Key Terms

กฎ, บัญญัติของโมสส, กฎบัญญัติของพระเจ้า, พระบัญญัติของพระยาเวห์

คำจำกัดความ

คำทั้งหมดเหล่านี้กล่าวถึงคำสั่งและคำสอนต่างๆที่พระเจ้ามอบไว้ให้แก่โมเสสเพื่อให้ชาวอิสราเอลทำตาม คำว่า "กฎ" และ "พระบัญญัติของพระเจ้า" โดยปกติแล้วจะใช้เพื่ออ้างถึงทุกสิ่งที่พระเจ้าต้องการให้ประชากรของพระองค์เชื่อฟัง

  • ขึ้นอยู่กับบริบท คำว่า "กฎ" สามารถอ้างถึงสิ่งต่อไปนี้
  • พระบัญญัติสิบประการที่พระเจ้าทรงเขียนบนแผ่นศิลาสำหรับชาวอิสราเอล
  • กฎบัญญัติทั้งหมดได้ทรงมอบให้แก่โมเสส
  • พระธรรมห้าเล่มแรกของพันธสัญญาเดิม
  • พระคัมภีร์พันธสัญญาเดิมทั้งหมด (และได้อ้างอิงถึงว่าเป็น "พระคัมภีร์" ในพันธสัญญาใหม่ด้วย)
  • คำสั่งสอนทั้งหมดของพระเจ้าและความปรารถนา
  • วลี "กฎบัญญัติและผู้เผยพระวจนะ" ถูกใช้ในพันธสัญญาใหม่เพื่ออ้างถึงพระคัมภีร์ของฮีบรู (หรือ "พันธสัญญาเดิม")

คำแนะนำในการแปล

  • คำนี้สามารถแปลโดยการใช้คำพหูพจน์ว่า "กฎทั้งหลาย" เนื่องจากเป็นการอ้างถึงคำสั่งสอนมากมาย
  • คำว่า "กฎบัญญัติของโมเสส" สามารถแปลว่า "กฎบัญญัติที่พระเจ้าได้ทรงบอกให้โมเสสมอบให้แก่ชาวอิสราเอล"
  • ขึ้นอยู่กับบริบท คำว่า "กฎบัญญัติของโมเสส" สามารถแปลว่า "กฎบัญญัติที่พระเจ้าบอกแก่โมเสส" หรือ "กฎบัญญัติของพระเจ้าที่โมเสสได้เขียนไว้" หรือ กฎบัญญัติที่พระเจ้าได้ทรงบอกโมเสสเพื่อมอบให้แก่ชาวอิสราเอล"
  • วิธีการแปลคำว่า "บัญญัติ" หรือ "บัญญัติของพระเจ้า" สามารถรวมคำว่า "บัญญัติจากพระเจ้า" หรือ "พระบัญชาของพระเจ้า" หรือ "บรรดากฎต่างๆ ที่พระเจ้าประทานให้" หรือ "ทุกสิ่งที่พระเจ้าบัญชา" หรือ "คำสั่งสอนทั้งหมดของพระเจ้า"
  • วลี "กฎหมายของพระยาห์เวห์" สามารถแปลว่า "กฎหมายต่างๆ ของพระยาห์เวห์" หรือ "กฎหมายที่พระยาห์เวห์ตรัสให้เชื่อฟัง" หรือ "กฎหมายจากพระยาห์เวห์" หรือ "สิ่งต่างๆที่พระยาห์เวห์ทรงบัญชา"

กลับใจ, การกลับใจใหม่

คำจำกัดความ

คำว่า "กลับใจใหม่" และ "การกลับใจใหม่" อ้างถึง การหันกลับจากบาปและหันกลับไปหาพระเจ้า

  • คำว่า "กลับใจใหม่" ตามตัวอักษรแล้ว หมายถึง การ "เปลี่ยนจิตใจของคนๆ หนึ่ง"
  • ในพระคัมภีร์ "กลับใจใหม่" โดยปกติแล้วหมายถึง การหันกลับจากบาป วิถีคิดของมนุษย์และการกระทำ และหันกลับสู่การคิดและการประพฤติในทางของพระเจ้า
  • เมื่อคนกลับใจใหม่อย่างแท้จริงจากบาปของพวกเขาแล้ว พระเจ้าให้อภัยและช่วยให้พวกเขาเริ่มการเชื่อฟังพระองค์

คำแนะนำในการแปล

  • คำว่า "กลับใจ" สามารถแปลด้วยคำหรือวลีที่หมายความว่า "หันกลับหลัง"

กษัตริย์ของพวกยิว

คำจำกัดความ

คำว่า "กษัตริย์ของพวกยิว" เป็นตำแหน่งที่อ้างถึงพระเยซู พระเมสสิยาห์

  • ครั้งแรกที่ตำแหน่งนี้ได้รับการบันทึกในพระคัมภีร์คือเมื่อนักปราชญ์ผู้ที่เดินทางไปยังเบธเลเฮ็มเพื่อตามหาทารกน้อยผู้เป็น "กษัตริย์ของพวกยิว"
  • ทูตสวรรค์เปิดเผยต่อมารีย์ว่าบุตรชายของเธอผู้เป็นเชื้อสายของกษัตริย์ดาวิด จะเป็นกษัตริย์องค์หนึ่งที่ครอบครองจนชั่วนิรันดร์
  • ก่อนพระเยซูถูกตรึง พวกทหารโรมันพูดล้อเลียนพระเยซูว่า "กษัตริย์ของพวกยิว" ตำแหน่งนี้ถูกเขียนไว้บนแผ่นไม้และตอกตะปูติดไว้บนกางเขนของพระเยซู
  • พระเยซูทรงเป็นกษัตริย์ที่แท้จริงของพวกยิวและทรงเป็นกษัตริย์เหนือสิ่งทรงสร้างทั้งปวง

คำแนะนำในการแปล

  • คำว่า "กษัตริย์ของพวกยิว" สามารถแปลได้ว่า "กษัตริย์เหนือพวกยิว" หรือ "กษัตริย์ผู้ปกครองเหนือพวกยิว" หรือ "ผู้ปกครองสูงสุดเหนือพวกยิว"*
  • ตรวจสอบดูวิธีการแปลวลี "กษัตริย์ของ" ในตอนอื่นในการแปลด้วย

ก้อนหิน การขว้างด้วยหิน

คำจำกัดความ

ก้อนหินเป็นหินก้อนเล็กๆ คำว่า "การขว้างด้วยหิน" อ้างถึงการขว้างก้อนหินใส่บุคคลเพื่อฆ่าเขา

  • ในสมัยโบราณ การขว้างหินเป็นวิธีธรรมดาของการสังหารประชาชนถือเป็นการทำโทษสำหรับการกระทำผิดที่พวกเขาได้กระทำ
  • พระเจ้าทรงบัญชาให้ผู้นำอิสราเอลการขว้างหินผู้คนในการทำบาปบางอย่าง เช่นการล่วงประเวณี
  • พันธสัญญาใหม่ได้บอกเวลาที่พระเยซูทรงยกโทษผู้หญิงที่ถูกจับในการล่วงประเวณีและทรงหยุดยั้งประชาชนจากการเอาก้อนหินขว้างเธอ
  • สเทเฟน เป็นบุคคลแรกในพระคัมภีร์ที่ถูกฆ่าตายเพราะการเป็นพยานเกี่ยวกับพระเยซู ด้วยการถูกก้อนหินขว้างให้ตาย
  • ในเมืองลิสตรา อัครสาวกเปาโลถูกขว้างด้วยก้อนหิน แต่เขาไม่ตายจากบาดแผลของเขา

การคืนดี, การไถ่, คืนดี, ไถ่

คำจำกัดความ

คำว่า "คืนดี" และ "การคืนดี" กล่าวถึงการที่พระเจ้าได้จัดเตรียมเครื่องบูชาที่จะไถ่ความบาปของประชาชนและระงับพระพิโรธของพระองค์ต่อความบาป

  • ในสมัยพันธสัญญาเดิม พระเจ้าทรงอนุญาตให้มีการไถ่ชั่วคราวสำหรับความบาปของคนอิสราเอล โดยการถวายเครื่องบูชาด้วยเลือด ซึ่งเกี่ยวข้องกับการฆ่าสัตว์
  • ตามที่ถูกบันทึกในพันธสัญญาใหม่ การสวรรคตของพระคริสต์บนไม้กางเขนเป็นการไถ่บาปที่แท้จริงและถาวรเพียงอย่างเดียวเท่านั้น
  • เมื่อพระเยซูสวรรคต พระองค์ได้รับการลงโทษที่มนุษย์ควรได้รับเพราะความบาปของพวกเขาไว้แทน พระองค์ได้จ่ายค่าลบล้างบาปด้วยการสวรรคตของพระองค์

ข้อแนะนำในการแปล

  • คำว่า "ไถ่" อาจถูกแปลด้วยคำ หรือวลีที่มีความหมายว่า "จ่ายให้" หรือ "จ่ายแทน" หรือ "ทำให้บาปของบางคนได้รับการอภัย" หรือ "จ่ายชดใช้ค่าเสียหายสำหรับอาชญากรรม"
  • วิธีอื่นๆ ที่จะแปลคำว่า "การไถ่" อาจรวมถึงคำว่า "การจ่าย" หรือ "เครื่องบูชาที่ชดใช้บาป" หรือ "ทำให้เกิดการอภัยโทษ"
  • ให้มั่นใจว่าการแปลคำนี้ไม่ได้หมายถึง การจ่ายเงิน

การดูหมิ่น, ดูหมิ่น, ซึ่งดูหมิ่น

คำจำกัดความ

ในพระคัมภีร์ คำว่า "การดูหมิ่นประมาท" กล่าวถึงการพูดที่แสดงให้เห็นถึงการขาดความเคารพนับถืออย่างมากต่อพระเจ้าหรือประชาชน การ "ดูหมิ่น" ใครบางคนเป็นการพูดให้ร้ายคน เพื่อที่จะให้คนอื่นคิดถึงบางสิ่งที่ผิดหรือไม่ดีเกี่ยวกับคนนั้น

  • บ่อยมากที่ การดูหมิ่นพระเจ้า หมายถึงการพูดให้ร้าย หรือดูหมิ่นพระองค์ โดยการพูดสิ่งที่ไม่จริงเกี่ยวกับพระองค์ หรือโดยการประพฤติผิดศีลธรรมที่ไม่ถวายพระเกียรติแด่พระองค์
  • เป็นการดูหมิ่นสำหรับมนุษย์ที่อ้างว่าเป็นพระเจ้า หรืออ้างว่ามีพระอื่นนอกเหนือจากพระเจ้าเที่ยงแท้แต่เพียงผู้เดียว
  • พระคัมภีร์ฉบับภาษาอังกฤษบางฉบับแปลคำนี้ว่า "พูดให้ร้าย" เมื่อกล่าวถึงการดูหมิ่นประชาชน

คำแนะนำในการแปล

  • การ "ดูหมิ่น" สามารถแปลได้ว่า "การพูดสิ่งที่ไม่ดีต่อต้าน" หรือ "ไม่ให้เกียรติพระเกียรติพระเกียรติ" หรือ "การพูดให้ร้าย"
  • วิธีอื่นๆ ในการแปล "การดูหมิ่น" สามารถรวมถึง "การพูดเกี่ยวกับคนอื่นๆ อย่างไม่ถูกต้อง" หรือ "การพูดให้ร้าย" หรือ "การกระจายข่าวลือที่ผิด"

การทดสอบ

คำจำกัดความ

คำว่า "การทดสอบ" อ้างถึงประสบการณ์ที่ยากลำบากหรือเจ็บปวดซึ่งแสดงให้เห็นถึงจุดแข็งและจุดอ่อนของบุคคล

  • พระเจ้าทรงทดสอบประชาชน แต่พระองค์ไม่ทดลองพวกเขา ซาตานจะทดลองประชาชนให้ทำบาป
  • บางครั้งพระเจ้าทรงใช้การทดสอบเพื่อเปิดเผยความบาปของผู้คน การทดสอบช่วยให้บุคคลหันกลับจากบาปและเข้าใกล้พระเจ้า
  • ทองคำและโลหะอื่น ๆ ได้รับการทดสอบด้วยไฟเพื่อหาว่ามันบริสุทธิ์และแข็งอย่างไร นี่เป็นภาพของพระเจ้าทรงใช้สถานการณ์อันเจ็บปวดเพื่อทดสอบประชากรของพระองค์
  • "เข้าสู่การทดสอบ" สามารถแปลว่า "ท้าทายบางสิ่งหรือบางคนเพื่อพิสูจน์ค่าของมัน"
  • ในบริบทของการทดสอบพระเจ้า หมายถึงการไม่ปฏิบัติตามพระองค์ ฉวยโอกาสจากผลประโยชน์จากความเมตตาของพระองค์
  • พระเยซูตรัสกับซาตานว่ามันเป็นการผิดที่ทดลองพระเจ้า พระองค์คือพระเจ้าผู้ทรงอำนาจสูงสุด พระเจ้าองค์บริสุทธิ์ทรงอยู่เหนือทุกสิ่งและทุกคน

คำแนะนำในการแปล

  • คำว่า "ทดสอบ" สามารถแปลว่า "ท้าทาย" หรือ "ทำให้เกิดประสบการณ์ที่ยากลำบาก" หรือ "พิสูจน์"
  • วิธีการแปล "การทดสอบ" สามารถเป็น "ความท้าทาย" หรือ "ประสบการณ์ที่ยากลำบาก"
  • "ทำการทดสอบ" สามารถแปลว่า "ทดสอบ" หรือ "การทำให้มีความท้าทาย" หรือ "บังคับเพื่อพิสูจน์ตัวเอง"
  • ในบริบทของการทดสอบพระเจ้า สิ่งนี้สามารถแปลได้ว่า "พยายามบังคับให้พระเจ้าพิสูจน์ความรักของพระองค์"
  • ในบางบริบท คำว่า "ทดสอบ" สามารถแปลว่า "ทดลอง"

การนมัสการ

คำจำกัดความ

"การนมัสการ" หมายถึงการยกย่องสรรเสริญและเชื่อฟังบางคน เฉพาะอย่างยิ่ง พระเจ้า

  • คำนี้บ่อยครั้งจะมีความหมายตามตัวอักษร "น้อมลง" หรือ "กราบไหว้" เพื่อถ่อมตนให้เกียรติบางคน
  • เรานมัสการพระเจ้าเมื่อเรารับใช้และให้เกียรติพระองค์ โดยการสรรเสริญพระองค์และเชื่อฟังพระองค์
  • เมื่อคนอิสราเอลนมัสการพระเจ้า มักมีการถวายสัตวบูชาบนแท่นบูชา
  • บางคนนมัสการพระเจ้าเทียมเท็จ

คำแนะนำในการแปล

  • คำว่า "นมัสการ" สามารถแปลว่า "ก้มลง" หรือ "ให้เกียรติและรับใช้" หรือ "ให้เกียรติและเชื่อฟัง"
  • ในบางบริบท ก็สามารถแปลว่า "การสรรเสริญอย่างถ่อมตัว" หรือ "ให้เกียรติและสรรเสริญ"

การบรรเทา

คำจำกัดความ

คำว่า "การบรรเทา" อ้างถึงเครื่องบูชาที่ทำให้พึงพอใจหรือทำให้บรรลุความเที่ยงธรรมของพระเจ้าและเพื่อให้การบรรเทาพระพิโรธของพระเจ้าจะสงบ

  • การถวายเครื่องบูชาพระโลหิตของพระเยซูคริสต์เป็นการบรรเทาแด่พระเจ้าสำหรับความบาปของมนุษยชาติ
  • การตายของพระเยซูคริสต์บนกางเขนบรรเทาพระพิโรธของพระเจ้าต่อความบาป นี่เป็นการจัดเตรียมทางสำหรับพระเจ้าจะมองดูคนของพระองค์ด้วยความโปรดปรานและประทานชีวิตนิรันดร์แก่พวกเขา

คำแนะนำในการแปล

  • คำนี้สามารถแปลได้เช่น "การบรรเทา" หรือ "เป็นเหตุให้พระเจ้ายกโทษความบาปและโปรดปรานประชาชน"
  • คำว่า "การไถ่โทษ" เป็นความหมายที่ใกล้เคียงกับ "การบรรเทา" เป็นสิ่งสำคัญมากที่เปรียบเทียบว่าสองคำนี้ใช้อย่างไร

การปกครอง

คำจำกัดความ

คำว่า "การปกครอง" กล่าวถึงอำนาจ การควบคุม หรือสิทธิอำนาจเหนือมนุษย์ สัตว์ หรือแผ่นดิน

  • พระเยซูคริสต์ได้รับการกล่าวถึงว่ามีอำนาจเหนือทุกสิ่งบนแผ่นดินโลก เป็นผู้พยากรณ์ ปุโรหิตและกษัตริย์
  • การปกครองของซาตานพ่ายแพ้ตลอดกาลโดยการสวรรคตของพระเยซูคริสต์บนไม้กางเขน
  • ในการทรงสร้าง พระเจ้าได้ตรัสว่ามนุษย์ได้อำนาจครอบครองเหนือปลา นกและสิ่งมีชีวิตทั้งหมดบนแผ่นดินโลก

คำแนะนำในการแปล

  • วิธีอื่น ๆ ในการแปลคำนี้อาจรวมถึง "สิทธิอำนาจ" หรือ "พลังอำนาจ" หรือ "การควบคุม" ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับบริบทนั้น ๆ
  • วลีว่า "มีอำนาจเหนือ" อาจแปลว่า "ปกครองเหนือ"หรือ "จัดการ"

การเป็นขึ้นมาจากความตาย

คำจำกัดความ

คำว่า "การเป็นขึ้นจากความตาย" หมายถึงการกระทำให้มีชีวิตอีกครั้งหนึ่งหลังจากที่ได้ตายแล้ว

  • การให้คนหนึ่งเป็นขึ้นมาจากความตายหมายถึงการนำคนนั้นให้มีชีวิตอีกครั้ง มีเพียงพระเจ้าเท่านั้นที่มีอำนาจทำเช่นนี้
  • คำว่า "การเป็นขึ้นมาจากความตาย" บ่อยครั้งอ้างถึงการกลับมามีชีวิตอีกครั้งของพระเยซูหลังจากที่ตายแล้ว
  • เมื่อพระเยซูตรัสว่า "เราเป็นการฟื้นจากความตายและชีวิต" พระองค์หมายถึงพระองค์ทรงเป็นแหล่งของการฟื้นจากความตายและเป็นผู้นนั้นที่เป็นเหตุให้มนุษย์กลับมามีชีวิต

คำแนะนำในการแปล

  • คำว่า "การเป็นขึ้นมาจากความตาย" สามารถแปลว่า "การกลับมามีชีวิต" หรือ "กลับมามีชีวิตอีกครั้งหลังจากที่ตายไปแล้ว"
  • ความหมายตามตัวอักษรของคำนี้คือ "การเป็นขึ้นมา" หรือ "การกระทำของการเป็นขึ้นมา"

การเป็นชู้, เป็นชู้ ชายชู้ หญิงชู้

คำจำกัดความ

คำว่า "การเป็นชู้" กล่าวถึงความบาปที่เกี่ยวข้องกับคนที่แต่งงานแล้วไปมีเพศสัมพันธ์กับคนอื่นที่ไม่ใช่คู่สมรสของตนเอง คำว่า "เป็นชู้" อธิบายถึงพฤติกรรมแบบนี้หรือบุคคลที่ทำความบาปนี้

  • คำว่า "ชายชู้" โดยทั่วไปกล่าวถึงใครก็ได้ที่เป็นชู้
  • บางครั้งคำว่า "หญิงชู้" ถูกใช้เฉพาะกับผู้หญิงที่เป็นชู้
  • การเป็นชู้ทำลายคำสัญญาที่สามีและภรรยาได้สัญญาต่อกันในพันธสัญญาของการแต่งงานของพวกเขา
  • พระเจ้าทรงได้บัญชาห้ามคนอิสราเอลเป็นชู้
  • คำว่า "เป็นชู้" มักใช้เป็นภาพเปรียบเทียบเพื่ออธิบายถึงประชาชนอิสราเอลที่ไม่ซื่อสัตย์ต่อพระเจ้า โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อพวกเขาได้ไปนมัสการพระเทียมเท็จ

ข้อแนะนำในการแปล

  • ถ้าภาษาที่จะแปลนั้นไม่มีคำที่หมายความถึง "การเป็นชู้" คำนี้ก็อาจแปลด้วยวลีเช่น "การมีเพศสัมพันธ์กับคู่สมรสของคนอื่น" หรือ "การมีความสนิทสนมทางเพศกับคู่สมรสของคนอื่น"
  • บางภาษาอาจมีการพูดถึงการเป็นชู้ในทางอ้อม เช่น "หลับนอนกับคู่สมรสของคนอื่น" หรือ "ไม่ซื่อสัตย์กับภรรยาของตนเอง"

การรับเป็นบุตร

คำจำกัดความ

คำว่า "การรับเป็นบุตร" กล่าวถึงกระบวนการที่บุคคลได้กลายเป็นบุตรอย่างถูกต้องตามกฎหมายของบุคคลอื่นที่ไม่ใช่บิดามารดาตามสายเลือด

  • พระคัมภีร์ใช้คำว่า "การรับเป็นบุตร" หรือ "รับเป็นบุตร" เป็นภาพเปรียบเทียบเพื่ออธิบายว่า พระเจ้าทรงทำให้ผู้คนได้มีส่วนในครอบครัวของพระองค์ และทรงทำให้พวกเขาเป็นบุตรชายหญิงฝ่ายวิญญาณของพระองค์ได้อย่างไร
  • ในฐานะของบุตรบุญธรรม บรรดาผู้เชื่อทั้งหลายก็เป็นผู้รับมรดกร่วมกันกับพระเยซูคริสต์ มีสิทธิ์ในสิทธิพิเศษทั้งหมดแห่งบุตรชายหญิงของพระเจ้า

ข้อแนะนำในการแปล

  • คำนี้อาจแปลโดยใช้คำของภาษานั้น ๆ ที่เราจะแปล เพื่ออธิบายถึงความสัมพันธ์พิเศษของบิดามารดากับบุตร ให้แน่ใจว่าคำนั้นมีความหมายที่เป็นภาพเปรียบเทียบหรือความหมายฝ่ายวิญญาณ
  • วลีว่า "ประสบการณ์การรับเป็นเหมือนบรรดาบุตร" ก็อาจแปลได้ว่า "พระเจ้าได้ทรงรับให้เป็นบุตรของพระองค์" หรือ "กลายเป็นของพระเจ้า" ก็ได้

