป็นที่ทราบกัน แต่อาจจะอยู่ทางตอนใต้ของคาบสมุทรซีนาย
- เป็นไปได้ว่า "โฮเรบ" เป็นชื่อที่แท้จริงของภูเขาและ "ภูเขาซีนาย" หรือ "ภูเขาแห่งซีนาย" อ้างถึงข้อเท็จจริงว่าภูเขาโฮเรบตั้งที่อยู่ในทะเลทรายซีนาย