การละเมิด

คำจำกัดความ

การ "ละเมิด" หมายถึงการฝ่าฝืนกฎหมายหรือการละเมิดสิทธิของบุคคลอื่น

  • การละเมิด สามารถเป็นการฝ่าฝืนจริยธรรมหรือกฎหมายแพ่งหรือความบาปที่กระทำต่อบุคคลอื่น
  • คำนี้เกี่ยวข้องกับคำว่า "บาป" และ "ละเมิด" โดยเฉพาะอย่างยิ่งเกี่ยวข้องกับการไม่เชื่อฟังพระเจ้า
  • บาปทุกอย่างละเมิดต่อพระเจ้า

คำแนะนำในการแปล

  • ขึ้นอยู่กับบริบท "ละเมิด" สามารถแปลว่า "บาปต่อ" หรือ "เพื่อทำลายกฎ"
  • บางภาษาอาจมีคำกล่าวเช่น "ข้ามเส้น" ที่สามารถใช้แปลว่า "การละเมิด" ได้
  • พิจารณาว่าคำนี้เหมาะสมกับความหมายของข้อความพระคัมภีร์ และเปรียบเทียบกับคำอื่นที่มีความหมายคล้ายกันเช่น "ละเมิด" และ "บาป"

การอัศจรรย์, มหัศจรรย์ หมายสำคัญ

คำจำกัดความ

"การอัศจรรย์" คือบางสิ่งที่น่าประหลาดใจที่ไม่น่าเป็นไปได้นอกจากพระเจ้าจะทำให้สิ่งนั้นเกิดขึ้น

  • ตัวอย่างการอัศจรรย์ที่พระเยซูได้ทรงกระทำ เช่น การทำให้ลมพายุสงบและการรักษาชายตาบอด
  • บางครั้งการอัศจรรย์จะเรียกว่า "มหัศจรรย์" เพราะว่าสิ่งเหล่านั้นทำให้ผู้คนเต็มไปด้วยความมหัศจรรย์ใจหรือประหลาดใจ
  • คำว่า "มหัศจรรย์" สามารถอ้างถึงการสำแดงถึงฤทธานุภาพของพระเจ้าก็ได้ เช่น เมื่อพระองค์ทรงเนรมิตสร้างฟ้าสวรรค์และแผ่นดินโลก
  • การอัศจรรย์สามารถเรียกอีกอย่างหนึ่งได้ว่า "หมายสำคัญ" เพราะว่าสิ่งเหล่านี้เป็นการบ่งชี้หรือเป็นหลักฐานว่าพระเจ้าทรงมีฤทธานุภาพสูงสุดเหนือจักรวาล
  • การอัศจรรย์บางอย่างคือการทรงไถ่ของพระเจ้า เช่น เมื่อพระองค์ช่วยชนชาตอิสราเอลจากการเป็นทาสในอียิปต์ และเมื่อพระองค์ทรงปกป้องดาเนียลจากการถูกสิงโตทำร้าย เป็นต้น
  • การอัศจรรย์อื่นๆ อาจหมายถึงการพิพากษาของพระเจ้า เช่น เมื่อครั้งที่พระองค์ทรงให้น้ำท่วมโลกในสมัยของโนอาห์ หรือเมื่อพระองค์ส่งภัยพิบัติมาเหนือแผ่นดินอียิปต์ในสมัยโมเสส
  • การอัศจรรย์หลายอย่างของพระเจ้าหมายถึงการรักษาอาการเจ็บป่วยด้านร่างกายของผู้คน หรือการทำให้ผู้ที่ตายแล้วฟื้นขึ้นมาจากความตาย สิ่งเหล่านี้คือการอัศจรรย์
  • พระเจ้ายังทรงให้ผู้เผยพระวจนะและบรรดาอัครสาวกทำการอัศจรรย์เพื่อรักษาโรคและสิ่งอื่นๆอีกมากมายซึ่งเป็นไปได้ก็โดยผ่านฤทธิ์อำนาจของพระเจ้าเท่านั้น

คำแนะนำในการแปล

  • การแปลที่เป็นไปได้สำหรับคำว่า "การอัศจรรย์" หรือ "มหัศจรรย์" สามารถแปลได้ว่า "สิ่งที่เป็นไปไม่ได้ที่พระเจ้าทรงกระทำ" หรือ "พระราชกิจอันทรงฤทธานุภาพของพระเจ้า" หรือ "การกระทำอันมหัศจรรย์ของพระเจ้า"
  • คำกล่าวที่ได้ยินกันเสมอว่า "หมายสำคัญและการอัศจรรย์" สามารถแปลได้ว่า "ข้อพิสูจน์และการอัศจรรย์" หรือ "กิจอันมหัศจรรย์ซึ่งพิสูจน์พลังของพระเจ้า" หรือ "การอัศจรรย์ที่น่าอัศจรรย์ที่แสดงความยิ่งใหญ่ของพระเจ้า"
  • หมายเหตุ ความหมายของหมายสำคัญซึ่งเป็นปาฏิหาริย์นั้นต่างจากความหมายของ หมายสำคัญซึ่งพิสูจน์หรือเป็นหลักฐานสำหรับบางสิ่ง ทั้งสองสามารถมีความเกี่ยวโยงกัน

กำหนดไว้ล่วงหน้า, ถูกกำหนดไว้ล่วงหน้า

คำจำกัดความ

คำว่า "กำหนดไว้ล่วงหน้า" และ "ถูกกำหนดไว้ล่วงหน้าแล้ว" อ้างถึงการตัดสินใจหรือการวางแผนล่วงหน้าว่าบางสิ่งจะเกิดขึ้น

  • คำนี้จะอ้างเป็นพิเศษถึงการกำหนดไว้ล่วงหน้าของพระเจ้าให้สำหรับคนที่จะได้รับชีวิตนิรันดร์
  • บางครั้งก็ใช้คำว่า "กำหนดล่วงหน้า" ซึ่งหมายถึงการตัดสินใจไว้ล่วงหน้าเช่นกัน

คำแนะนำในการแปล

  • คำว่า "กำหนดไว้ล่วงหน้า" สามารถแปลว่า "ตัดสินใจก่อน" หรือ "ตัดสินใจก่อนเวลา"
  • คำว่า "กำหนดไว้ล่วหน้า" สามารถแปลว่า "ได้ตัดสินใจนานมาแล้ว" หรือ "ได้วางแผนก่อนเวลา" หรือ "ได้ตัดสินใจก่อนเวลาแล้ว"
  • วลี อย่างเช่น "กำหนดล่วงหน้าพวกเรา" สามารถแปลว่า "ตัดสินใจนานมาแล้วว่าพวกเรา" หรือ "ติดสินใจมาเรรียบร้อยแล้วก่อนเวลาที่พวกเรา" *หมายเหตุการแปลคำนี้ควรแตกต่างจากการแปลคำว่า "รู้ตัวล่วงหน้า"

เกียรติ, ให้เกียรติ

คำจำกัดความ

คำว่า "เกียรติ" และ "ให้เกียรติ" อ้างถึงบางคน เคารพ นับถือ ยกย่อง หรือการคารวะ

  • เกียรติดดยปกติจะให้แก่บางคนผู้ที่อยู่ในฐานะที่สูงกว่าและมีความสำคัญ อย่างเช่นกษัตริย์ปรือ พระเจ้า
  • พระเจ้าทรงสอนให้คริสเตียนให้เกียรติผู้อื่น แต่ไม่ให้แสวงหาเกียรติสำหรับตนเอง
  • เด็กๆ ถูกสอนให้เกียรติพ่อแม่ของพวกเขา ซึ่งรวมถึงความเคารพและการเชื่อฟัง
  • คำว่า "เกียรติ" และ "สิริ" มักจะถูกใช้ด้วยกัน เฉพาะอย่างยิ่งเมื่อกล่าวถึงพระเยซู นี่อาจจะเป็นวิธีการสองอย่างที่แตกต่างกันในการกล่าวถึงสิ่งเดียวกัน
  • เกียรติที่ให้แด่พระเจ้ารวมถึงการขอบคุณและสรรเสริญพระองค์ และแสดงความเคารพต่อพระองค์โดยเชื่อฟังพระองค์และใช้ชีวิตในทางที่แสดงว่าพระองค์ทรงยิ่งใหญ่เพียงใด

คำแนะนำในการแปล

  • วิธีอื่นที่จะแปล "เกียรติ" อาจรวมถึง "เคารพ" หรือ "การยกย่อง" หรือ "นับถืออย่างสูง"
  • คำว่า "ให้เกียรติ" สามารถแปลว่า "แสดงความเคารพพิเศษแก่" หรือ "ทำให้ได้รับการสรรเสริญ" หรือ "แสดงความนับถืออย่างสูงสำหรับ" หรือ "ให้ความสำคัญอย่างสูง"

ขนมปังไร้เชื้อ

คำจำกัดความ

คำว่า "ขนมปังไร้เชื้อ" อ้างถึงขนมปังที่ทำโดยไม่ใช้ยีสต์หรือเชื้อหมักให้ฟูอื่น ๆ ขนมปังชนิดนี้จะแบนเพราะว่ามันไม่มีเชื้อหมักให้ฟูที่ทำให้ขนมปังพองตัว

  • เมื่อพระเจ้าปลดปล่อยชาวอิสราเอลออกจากการเป็นทาสในประเทศอียิปต์ พระองค์ทรงบอกให้พวกเขาหนีออกจากอียิปต์อย่างรวดเร็วโดยไม่ต้องรอขนมปังฟูขึ้น เขาจึงรับประทานขนมปังไร้เชื้อในมื้ออาหารของเขา ตั้งแต่นั้นขนมปังไร้เชื้อจะใช้ในการเฉลิมฉลองเทศกาลปัสกาประจำปีของพวกเขาเพื่อเตือนพวกเขาถึงเวลานั้น
  • เนื่องจากเชื้อขนมปังบางครั้งใช้เป็นภาพของความบาป "ขนมปังไร้เชื้อ" แทนการกำจัดบาปจากชีวิตของบุคคลเพื่อที่จะดำเนินชีวิตในแบบที่ถวายเกียรติแก่พระเจ้า

คำแนะนำในการแปล

  • วิธีอื่นในการแปลคำนี้สามารถรวมถึง "ขนมปังที่ไม่มีเชื้อยีสต์" หรือ "ขนมปังแบนที่ไม่ได้ฟูขึ้น"
  • ตรวจสอบให้แน่ใจว่าคำแปลของคำนี้สอดคล้องกับคำที่คุณแปลคำว่า "ยีสต์, เชื้อหมักให้ฟู"
  • ในบางบริบท คำว่า"ขนมปังไร้เชื้อ" อ้างถึง "เทศกาลเลี้ยงขนมปังไร้เชื้อ" และสามารถแปลได้ในลักษณะเช่นนั้น

ของขวัญ, ของประทาน

คำจำกัดความ

คำว่า "ของขวัญ"อ้างถึงอะไรก็ได้ที่คนหนึ่งได้รับหรือให้แก่บางคน ของขวัญคือสิ่งที่ให้โดยไม่ได้คาดหวังว่าจะได้อะไรกลับคืนมา

  • เงิน อาหาร เสื้อผ้าหรืออะไรก็ตามที่ให้แก่คนยากจนเรียกว่า "ของขวัญ"
  • ในพระคัมภีร์ ของถวายหรือเครื่องบูชาที่ให้แก่พระเจ้าก็เรียกว่าของขวัญ
  • ของขวัญของความรอดคือบางสิ่งที่พระเจ้าให้เราผ่านทางความเชื่อในพระเยซู
  • ในพันธสัญญาใหม่ คำว่า "ของประทาน" ก็ใช้เพื่อบ่งบอกถึงความสามารถพิเศษฝ่ายวิญญาณที่พระเจ้าให้แก่คริสเตียนทั้งหลายเพื่อรับใช้ผู้อื่น

คำแนะนำการแปล

  • ความหมายทั่วไปของคำว่า "ของขวัญ" สามารถแปลด้วยคำหรือวลีที่หมายถึง "ของบางสิ่งที่ได้รับมา"
  • ในบริบทที่ใครสักคนมีของขวัญหรือความสามารถดิเศษที่มาจากพระเจ้าคำว่า "ของขวัญจากพระวิญญาณ" สามารถแปลได้อีกว่า "ความสามารถฝ่ายวิญญาณ" หรือ "ความสามารถพิเศษจากพระวิญญาณบริสุทธิ์" หรือ "ความสามารถฝ่ายวิญญาณจิตที่พระเจ้าประทานให้"

ขันที

คำจำกัดความ

โดยปกติแล้วคำว่า "ขันที" กล่าวถึงผู้ชายที่ได้รับการตอนแล้ว คำศัพท์นี้ต่อมากลายเป็นคำทั่วไปที่อ้างถึงเจ้าหน้าที่ของรัฐคนใด ๆ แม้กระทั่งผู้ที่ไม่ได้ทำให้มีความผิดปกติใดๆ ด้วย

  • พระเยซูได้ตรัสว่าขันทีบางคนเกิดมาในลักษณะนี้ บางทีอาจเป็นเพราะอวัยวะเพศที่ถูกทำลาย หรือเพราะไม่สามารถมีเพศสัมพันธ์ได้ คนอื่น ๆ หลายคนเลือกที่จะมีชีวิตเหมือนขันที ในวิถีชีวิตโดยถือพรหมจรรย์
  • ในสมัยโบราณ ขันทีมักเป็นข้าราชการของกษัตริย์ที่ถูกตั้งให้เป็นผู้คุ้มกันในพื้นที่ของสตรี
  • ขันทีบางคนเป็นข้าราชการสำคัญ เช่นขันทีชาวเอธิโอเปียผู้ที่ได้พบอัครทูตฟิลิปในทะเลทราย

ขาดความเชื่อ, การขาดความเชื่อ

คำจำกัดความ

คำว่า "ขาดความเชื่อ" หมายถึงการไม่มีความเชื่อ หรือไม่ศรัทธา

  • คำนี้ใช้เพื่อบรรยายถึงคนที่ไม่ศรัทธาในพระเจ้า ซึ่งสามารถเห็นได้จากการกระทำที่ไม่มีศีลธรรมของพวกเขา
  • ผู้เผยพระวจนะเยเรมีห์ได้กล่าวหาชนชาติอิสราเอลที่ขาดความเชื่อ และไม่เชื่อฟังพระเจ้า
  • พวกเขาได้นมัสการรูปเคารพ และติดตามพระเทียมเท็จอื่นๆ ที่ไม่ถูกต้องของชนชาติอื่นที่ไม่ได้นมัสการ หรือเชื่อฟังพระเจ้า

คำแนะนำการแปล

  • ขึ้นอยู่กับบริบทของข้อนั้น คำว่า "ขาดความเชื่อ" สามารถแปลได้อีกว่า "ไม่สัตย์ซื่อ" หรือ "ความไม่ศรัทธา" หรือ "ไม่เชื่อฟังพระเจ้า" หรือ "ไม่ศรัทธา"
  • คำว่า "การขาดความเชื่อ" สามารถแปลได้ว่า "ความไม่ศรัทธา" หรือ "ความไม่สัตย์ซื่อ" หรือ "กบฎต่อต้านพระเจ้า"

ข่าวดี, ข่าวประเสริฐ, พระกิตติคุณ

คำจำกัดความ

คำว่า "พระกิตติคุณ" ตามตัวอักษรหมายถึง "ข่าวดี" อ้างถึงข้อความหรือการประกาศที่บอกแก่ผู้คนที่เป็นประโยชน์สำหรับพวกเขาและทำให้พวกเขายินดี

  • ในพระคัมภีร์คำนี้มักจะหมายถึงข้อความเกี่ยวกับความรอดของพระเจ้าสำหรับผู้คนโดยทางการถวายบูชาของพระเยซูบนไม้กางเขน
  • ในพระคัมภีร์ภาษาอังกฤษส่วนใหญ่ "ข่าวดี" มักแปลว่า "พระกิตติคุณ" และใช้ในวลีเช่น "พระกิตติคุณของพระเยซูคริสต์" "พระกิตติคุณของพระเจ้า" และ "พระกิตติคุณของอาณาจักร"

คำแนะนำการแปล

  • วิธีต่างๆในการแปลคำนี้อาจรวมถึง "ข่าวสารที่ดี" หรือ "คำประกาศที่ดี" หรือ "ข้อความแห่งความรอดของพระเจ้า" หรือ "สิ่งดีที่พระเจ้าสอนเกี่ยวกับพระเยซู"
  • ขึ้นอยู่กับบริบทวิธีการแปลวลีที่ว่า "ข่าวดีของ" สามารถรวมถึง "ข่าวดี/ข่าวสารเกี่ยวกับ" หรือ "ข่าวสารที่ดีๆจาก" หรือ "สิ่งดีๆที่พระเจ้าทรงบอกเราเกี่ยวกับ" หรือ "สิ่งที่พระเจ้าตรัสเกี่ยวกับการช่วยเหลือมนุษย์"

เข้าสุหนัต, การเข้าสุหนัต

คำจำกัดความ

คำว่า "เข้าสุหนัต" หมายถึงการตัดหนังหุ้มปลายองคชาตของผู้ชายหรือเด็กผู้ชาย พิธีการเข้าสุหนัตอาจจะจัดขึ้นเพื่อดำเนินการในเรื่องนี้

  • พระเจ้าได้ทรงบัญชาอับราฮัมให้ผู้ชายในครอบครัวและคนรับใชัทุกคนเข้าสุหนัตเพื่อเป็นเครื่องหมายของพันธสัญญาของพระเจ้าที่ทำกับพวกเขา
  • พระเจ้าได้ทรงบัญชาให้เชื้อสายของอับราฮัมที่จะทำการนี้ต่อไปกับเด็กทารกผู้ชายที่เกิดในครัวเรือนของพวกเขา
  • วลี "การเข้าสุหนัตหัวใจ" หมายถึงคำเปรียบเทียบของ "การตัดออกไป" หรือ การเอาความบาปออกไปจากบุคคล
  • ในฝ่ายวิญญาณ "การเข้าสุหนัต" หมายถึงคนที่พระเจ้าทรงชำระจากบาปโดยพระโลหิตของพระเยซู และผู้ที่เป็นประชากรของพระองค์
  • คำว่า "ไม่ได้เข้าสุหนัต" หมายถึงคนเหล่านั้นที่ไม่ได้เข้าสุหนัตทางร่างกาย คำนี้ยังหมายถึงคนที่ยังไม่ได้เข้าสุหนัตฝ่ายวิญญาณซึ่งเป็นบุคคลที่ไม่มีความสัมพันธ์กับพระเจ้าด้วย

คำแนะนำในการแปล

  • ถ้าวัฒนธรรมทางภาษาที่จะแปลมีการเข้าสุหนัตในผู้ชาย คำที่ใช้กล่าวถึงการกระทำนี้อาจจะใช้สำหรับคำนี้ได้
  • การแปลคำนี้ในรูปแบบอื่นๆ น่าจะเป็น "ตัดรอบๆ" หรือ "ตัดเป็นวงกลม" หรือ "ตัดหนังหุ้มปลายองคชาตออก"
  • ในวัฒนธรรมที่การเข้าสุหนัตไม่เป็นที่รู้จัก คำนี้จำเป็นต้องอธิบายในเชิงอรรถ หรืออภิธานศัพท์
  • ขอให้แน่ใจว่าคำที่ใช้แปลคำนี้ไม่ได้หมายถึงผู้หญิง คำนี้จำเป็นต้องแปลด้วยคำ หรือวลีที่รวมถึงความหมายของ "ผู้ชาย"

คนโง่, โง่, ความโง่

คำจำกัดความ

คำว่า "คนโง่" กล่าวถึงคนที่มักเลือกสิ่งที่ผิดๆ โดยเฉพาะอย่างยิ่งการเลือกที่จะไม่เชื่อฟัง คำว่า "โง่" บรรยายว่าคน หรือพฤติกรรมที่ไม่ฉลาด

  • ในพระคัมภีร์คำว่า "คนโง่" มักจะอ้างถึงคนที่ไม่ศรัทธา หรือไม่เชื่อฟังพระเจ้า คำนี้จะแตกต่างกับคนฉลาด ผู้ที่วางใจในพระเจ้าและเชื่อฟังพระพระองค์
  • ในสดุดี ดาวิดบรรยายว่าคนโง่นั้นคือคนที่ไม่ศรัทธาในพระเจ้า ผู้ที่เพิกเฉยต่อหลักฐานการทรงสร้างของพระองค์
  • ในพันธสัญญาเดิม ในพระธรรมสุภาษิตยังให้คำอธิบายหลายอย่างเกี่ยวกับคนโง่ หรือบุคคลที่โง่นั้นเป็นอย่างไร
  • คำว่า "ความโง่" อ้างถึงการกระทำที่ไม่ฉลาดเพราะว่าสิ่งนั้นต่อต้านน้ำพระทัยพระเจ้า บ่อยครั้งคำว่า "ความโง่" ยังรวมถึงความหมายของบางสิ่งที่น่าหัวเราะ หรืออันตราย ด้วย

คำแนะนำการแปล

  • คำว่า "คนโง่" สามารถแปลได้อีกว่า "คนโง่" หรือ "คนที่ไม่ฉลาด" หรือ "คนที่ไร้สาระ" หรือ "คนอธรรม"
  • แนวทางการแปลคำว่า "โง่" สามารถรวมทั้ง "ขาดความเข้าใจ" หรือ "ไม่ฉลาด" หรือ "ไร้สาระ"

คนต่างชาติ

คำจำกัดความ

คำว่า "คนต่างชาติ" อ้างถึงคนที่ไม่ได้เป็นยิว คนต่างชาติคือประชาชนผู้ที่ไม่ได้สืบเชื้อสายมาจากยาโคบ

  • ในพระคัมภีร์ คำว่า "พวกที่ไม่ได้เข้าสุหนัต" ก็ใช้ในเชิงอุมาอุปไมยอ้างถึงคนต่างชาติเพราะว่าพวกเขาหลายคนไม่ได้ให้ลูกหลานที่เป็นผู้ชายเข้าสุหนัตเหมือนอย่างที่ชนชาติอิสราเอลได้ทำ
  • เพราะว่าพระเจ้าได้เลือกคนยิวเพื่อเป็นชนชาติที่พิเศษสำหรับพระเจ้า พวกเขาได้คิดว่าพวกคนต่างชาติคือพวกคนนอกที่ไม่มีวันจะได้เป็นคนของพระเจ้า
  • คนยิวหรือที่เรียกว่าชนชาติอิสราเอลหรือคนฮีบรูในช่วงเวลาที่แตกต่างของประวัติศาสตร์ พวกเขาอ้างถึงคนอื่นๆ ที่เหลือเป็น "คนต่างชาติ"
  • คนต่างชาติสามารถแปลได้อีกว่า "คนที่ไม่ใช่คนยิว" หรือ "ไม่ใช่คนยิว" หรือ "ไม่ใช่คนอิสราเอล" (พันธสัญญาเดิม) หรือ "ไม่ใช่ยิว"
  • ตามประเพณีแล้ว คนยิวจะไม่รับประทานอาหารร่วมกับคนต่างชาติหรือคบค้าสมาคมกับพวกเขา ซึ่งในตอนแรกทำให้เกิดปัญหามากมายในช่วงยุคคริสตจักรแรกๆ

คนที่เหลืออยู่

คำจำกัดความ

คำว่า "คนที่เหลืออยู่" ตามตัวอักษรอ้างถึง คนหรือสิ่งของที่ "ยังเหลืออยู่" หรือ "สิ่งที่เหลือ"จากปริมาณที่มากกว่า หรือจากกลุ่ม

  • บ่อยครั้ง คำว่า "คนที่เหลืออยู่" อ้างถึง ประชาชนที่รอดชีวิตจากสถานการณ์ที่เป็นอันตรายถึงชีวิต หรือ คนที่คงอยู่อย่างสัตย์ซื่อในพระเจ้าในขณะที่กำลังเผชิญกับการข่มเหง
  • อิสยาห์ ได้อ้างถึง กลุ่มชาวยิวในฐานะคนที่รอดชีวิตที่เหลืออยู่จากการโจมตีจากคนภายนอกและได้มีชีวิตอยู่เพื่อกลับไปที่ดินแดนที่ทรงสัญญาในคานาอัน
  • เปาโลพูดเกี่ยวกับการเป็น "คนที่เหลืออยู่" ของประชาชนที่ถูกเลือกไว้โดยพระเจ้าเพื่อรับพระคุณของพระองค์
  • คำว่า "คนที่เหลืออยู่" แสดงว่า ยังมีคนอื่นอีกหลายคนที่ไม่ได้คงอยู่อย่างสัตย์ซื่อ หรือไม่ได้รอดชีวิต หรือ คนที่ไม่ได้ถูกเลือก

คำแนะนำในการแปล

  • วลี อย่างเช่น "คนที่เหลืออยู่ของประชาชนนี้" สามารถแปลว่า "ส่วนที่เหลืออยู่ของประชาชนเหล่านี้" หรือ " ประชาชนผู้ที่เหลืออยู่อย่างสัตย์ซื่อ" หรือ "ประชาชนผู้ถูกทิ้งไว้"
  • คนที่เหลืออยู่ทั้งหมดของประชาชน" สามารถแปลว่า "ทุกคนที่เหลืออยู่ของประชาชน" หรือ "ประชาชนที่เหลืออยู่"

คนหน้าซื่อใจคด, การหน้าซื่อใจคด

คำจำกัดความ

คำว่า "คนหน้าซื่อใจคด" อ้างถึงคนที่ทำสิ่งที่ดูเหมือนชอบธรรม แต่แอบประพฤติในสิ่งที่ชั่วร้าย คำว่า "การหน้าซื่อใจคด" อ้างถึงพฤติกรรมที่หลอกลวงผู้คนให้คิดว่าคนนั้นเป็นคนชอบธรรม

  • คนหน้าซื่อใจคดต้องการให้คนอื่นเห็นว่าตนเองทำสิ่งที่ดีเพื่อที่ว่าคนอื่นจะคิดว่าพวกเขาเป็นคนดี
  • คนหน้าซื่อใจคดมักจะวิพากษ์วิจารณ์คนอื่นว่าทำสิ่งที่เป็นความบาปซึ่งพวกเขาเองก็ทำ
  • พระเยซูทรงเรียกพวกฟาริสีว่าคนหน้าซื่อในคดเพราะพวกเขาทำประพฤติตามหลักศาสนาเช่น ใส่เสื้อผ้าบางอย่างและรับประทานอาหารบางอย่าง แต่พวกเขาไม่ได้เมตตาหรือยุติธรรมต่อคนอื่น
  • คนหน้าซื่อใจคดชี้ความผิดในตัวคนอื่นได้ แต่ไม่ยอมรับความผิดของตนเอง

คำแนะนำในการแปล

  • บางภาษามีคำกล่าวเช่น "สองหน้า" ที่อ้างถึงคนหน้าซื่อใจคดหรือการประพฤติของคนหน้าซื่อใจคด
  • วิธีอื่นที่จะแปล"คนหน้าซื่อใจคด" สามารถรวมถึง "คนหลอกลวง" หรือ "คนเสแสร้ง" หรือ "คนเย่อหยิ่งหลอกลวง"
  • คำว่า "การหน้าซื่อใจคด" สามารถแปลได้ว่า "การหลอกลวง" หรือ "การกระทำที่จอมปลอม" หรือ "การเสแสร้ง"

คร่ำครวญ, การคร่ำครวญ

คำจำกัดความ

คำว่า "คร่ำครวญ" และ "การคร่ำครวญ" อ้างถึงการแสดงออกอย่างรุนแรงถึงความเศร้าโศก เสียใจ หรือสลดใจ

  • บางครั้งคำนี้รวมถึงการเสียใจอย่างยิ่งยวดต่อความบาป หรือความเมตตาสงสารต่อผู้คนที่ได้ประสบกับความหายนะ
  • การคร่ำครวญสามารถรวมคำว่าความเศร้าโศก ร่ำไห้ หรือคร่ำครวญ

คำแนะนำในการแปล

  • คำว่า "คร่ำครวญ" สามารถแปลได้ว่า "โศกเศร้าอย่างสุดซึ้ง" หรือ "ร้องครวญด้วยความสลดใจ" หรือ "เต็มไปด้วยความเสียใจ"
  • "การคร่ำครวญ"

คริสตจักร

คำจำกัดความ

ในพันธสัญญาใหม่ คำว่า "คริสตจักร" กล่าวถึงกลุ่มผู้ศรัทธาในพระเยซูในท้องถิ่น ที่มาประชุมร่วมกันอย่างสม่ำเสมอเพื่อที่จะอธิษฐาน และฟังการเผยพระวจนะของพระเจ้า คำว่า "คริสตจักร" มักจะหมายถึงคริสเตียนทุกคน

  • คำนี้กล่าวตามตัวอักษรว่า "ถูกเรียกออกมา" การรวมกัน หรือชุมนุมกันของประชาชนที่มาร่วมกันเพื่อเป้าหมายเฉพาะ
  • เมื่อคำนี้ใช้กล่าวถึงผู้ที่ศรัทธาทุกคนในทุกที่ในพระกายของพระคริสต์ การแปลพระคัมภีร์ภาษาอังกฤษบางฉบับใช้อักษรตัวแรกเป็นตัวใหญ่ ("Church") เพื่อให้เป็นความแตกต่างของคำนี้จากคริสตจักรท้องถิ่น
  • บรรดาผู้ศรัทธาในเมืองใดเมืองหนึ่งมักจะประชุมกันในบ้านของคนใดคนหนึ่ง คริสตจักรท้องถิ่นเหล่านี้ได้ตั้งชื่อตามเมืองนั้นๆ อย่างเช่น "คริสตจักรที่เอเฟซัส"
  • ในพระคัมภีร์ "คริสตจักร" ไม่ได้หมายถึงอาคาร

คำแนะนำในการแปล

  • คำว่า "คริสตจักร" สามารถแปลได้ว่า "ชุมนุมกัน" หรือ "รวมตัวกัน" หรือ "การร่วมชุมนุมกัน" หรือ "คนที่มาประชุมกัน"
  • คำหรือวลีที่ใช้แปลคำนี้ควรจะหมายถึงผู้ศรัทธาทุกคน ไม่ใช่เพียงกลุ่มเล็กๆ เพียงกลุ่มเดียว
  • ขอให้แน่ใจว่าการแปลคำว่า "คริสตจักร" ไม่ได้หมายถึงอาคาร
  • คำที่ใช้แปล "การรวมตัวกัน" ในพันธสัญญาเดิมสามารถใช้แปลคำนี้ได้ด้วย
  • ขอให้พิจารณาให้ดีในการแปลคำนี้ ในการแปลพระคัมภีร์ในภาษาท้องถิ่น หรือภาษากลาง

คริสเตียน

คำจำกัดความ

หลังจากที่พระเยซูเสด็จกลับสู่สวรรค์ คนทั่วไปได้เรียกชื่อ "คริสเตียน" ที่มีความหมายว่า "ผู้ติดตามพระคริสต์"

  • บรรดาผู้ติดตามพระเยซูได้ถูกเรียกว่า "คริสเตียน" เป็นครั้งแรกในเมืองอันทิโอก
  • คริสเตียนเป็นผู้ที่ศรัทธาว่าพระเยซูทรงเป็นพระบุตรของพระเจ้า และผู้ที่วางใจในพระเยซูที่จะช่วยเขาให้รอดจากบาปทั้งปวงของเขา
  • ในสมัยปัจจุบันนี้ บ่อยครั้งที่คำว่า "คริสเตียน" ใช้สำหรับคนที่ระบุตัวตนว่าเป็นคนถือศาสนาคริสต์ แต่ไม่ได้เป็นผู้ที่ติดตามพระเยซูจริงๆ นี่ไม่ใช่ความหมายของ "คริสเตียน" ในพระคัมภีร์
  • เพราะคำว่า "คริสเตียน" ในพระคัมภีร์กล่าวถึงบางคนที่เป็นผู้ศรัทธาอย่างแท้จริงในพระเยซู คริสเตียนยังถูกเรียกว่า "ผู้ศรัทธา"ด้วย

คำแนะนำในการแปล

  • คำนี้สามารถแปลได้ว่า "ผู้ติดตามพระคริสต์" หรือ "ผู้ติดตามของพระคริสต์" หรือบางทีก็เหมือนกับ "คนของพระคริสต์"
  • ขอให้แน่ใจว่าการแปลคำนี้จะแตกต่างไปจากคำที่ใช้สำหรับสาวก หรืออัครทูต
  • ขอให้ระมัดระวังในการแปลคำนี้ด้วยคำที่สามารถกล่าวถึงทุกคนที่เป็นผู้ศรัทธาในพระเยซู ไม่ใช่เฉพาะกลุ่มคน
  • ขอให้พิจารณาให้ดีในการแปลคำนี้ในการแปลพระคัมภีร์ในภาษาท้องถิ่น หรือภาษากลางด้วย

ความกระตือรือร้น, กระตือรือร้น

คำจำกัดความ

คำว่า "ความกระตือรือร้น" และ "กระตือรือร้น" อ้างถึงการอุทิศตนเพื่อสนับสนุนบุคคลหรือแนวคิด

  • ความกระตือรือร้น มีความปรารถนาอย่างแรงกล้าและการกระทำต่างๆ ที่ส่งเสริมเหตุที่ดี มักใช้เสมอในการอธิบายถึงคนที่ศรัทธาเชื่อฟังพระเจ้าและสอนให้คนอื่นทำเช่นนั้นด้วย
  • การกระตือรือร้นรวมถึงการใส่ความพยายามอย่างมากในการทำบางสิ่งบางอย่างและบากบั่นอย่างต่อเนื่องในความพยายาม
  • คำว่า "ความกระตือรือร้นขององค์พระผู้เป็นเจ้า" หรือ "ความกระตือรือร้นของพระยาห์เวห์" อ้างความเข้มแข็ง การกระทำที่ไม่ลดละที่จะอวยพรประชาชนของพระองค์ หรือ เพื่อให้เกิดความชอบธรรม

คำแนะนำในการแปล

  • "การกระตือรือร้น" สามารถแปลว่า "จงขยันอย่างยิ่งยวด" หรือ "พยายามอย่างสูง"
  • คำว่า "ความกระตือรือร้น" สามารถแปลว่า "ความอุทิศตนที่มีพลัง" หรือ "ความกระตือรือร้นที่มีความมานะ" หรือ "ความกระตือรือร้นที่ชอบธรรม"
  • วลีว่า "กระตือรือร้นสำหรับบ้านของท่าน" สามารถแปลได้ว่า "ให้เกียรติอย่างยิ่งต่อวิหารของท่าน" หรือ "ความปรารถนาอย่างแรงกล้าในการดูแลบ้านของท่าน"

ความกลัว, กลัว, ความยำเกรงพระยาห์เวห์

คำจำกัดความ

คำว่า "ความกลัว" และ "กลัว" หมายถึงความรู้สึกที่ไม่น่ายินดีที่ผู้หนึ่งมีเมื่อเกิดอันตรายขึ้นต่อตนเองหรือผู้อื่น

  • คำว่า "ความกลัว" สามารถกล่าวถึงการให้เคารพนับถือที่ลึกซึ้งและการเคารพต่อผู้ที่มีอำนาจ
  • คำว่า "ความยำเกรงพระยาห์เวห์" และคำที่เกี่ยวข้องอย่าง "ความยำแกรงพระเจ้า" และ "ความยำเกรงองค์พระผู้เป็นเจ้า กล่าวถึงการเคารพนับถืออย่างลึกซึ้งต่อพระเจ้าและการแสดงการให้เกียรตินั้นโดยการเชื่อฟังพระองค์ ความเกรงกลัวนี้ถูกผลักดันโดยการรู้ว่าพระเจ้าทรงบริสุทธิ์และเกลียดชังความบาป
  • พระคัมภีร์สอนไว้ว่าผู้ที่ยำเกรงพระยาห์เวห์นั้นจะฉลาด

คำแนะนำการแปล

  • ขึ้นอยู่กับบริบทของข้อนั้น "ที่จะยำเกรง" สามารถแปลได้อีกว่า "ที่จะเกรงกลัว" หรือ "ที่จะให้เกียรติอย่างลึกซึ้ง" หรือ "ที่จะนบน้อม" หรือ "ที่จะน่าเกรงขาม"
  • คำว่า "กลัว" สามารถแปลได้อีกว่า "ทำให้น่ากลัวมาก" หรือ "ทำให้ตกใจ" หรือ "น่ากลัว"
  • ประโยค "ความกลัวเกรงพระเจ้าจะตกอยู่เหนือพวกเขา" สามารถแปลได้อีกว่า "ทันใดนั้นพวกเขาก็รู้สึกถึงความน่าเกรงกลัวและให้เกียรติพระเจ้าอย่างลึกซึ้ง" หรือ "ทันใดนั้นพวกเขารู้สึกประหลาดใจและนบน้อมต่อพระเจ้าอย่างลึกซึ้ง" หรือ "จากนั้น พวกเขาก็รู้สึกกลัวพระเจ้า"

ความโกรธเกรี้ยว, ความโกรธจัด

คำจำกัดความ

ความโกรธเกรี้ยวเป็นความโกรธที่รุนแรงซึ่งบางครั้งก็ค้างอยู่นาน โดยเฉพาะอ้างถึงการพิพากษาอันชอบธรรมของพระเจ้าเกี่ยวกับบาปและการลงโทษผู้ที่กบฏต่อพระองค์

  • ในพระคัมภีร์ "ความโกรธเกรี้ยว" โดยปกติอ้างถึงความโกรธของพระเจ้าต่อคนเหล่านั้นผู้ที่ทำบาปต่อพระองค์
  • "ความโกรธเกรี้ยวของพระเจ้า" ยังหมายถึงการพิพากษาและการลงโทษเพราะความบาป
  • ความโกรธกริ้วของพระเจ้าเป็นการลงโทษที่ชอบธรรมแก่คนที่ไม่กลับใจจากบาปของพวกเขา

คำแนะนำในการแปล

  • ขึ้นอยู่กับบริบท วิธีอื่น ๆ ที่ใช้ในคำนี้อาจรวมถึง "ความโกรธจัด" หรือ "การพิพากษาที่ชอบธรรม" หรือ "ความโกรธ"
  • เมื่อพูดถึงพระพิโรธของพระเจ้า จงให้แน่ใจว่าคำหรือวลีที่ใช้ในการแปลคำนี้ไม่ได้อ้างอิงถึงการโมโหร้ายด้วยความบาป ความกริ้วของพระเจ้าเป็นความยุติธรรมและบริสุทธิ์ศักดิ์สิทธิ์

ความชั่วช้า

คำจำกัดความ

คำว่า "ความชั่วช้า" คือคำที่คล้ายกันมากกับคำว่า "บาป" แต่อาจเจาะจงอ้างถึงการทำความผิดหรือความชั่วร้ายอย่างมาก

  • คำว่า "ความชั่วช้า" มีความหมายตรงตัวคือบิดเบี้ยวหรือทำให้เพี้ยนไป (ในเรื่องธรรมบัญญัติ) คำนี้อ้างถึงความล่วงละเมิดร้ายแรง
  • ความชั่วช้าสามารถอธิบายได้ว่าเป็นการกระทำโดยเจตนาอันจะก่อให้เกิดอันตรายต่อผู้อื่น
  • คำนิยามอื่นๆ ของความชั่วช้ารวมถึง "ความวิปริต" และ "ความเลวทราม" ซึ่งทั้งสองคำใช้อธิบายสภาพของความบาปอันร้ายแรง

คำแนะนำในการแปล

  • คำว่า "ความชั่วช้า" สามารถแปลได้ว่า "ความชั่วร้าย" หรือ "การกระทำอันวิปริต" หรือ "การประพฤติที่อันตราย"
  • หลายครั้ง "ความชั่วช้า" ปรากฏในข้อความเดียวกันกับคำว่า "บาป" และ "การละเมิด" ดังนั้นจึงเป็นสิ่งสำคัญที่จะต้องมีวิธีที่แตกต่างกันในการแปลคำเหล่านี้

ความเชื่อ

คำจำกัดความ

โดยทั่วไป คำว่า "ความเชื่อ" กล่าวถึง ความศรัทธา ความวางใจหรือความมั่นใจในบางคน หรือบางสิ่ง

  • การ "มีความเชื่อ" ในบางคนคือการศรัทธาว่าสิ่งที่เขาพูดและทำนั้นจริงและวางใจได้
  • การ "มีความเชื่อในพระเยซู" หมายถึงการศรัทธาในคำสอนทุกอย่างของพระเจ้าที่เกี่ยวกับพระเยซู โดยเฉพาะอย่างยิ่งหมายถึงคนที่วางใจในพระเยซู และการเสียสละเพื่อชำระพวกเขาจากความบาปของพวกเขา และเพื่อช่วยพวกเขาจากการถูกลงโทษที่พวกเขาควรได้รับเพราะความบาปของพวกเขา
  • ความเชื่อที่แท้จริง หรือศรัทธาในพระเยซูจะทำให้คนนั้นเกิดผลดีทางฝ่ายวิญญาณ หรือทางการประพฤติเพราะว่าพระวิญญาณบริสุทธิ์อยู่ในเขา
  • บางครั้ง "ความเชื่อ" กล่าวทั่ว ๆ ไปถึงคำสอนทั้งหมดเกี่ยวกับพระเยซู เช่นเดียวกับการแสดงออกที่ว่า "ความจริงของความเชื่อ"
  • ในบางข้อความเช่น "รักษาความเชื่อ" หรือ "ละทิ้งความเชื่อ" คำว่า "ความเชื่อ" กล่าวถึงคำกล่าว หรือเงื่อนไขของความศรัทธาในคำสอนทั้งหมดเกี่ยวกับพระเยซู

คำแนะนำการแปล

  • ในบางข้อความ "ความเชื่อ" สามารถแปลได้ว่า "ศรัทธา" หรือ "ความเชื่อมั่น" หรือ "ความมั่นใจ" หรือ "ความไว้ใจ"
  • ในบางภาษาคำเหล่านี้จะแปลโดยการใช้รูปแบบของคำกิริยาว่า "ศรัทธา"

ความผิด, มีความผิด

คำจำกัดความ

คำว่า "ความผิด" อ้างถึงข้อเท็จจริงของการทำบาปหรือทำความผิด

  • การ "ทำผิด" หมายถึงการได้ทำผิดทางศีลธรรมซึ่งก็คือการไม่ได้เชื่อฟังพระเจ้า
  • สิ่งที่ตรงกันข้ามกับ "ความผิด" ก็คือ "บริสุทธิ์"

คำแนะนำการแปล

  • บางภาษาอาจแปลว่า "ความผิด" เป็น "น้ำหนักของบาป" หรือ "ความผิดบาปที่นับได้"
  • การแปลคำว่า "ทำความผิด" สามารถรวมถึงคำหรือวลีที่แปลว่า "ผิด" หรือ "ทำอะไรผิดศีลธรรม" หรือ "กระทำบาป"

ULB ตัวอย่าง: กำจัดความผิดของบาปของท่าน เอาความผิดของท่านออกไป การถวายบูชาความผิด ลงโทษความผิดของท่าน ไม่มีความผิดสำหรับการฆาตกรรมจะติดตามเขา แบกรับความผิดของตัวเอง ชำระความผิดของเขา เป็นความผิดที่ใหญ่หลวง ความผิดของเราขึ้นไปยังสวรรค์


ความเมตตา, มีความเมตตา, พระเมตตา

คำจำกัดความ

คำว่า "ความเมตตา" กล่าวถึงความรู้สึกห่วงใยผู้คน โดยเฉพาะอย่างยิ่งคนเหล่านั้นที่ได้รับความทุกข์ยาก คนที่ "มีความเมตตา" ห่วงใยคนอื่นและช่วยเหลือพวกเขา

  • คำว่า "ความเมตตา" มักจะรวมถึงการใส่ใจคนที่ขัดสน และการทำการช่วยเหลือพวกเขาด้วย
  • พระคัมภีร์บอกว่าพระเจ้าทรงพระเมตตา นั่นคือพระองค์ทรงเปี่ยมด้วยความรักและพระเมตตา
  • ในจดหมายของเปาโลที่ไปถึงชาวโคโลสี ท่านบอกพวกเขาให้ "สวมใจเมตตา" ท่านสอนพวกเขาให้ใส่ใจผู้คนและทำการช่วยเหลือคนอื่นๆ ที่ขัดสน

คำแนะนำในการแปล

  • ความหมายตามตัวอักษรของคำว่า "ความเมตตา" คือ "ความเห็นใจด้วยความเมตตา" คำนี้เป็นสำนวนที่หมายถึง "ความเมตตา" หรือ "สงสาร" บางภาษาอาจจะมีสำนวนภาษาของตนเองในการแปลคำนี้
  • การแปล "ความเมตตา" ในรูปแบบอื่นๆ สามารถรวมถึง "ความใส่ใจอย่างลึกซึ้งต่อ" หรือ "การช่วยเหลือที่เต็มด้วยความเมตตา"
  • คำว่า "เมตตา" สามารถแปลได้ว่า "การใส่ใจและช่วยเหลืออย่างเต็มที่" หรือ "เปี่ยมด้วยความรักและเมตตาอย่างลึกซึ้ง"

ความรัก

คำจำกัดความ

การรักบุคคลอื่นคือการเอาใจใส่บุคคลนั้นและทำสิ่งต่างๆที่เป็นประโยชน์สำหรับเขา มีความหมายที่ต่างออกไปในบางภาษาสำหรับคำว่า "ความรัก" ซึ่งบางภาษาอาจใช้คำที่แตกต่างกันไป เช่น :

  1. ชนิดของความรักที่มาจากพระเจ้าซึ่งมุ่งไปที่ความดีของผู้อื่น ถึงแม้ว่าจะไม่ได้รับประโยชน์อันใดก็ตาม ความรักชนิดนี้เอาใจใส่ผู้อื่นไม่ว่าพวกเขาทำอะไร พระเจ้าเองเป็นความรักและเป็นแหล่งแห่งความรักแท้จริง
  • พระเยซูทรงสำแดงความรักชนิดนี้โดยการสละชีวิตของพระองค์เพื่อช่วยกู้พวกเราจากความบาปและความตาย พระองค์ทรงสอนให้ผู้ที่ติดตามพระองค์รักผู้อื่นด้วยการเสียสละด้วย
  • เมื่อผู้คนรักผู้อื่นด้วยความรักชนิดนี้ ย่อมจะรวมเอาการกระทำที่แสดงให้ว่าบางคนกำลังคิดถึงสิ่งที่จะทำให้คนอื่นเจริญเติบโต ความรักชนิดนี้รวมถึงการให้อภัยผู้อื่นด้วย
  • ในฉบับแปล ULB คำว่า "ความรัก" หมายถึงความรักชนิดนี้ที่เป็นความรักที่เสียสละ นอกจากว่าในบันทึกการแปลจะระบุว่าความหมายที่แตกต่างกัน
  1. คำอื่นในพันธสัญญาใหม่ที่อ้างถึงความรักฉันท์พี่น้องหรือความรักแบบเพื่อน หรือแบบคนในครอบครัว
  • คำนี้อ้างถึงความรักตามธรรมชาติของมนุษย์ที่มีต่อกันระหว่างเพื่อนหรือเครือญาติ
  • มันสามารถใช้ในบริบทเช่น "พวกเขารักที่จะนั่งในที่นั่งที่สำคัญที่สุดในงานเลี้ยง" นี่มีความหมายว่าพวกเขา "ปรารถนามาก" หรือ "ปรารถนาอย่างแรงกล้า" ที่จะทำสิ่งนั้น
  1. คำว่า "ความรัก" สามารถหมายถึงความรักโรแมนติคระหว่างผู้ชายกับผู้หญิง

  2. ในการแสดงออกเชิงอุปมาอุปมัยเช่น "ยาโคบที่ฉันได้รัก แต่เอซาวนั้นเราได้ชัง" คำว่า "ได้รัก" อ้างถึงการตัดสินใจเลือกของพระเจ้าเพื่อให้ยาโคบมีความสัมพันธ์ที่เป็นพันธสัญญากับพระองค์ นี่สามารถแปลได้ว่าเป็น "ถูกเลือก" ถึงแม้ว่าเอซาวเองก็ได้รับพระพรจากพระเจ้า แต่เขาก็ไม่ได้รับสิทธิพิเศษในการอยู่ในพันธสัญญานั้น คำว่า "ถูกชัง" ถูกใช้เพื่อเปรียบเทียบที่ให้ความหมายว่า "ถูกปฏิเสธ" หรือ "ไม่ได้รับเลือก"

ข้อแนะนำในการแปล

  • นอกจากจะมีการะบุอย่างชัดเจนในคำอธิบายการแปล คำว่า "ความรัก" ใน ULB จะอ้างถึงความรักที่มีการเสียสละที่มาจากพระเจ้า
  • ในบางภาษาอาจมีคำพิเศษสำหรับความรัก ไม่เห็นแก่ตัว และเสียสละซึ่งเป็นความรักที่พระเจ้าทรงมี วิธีการแปลนี้อาจรวมคำว่า "การดูแลเอาใจใส่ที่อุทิศตนและซื่อสัตย์" หรือ "การดูแลเอาใจใส่อย่างไม่เห็นแก่ตัว" หรือ "ความรักจากพระเจ้า" ให้แน่ใจว่าคำที่ใช้สำหรับแปลความรักของพระเจ้านั้นได้รวมถึงการยอมสละประโยชน์ส่วนตัวเพื่อผลประโยชน์ของผู้อื่นและเป็นการรักผู้อื่นแม้ไม่ว่าพวกเขาจะทำสิ่งใดก็ตาม
  • บางครั้งภาษาอังกฤษคำว่า "ความรัก" อธิบายถึงการดูแลเอาใจใส่อย่างลึกซึ้งที่ผู้คนมีให้ต่อเพื่อนๆและคนในครอบครัว ในบางภาษาอาจแปลคำนี้ด้วยคำหรือวลีที่มีความหมายว่า "ชอบอย่างมาก" หรือ "ดูแลเอาใจใส่" หรือ "มีเสน่ห์อย่างรุนแรง"
  • ในบริบทที่คำว่า "ความรัก" ถูกใช้เพื่อแสดงออกถึงความพึงใจอย่างมากต่อบางสิ่ง คำนี้สามารถแปลว่า "ชอบกว่าอย่างมาก" หรือ "ชอบอย่างมาก" หรือ "ปรารถนาอย่างมาก"
  • ในบางภาษาอาจมีคำแยกต่างหากที่อ้างถึงความรักแบบโรแมนติคหรือความรักในทางเพศระหว่างสามีและภรรยา
  • หลายภาษาต้องแสดงออกถึง "ความรัก" เช่นการกระทำ ตัวอย่างเช่น พวกเขาอาจแปลว่า "ความรักคือความอดทน ความรักคือความกรุณา" เช่นเดียวกับ "เมื่อบุคคลหนึ่งรักใครบางคน เขาย่อมอดทนและมีความกรุณาต่อคนนั้น"

ความสัตย์ซื่อในพันธสัญญา, ความภักดีของพันธสัญญา, ความรักเมตตา, ความรักที่ไม่ล้มเหลว

คำจำกัดความ

คำนี้ใช้เพื่ออธิบายความมุ่งมั่นของพระเจ้าในการปฏิบัติตามสัญญาที่พระองค์ได้ทำกับประชากรของพระองค์

  • พระเจ้าได้ทรงทำสัญญากับคนอิสราเอลเป็นข้อตกลงอย่างเป็นทางการที่เรียกว่า "พันธสัญญา"
  • "ความสัตย์ซื่อในพันธสัญญา" หรือ "ความจงรักภักดีของพันธสัญญา" ของพระยาห์เวห์กล่าวถึงข้อเท็จจริงที่ว่าพระองค์ยังคงรักษาสัญญาของตนไว้กับประชากรของพระองค์
  • ความสัตย์ซื่อของพระเจ้าที่จะรักษาพันธสัญญาของพระองค์คือการแสดงออกถึงพระคุณของพระองค์ที่มีต่อประชากรของพระองค์
  • คำว่า "ความจงรักภักดี" เป็นอีกคำหนึ่งที่หมายถึงความมุ่งมั่นและเชื่อถือได้ในการทำและพูดในสิ่งที่ได้สัญญาไว้และที่จะเป็นผลประโยชน์ต่อผู้อื่น

คำแนะนำในการแปล

  • วิธีการแปลคำนี้จะขึ้นอยู่กับวิธีแปลคำว่า "พันธสัญญา" และ "ความสัตย์ซื่อ"
  • วิธีอื่นในการแปลคำนี้อาจรวมถึง "ความรักที่ซื่อสัตย์" หรือ "ความภักดีที่มุ่งมั่นรัก" หรือ "ความรักที่ไว้เนื้อเชื่อใจ"

ความหวัง

คำจำกัดความ

คำว่า "ความหวัง" อ้างถึงการคาดหวังและความปรารถนาอย่างมากให้บางสิ่งเกิดขึ้น และยังสามารถแปลว่าไม่แน่นอนว่าสิ่งนั้นจะเกิดขึ้น

  • ในพระคัมภีร์ คำว่า "ความหวัง" มีความหมายว่า "เชื่อมั่นใน" อย่างเช่น "ความหวังของข้าพเจ้าอยู่ในองค์พระผู้เป็นเจ้า" นี่อ้างถึงการคาดหวังอย่างแน่นอนว่าจะได้รับสิ่งที่พระเจ้าทรงสัญญาไว้กับประชากรของพระองค์
  • บางครั้ง ULB ได้แปลคำว่า "ความหวัง" เป็น "ความมั่นใจ" เฉพาะอย่างยิ่งในพันธสัญญาใหม่ ในบริบทที่อ้างถึงความมั่นใจที่จะได้รับสิ่งที่พระเจ้าได้ทรงสัญญาไว้กับประชาชนผู้ที่เชื่อในพระเยซูเป็นพระผู้ช่วยให้รอด
  • การ "ไม่มีความหวัง" หมายถึงการไม่มีความคาดหวังว่าสิ่งที่ดีจะเกิดขึ้น นี่หมายความว่ามันเป็นเรื่องจริงแน่นอนที่มันจะไม่เกิดขึ้น

คำแนะนำในการแปล

  • ในบางบริบท คำว่า "หวัง" สามารถแปลได้ว่า "ปรารถนา" หรือ "ต้องการ" หรือ "คาดหวัง"
  • คำกล่าว "ไม่มีอะไรให้หวัง" สามารถแปลได้ว่า "ไม่มีอะไรให้เชื่อ" หรือ "ไม่มีความคาดหวังในสิ่งที่ดีอะไรเลย"
  • การ "ไม่มีความหวัง" สามารถแปลได้ว่า "ไม่มีความคาดหวังในสิ่งที่ดีอะไรเลย" หรือ "ไม่มีหลักประกัน" หรือ "มั่นใจว่าจะไม่มีอะไรดีเกิดขึ้น"
  • คำกล่าว "จงตั้งความหวังของท่านใน" สามารถแปลว่า "ได้วางความมั่นใจของท่านใน" หรือ "ได้เชื่อมันใน"
  • วลี "ข้าพเจ้าพบความหวังในพระคำของพระองค์" สามารถแปลว่า "ข้าพเจ้ามั่นใจว่าพระคำของพระองค์เป็นความจริง" หรือ "พระคำของพระองค์ช่วยข้าพเจ้าใด้เชื่อมั่นในพระองค์" หรือ "เมื่อข้าพเจ้าเชื่อฟังพระคำของท่าน ข้าพเจ้าแน่ใจว่าจะได้รับพระพร"
  • คำวลีต่างๆ เช่น "หวังใน" พระเจ้าสามารถแปลว่า "เชื่อมั่นในพระเจ้า" หรือ "รู้แน่นอนว่าพระเจ้าจะกระทำสิ่งที่พระองค์ได้ทรงสัญญาไว้" หรือ "แน่ใจว่าพระเจ้าทรงสัตย์ซื่อ"

ค่าไถ่

คำจำกัดความ

คำว่า "ค่าไถ่" หมายถึง จำนวนเงิน หรือ การจ่ายสิ่งอื่นๆ ที่ถูกบังคับ หรือ ได้จ่ายเพื่อการปลดปล่อยบุคคลจากการถูกจับตัว

  • คำว่า "ไถ่" ในฐานะที่เป็นคำกริยา หมายถึง ทำการชำระเงิน หรือ ทำบางสิ่งที่เป็นการเสียสละตนเองเพื่อช่วยกู้บางคนจากการถูกจับตัว เป็นทาส หรือ จำคุก คำหมายของคำว่า "ซื้อคืน" คล้ายกับความหมายของคำว่า "ไถ่คืน"
  • พระเยซูได้อนุญาตให้พระองค์เองถูกฆ่าเพื่อเป็นค่าไถ่ปลดปล่อยประชาชนจากการเป็นทาสของบาป การกระทำเช่นนี้ของพระเจ้าซื้อคืนคนของพระองค์ผ่านทางการชำระค่าโทษความบาปของพวกเขา เรียกว่า "การไถ่บาป" ด้วยในพระคัมภีร์

คำแนะนำในการแปล

  • คำว่า "ไถ่" สามารถแปลว่า "จ่ายเพื่อให้ปล่อย" หรือ "จ่ายราคาเพื่อเป็นอิสระ" หรือ "ซื้อคืนบางคน"
  • วลี "จ่ายค่าไถ่" สามารถแปลว่า "จ่ายค่าราคา"

คำปฏิญาณ

คำจำกัดความ

คำปฏิญาณ คือคำสัญญาที่บุคคลจะทำกับพระเจ้า บุคคลสัญญาว่าจะทำอะไรบางอย่างเพื่อเป็นการถวายเกียรติอย่างพิเศษแด่พระเจ้าหรือเพื่อแสดงความจงรักภักดีต่อพระองค์

  • หลังจากที่บุคคลทำปฏิญาณ เขามีข้อผูกมัดที่ต้องปฏิบัติตามคำปฏิญาณนั้น
  • พระคัมภีร์สอนว่าบุคคลอาจจะถูกพิพากษาโดยพระเจ้า ถ้าเขาไม่ปฏิบัติตามคำปฏิญาณนั้น
  • บางครั้งบุคคลอาจทูลขอให้พระเจ้าทรงปกป้องเขาหรือประทานบางอย่างแก่เขาเพื่อแลกกับการทำการปฏิญาณ
  • แต่พระเจ้าไม่จำเป็นต้องทำตามคำร้องขอที่บุคคลร้องขอในคำปฏิญาณนั้น

คำแนะนำในการแปล

  • ขึ้นอยู่กับบริบท "คำปฏิญาณ" อาจแปลว่า "สัญญาที่จริงจัง" หรือ "สัญญาต่อพระเจ้า"
  • คำนี้ควรได้รับการแปลแตกต่างจาก คำว่า "คำสาบาน"

คำสั่ง, สั่ง, พระบัญญัติ

คำจำกัดความ

คำว่า "สั่ง" หมายถึง การสั่งให้คนใดคนหนึ่งทำบางสิ่ง "คำสั่ง" หรือ "พระบัญญัติ" เป็นสิ่งที่คนถูกสั่งให้ทำตาม

  • ถึงแม้ว่าคำเหล่านี้จะมีพื้นฐานความหมายอย่างเดียวกัน "พระบัญญัติ" มักจะหมายถึงพระบัญชาเฉพาะของพระเจ้าที่เป็นทางการและยั่งยืนถาวรมากกว่า อย่างเช่น "พระบัญญัติสิบประการ"
  • พระบัญญัติสามารถเขียนเป็นเชิงบวก ("จงให้เกียรติบิดามารดา") หรือ เชิงลบ ("อย่าขโมย") ก็ได้
  • "รับคำสั่ง" หมายถึง "รับหน้าที่ควบคุมดูแล" หรือ "รับหน้าที่รับผิดชอบ" ของบางสิ่งหรือบางคน

คำแนะนำในการแปล

  • การแปลคำนี้ให้ดีที่สุดคือการแปลให้แตกต่างจากคำว่า "law" ขอให้เปรียบเทียบกับคำจำกัดความของคำว่า "decree" และ "statute" ด้วย
  • ผู้แปลบางคนอาจจะแปล "command" และ "commandment" ด้วยคำเดียวกันในภาษาของพวกเขา
  • บางคนชอบใช้คำเฉพาะมากกว่าสำหรับ commandment ที่กล่าวถึงคำสั่งที่ถาวรและเป็นทางการที่พระเจ้าทรงได้บัญชา

คำอุปมา

คำจำกัดความ

คำว่า "คำอุปมา" โดยปกติแล้วอ้างถึงเรื่องสั้นหรือบทเรียนเป้าหมายในชีวิตประจำวันที่ใช้เป็นอธิบายหรือสั่งสอนความจริงด้านศีลธรรม

  • พระเยซูทรงใช้คำอุปมาเพื่อสั่งสอนสาวกของพระองค์ แม้ว่าพระองค์จะทรงใช้คำอุปมาเพื่อสั่งสอนประชาชนเช่นเดียวกัน แต่พระองค์ก็ไม่ได้อธิบายถึงความหมายของคำอุปมาเสมอไป
  • คำอุปมาสามารถใช้เพื่อเปิดเผยความจริงบางอย่างต่อสาวกของพระองค์ได้ในขณะที่ซ่อนความจริงจากประชาชนเช่นพวกฟาริสีผู้ซึ่งไม่ได้เชื่อในพระเยซู
  • ผู้เผยพระวจนะนาธานได้ใช้คำอุปมาหนึ่งเพื่อแสดงให้กษัตริย์ถึงบาปอันเลวร้ายของพระองค์
  • เรื่องราวของชาวสะมาเรียใจดีเป็นตัวอย่างของคำอุปมาที่เป็นเรื่องราว การเปรียบเทียบของพระเยซูระหว่างถุงเหล้าองุ่นเก่าและใหม่นั้นเป็นตัวอย่างของคำอุปมาที่เป็นบทเรียนจากการใช้สิ่งของเพื่อช่วยให้สาวกเข้าใจคำสอนของพระเยซู

คืนดี, การคืนดี

คำจำกัดความ

คำว่า "คืนดี" และ "การคืนดี" อ้างถึง "การสร้างสันติภาพ" ระหว่างคนที่เคยเป็นศัตรูกันมาก่อน

  • ในพระคำภีร์ คำนี้มักอ้างถึง การที่พระเจ้าให้คนคืนดีกับพระองค์ผ่านทางการถวายบูชาของพระเยซูคริสต์พระบุตรของพระองค์
  • เพราะว่าความบาป ทุกคนจึงเป็นศัตรูกับพระเจ้า แต่เพราะความรักที่เปี่ยมด้วยพระเมตตาของพระองค์ พระเจ้าได้จัดเตรียมหนทางสำหรับคนทั้งหลายเพื่อการคืนดีกับพระองค์ผ่านทางพระเยซู
  • ผ่านทางการเชื่อไว้วางใจในการถวายบูชาของพระเยซูเพื่อเป็นการจ่ายค่าความบาปของพวกเขา คนทั้งหลายสามารถได้รับการอภัยและมีสันติกับพระองค์

คำแนะนำในการแปล

  • คำว่า "คืนดี" สามารถและว่า "ทำสันติภาพ" หรือ "นำความสัมพันธ์อันดีกลับคืนมา" หรือ "สร้างสันติ" หรือ "ทำให้เป็นเพื่อนกัน"
  • คำว่า "การคืนดีกัน" สามารถแปลว่า "นำเอาความสัมพันธ์อันดีกลับคืนมา" หรือ "สร้างสันติ" หรือ "ทำให้เกิดความสัมพันธ์อย่างสันติ"

จริง, ความจริง, กลายเป็นจริง

คำจำกัดความ

คำว่า "จริง" และ "ความจริง" อ้างถึงแนวคิดที่เป็นข้อเท็จจริงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นจริงและข้อความที่ได้พูดจริง

  • สิ่งที่จริง เป็นจริง แท้จริง ถูกต้อง ถูกกฎหมาย ตามข้อเท็จจริง
  • ความจริงคือความเข้าใจ ความเชื่อ ความจริงหรือข้อความที่เป็นความจริง
  • ข้อความว่า "เป็นจริง" หรือ "ได้เป็นจริง" เป็นสำนวนซึ่งหมายความว่าคำทำนายเกิดขึ้นจริงตามที่คาดการณ์ไว้
  • ความจริงรวมถึงแนวคิดการแสดงในแบบที่เชื่อถือได้และซื่อสัตย์
  • พระเยซูคริสต์ได้ทรงสำแดงความจริงของพระเจ้าในคำพูดที่พระองค์ได้ตรัสแล้ว
  • พระคำของพระเจ้าคือความจริง ซึ่งบอกเกี่ยวกับสิ่งที่เกิดขึ้นจริงและสอนสิ่งที่เป็นจริงเกี่ยวกับพระเจ้าและเกี่ยวกับทุกสิ่งที่พระองค์ได้ทรงกระทำ

คำแนะนำในการแปล

  • ขึ้นอยู่่กับบริบทและสิ่งที่ได้รับกล่าวถึง คำว่า "จริง" อาจแปลโดย "จริง" หรือ "ความเป็นจริง" หรือ "ถูกต้อง" หรือ "ถูกต้อง" หรือ "แน่นอน" หรือ "ของแท้"
  • วิธีเพื่อแปลคำว่า "ความจริง" สามาถรวมถึง "สิ่งที่เป็นความจริง" หรือ "ความเป็นจริง" หรือ "ความแน่นอน" หรือ "หลักการ"
  • ตำกล่าวว่า "เป็นจริง" สามารถแปลว่า "เกิดขึ้นจริง" หรือ "สำเร็จ" หรือ "เกิดขึ้นตามที่คาดการณ์ไว้"
  • คำกล่าวที่ว่า "บอกความจริง" หรือ "พูดความจริง" สามารถแปลว่า "พูดในสิ่งที่เป็นความจริง" หรือ "บอกสิ่งที่เกิดขึ้นจริง" หรือ "พูดในสิ่งที่เชื่อถือได้"
  • "ยอมรับความจริง" สามารถแปลว่า "เชื่อในสิ่งที่เป็นความจริงเกี่ยวกับพระเจ้า"
  • ในคำกล่าวเช่น "นมัสการพระเจ้าด้วยจิตวิญญาณและความจริง" คำกล่าว "ในความจริง" สามารถแปลโดย "เชื่อฟังอย่างซื่อสัตย์ในสิ่งที่พระเจ้าได้ทรงสอนเราแล้ว"

จิตใจ

คำจำกัดความ

จิตใจเป็นสิ่งภายใน มองไม่เห็น เป็นส่วนนิรันดร์ของบุคคล มันอ้างถึงส่วนที่ไม่เป็นเนื้อหนังของบุคคล

  • คำว่า "จิตใจ" และ"วิญญาณ" อาจมีแนวคิดสองแบบ หรืออาจเป็นคำสองคำที่มีความหมายถึงความคิดเดียวกัน
  • เมื่อบุคคลตาย จิตใจของเขาก็ได้ออกจากร่างไป
  • คำว่า"วิญญาณ" บางครั้งจะใช้เป็นคำเปรียบเทียบที่อ้างถึงบุคคลทั้งตัว ตัวอย่างเช่น "จิตใจที่ทำบาป" หมายถึง "บุคคลที่ทำบาป" และ "จิตใจของข้าพเจ้าเหน็ดเหนื่อย" หมายถึง "ข้าพเจ้าเหน็ดเหนื่อย"

คำแนะนำในการแปล

  • คำว่า "จิตใจ" สามารถแปลว่า "ร่างภายใน" หรือ "ภายในบุคคล"
  • ในบางบริบท "วิญญาณของฉัน" สามารถแปลว่า "ฉัน" หรือ "ฉัน"
  • "โดยปกติวลี "จิตใจ" สามารถแปลว่า "บุคคล" หรือ "เขา" หรือ "เขา" ขึ้นอยู่กับบริบท
  • บางภาษาอาจมีเพียงคำเดียวที่แปลว่า "จิตใจ" และ "วิญญาณ"
  • ในฮีบรู 4.12 ในวลี "แบ่งจิตใจและวิญญาณ" สามารถหมายความว่า "หยั่งรู้อย่างลึกๆ หรือ แสดงออกสิ่งภายในบุคคล"

เจ้านาย, นาย, นายท่าน

คำจำกัดความ

คำว่า "เจ้านาย" อ้างถึงบางคนที่เป็นเจ้าของหรือมีสิทธิอำนาจเหนือผู้คน

  • บางครั้งคำนี้ได้รับการแปลว่า "นาย" เมื่อกล่าวถึงพระเยซูหรือเมื่อกล่าวถึงใครบางคนที่เป็นเจ้าของพวกคนที่เป็นทาส
  • ในฉบับแปลภาษาอังกฤษบางฉบับใช้คำนี้ว่า "นายท่าน" ในบริบทที่ใช้เพื่อกล่าวถึงบางคนที่มีตำแหน่งสูงด้วยความสุภาพ

คำแนะนำในการแปล

  • คำนี้ควรแปลว่า "นาย" เมื่อใช้กล่าวถึงบุคคลหนึ่งที่เป็นเจ้าของคนที่เป็นทาส คำนี้สามารถใช้โดยทาสคนหนึ่งเพื่อเรียกบุคคลที่เขาทำงานรับใช้อยู่
  • เมื่อกล่าวถึงพระเยซู สามารถแปลโดยใช้คำว่า "นาย" ถ้าหากในบริบทนั้นหมายถึง "อาจารย์สอนทางศาสนา"
  • ถ้าบุคคลที่กล่าวถึงพระเยซูไม่รู้จักพระองค์ คำว่า "เจ้านาย" สามารถแปลว่า "นายท่าน" ได้ การแปลแบบนี้จะใช้สำหรับบริบทอื่นๆ ที่เรียกบุรุษคนหนึ่งด้วยความสุภาพด้วยเช่นกัน
  • เมื่อกล่าวถึงพระเจ้าพระบิดาหรือกล่าวถึงพระเยซู คำนี้จะถูกเขียนว่า "องค์พระผู้เป็นเจ้า"

เจ้าเมือง

คำจำกัดความ

คำว่า "เจ้าเมือง" อ้างถึงเจ้าหน้าที่ปกครองที่ปกครองดูแลส่วนหนึ่งของจักรวรรดิโรมัน เจ้าเมืองแต่ละคนอยู่ภายใต้อำนาจสิทธิ์ขาดของจักรพรรดิแห่งโรมัน

  • ตำแหน่ง "เจ้าเมือง" มีความหมายว่า "หนึ่งในสี่ร่วมกันของผู้ปกครอง"
  • เริ่มจากภายใต้ไดโอคริเชียนจักรพรรดิโรมัน มีสี่ส่วนใหญ่ของอาณาจักรโรมันและแต่ละไดโอคลีเชียนปกครองหนึ่งส่วน
  • อาณาจักรของเฮโรด "มหาราช" ผู้เป็นกษัตริย์ในเวลาที่พระเยซูทรงบังเกิด ได้ถูกแบ่งออกเป็นสี่ส่วนภายหลังการตายของเขา และถูกปกครองโดยบรรดาลูกๆ ของเขา เป็น "ไดโอคลีเชียน" หรือ "ผู้ปกครองของหนึ่งในสี่ส่วน"
  • แต่ละส่วนมีหนึ่งหรือส่วนที่เล็กๆ มากกว่า ที่เรียกว่า "จังหวัด" อย่างเช่น กาลิลีหรือ สะมาเรีย
  • คำว่า"เจ้าเมือง" สามารถแปลได้ว่า "ผู้ปกครองภูมิภาค" หรือ "ผู้ปกครองจังหวัด" หรือ "ผู้ปกครอง" หรือ "ผู้ว่าราชการ" ก็ได้

เจิม, ได้เจิม

คำจำกัดความ

คำว่า "เจิม" หมายถึงการเอาน้ำมันทาหรือเทบนบุคคลหรือวัตถุ บางคร้งน้ำมันนั้นก็ถูกผสมกับเครื่องเทศ มีกลิ่นดี มีกลิ่นน้ำหอม คำนี้ใช้เปรียบเทียบหมายถึงการเลือกของพระวิญญาณบริสุทธิ์และให้ฤทธิ์อำนาจกับบางคนด้วย

  • ในพันธสัญญาเดิม พวกปุโรหิต กษัตริย์ และผู้เผยพระวจนะได้ถูกเจิมด้วยน้ำมันเพื่อแต่งตั้งพวกเขาแยกไว้ต่างหากเพื่อการรับใช้พระเจ้า
  • วัตถุอย่างเช่นพวกแท่นบูชาหรือพลับพลา ก็ได้ถูกเจิมด้วยน้ำมันเพื่อแสดงว่าสิ่งเหล่านี้ได้ถูกใช้เพื่อนมัสการและถวายเกียรติแด่พระเจ้า
  • ในพันธสัญญาใหม่ คนป่วยก็จะถูกเจิมด้วยน้ำมันเพื่อรับการรักษาให้หาย
  • พันธสัญญาใหม่บันทึกไว้สองครั้งว่า พระเยซูทรงถูกเจิมด้วยน้ำมันหอมโดยผู้หญิงคนหนึ่ง เพื่อเป็นการนมัสการพระองค์ มีครั้้งหนึ่งที่พระเยซูทรงกล่าวว่านางได้ทำเพื่อเป็นการเตรียมการฝังพระศพของพระองค์ในอนาคต
  • หลังจากที่พระเยซูได้สวรรคต บรรดามิตรสหายของพระองค์ได้จัดเตรียมพระกายของพระองค์ด้วยการชะโลมพระศพพระองค์ด้วยน้ำมันและเครื่องเทศ
  • ชื่อเรียกว่า "เมสสิยาห์" (ภาษาฮีบรู) และ "พระคริสต์" (ภาษากรีก) หมายความว่า "(ผู้ที่) ถูกเจิม"
  • พระเยซู พระเมสสิยาห์ คือผู้ที่ได้ถูกเลือกและถูกเจิมเหมือนผู้เผยพระวจนะ มหาปุโรหิต และกษัตริย์

ข้อแนะนำในการแปล

  • คำว่า "เจิม" อาจแปลได้อีกว่า "เทน้ำมันบน" หรือ "ทาน้ำมันบน" หรือ "ถวายให้โดยการเทน้ำมันหอมลงบนนั้น" ทั้งนี้อยู่กับบริบทนั้นๆ
  • การ "ถูกเจิม" อาจแปลได้อีกว่า "ถูกถวายไห้ด้วยน้ำมัน" หรือ "ถูกแต่งตั้ง" หรือ "ถูกมอบถวายไว้"
  • ในบางบริบท คำว่า "เจิม" อาจแปลได้อีกว่า "แต่งตั้ง"
  • วลีที่ว่า "ปุโรหิตที่ถูกเจิม" อาจแปลได้อีกว่า "ปุโรหิตผู้ที่ถูกมอบถวายไว้ด้วยน้ำมัน" หรือ "ปุโรหิตผู้ที่ถูกแต่งตั้งแยกไว้ต่างหากโดยการเทน้ำมันบนเขา"

ฉลาด, ความฉลาด

คำจำกัดความ

คำว่า "ฉลาด" อธิบายถึงคนที่เข้าใจว่าอะไรเป็นสิ่งที่ถูกต้องและมีคุณธรรมที่จะทำสิ่งนั้น "ความฉลาด" คือความเข้าใจและการปฏิบัติในสิ่งที่เป็นความจริงและถูกต้องตามหลักศีลธรรม

  • การเป็นคนฉลาดรวมถึงความสามารถในการตัดสินใจที่ดี เฉพาะอย่างยิ่งการเลือกที่จะทำในสิ่งที่เป็นที่พอพระทัยของพระเจ้า
  • ในพระคัมภีร์ คำว่า "ความฉลาดฝ่ายโลก" เป็นวิธีที่เปรียบในการอ้างอิงถึงสิ่งที่ผู้คนในโลกนี้คิดว่าฉลาด แต่ที่จริงแล้วเป็นสิ่งที่โง่เขลา
  • คนจะกลายเป็นคนฉลาดโดยการฟังพระเจ้าและเชื่อฟังพระประสงค์ของพระองค์ด้วยใจถ่อม
  • คนฉลาดจะแสดงผลของพระวิญญาณบริสุทธิ์ในชีวิตของเขา เช่นความสุข ความเมตตา ความรักและความอดทน

คำแนะนำในการแปล

  • ขึ้นอยู่กับบริบท วิธีอื่นในการแปล "ฉลาด" อาจรวมถึง "เชื่อฟังพระเจ้า" หรือ "มีเหตุผลและเชื่อฟัง" หรือ "การยำเกรงพระเจ้า"
  • "สติปัญญา" อาจแปลโดยคำหรือวลีที่แปลว่า "ใช้ชีวิตที่ชาญฉลาด" หรือ "ดำรงชีวิตที่สมเหตุสมผลและเชื่อฟัง" หรือ "การตัดสินที่ดี"
  • ทางที่ดีที่สุดคือแปล "ฉลาด" และ "สติปัญญา" ในแบบที่มันเป็นคำที่แตกต่างจากคำอื่น ๆ เช่นคำว่าชอบธรรมหรือ เชื่อฟัง เป็นต้น

ช่วยชีวิต, ปลอดภัย

คำจำกัดความ

คำว่า "ช่วยชีวิต" อ้างถึงการนำให้บางคนพ้นจากสิ่งเลวร้ายหรือสิ่งที่ซึ่งอันตราย การ "ได้รับความปลอดภัย" หมายถึงการปกป้องจากการถูกทำร้ายหรือจากอันตราย

  • ในเชิงเนื้อหนังมนุษย์สามารถถูกช่วยหรือกู้ให้พ้นจากการถูกทำร้าย อันตรายหรือความตายได้
  • ในเชิงฝ่ายวิญญาณหากคนหนึ่งที่ได้รับการ"ช่วยให้รอด" นั่นหมายถึงโดยผ่านทางการสวรรคตของพระเยซูคริสต์บนไม้กางเขน พระเจ้าได้ให้อภัยเขาและได้ช่วยกู้เขาจากการถูกทำโทษในนรกเพราะบาปของพวกเขา
  • มนุษย์สามารถช่วยเหลือหรือช่วยกู้มนุษย์จากอันตรายได้ เพียงพระเจ้าองค์เดียวเท่านั้นที่สามารถช่วยมนุษย์ให้พ้นจากการถูกลงโทษนิจนิรันดร์เพราะความบาปของพวกเขาได้

คำแนะนำในการแปล

  • วิธีที่แปลคำว่า "ช่วยชีวิต" สามารถรวมคำว่า ""ส่งมอบ" หรือ ช่วยจากอ้นตราย" หรือ "ตัดทางแห่งอันตรายออกไป" หรือ"ช่วยให้พ้นจากความตาย"
  • คำกล่าว "ใครก็ตามที่รักษาชีวิต" คำว่า "รักษา" สามารถแปลว่า "สงวน" หรือ "ป้องกัน"
  • คำว่า "ช่วยเหลือ" สามารถแปลว่า "ป้องกันจากอันตราย" หรือ "ในสถานที่ที่ไม่มีอะไรจะทำอันตรายได้"

ชอบธรรม, ความชอบธรรม

คำจำกัดความ

คำว่า "ชอบธรรม" และ "ความชอบธรรม"อ้างถึงความดีอันแท้จริงของพระเจ้า ความยุติธรรม ความซื่อสัตย์ และความรัก เพราะพระเจ้าทรงเป็นผู้ชอบธรรม พระองค์จึงต้องลงโทษความบาป

  • คำเหล่านี้มักใช้ในการอธิบายถึงบุคคที่เชื่อฟังพระเจ้าและมีศีลธรรม อย่างไรก็ตามทุกคนมีบาป ไม่มีใครไม่มีบาปนอกจากพระเจ้าที่ทรงเป็นผู้ชอบธรรมอย่างแท้จริง
  • ตัวอย่างคนที่พระคัมภีร์เรียกว่า "ผู้ชอบธรรม" รวมถึง โนอาห์ โยบ อับราฮัม เซคาริยาห์ และเอลีซาเบธ
  • เมื่อมนุษย์วางใจในพระเยซูให้ช่วยพวกเขา พระเจ้าได้ทำให้พวกเขาสะอาดจากความบาปของพวกเขา และประกาศให้พวกเขาเป็นผู้ชอบธรรมโดยอาศัยความชอบธรรมของพระเยซู

คำแนะนำในการแปล

  • เมื่ออ้างถึงพระเจ้า คำว่า "ชอบธรรม" สามารถแปลว่า "ดีอย่างสมบูรณ์และยุติธรรม" หรือ "ปฏิบัติอย่างถูกต้องเสมอ"
  • ความชอบธรรม" ของพระเจ้า สามารถแปลว่า "ความสัตย์ซื่ออย่างสมบูรณ์และความดี"
  • วลี "ชอบธรรม" สามารถแปลว่า "ประชาชนผู้ชอบธรรม" หรือ " ประชาชนที่ยำเกรงพระเจ้า"
  • ขึ้นอยู่กับบริบท "ความชอบธรรม" สามารถแปลด้วยคำ หรือวลีที่มีความหมายว่า "ความดี" หรือ "เป็นความสมบูรณ์ต่อพระพักตร์พระเจ้า" หรือ "กระทำในทางที่ถ฿กต้องโดยเชื่อฟังพระเจ้า" หรือ "ทำสิ่งที่ดีอย่างสมบูรณ์"
  • บางครั้ง "ชอบธรรม" ใช้ในเชิงอุปมาอุปมัยและอ้างถึง "ประชาชนผู้คิดว่าพวกเขาดี" หรือ "ประชาชนผู้ที่ดูเหมือนเป็นผู้ชอบธรรม"

ชั่ว, ชั่วร้าย, ความชั่วร้าย

คำจำกัดความ

คำว่า "ชั่ว" และ "ชั่วร้าย" ทั้งสองคำ อ้างถึง สิ่งใดก็ตามที่ตรงข้ามกับพระลักษณะที่บริสุทธิ์และน้ำพระทัยของพระเจ้า

  • ขณะที่คำว่า "ชั่ว" อาจบรรยายถึงลักษณะของบุคคล คำว่า "ชั่วร้าย" อาจกล่าวถึงในเรื่องของพฤติกรรมของบุคคลมากกว่า อย่างไรก็ตาม ทั้งสองคำก็มีความหมายที่คล้ายกัน
  • คำว่า "ความชั่วร้าย" กล่าวถึงสถานะของการเป็นอยู่ เมื่อมนุษย์ทำสิ่งชั่วร้าย
  • ผลของความชั่วนั้นแสดงให้เห็นอย่างชัดเจน เมื่อมนุษย์ปฏิบัติต่อผู้อื่นในแบบผิดๆ โดยการเข่นฆ่า ขโมย ใส่ร้าย หรือเป็นคนโหดเหี้ยมและใจร้าย

คำแนะนำการแปล

  • คำว่า "ชั่ว" และ "ชั่วร้าย" สามารถแปลได้ว่า "เลว" หรือ "มีบาป" หรือ "ผิดศีลธรรม" ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับบริบทนั้น ๆ
  • ความหมายอื่นในการแปลคำเหล่านี้อาจรวมถึงคำว่า "ไม่ดี" หรือ "ไม่ชอบธรรม" หรือ "ไม่มีศีลธรรม"
  • ทำให้แน่ใจว่าคำเหล่านั้น หรือวลีที่เคยแปลคำเหล่านี้เหมาะสมกับบริบท และมีความเป็นธรรมชาติในภาษาที่แปล

ชาวยิว, ความเป็นยิว

คำจำกัดความ

ยิวคือคนที่เป็นเชื้อสายของหลานอับราฮัมคือยาโคบ คำว่า "ยิว" มาจากคำว่า "ยูดาห์"

  • ผู้คนเริ่มเรียกคนอิสราเอลว่า "ยิว" หลังจากที่พวกเขากลับมายังยูดาห์จากที่ถูกเนรเทศไปบาบิโลน
  • พระเยซูพระเมสสิยาห์ทรงเป็นชาวยิว อย่างไรก็ตาม ผู้นำทางศาสนาชาวยิวปฎิเสธพระเยซูและต้องการให้พระองค์ถูกประหาร
  • บ่อยครั้งวลี "ชาวยิว" อ้างถึงผู้นำของชาวยิว ไม่ได้หมายถึงชาวยิวทั้งหมด ในบริบทเหล่านั้น คำแปลบางฉบับได้เพิ่ม "พวกผู้นำของ" เพื่อให้ชัดเจนขึ้น

ชำระให้บริสุทธิ์, การชำระให้บริสุทธิ์

คำจำกัดความ

การชำระให้บริสุทธิ์คือการแยกออก หรือทำให้บริสุทธิ์ การชำระให้บริสุทธิ์เป็นกระบวนการที่จะทำให้บริสุทธิ์

  • ในพันธสัญญาเดิม ประชาชนที่บางคนและบางสิ่งได้รับการชำระให้บริสุทธิ์ หรือได้แยกออก เพื่อรับใช้พระเจ้า
  • ในพันธสัญญาใหม่สอนว่าพระเจ้าทรงชำระประชากรที่เชื่อในพระเยซูคริสต์ให้บริสุทธิ์ เพื่อว่า พระองค์ทรงชำระพวกเขาให้บริสุทธิ์และแยกพวกเขาออกมาเพื่อให้รับใช้พระองค์
  • บรรดาผู้เชื่อในพระเยซูได้รับพระบัญญาให้รับการชำระตนให้บริสุทธิ์ต่อพระเจ้า เพื่อให้ทุกสิ่งที่พวกเขากระทำบริสุทธิ์

คำแนะนำในการแปล

  • ขึ้นอยู่กับบริบท คำว่า "ชำระให้บริสุทธิ์" สามารถแปลว่า "ถูกแยกออก" หรือ "ทำให้ศักดิ์สิทธิ์" หรือ "ทำให้บริสุทธิ์"
  • เมื่อประชาชนชำระตนให้บริสุทธิ์ หมายความว่าพวกเขาบริสุทธิ์และอุทิศถวายตัวต่อการรับใช้พระเจ้า บ่อยครั้ง คำว่า "การปลุกเสก" ก็ได้ใช้ในพระคัมภีร์สำหรับความหมายนี้ด้วย
  • ด้วยความหมายของคำว่า "การปลุกเสก" คำนี้ควรแปลว่า "อุทิศตัวให้บางคน"

ชีวิต, ดำรงชีวิต, การดำรงชีวิต, มีชีวิตอยู่

คำจำกัดความ

คำทั้งหมดเหล่านี้อ้างถึงการมีชีวิตอยู่ในฝ่ายร่างกาย ไม่ใช่การตาย คำเหล่านี้ยังใช้บ่อยครั้งในเชิงอุปมาอุปมัยเพื่ออ้างถึงการมีชีวิตในฝ่ายวิญญาณอีกด้วย คำอธิบายต่อไปนี้หมายถึง "ชีวิตฝ่ายร่างกาย" และ "ชีวิตฝ่ายวิญญาณ"

คำแนะนำในการแปล

  • ขึ้นอยู่กับบริบท คำว่า "ชีวิต" สามารถแปลว่า "ดำรงอยู่" หรือ "บุคคล" หรือ "วิญญาณ" หรือ "เป็นอยู่" หรือ "ประสบการณ์"
  • คำว่า "ดำรงชีวิต" สามารถแปลว่า "พำนัก" หรือ "อาศัยอยู่" หรือ "ดำรงอยู่"
  • คำกล่าว "จบชีวิตของเขา" สามารถแปลว่า "เมื่อเขาหยุดการมีชีวิตอยู่"
  • คำกล่าว "ไว้ชีวิตของพวกเขา" สามารถแปลได้ว่า "ยอมให้พวกเขามีชีวิตอยู่" หรือ "ไม่ต้องฆ่าพวกเขา"
  • คำกล่าว "พวกเขาเสี่ยงชีวิตของพวกเขา" สามารถแปลว่า "พวกเขาเอาชีวิตของพวกเขาไปสู่อันตราย" หรือ "พวกเขาได้ทำบางสิ่งที่สามารถฆ่าพวกเขาได้"
  • เมื่อข้อความในพระคัมภีร์พูดเกี่ยวกับมีชีวิตฝ่ายจิตวิญญาณ "ชีวิต" สามารถแปลว่า "ชีวิตฝ่ายจิตวิญญาณ" หรือ "ชีวิตนิรันดร์" ขึ้นอยู่กับบริบท
  • ความคิดที่ว่า "ชีวิตฝ่ายจิตวิญญาณ" สามารถแปลว่า "พระเจ้าทรงสร้างเราให้มีชีวิตในจิตวิญญาณของเรา" หรือ "ทำให้เกิดชีวิตในชีวิตภายในของเรา"
  • ขึ้นอยู่กับบริบท คำกล่าว "ให้ชีวิต" สามารถแปลว่า "เป็นเหตุให้มีชีวิต" หรือ "ให้ชีวิตนิรันดร์" หรือ "เป็นเหตุให้มีชีวิตชั่วนิรันดร์"

ชื่นชอบ, ซึ่งเป็นที่ชื่นชอบ, ความลำเอียง

คำจำกัดความ

คำว่า "ชื่นชอบ" กล่าวถึงการทำบางสิ่งที่เป็นประโยชน์กับบางคนในเชิงบวก บางอย่าง "ซึ่งเป็นที่ชื่นชอบ" ที่เป็นการยอมรับ หรือให้ประโยชน์ในเชิงบวก

  • คำว่า "ความลำเอียง" หมายถึงการกระทำอย่างชื่นชอบต่อบางคนแต่ไม่ใช่ทุกคน หลายครั้งความลำเอียงคือคำว่า "ลำเอียง" หมายความถึงการกระทำอย่างชื่นชอบต่อบางคนแต่ไม่ใช่คนอื่น ๆ เช่นการแสดงต่อคนรวย หรือคนที่ได้พิจารณากำหนดไว้
  • พระเยซูทรงได้เติบโต "ด้วยความชื่นชอบของ" พระเจ้าและมนุษย์ นี่หมายความพวกเขาได้ยอมรับพระลักษณะและความประพฤติของพระองค์
  • สำนวนคำว่า "หาความชื่นชอบ" หมายถึงบุคคลที่ได้เป็นที่ยอมรับโดยบางคน
  • เมื่อกษัตริย์ทรงแสดงความชื่นชอบแก่บางคน หลายครั้งมีความหมายว่าพระองค์ทรงยอมรับคำร้องขอของคนนั้นและมอบให้

คำแนะนำการแปล

  • อีกแนวทางหนึ่งในการแปลคำว่า "ชื่นชอบ" สามารถรวมทั้ง "คำอวยพร" หรือ "ผลประโยชน์" ได้ด้วย
  • คำว่า "ปีแห่งความชื่นชอบของพระยาห์เวห์" สามารถแปลได้อีกว่า "ปีนั้น"

ชื่อ, นาม, พระนาม

คำจำกัดความ

ในพระคัมภีร์นั้น คำว่า "ชื่อ" สามารถใช้ในเชิงอุปมาอุปมัยได้หลายทาง

  • ในบางบริบท "ชื่อ" อ้างถึงชื่อเสียงของบุคคล เช่น "ให้เราทำชื่อเสียงไว้สำหรับพวกเรา"
  • คำว่า "ชื่อ" สามารถอ้างถึงความทรงจำบางอย่าง เช่น "ตัดชื่อของรูปเคารพเสีย" หมายถึงการทำลายรูปเคารพต่างๆ เพื่อพวกมันจะไม่เป็นที่จดจำหรือเคารพบูชาอีกต่อไป
  • การกล่าว "ในพระนามของพระเจ้า" หมายถึงการพูดด้วยสิทธิอำนาจ หรือในฐานะตัวแทนของพระเจ้า
  • คำว่า "ชื่อ" ของบางคนยังสามารถอ้างตัวบุคคล เช่น "ไม่มีนามอื่นภายใต้ฟ้าสวรรค์ซึ่งให้เราทั้งหลายรอดได้" (ให้ดูใน: metonymy)

คำแนะนำในการแปล

  • คำกล่าวว่า "พระนามอันประเสริฐ" สามารถแปลอีกอย่างหนึ่งได้ว่า "ชื่อเสียงอันดีของพระองค์"
  • การทำบางอย่าง "ในพระนามของ" สามารถแปลอีกอย่างหนึ่งได้ว่า "โดยฤทธิ์อำนาจของ" หรือ "โดยพระราชานุญาตของ" หรือ "โดยการเป็นตัวแทนของ" บุคคลนั้น
  • คำกล่าวที่ว่า "ให้เราทำชื่อเสียงไว้" สามารถแปลได้ว่า "ทำให้ผู้คนรู้จักเรา" หรือ "ทำให้ผู้คนคิดว่าเราสำคัญมากขนาดไหน"
  • สำนวนที่ว่า "จงเรียกนามเขาว่า" สามารถแปลได้ว่า"จงตั้งชื่อเขา" หรือ "จงให้ชื่อเขาว่า"
  • คำกล่าว "คนเหล่านั้นที่รักเชื่อของท่าน" สามารถแปลว่า "คนเหล่านั้นที่รักท่าน"
  • คำกล่าว "ให้ตัดชื่อต่างๆ ของรูปเคารพออก" สามารถแปลว่า "กำจัดรูปเคารพของคนนอกศาสนาออก เพื่อที่พวกเขาจะไม่เป็นที่จดจำ" หรือ "ทำให้ประชาชนหยุดนมัสการพระเทียมเท็จ" หรือ "ให้ทำลายพระเทียมเท็จอย่างสิ้นเชิงเพื่อที่ประชาชนจะไม่คิดถึงพวกมันอีกต่อไป"

ซาตาน, มาร, ผู้ชั่วร้าย

คำจำกัดความ

มารเป็นวิญญาณหนึ่งที่พระเจ้าได้ทรงเนรมิตขึ้น แต่มันได้กบฎต่อพระเจ้าและกลายมาเป็นศัตรูของพระเจ้า มารยังถูกเรียกอีกชื่อว่า "ซาตาน" และ "ผู้ชั่วร้าย"

  • มารเกลียดพระเจ้าและทุกสิ่งพระเจ้าทรงเนรมิต เพราะมันอยากแทนตำแหน่งของพระเจ้าและอยากได้รับการนมัสการเหมือนกับพระเจ้า
  • ซาตานทดลองมนุษย์ให้กบฎต่อพระเจ้า
  • พระเจ้าประทานพระบุตรของพระองค์ คือพระเยซูคริสต์เพื่อช่วยกู้มนุษย์จากการควบคุมของซาตาน
  • ชื่อของ "ซาตาน" มีความหมายว่า "ปรปักษ์" หรือ "ศัตรู"
  • คำว่า "มาร" มีความหมายว่า"ผู้กล่าวโทษ"

คำแนะนำในการแปล

  • คำว่า "มาร" สามารถแปลว่า "ผู้กล่าวโทษ" หรือ "ผู้ชั่วร้าย" หรือ "เจ้าแห่งวิญญาณชั่วทั้งหลาย" หรือ "หัวหน้าวิญญาณชั่ว"
  • "ซาตาน" สามารถแปลว่า "ฝ่ายตรงข้าม" หรือ "ปรปักษ์" หรือชื่ออื่นๆ ที่แสดงว่ามันเป็นมาร
  • คำเหล่านี้ควรแปลให้ต่างจากคำว่าปีศาจและวิญญาณชั่ว
  • ให้พิจารณาว่าคำเหล่านี้แปลว่าอย่างไรในท้องถิ่นหรือ ภาษากลาง

ดี, ความดี

คำจำกัดความ

คำว่า "ดี" มีความหมายแตกต่างกันขึ้นอยู่กับบริบท หลายภาษาจะใช้คำอื่นในการแปลความหมายที่แตกต่างกันเหล่านี้

  • โดยทั่วไปสิ่งที่ดีคือถ้าสิ่งนั้นเหมาะสมกับพระลักษณะของพระเจ้า วัตถุประสงค์และน้ำพระทัยของพระองค์
  • บางสิ่งที่ "ดี" สามารถเป็นความพอใจ ดีเยี่ยม เป็นประโยชน์ เหมาะสม มีกำไรหรือถูกต้องตามหลักศีลธรรม
  • ที่ดินที่ "ดี" สามารถเรียกได้อีกว่า "สมบูรณ์" หรือ "ประสิทธิผล"
  • พืชผลที่ "ดี" สามารถเป็นพืชผลที่ "สมบูรณ์"
  • บุคคลสามารถ "ดี" ในสิ่งที่พวกเขาทำถ้าพวกเขาชำนาญในงานหรืออาชีพของพวกเขาเช่นเดียวกับใน "ชาวนาที่ดี"
  • ในพระคัมภีร์ ความหมายทั่วไปของคำว่า "ดี" มักตรงข้ามกับคำว่า "ชั่วร้าย"
  • คำว่า "ความดี" ปกติแล้วหมายถึงการเป็นคนที่อยู่ในศีลธรรมที่ดีหรือมีความคิดและการกระทำที่ชอบธรรม
  • ความดีของพระเจ้าอ้างถึงว่าพระองค์ได้อวยพรแก่มนุษย์อย่างไรโดยการให้สิ่งดีๆ และประโยชน์ที่ดี นอกจากนี้ยังสามารถอ้างถึงความสมบูรณ์แบบทางจริยธรรมของพระองค์

คำแนะนำการแปล

  • คำทั่วไปสำหรับคำว่า "ดี" ในภาษาเป้าหมายควรใช้คำใดก็ตามที่มีความหมายทั่วไปที่ถูกต้องและเป็นธรรมชาติ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในบริบทที่แตกต่างจากความชั่วร้าย
  • ขึ้นอยู่กับบริบท วิธีอื่นในการแปลคำนี้อาจรวมถึง "ใจดี" หรือ "ดีเยี่ยม" หรือ "ที่ชื่นชอบต่อพระเจ้า" หรือ "ชอบธรรม" หรือ "ศีลธรรมที่ตั้งขึ้น" หรือ "ทำกำไรได้"
  • "ดินแดนที่ดี" สามารถแปลได้ว่า "แผ่นดินอุดมสมบูรณ์" หรือ "ที่ดินที่มีการผลิต" "พืชที่ดี" อาจแปลได้อีกว่า "การเก็บเกี่ยวที่อุดมสมบูรณ์" หรือ "พืชผลจำนวนมาก"
  • วลี "ทำดีต่อ" หมายถึงการทำสิ่งที่เป็นประโยชน์ต่อผู้อื่นและสามารถแปลเป็นคำว่า "ใจดี" หรือ "ช่วย" หรือ "ประโยชน์" ต่อใครสักคนได้
  • "ทำดีในวันสะบาโต" หมายความว่า "ทำสิ่งที่ช่วยคนอื่นในวันสะบาโต"
  • ขึ้นอยู่กับบริบท วิธีการแปลคำว่า "ความดี" สามารถรวมถึง "พระพร" หรือ "ความเมตตา" หรือ "ความสมบูรณ์แบบทางจริยธรรม" หรือ "ความชอบธรรม" หรือ "ความบริสุทธิ์"

แดนคนตาย

คำจำกัดความ

คำว่า "แดนคนตาย" และ "แดนมรณา" ใช้ในพระคัมภีร์เพื่ออ้างถึงความตายและสถานที่ที่ดวงวิญญาณของผู้คนไปที่นั่นเมื่อพวกเขาตาย ความหมายของทั้งสองคำคล้ายคลึงกัน

  • ภาษาฮีบรูคำว่า "แดนมรณา" มักใช้ในพันธสัญญาเดิมเพื่ออ้างถึงสถานที่แห่งความตาย
  • ในพันธสัญญาใหม่คำในภาษากรีกว่า "แดนคนตาย" หมายถึงสถานที่สำหรับดวงวิญญาณที่ต่อต้านพระเจ้า วิญญาณเหล่านี้บ่งบอกถึงการ "ลง" ไปสู่แดนคนตาย บางครั้งก็แตกต่างกับการ "ขึ้นไปสวรรค์" สถานที่วิญญาณของคนที่เชื่อในพระเยซูอาศัยอยู่
  • คำว่า "แดนมรณา" จะถูกจับคู่กับคำว่า "ความตาย" ในพระธรรมวิวรณ์ ในเวลาสุดท้ายทั้งความตายและแดนมรณาจะถูกโยนลงไปในทะเลสาบแห่งไฟนรกซึ่งก็คือนรก

คำแนะนำการแปล

  • พันธสัญญาเดิมคำว่า "แดนคนตาย" สามารถแปลว่า "สถานที่แห่งความตาย" หรือ "สถานที่สำหรับวิญญาณที่ตายแล้ว" การแปลบางสำนวนคือ "หลุม" หรือ "ความตาย" ขึ้นอยู่กับบริบท
  • ในพันธสัญญาใหม่ คำว่า "แดนมรณา" สามารถแปลว่า "สถานที่สำหรับคนตายที่ไม่เชื่อ" หรือ "สถานที่แห่งความทุกข์ยากสำหรับคนตาย" หรือ "สถานที่สำหรับวิญญาณของคนตายที่ไม่เชื่อ"
  • คำแปลบางฉบับยังรักษาคำว่า "แดนคนตาย" หรือ "แดนมรณา" การสะกดคำให้เหมาะกับรูปแบบเสียงของภาษาในการแปล

ตรึงกางเขน

คำจำกัดความ

คำว่า "ตรึงกางเขน" หมายถึงการประหารบุคคล ด้วยการผูกมัดเขาไว้กับไม้กางเขนและปล่อยให้เขาอยู่ที่นั่นเพื่อจะทนทุกข์ทรมานและตายด้วยความเจ็บปวดอย่างยิ่ง

  • ผู้เคราะห์ร้ายถูกมัดหรือตอกตะปูติดกับไม้กางเขน คนที่ถูกตรึงกางเขนเสียชีวิตจากการเสียเลือดหรือจากการหายใจไม่ออก
  • จักรวรรดิโรมันโบราณใช้วิธีนี้ในการลงโทษและฆ่าคนที่เป็นอาชญากรร้ายหรือผู้ก่อกบฎต่อต้านอำนาจรัฐบาลของพวกเขา
  • พวกผู้นำศาสนายิวได้ขอให้ผู้ว่าราชการโรมันสั่งให้ทหารของเขาตรึงพระเยซู พวกทหารได้ตอกตะปูพระเยซูเข้ากับไม้กางเขน พระองค์ทรงทนทุกข์ทรมานอยู่ที่นั่นเป็นเวลาหกชั่วโมงและแล้วก็สวรรคต

คำแนะนำในการแปล

  • คำว่า "ตรึงกางเขน" อาจแปลว่า "ฆ่าบนไม้กางเขน" หรือ "ประหารโดยการตอกตะปูเข้ากับไม้กางเขน"

ตัดสิน, พิพากษา

คำจำกัดความ

คำว่า "ตัดสิน" และ "พิพากษา" มักจะอ้างถึงการตัดสินใจเกี่ยวกับบางสิ่งในทางศีลธรรมว่าถูกหรือผิด

  • "การพิพากษาของพระเจ้า" มักจะอ้างถึงการตัดสินใจของพระองค์เพื่อลงโทษบางสิ่งที่บาปหรือบางคนที่ทำบาป
  • โดยปกติการพิพากษาของพระเจ้าจะรวมถึงการลงโทษผู้คนสำหรับความบาปของพวกเขา
  • คำว่า "ตัดสิน" สามารถหมายถึง "การกล่าวโทษ" พระเจ้าทรงสั่งสอนประชากรของพระองค์ไม่ให้ตัดสินกันและกันด้วยวิธีการนี้
  • อีกความหมายหนึ่งคือ "ตัดสินชี้ขาดระหว่าง" หรือ "ตัดสินระหว่าง" อย่างเช่นตัดสินใจว่าบุคคลใดเป็นฝ่ายถูกต้องในข้อพิพาทระหว่างพวกเขา
  • ในบางบริบท "การพิพากษา" ของพระเจ้า คือสิ่งที่พระองค์ได้ตัดสินใจว่าถูกต้องและยุติธรรม เหมือนกับกฤษฎีกา กฎหมาย หรือคำสั่งสอนของพระองค์
  • "การพิพากษา" สามารถอ้างถึงความสามารถในการตัดสินใจได้อย่างชาญฉลาด บุคคลหนึ่งที่ขาด "การพิพากษา" ก็ไม่มีสติปัญญาในการตัดสินใจได้อย่างชาญฉลาด

คำแนะนำในการแปล

  • ขึ้นอยู่กับบริบท วิธีในการแปล "ตัดสิน" สามารถรวม "ตัดสินใจ" หรือ "กล่าวโทษ" หรือ "ลงโทษ" หรือ "ให้กฤษฎีกา" ได้
  • คำว่า "พิพากษา" สามารถแปลว่า "การลงโทษ" หรือ "การตัดสินใจ" หรือ "คำตัดสินสุดท้าย" หรือ "ตัดสินชี้ขาด" หรือ "การกล่าวโทษ"
  • ในบางบริบท วลี "ในการพิพากษา" สามารถแปลว่า "ในวันพิพากษา" หรือ "ระหว่างเวลาเมื่อพระเจ้าทรงพิพากษาประชาชน"

ตามทางพระเจ้า, อยู่ในทางธรรม

คำจำกัดความ

คำว่า "ตามทางพระเจ้า" ใช้เพื่อบรรยายถึงการกระทำของคนที่แสดงออกแบบให้เกียรติพระเจ้าและสำแดงว่าพระเจ้าทรงเป็นอย่างไร "เป็นเหมือนพระเจ้า" คือคุณภาพของบุคลิกลักษณะที่ถวายเกียรติแด่พระเจ้าโดยการทำตามพระทัยของพระเจ้า

  • คนที่มีบุคลิกลักษณะตามทางพระเจ้าจะแสดงให้เห็นผลของพระวิญญาณบริสุทธิ์เช่น ความรัก ความชื่นชมยินดี สันติสุข ความอดทน ความสุภาพและการบังคับตน
  • คุณภาพของคนที่อยู่ในทางธรรมแสดงว่าบุคคลนั้นมีพระวิญญาณบริสุทธิ์และเชื่อฟังพระองค์

คำแนะนำการแปล

วลีที่ว่า "ตามทางพระเจ้า" สามารถแปลได้อีกว่า "คนที่อยู่ตามทางพระเจ้า" หรือ "คนที่เชื่อฟังพระเจ้า"


เตือนสติ, การเตือนสติ

คำจำกัดความ

คำว่า "เตือนสติ" หมายถึงการหนุนใจที่หนักแน่นและกระตุ้นให้บางคนทำในสิ่งที่ถูกต้อง คือคำหนุนใจที่เรียกว่า "การเตือนสติ"

  • จุดประสงค์ของการเตือนสติก็คือเพื่อโน้มน้าวคนอื่นให้หลีกเลี่ยงความบาปและเชื่อฟังน้ำพระทัยของพระเจ้า
  • พันธสัญญาใหม่สอนให้บรรดาคริสเตียนให้เตือนสติซึ่งกันและกันในความรัก ไม่ใช่ด้วยความรุนแรง หรือหยาบคาย

คำแนะนำการแปล

  • คำว่า "เตือนสติ" สามารถแปลได้อีกอย่างว่า "กระตุ้นอย่างหนักแน่น" หรือ "โน้มน้าว" หรือ "แนะนำ" ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับบริบทนั้น ๆ
  • ให้แน่ใจว่าการแปลของคำนี้ไม่ได้หมายความว่า คนที่เตือนสตินั้นโกรธ คำนี้ควรสื่อถึงความแข็งแกร่งและความจริงจัง แต่ไม่ควรสื่อถึงคำพูดที่โกรธ
  • ในบริบทส่วนใหญ่ คำว่า "เตือนสติ" ควรถูกแปลในแบบที่แตกต่างกับคำว่า "หนุนใจ" ที่หมายถึง การให้แรงบันดาลใจ การสร้างความมั่นใจ หรือปลอบโยนบางคน
  • โดยปกติแล้วคำนี้สามารถแปลได้หลายแบบจากคำว่า "ว่ากล่าว" ซึ่งหมายถึงการเตือน หรือการแก้ไขพฤติกรรมของบางคนที่ไม่ถูกต้องของเขา

แต่งตั้ง, ได้แต่งตั้ง, ได้กำหนด

คำจำกัดความ

คำว่า "แต่งตั้ง" และ "ได้แต่งตั้ง" กล่าวถึงการเลือกบางคนให้ทำหน้าที่หรือบทบาทเฉพาะบางอย่างให้สำเร็จ

  • การ "ถูกแต่งตั้ง" สามารถกล่าวถึงการถูก "เลือก" ให้รับบางอย่าง เช่น "ถูกกำหนดไว้เพื่อให้ได้รับชีวิตนิรันดร์" นี่หมายความว่าพวกเขาถูกเลือกไว้เพื่อจะได้รับชีวิตนิรันดร์
  • วลีที่ว่า "กำหนดเวลา" กล่าวถึง "เวลาที่พระเจ้าทรงได้กำหนดไว้" หรือ "เวลาที่ได้วางไว้" เพื่อให้บางอย่างเกิดขึ้น
  • คำว่า "แต่งตั้ง" อาจหมายถึง "คำสั่ง" หรือ "การมอบหมาย" ให้บางคนทำบางอย่าง

ข้อแนะนำในการแปล

  • หลายวิธีที่แปลคำว่า "แต่งตั้ง" อาจรวมไปถึงคำว่า "ถูกเลือก" หรือ "มอบหมาย" หรือ "เลือกไว้อย่างเป็นทางการ" หรือ "การกำหนด" ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับบริบทนั้นๆ
  • คำว่า "ได้ถูกแต่งตั้ง" อาจแปลได้อีกว่า "ได้รับมอบหมาย" หรือ "ได้วางแผนไว้" หรือ "เลือกไว้เป็นพิเศษ"
  • วลีที่ว่า "ได้ถูกแต่งตั้งไว้" อาจแปลได้อีกว่า "ได้ถูกเลือกไว้"

ถ่อมใจ, ความถ่อมใจ

คำจำกัดความ

คำว่า "ถ่อมใจ" อธิบายถึงบุุคคลที่ไม่คิดว่าตนเองดีกว่าคนอื่น เขาไม่ได้หยิ่งหรือทะนงตัว การถ่อมใจคือคุณภาพของการเป็นคนถ่อม

  • การถ่อมใจต่อพระเจ้าหมายถึงการเข้าใจความอ่อนแอและความไม่สมบูรณ์แบบเมื่อเปรียบเทียบกับความยิ่งใหญ่ พระปัญญาและความสมบูรณ์แบบของพระองค์
  • ถ้าคนหนึ่งถ่อมตนเองลง เขาให้ตนเองอยู่ในตำแหน่งที่สำคัญน้อยกว่า
  • ความถ่อมใจคือการคิดถึงความจำเป็นของคนอื่นก่อนความต้องการของตนเอง
  • ความถ่อมใจยังหมายถึงการรับใช้ด้วยท่าทีสงบเสงี่ยมในขณะที่ใช้ของประทานและความสามารถของตนเอง
  • วลี "ถ่อมใจ" สามารถแปลได้ว่า "อย่าเย่อหยิ่ง"
  • "ถ่อมใจลงต่อพระเจ้า" สามารถแปลได้ว่า "ยอมมอบความประสงค์ของตนเองให้แก่พระเจ้าโดยรับรู้ถึงความยิ่งใหญ่ของพระองค์"

ไถ่, การไถ่, ผู้ไถ่

คำจำกัดความ

คำว่า "ไถ่" และ "การไถ่" อ้างถึง การซื้อคืนบางสิ่งที่ถูกครอบครองหรือถูกจับกุมไว้ "ผู้ไถ่"คือคนไถ่ถอนบางสิ่งหรือบางคน

  • พระเจ้าประทานบัญญัติให้แก่ชาวอิสราเอลในเรื่องเกี่ยวกับการไถ่คนหรือสิ่งของ
  • ตัวอย่างเช่น บางคนสามารถไถ่บุคคลที่ตกเป็นทาสโดยการจ่ายราคาเพื่อจะให้ทาสเป็นไท คำว่า "ไถ่ตัว" ก็อ้างถึงการปฏิบัติเช่นนี้ด้วย
  • ถ้าที่ดินของบางคนได้ถูกขายไป ญาติพี่น้องของบุคคลนั้นสามารถ "ไถ่" หรือ "ซื้อคืน" ที่ดินผืนนั้นเพื่อจะให้ที่ดินผืนนั้นเป็นของครอบครัวต่อไป
  • การปฏิบัติเช่นนี้แสดงให้เห็นการที่พระเจ้าไถ่คนทั้งหลายที่ตกเป็นทาสแห่งความบาปอย่างไร เมื่อพระเยซูทรงสวรรคตบนไม้กางเขน พระองค์ได้จ่ายราคาเต็มสำหรับความบาปของคนทั้งหลายและไถ่ทุกคนที่เชื่อไว้วางใจในพระองค์เพื่อความรอด คนทั้งหลายที่ถูกไถ่โดยพระเจ้าจะเป็นไทจากความบาปและการลงโทษ

คำแนะนำในการแปล

  • ขึ้นอยู่กับบริบท คำว่า "ไถ่" สามารถแปลว่า "ซื้อคืน" หรือ "จากให้เป็นไท"

ทดลอง, การทดลอง

คำจำกัดความ

การทดลองใครสักคนเป็นการพยายามให้บุคคลนั้นทำสิ่งที่ผิด

  • การทดลองคือบางสิ่งที่เป็นเหตุให้บุคคลอยากทำในบางสิ่งที่ผิด
  • ผู้คนมักถูกทดลองโดยบาปธรรมชาติในตัวของเขาและโดยคนอื่น
  • ซาตานก็ทำลองมนุษย์เพื่อไม่ให้เชื่อพระเจ้าและให้ทำบาปต่อพระเจ้าโดยการทำสิ่งที่ผิด
  • ซาตานได้ทดลองพระเยซูและได้พยายามทำให้พระองค์ทำผิด แต่พระเยซูทรงต่อต้านต่อการทดลองของซาตานทุกอย่างและไม่เคยทำบาป
  • คำว่า"การทดลอง" ได้ถูกใช้อ้างอิงถึงการทดลองพระเจ้าด้วยซึ่งมีความหมายว่าเป็นการดื้อรั้นและไม่เชื่อฟังพระองค์จนถึงขั้นที่เขาต้องรับผิดชอบโดยการลงโทษต่อผู้ที่ไม่เชื่อฟัง นี่อาจเรียกได้อีกว่า "การทดลอง"พระเจ้า

คำแนะนำในการแปล

  • คำว่า "ทดลอง" สามารถแปลว่า "พยายามที่จะทำบาป" หรือ "ล่อลวง" หรือ "เป็นเหตุให้ปรารถนาที่จะทำบาป"
  • วิธีแปล "การทดลอง" สามารถรวม "สิ่งที่ทดลอง" หรือสิ่งที่ล่อลวงบางคนให้ทำบาป" หรือ "สิ่งที่เป็นเหตุให้ปรารถนาจะทำบางสิ่งที่ผิด"
  • ในบางบริบทของการทำลองพระเจ้า นี่สามารถแปลว่า "เอาพระเจ้ามาทดลอบ" หรือ "ทดสอบพระเจ้า" หรือ "ทดสอบความอดทนของพระเจ้า" หรือ"เป็นสาเหตุให้พระเจ้าทำโทษ" หรือ "คงความดื้อด้านที่จะไม่เชื่อฟังพระเจ้า"

ทำให้เป็นสิ่งศักดิ์สิทธิ์

คำจำกัดความ

ทำให้เป็นสิ่งศักดิ์สิทธิ์ หมายถึงถวายบางสิ่งหรือบุคคลใดเพื่อจะรับใช้พระเจ้า คนหรือสิ่งของที่มอบถวายกับพระเจ้าถือว่าบริสุทธิ์และแยกไว้สำหรับพระเจ้าโดยเฉพาะ

  • ความหมายของคำนี้คล้ายกับ "การชำระ" หรือ "ทำให้บริสุทธิ์" แต่ด้วยการรวมความหมายแห่งการแยกไว้อย่างเป็นทางการสำหรับการรับใช้พระเจ้า
  • สิ่งที่อุทิศถวายต่อพระเจ้า รวมทั้งสัตว์ที่จะถูกบูชา แท่นถวายเครื่องเผาบูชาและพลับพลา
  • บุคคลที่มอบถวายแก่พระเจ้า จะรวมทั้ง พวกปุโรหิต ประชากรอิสราเอลและบุตรชายหัวปี
  • บางครั้งคำว่า "การทำให้ศักดิ์สิทธิ์" มีความหมายที่คล้ายกับ "ทำให้บริสุทธิ์" โดยเฉพาะเมื่อเกี่ยวข้องกับการเตรียมคนหรือสิ่งต่างๆสำหรับการรับใช้พระเจ้าเพื่อพวกเขาจะถูกชำระและเป็นที่ยอมรับจากพระองค์

คำแนะนำในการแปล

  • วิธีที่จะแปลคำว่า "การทำให้ศักดิ์สิทธิ์" ควรจะรวมความหมาย "แยกพิเศษสำหรับปรนนิบัติพระเจ้า" หรือ "ชำระให้บริสุทธิ์เพื่อรับใช้พระเจ้า"
  • ควรจะพิจารณาคำว่า "บริสุทธิ์" และ "ชำระให้สะอาด" ในการแปลด้วย

ทำให้สำเร็จ

คำจำกัดความ

คำว่า "ทำให้สำเร็จ" หมายถึงทำให้บางสิ่งสมบูรณ์ หรือทำให้บางสิ่งเสร็จตามที่คาดหวังไว้

  • เมื่อการเผยพระวจนะได้รับการทำให้สำเร็จ นั่นหมายถึงว่าพระเจ้าทรงได้ทำให้สิ่งนั้นเกิดขึ้นตามที่ได้พยากรณ์ไว้ในคำพยากรณ์
  • ถ้าใครคนทำให้คำสัญญาหรือคำปฏิญาณสำเร็จ นั่นหมายความว่าเขาทำในสิ่งที่เขาได้ให้สัญญาไว้
  • เพื่อความรับผิดชอบสำเร็จหมายถึงการทำงานที่ได้รับมอบหมาย หรือร้องขอ

คำแนะนำการแปล

  • คำว่า "ทำให้สำเร็จ" สามารถแปลได้อีกว่า "เสร็จ" หรือ "สมบูรณ์" หรือ "ทำให้เกิดขึ้น" หรือ "เชื่อฟัง" หรือ "ปฏิบัติการ" ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับบริบท
  • วลีที่ว่า "ได้รับการทำให้สำเร็จแล้ว" สามารถแปลได้อีกว่า "เป็นจริง" หรือ "ได้เกิดขึ้นแล้ว" หรือ "เกิดขึ้นแล้ว"
  • แนวทางการแปล "ทำให้สำเร็จ" เหมือนใน " การรับใช้ของท่านสำเร็จ" สามารถรวมทั้ง "สมบูรณ์" หรือ "ปฏิบัติการ" หรือ "ฝึก" หรือ "รับใช้ผู้อื่นอย่างที่พระเจ้าได้เรียกให้ท่านทำ"

ทูตสวรรค์, หัวหน้าทูตสวรรค์

คำจำกัดความ

ทูตสวรรค์เป็นวิญญาณที่มีอำนาจมากที่พระเจ้าทรงได้สร้าง ทูตสวรรค์มีอยู่เพื่อรับใช้พระเจ้าโดยทำตามที่พระเจ้าทรงบัญชาให้ทำ คำว่า "ห้วหน้าทูตสวรรค์" หมายถึงทูตสวรรค์ผู้ที่ปกครอง หรือผู้นำทูตสวรรค์องค์อื่นๆ ทั้งหมด

  • คำว่า "ทูตสวรรค์" หมายความตามตัวอักษรว่า "ผู้ส่งข่าว"
  • คำว่า "หัวหน้าทูตสวรรค์" หมายความตามตัวอักษรว่า "หัวหน้าผู้ส่งข่าว" มีทูตสวรรค์องค์เดียวที่ถูกเอ่ยถึงในพระคัมภีร์ว่าเป็น "หัวหน้าทูตสวรรค์" คือ มีคาเอล
  • ในพระคัมภีร์ ทูตสวรรค์จะนำข่าวสารจากพระเจ้ามาให้มนุษย์ ข่าวสารเหล่านี้รวมถึงข้อแนะนำต่างๆ ที่พระเจ้าต้องการให้มนุษย์กระทำ
  • ทูตสวรรค์บอกมนุษย์ถึงเหตุการณ์ต่าง ๆ ที่กำลังจะเกิดขึ้นในอนาคตหรือเหตุการณ์ต่าง ๆ ที่ได้เกิดขึ้นไปแล้วด้วย
  • ทูตสวรรค์มีสิทธิอำนาจของพระเจ้าในฐานะที่เป็นตัวแทนของพระองค์ และในพระคัมภีร์ บางครั้งพวกทูตสวรรค์ก็จะพูดเหมือนดังกับว่าพระเจ้ากำลังตรัสเอง
  • วิธีอื่นๆ ที่ทูตสวรรค์รับใช้พระเจ้าคือ การปกป้องและเสริมกำลังมนุษย์
  • วลีพิเศษเช่น "ทูตของพระยาห์เวห์" มีความหมายได้หลายอย่างเช่น 1) อาจหมายถึง "ทูตสวรรค์ที่เป็นตัวแทนของพระยาห์เวห์" หรือ "ผู้ส่งข่าวที่รับใช้พระยาห์เวห์" 2) อาจหมายถึงพระยาห์เวห์เอง ผู้ทรงดูคล้ายทูตสวรรค์ในขณะที่พระองค์ตรัสกับมนุษย์ หรือหนึ่งในความหมายเหล่านี้อาจอธิบายตรงที่ว่า ทูตสวรรค์ใช้คำว่า "เรา" เหมือนกับเป็นพระยาห์เวห์กำลังตรัสเอง

ข้อแนะนำในการแปล

  • หลายวิธีที่จะแปลคำว่า "ทูตสวรรค์" อาจรวมถึงคำว่า "ผู้ส่งข่าวจากพระเจ้า" หรือ "ผู้รับใช้แห่งฟ้าสวรรค์ของพระเจ้า" หรือ "ผู้ส่งข่าวแห่งพระวิญญาณของพระเจ้า"
  • คำว่า "หัวหน้าทูตสวรรค์" อาจแปลได้อีกว่า "หัวหน้าทูตสวรรค์" หรือ "หัวหน้าที่ปกครองทูตสวรรค์" หรือ "ผู้นำของทูตสวรรค์"
  • ให้พิจารณาถึงการแปลคำเหล่านี้ในภาษากลางหรือในภาษาท้องถิ่นด้วย
  • วลีที่ว่า "ทูตสวรรค์ของพระยาห์เวห์" ควรแปลโดยใช้คำสำหรับ "ทูตสวรรค์" และ "พระยาห์เวห์" ซึ่งจะสามารถคำนี้ในรูปแบบที่แตกต่างกันได้ หรืออาจแปลได้อีกว่า "ทูตสวรรค์จากพระยาห์เวห์" หรือ "ทูตสวรรค์ที่ถูกส่งมาโดยพระยาห์เวห์" หรือ "พระยาห์เวห์ผู้ทรงดูเหมือนทูตสวรรค์"

แท่นบูชา

คำจำกัดความ

แท่นบูชาเป็นโครงสร้างที่ยกสูงจากพื้นขึ้นมา ซึ่งคนอิสราเอลใช้เผาสัตว์ และเมล็ดพืชเพื่อเป็นเครื่องบูชาถวายแด่พระเจ้า

  • ในสมัยของพระคัมภีร์ แท่นบูชาอย่างง่ายๆ มักจะทำขึ้นมาจากการปั้นดินขึ้นเป็นรูปหรือการเอาก้อนหินก้อนใหญมาจัดกองกันขึ้นให้มั่นคง
  • แท่นบูชาแบบพิเศษบางชนิดที่เป็นรูปทรงกล่องก็จะทำมาจากไม้แล้วหุ้มด้วยโลหะเช่น ทอง ทองเหลือง หรือทองสัมฤทธิ์
  • ประชาชนกลุ่มอื่นๆ ที่อาศัยอยุ่ใกล้คนอิสราเอลก็ได้สร้างแท่นบูชาเพื่อถวายบูชาแด่พระของพวกเขา

ธรรมศาลา

คำจำกัดความ

ธรรมศาลาเป็นอาคารที่ชาวยิวรวมตัวกันเพื่อนมัสการพระเจ้า

  • ตั้งแต่โบราณกาล การนมัสการในธรรมศาลานั้นรวมถึงเวลาของการอธิษฐาน อ่านข้อพระคัมภีร์และสอนถึงเรื่องในข้อพระคัมภีร์
  • ชาวยิวเป็นผู้ริเริ่มสร้างธรรมศาลาเป็นที่อธิษฐานและนมัสการพระเจ้าในเมืองของแต่ละคนเพราะว่าชาวยิวหลายคนอาศัยอยู่ไกลจากพระวิหารในเยรูซาเล็ม
  • บ่อยครั้งพระเยซูได้ทรงสอนในธรรมศาลาและรักษาประชาชนที่นั่น
  • คำว่า "ธรรมศาลา" สามารถใช้ในเชิงเปรียบอ้างถึงคนกลุ่มที่รวมตัวกันอยู่ที่นั่น

ธรรมาจารย์, ผู้เชี่ยวชาญพระบัญญัติของชาวยิว

คำจำกัดความ

พวกธรรมาจารย์เป็นเจ้าหน้าที่ผู้ที่รับผิดชอบในการเขียนหรือคัดลอกเอกสารของรัฐหรือหนังสือทางศาสนาโดยการใช้มือคัดลอก อีกชื่อหนึ่งของธรรมาจารย์ของยิว คือ "ผู้เชี่ยวชาญในเรื่องพระบัญญัติของชาวยิว"

  • ธรรมาจารย์เป็นผู้ที่ต้องรับผิดชอบในการคัดลอกและเก็บรักษาพระธรรมต่างๆ ของพันธสัญญาเดิม
  • ธรรมาจารย์ยังคัดลอก, รักษาและตีความหมายความคิดเห็นทางด้านศาสนาและคำอธิบายในเรื่องพระบัญญัติของพระเจ้า
  • บางครั้ง พวกธรรมาจารย์ยังเป็นเจ้าหน้าที่ที่สำคัญของรัฐด้วย
  • ธรรมจารย์ด้านพระคัมภีร์ที่สำคัญรวมถึงบารุคและเอสรา
  • ในพันธสัญญาใหม่คำว่า "พวกธรรมจารย์" ได้แปลไว้ว่า"พวกครูสอนพระบัญญัติ"
  • ในพันธสัญญาใหม่ พวกธรรมจารย์เป็นส่วนหนึ่งของกลุ่มศาสนาที่เรียกว่า"พวกฟาริสี" และทั้งสองกลุ่มถูกกล่าวถึงด้วยกันบ่อยครั้งด้วย

ธรรมิกชน

คำจำกัดความ

คำว่า"ธรรมิกชน"ตามตัวอักษรแล้วหมายถึง"วิสุทธิชน" และอ้างถึงผู้เชื่อในพระเยซู

  • ต่อมาในประวัติศาสตร์คริสตจักร บุคคลที่รู้จักกันในผลงานที่ดีของเขาจะได้ถูกขนานนามว่า "ธรรมิกชน" แต่นั้นไม่ใช่วิธีที่คำนี้ได้ถูกใช้ในพันธสัญญาใหม่
  • ผู้เชื่อในพระเยซูเป็นธรรมิกชนหรือบริสุทธิ์ ไม่ใช่เพราะการกระทำของพวกเขาแต่โดยผ่านทางความเชื่อ แต่เป็นความศรัทธาในการการทำงานของพระเยซูคริสต์มากกว่า พระองค์ทรงเป็นผู้ที่ทำให้พวกเขาบริสุทธิ์

คำแนะนำในการแปล

  • วิธีแปลคำว่า "ธรรมิกชน" สามารถรวมเอา "ผู้บริสุทธิ์" หรือ "ประชาชนผู้บริสุทธิ์" หรือ "ผู้เชื่อในพระเยซูผู้บริสุทธิ์" หรือ "ผู้ที่ถูกแยกออกมา"
  • ให้ระมัดระวังที่จะไม่ใช้คำนี้อ้างถึงประชาชนของคริสเตียนเพียงกลุ่มเดียว

ธิดาแห่งศิโยน

คำจำกัดความ

"ธิดาแห่งศิโยน" เป็นคำเปรียบเทียบกล่าวถึงชนชาติอิสราเอล มักใช้ในคำพยากรณ์ต่าง ๆ

  • ในพันธสัญญาเดิม "ศิโยน" มักถูกใช้เป็นอีกชื่อหนึ่งของกรุงเยรูซาเล็ม
  • ทั้ง "ศิโยน" และ "กรุงเยรูซาเล็ม" ยังใช้เพื่อกล่าวถึงอิสราเอล
  • คำว่า "ธิดา" เป็นคำที่มีความรักและเอ็นดูหรือความรัก เป็นการอุปมาอุปไมยสำหรับความอดทนและความห่วงใยที่พระเจ้าทรงมีต่อประชากรของพระองค์

คำแนะนำในการแปล

  • วิธีแปลคำนี้ควรจะรวม"อิสราเอลธิดาของเรา จากศิโยน" หรือ "ประชากรจากศิโยนผู้เป็นเหมือนธิดาของเรา" หรือ "ศิโยน ประชากรอิสราเอลที่รักของเรา"
  • ที่ดีที่สุดในการรักษาคำว่า "ศิโยน" ในสำนวนนี้เนื่องจากมีการใช้หลายครั้งในพระคัมภีร์ ข้อสังเกตอาจรวมอยู่ในการแปลเพื่ออธิบายความหมายที่เป็นทำนองเปรียบเทียบและใช้ในการพยากรณ์ต่าง ๆ
  • เป็นการดีที่จะคงคำว่า "ธิดา" ไว้้ในการแปลสำนวนนี้ถ้าทำให้เข้าใจได้อย่างถูกต้อง

นรก บึงไฟนรก

คำจำกัดความ

นรกเป็นสถานที่สุดท้ายแห่งความเจ็บปวดและการทนทุกข์ที่ไม่มีวันจบสิ้น ที่ซึ่งพระเจ้าจะทรงลงโทษทุกคนที่กบฏต่อพระองค์และปฎิเสธแผนการณ์ของพระองค์ในการช่วยพวกเขาให้รอดโดยทางของพระเยซู คำนี้ยังมีการอ้างถึงว่าเป็น "บึงไฟนรก"

  • นรกได้ถูกอธิบายว่าเป็นสถานที่แห่งไฟและการทนทุกข์อย่างสาหัส
  • ซาตานและวิญญาณชั่วทั้งหลายที่ติดตามมันจะถูกโยนลงไปในนรกเพื่อรับโทษตลอดกาล
  • คนที่ไม่เชื่อในการถวายบูชาของพระเยซูเพื่อความบาปของพวกเขา และไม่เชื่อวางใจในพระองค์ให้ช่วยพวกเขาให้รอดจะถูกลงโทษในนรกอย่างนิรันดร์

คำแนะนำในการแปล

  • คำเหล่านี้ควรจะถูกแปลต่างกันเนื่องจากคำพวกนี้ปรากฏในบริบทที่แตกต่างกัน
  • บางภาษาไม่สามารถใช้ "บึง" ในวลี "บึงไฟนรก" ได้ เพราะเป็นคำที่อ้างถึงน้ำ
  • คำว่า "นรก" สามารถแปลว่า "สถานที่แห่งการทนทุกข์" หรือ "สถานที่สุดท้ายแห่งความมืดและความเจ็บปวด"
  • คำว่า "บึงไฟนรก" สามารถแปลได้ว่า "ทะเลแห่งไฟ" หรือ "ไฟมหึมา"

น่ายกย่อง, คุ้มค่า ไม่คู่ควร ไม่มีคุณค่า

คำจำกัดความ

คำว่า "น่ายกย่อง" อธิบายถึงบางคนหรือบางสิ่งที่สมควรได้รับการเคารพหรือให้เกียรติ การ "มีคุณค่า" หมายถึงการมีคุณค่าหรือความสำคัญ คำว่า "ไม่มีคุณค่า" หมายถึงไม่มีค่าใด ๆ เลย

  • การน่ายกย่อง เกี่ยวข้องกับการมีคุณค่าหรือมีความสำคัญ
  • การ "ไม่คู่ควร" หมายถึงไม่สมควรได้รับการแจ้งพิเศษใด ๆ
  • ไม่รู้สึกว่าน่ายกย่องหมายถึง รู้สึกด้อยความสำคัญกว่าผู้อื่นหรือรู้สึกไม่สมควรที่จะได้รับการปฏิบัติด้วยความเคารพหรือความเมตตา
  • คำว่า "ไม่คู่ควร" และคำว่า "ไม่มีคุณค่า" มีความเกี่ยวข้อง แต่มีความหมายต่างกัน การ "ไม่คู่ควร" หมายถึงไม่สมควรได้รับเกียรติหรือการรับรู้ใด ๆ ส่วน "ไม่มีคุณค่า" หมายถึงไม่มีจุดมุ่งหมายหรือคุณค่าใด ๆ

คำแนะนำในการแปล

  • "น่ายกย่อง" สามารถแปลว่า "สมควรได้รับ" หรือ "สำคัญ" หรือ "มีคุณค่า"
  • คำว่า "คุ้มค่า" สามารถแปลเป็น "มีค่า" หรือ "ความสำคัญ"
  • วลี "มีคุณค่า" สามารถแปลได้ว่า "มีค่า" หรือ "เป็นสำคัญ"
  • วลี "มีคุณค่ามากกว่า" สามารถแปลว่า "มีค่ามากกว่า"
  • ขึ้นอยู่กับบริบท คำว่า "ไม่มีคุณค่า" สามารถแปลว่า "ไม่สำคัญ" หรือ "ไม่มีเกียรติ" หรือ "ไม่สมควรได้รับ"
  • คำว่า "ไม่มีคุณค่า" สามารถแปลว่า "ไม่มีค่าราคา" หรือ "ไม่มีจุดประสงค์" หรือ "ไม่มีค่าอะไรเลย"

นายร้อย

คำจำกัดความ

นายร้อยเป็นนายทหารโรมันที่มีกลุ่มทหาร 100 คนอยู่ภายใต้การบังคับบัญชา

  • คำนี้สามารถแปลด้วยคำที่มีความหมายว่า "ผู้นำของคนหนึ่งร้อยคน" หรือ "ผู้นำกองทัพ" หรือ "เจ้าหน้าที่ดูแลคนหนึ่งร้อยคน"
  • นายร้อยชาวโรมันคนหนึ่งมาหาพระเยซูเพื่อขอการรักษาให้กับคนรับใช้ของเขา"
  • นายร้อยคนที่ดูแลการตรึงพระเยซูอัศจรรย์ใจเมื่อรู้ว่าพระเยซูสิ้นพระชนม์อย่างไร
  • พระเจ้าทรงส่งนายร้อยคนหนึ่งไปหาเปโตร เพื่อที่เปโตรจะอธิบายข่าวประเสริฐเรื่องพระเยซูคริสต์ให้เขาฟัง

น่ารังเกียจ น่าเกียจชัง

คำจำกัดความ

คำว่า "น่ารังเกียจ" ใช้กล่าวถึงบางสิ่งที่ทำให้ขยะแขยงหรือไม่ชอบเป็นอย่างมาก

  • คนอียิปต์ถือว่าคนฮีบรูเป็น "สิ่งที่น่ารังเกียจ" นี่หมายความว่าคนอียิปต์ไม่ชอบคนฮีบรู และไม่ต้องการคบค้าสมาคม หรืออยู่ใกล้ๆ พวกเขา
  • บางสิ่งที่พระคัมภีร์เรียกว่า "สิ่งน่ารังเกียจต่อพระยาห์เวห์" รวมถึง การมุสา การอวดตัว การถวายมนุษย์เป็นเครื่องบูชา การนมัสการรูปเคารพ การฆาตรกรรม และความผิดทางเพศเช่น การล่วงประเวณีและรักร่วมเพศ
  • ในการสอนเรื่องยุคสุดท้าย บรรดาสาวกของพระเยซูได้อ้างถึงคำพยากรณ์ของผู้เผยพระวจนะดาเนียลเกี่ยวกับ "สิ่งที่น่าสะอิดสะเอียน" ที่จะกระทำให้เกิดวิบัติ ซึ่งจะเกิดขึ้นเหมือนการกบฎต่อพระเจ้า ทำให้สถานนมัสการของพระองค์เป็นมลทิน

ข้อแนะนำในการแปล

  • คำว่า "น่ารังเกียจ" สามารถแปลได้อีกว่า "บางสิ่งที่พระเจ้าเกลียด" หรือ "บางสิ่งที่น่าขยะแขยง" หรือ "การกระทำที่น่าขยะแขยง" หรือ "การกระทำชั่วร้ายมาก"
  • จากเนื้อหาวลีนี้อาจแปลว่า "เป็นที่น่ารังเกียจต่อ" ก็อาจจะรวมถึง "เป็นสิ่งที่น่าเกลียดอย่างมากสำหรับ" หรือ "น่าขยะแขยงต่อ" หรือ "ไม่สามารถยอมรับได้เลยต่อ" หรือ "ทำให้น่ารังเกียจมาก"
  • วลีนี้ "สิ่งที่น่ารังเกียจแห่งความวิบัติ" อาจจะแปลได้อีกว่า "สิ่งที่เป็นมลทินที่ทำให้ประชาชนได้รับอันตรายอย่างร้ายแรง" หรือ "สิ่งที่น่าขยะแขยงที่ทำให้เกิดความโศกเศร้าอย่างมาก"

นาศีร์, คำปฏิญาณของนาศีร์

คำจำกัดความ

คำว่า "นาศีร์" อ้างถึงบุคคลที่ได้กล่าวคำปฏิญาณของนาศีร์ ส่วนใหญ่แล้วจะเป็นผู้ชาย แต่ผู้หญิงก็สามารถกล่าวคำปฏิญาณนี้ได้เช่นกัน

  • บุคคลที่ได้กล่าวคำปฏิญาณของนาศีร์นั้นยอมรับการไม่ดื่มหรือกินอาหารที่ทำมาจากองุ่น ตามจำนวนวัน สัปดาห์ หรือเดือนที่ได้ปฎิญาณเอาไว้ ในระหว่างช่วงเวลานั้น เขาจะไม่ตัดผมและไม่เข้าใกล้ร่างคนตาย
  • เมื่อครบระยะเวลาที่กำหนดไว้ และคำปฎิญาณได้รับความสำเร็จแล้วนาศีร์จะเข้าไปพบปุโรหิตและเตรียมถวายเครื่องบูชา ซึ่งจะรวมถึงการตัดผมและเผาเส้นผมของเขาทิ้ง ข้อห้ามต่างๆก็จะถูกยกเลิกไป
  • แซมสันเป็นเป็นที่รู้จักกันดีในพันธสัญญาเดิม เป็นผู้ซึ่งปฎิญาณตนเป็นนาศีร์
  • ทูตสวรรค์ได้ประกาศเรื่องการกำเนิดของยอห์นผู้ให้บัพติศมาแก่เศคาริยาห์ที่บุตรชายของเขาจะไม่ดื่มน้ำเมา ซึ่งอาจแสดงว่ายอห์นอยู่ภายใต้คำปฎิญาณของนาศีร์
  • อัครสาวกทูตเปาโลอาจเคยปฎิญาณตนครั้งหนึ่ง เห็นได้จากข้อความตอนหนึ่งในพระธรรมกิจการของอัครทูต

นิรันดร, นิรันดรกาล, เป็นนิตย์, นิตย์นิรันดร์

คำจำกัดความ

คำว่า "นิรันดร" และ "นิตย์นิรันดร์" มีความหมายที่คล้ายกันมากและบ่งบอกถึงบางสิ่งที่จะยังคงมีอยู่ หรือ คงอยู่ตลอดไป

  • คำว่า "นิตย์นิรันดร์" บ่งบอกถึงสภาพของการมีอยู่ที่ไม่มีจุดเริ่มต้นหรือจุดสิ้นสุด คำนี้ยังสามารถกล่าวถึงชีวิตที่ไม่มีวันสิ้นสุดด้วย
  • หลังจากชีวิตที่อยู่บนโลกนี้ มนุษย์จะเป็นอยู่นิตย์นิรันดร์กับพระเจ้าในแผ่นดินสวรรค์ หรือในนรกโดยไม่มีพระเจ้า
  • คำว่า "ชีวิตนิตย์นิรันดร์" หรือ "ชีวิตนิรันดร์" ถูกใช้ในพันธสัญญาใหม่เพื่อบ่งบอกถึงการมีชีวิตอยู่ตลอดไปเป็นนิตย์กับพระเจ้าในแผ่นดินสวรรค์
  • วลี "ตลอดไปเป็นนิตย์" มีความคิดเรื่องของเวลาที่ไม่มีวันสิ้นสุดและแสดงถึงความเป็นนิตย์นิรันดร์ หรือชีวิตนิรันดร์เป็นอย่างไร

คำแนะนำการแปล

  • อีกวิธีหนึ่งในการแปลคำว่า "เป็นนิตย์" หรือ "นิรันดร" สามารถรวมถึงคำว่า "ไม่มีสิ้นสุด" หรือ "ไม่หยุด" หรือ "ยังคงดำเนินต่อไป"
  • คำว่า "ชีวิตนิตย์นิรันดร์"และ "ชีวิตนิรันดร์" สามารถแปลได้อีกว่า "ชีวิตที่ไม่มีสิ้นสุด" หรือ "ชีวิตที่มีอยู่เสมอไปไม่หยุด" หรือ "การเป็นขึ้นมาจากความตาย และมีชีวิตตลอดไป"
  • วิธีการแปลที่แตกต่าง คำว่า "เป็นนิตย์" สามารถรวมถึงคำว่า "การเป็นอยู่เหนือเวลา" หรือ "ชีวิตที่ไม่มีจุดจบ" หรือ "ชีวิตในแผ่นดินสวรรค์" ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับบริบทนั้น ๆ
  • ทั้งนี้ควรพิจารณาว่าคำนี้ ว่าควรแปลว่าอย่างไรในพระคัมภีร์แปลฉบับภาษาท้องถิ่น หรือภาษากลาง

นิเวศของพระเจ้า, นิเวศของพระยาเวห์

คำจำกัดความ

ในพระคัมภีร์ วลี "นิเวศของพระเจ้า" (บ้านของพระเจ้า) และ "นิเวศของพระยาห์เวห์" (บ้านของพระยาห์เวห์) อ้างถึงสถานที่ที่มีการนมัสการพระเจ้า

  • คำนี้ถูกใช้อย่างเฉพาะเจาะจงในการหมายถึงพลับพลาหรือพระวิหาร
  • บางครั้ง "นิเวศของพระเจ้า" ถูกใช้เพื่อหมายถึงคนของพระเจ้า

คำแนะนำในการแปล

  • เมื่ออ้างถึงสถานที่ในการนมัสการ คำนี้สามารถแปลได้ว่า "นิเวศสำหรับนมัสการพระเจ้า" หรือ "สถานที่สำหรับนมัสการพระเจ้า"
  • ถ้าหมายถึงพระวิหารหรือพลับพลา คำนี้อาจจะแปลได้ว่า "พระวิหาร"

เนื้อหนัง

คำจำกัดความ

ในพระคัมภีร์คำว่า "เนื้อหนัง" ตามตัวอักษรกล่าวถึงส่วนที่นุ่มนิ่มทางกายภาพของร่างกายของมนุษย์หรือสัตว์

  • พระคัมภีร์ใช้คำว่า "เนื้อหนัง" ในรูปแบบเปรียบเทียบที่กล่าวถึงมนุษย์ทุกคน หรือสิ่งมีชีวิตทุกอย่าง
  • ในพันธสัญญาใหม่ คำว่า "เนื้อหนัง" ใช้เพื่ออ้างถึงความบาปซึ่งเป็นธรรมชาติของมนุษย์ คำนี้มักใช้ในลักษณะที่แตกต่างกับธรรมชาติฝ่ายวิญญาณของพวกเขา
  • สำนวนคำว่า "เนื้อและเลือดของตน" อ้างถึงการที่บางคนเกี่ยวข้องกับอีกคนโดยทางสายเลือดตัวอย่างเช่น พ่อแม่ ญาติ บุตรหรือหลาน
  • สำนวนคำว่า "เนื้อและเลือด" สามารถหมายถึงบรรพบุรุษหรือลูกหลานของคนนั้น
  • การแสดงออกของคำว่า "เนื้อเดียวกัน" กล่าวถึงการเป็นหนึ่งเดียวทางกายภาพของผู้ชายและผู้หญิงในการแต่งงาน

คำแนะนำการแปล

  • ในบริบทของร่างกายสัตว์ "เนื้อหนัง" สามารถแปลได้อีกว่า "ร่างกาย" หรือ "หนัง" หรือ "เนื้อ"
  • เมื่อคำนี้ถูกใช้กล่าวถึงมนุษย์ทั้งหมด คำนี้สามารถแปลได้อีกว่า "ประชาชน" หรือ "มนุษย์" หรือ "ทุกคนที่มีชีวิต"
  • เมื่อเอ่ยถึงมนุษย์ทุกคนทั่วไป คำนี้สามารถแปลได้อีกว่า "คน" หรือ "มนุษย์" หรือ "ทุกคนที่มีชีวิต"
  • สำนวน "เนื้อและเลือด" สามารถแปลได้อีกว่า "ญาติ" หรือ "ครอบครัว" หรือ "ญาติพี่น้อง" หรือ "ตระกูลครอบครัว" และยังมีอีกหลายข้อที่สามารถแปลด้วยคำว่า"บรรพบุรุษ" หรือ "บรรดาเชื้อสาย"
  • ในบางภาษาอาจจะมีคำที่แสดงออกในความหมายเดียวกันกับ "เนื้อและเลือด"
  • วลีที่แสดงว่า "กลายเป็นเนื้อเดียว" สามารถแปลได้อีกว่า "รวมทางเพศ" หรือ "กลายเป็นกายเดียวกัน" หรือ "กลายเป็นเหมือนบุคคลเดียวในทางร่างกายและวิญญาณ" การแปลข้อความนี้ควรตรวจสอบให้แน่ใจว่าเป็นที่ยอมรับในภาษาที่แปล และวัฒนธรรม

ในพระคริสต์, ในพระเยซู, ในองค์พระผู้เป็นเจ้า, ในพระองค์

คำจำกัดความ

วลี "ในพระคริสต์" และคำต่างๆที่เกี่ยวข้องหมายถึงภาวะหรือสภาพของการมีความสัมพันธ์กับพระเยซูคริสต์ผ่านทางความเชื่อในพระองค์

  • คำอื่นๆ ที่เกี่ยวข้องรวมถึง "ในพระคริสต์ พระเยซู ในพระเยซูคริสต์ ในองค์พระเยซูเจ้า ในองค์พระเยซูคริสต์เจ้า"
  • ความหมายที่เป็นไปได้ของคำว่า "ในพระคริสต์" สามารถรวมถึง "เพราะท่านเป็นของพระคริสต์" หรือ "โดยทางความสัมพันธ์ที่ท่านมีกับพระคริสต์" หรือ "ขึ้นอยู่กับความเชื่อของท่านในพระคริสต์"
  • คำศัพท์ที่เกี่ยวข้องเหล่านี้ทั้งหมดมีความหมายเดียวกันคือการอยู่ในสภาพของการเชื่อในพระเยซูและเป็นสาวกของพระองค์
  • หมายเหตุ: บางครั้งคำว่า "ใน" จะใช้คู่กับคำกริยา ยกตัวอย่างเช่น "มีส่วนร่วมในพระคริสต์" หมายถึงการ "มีส่วนร่วมใน" ผลประโยชน์ที่มาจากการรู้จักพระคริสต์ การ "มีความยินดีใน" พระคริสต์หมายถึงการรู้สึกปีติยินดีและสรรเสริญพระเจ้าสำหรับสิ่งที่พระเยซูทรงเป็นและสิ่งที่พระองค์ได้ทรงกระทำ การ "เชื่อใน" พระคริสต์หมายถึงการไว้วางใจพระองค์ในฐานะที่เป็นพระผู้ช่วยให้รอดและรู้จักพระองค์

คำแนะนำในการแปล


บรรดาบุตรของพระเจ้า

คำจำกัดความ

คำว่า "บรรดาบุตรของพระเจ้า" เป็นคำพูดเชิงเปรียบเทียบที่มีความหมายที่เป็นไปได้หลายอย่าง

  • ในพันธสัญญาใหม่คำว่า "บรรดาบุตรของพระเจ้า" อ้างถึงผู้เชื่อในพระเยซูทั้งหลายและบ่อยครั้งยังแปลได้อีกว่า"ลูกหลานของพระเจ้า" เนื่องจากรวมหมายถึงรวมทั้งชายและหญิงด้วย
  • การใช้คำนี้พูดถึงความสัมพันธ์กับพระเจ้าที่เหมือนความสัมพันธ์ระหว่างลูกมนุษย์กับบิดาของเขารวมถึงสิทธิพิเศษในการเป็นบุตร
  • ในปฐมกาล บทที่ 6 บางคนแปลคำว่า "บรรดาบุตรของพระเจ้า" เป็นทูตสวรรค์ที่ตกลงมา เป็นวิญญาณชั่วหรือปีศาจ คนอื่นๆ คิดว่าอาจจะเป็นผู้ปกครองทางการเมืองที่มีอำนาจหรือลูกหลานของเสท
  • ในพันธสัญญาใหม่ คำว่า "บรรดาบุตรของพระเจ้า" อ้างถึงคนทั้งหลายที่เชื่อในพระเยซู และบ่อยครั้งแปลว่า "ลูกหลานของพระเจ้า" เพราะเหตุว่ารวมทั้งผู้หญิงและผู้ชาย
  • การใช้คำนี้พูดถึงความสัมพันธ์กับพระเจ้าที่เหมือนความสัมพันธ์ระหว่างลูกมนุษย์กับบิดาของเขารวมถึงสิทธิพิเศษในการเป็นบุตร
  • ตำแหน่ง "พระบุตรของพระเจ้า" เป็นคำที่แตกต่างออกไปที่หมายถึงพระเยซูผู้เป็นพระบุตรองค์เดียวของพระเจ้า

คำแนะนำในการแปล

  • เมื่อ "บรรดาบุตรของพระเจ้า" อ้างถึงผู้เชื่อทั้งหลายในพระเยซู ก็สามารถแปลว่า "บรรดาลูกหลานของพระเจ้า"
  • อีกวิธีหนึ่งในการแปล "บรรดาลูกหลานของพระเจ้า" สามารถรวมเอา "ทูตสวรรค์" หรือ "ร่างวิญญาณทั้งหลาย" หรือ "ปีศาจทั้งหลาย" ขึ้นอยู่กับบริบท
  • ให้ดูลิงค์สำหรับ "บุตร" ด้วย

บริสุทธิ์, ความบริสุทธิ์

คำจำกัดความ

คำว่า "บริสุทธิ์" และ "ความบริสุทธิ์" อ้างถึงพระลักษณะของพระเจ้าที่แยกออกมาโดยสิ้นเชิงและแยกจากทุกสิ่งที่เป็นความบาปและไม่สมบูรณ์แบบ

  • พระเจ้าเท่านั้นที่ทรงบริสุทธิ์โดยสิ้นเชิง พระองค์ทรงกระทำให้คนและสิ่งต่างๆ บริสุทธิ์
  • บุคคลที่บริสุทธิ์เป็นของพระเจ้าและได้รับการแยกไว้เพื่อเป้าหมายในการรับใช้พระเจ้าและนำพระสิริมาสู่พระองค์
  • สิ่งที่พระเจ้าได้ทรงประกาศให้บริสุทธิ์คือสิ่งที่พระองค์ได้ทรงแยกไว้เพื่อพระสิริของพระองค์และให้พระองค์ใช้ได้ เช่นแท่นบูชาที่มีไว้เพื่อถวายเครื่องบูชาแด่พระองค์
  • เนื่องจากพระเจ้าทรงบริสุทธิ์ คนไม่สามารถเข้าใกล้พระองค์ได้เว้นเสียแต่ว่าพระองค์ทรงอนุญาตให้เขาเข้าใกล้ได้ เพราะพวกเขาเป็นเพียงมนุษย์ มีความบาปและไม่สมบูรณ์แบบ
  • ในพันธสัญญาเดิม พระเจ้าทรงแยกปุโรหิตไว้ให้บริสุทธิ์เพื่อรับใช้พระองค์เป็นการพิเศษ พวกเขาต้องผ่านพิธีการชำระให้สะอาดจากความบาปเพื่อที่จะเข้าใกล้พระเจ้า
  • พระเจ้ายังทรงแยกสถานที่บางแห่งและสิ่งของบางอย่างที่เป็นของพระองค์หรือเป็นที่ที่พระองค์ทรงสำแดงพระองค์ เช่นพระวิหารของพระองค์

คำแนะนำในการแปล

  • วิธีการที่จะแปล "บริสุทธิ์" อาจรวมถึง "แยกไว้สำหรับพระเจ้า" หรือ "เป็นของพระเจ้า" หรือ "บริสุทธิ์อย่างสิ้นเชิง" หรือ "ปราศจากความบาปโดยสมบูรณ์" หรือ "แยกจากความบาป"
  • การ "ทำให้บริสุทธิ์" มักจะได้รับการแปลว่า "ชำระให้บริสุทธิ์" ในภาษาอังกฤษ และอาจจะแปลได้ว่า "แยกไว้"

บริสุทธิ์, ชำระไห้บริสุทธิ์, การชำระให้บริสุทธิ์

คำจำกัดความ

"บริสุทธิ์" หมายถึงการไม่มีตำหนิหรือไม่มีอะไรผสมในสิ่งที่ไม่ควรจะอยู่ที่นั่น การชำระให้สะอาดแก่บางสิ่งบางอย่างเป็นการทำให้สะอาดและขจัดสิ่งปนเปื้อนหรือสิ่งที่ทำให้เป็นมลพิษออกไป

  • ในพันธสัญญาเดิม "บริสุทธิ์" และ"การชำระให้บริสุทธิ์" อ้างถึงการทำให้สะอาดจากสิ่งที่ทำให้สิ่งของหรือคนไม่สะอาดตามพิธีกรรม เช่นโรค ของเหลวในร่างกาย หรือการคลอดลูก
  • พันธสัญญาเดิมยังมีกฏที่บอกวิธีที่ทำให้ประชาชนบริสุทธิ์จากความบาป โดยทั่วไปจะเป็นการถวายเครื่องสัตวบูชา นี่เป็นเพียงชั่วคราวและต้องถวายเครื่องบูชาซ้ำอีกครั้งแล้วครั้งเล่า
  • ในพันธสัญญาใหม่การทำให้บริสุทธิ์บ่อยครั้งอ้างถึงการได้รับการชำระให้สะอาดจากความบาป
  • ทางเดียวที่ผู้คนจะสามารถทำให้บริสุทธิ์ได้อย่างสมบูรณ์และอย่างถาวรจากความบาปคือผ่านการกลับใจใหม่และการรับเอาการอภัยโทษจากพระเจ้าโดยผ่านทางการวางใจในพระเยซูและเครื่องบูชาของพระองค์

คำแนะนำในการแปล

  • คำว่า "ชำระให้บริสุทธิ์" สามารถแปลว่า "ทำให้บริสุทธิ์" หรือ "ทำให้หายสะอาด" หรือ "ทำให้สะอาดจากสิ่งปนเปื้อน" หรือ "กำจัดความบาปทั้งสิ้น"
  • วลี เช่น "เมื่อการทำให้บริสุทธิ์เสร็จสิ้นไป" สามารถแปลว่า "เมื่อพวกเขาได้ทำให้พวกเขาสะอาดบริสุทธิ์โดยการรอตามวันที่กำหนดไว้"
  • วลี จัดเตรียมการทำให้บริสุทธิ์จากบาป" สามารถแปลว่า "จัดเตรียมวิธีสำหรับประชาชนให้สะอาดอย่างสมบูรณ์จากความบาปของพวกเขา"
  • วิธีอื่นที่แปล "การชำระให้บริสุทธิ์" สามารถรวม "การทำให้สะอาด" หรือ "การล้างฝ่ายวิญญาณ" หรือ "กลายเป็นสะอาดโดยพิธีกรรม"

บังเกิดใหม่, เกิดจากพระเจ้า, การบังเกิดใหม่

คำจำกัดความ

คำว่า "บังเกิดใหม่" เป็นคำที่พระเยซูทรงใช้ครั้งแรกเพื่ออธิบายความหมายของคำนี้ ในการที่พระเจ้าทรงเปลี่ยนคนจากการตายฝ่ายวิญญาณให้กลับมามีชีวิตฝ่ายวิญญาณ คำว่า "บังเกิดจากพระเจ้า" และ "บังเกิดจากพระวิญญาณ" ก็หมายถึงคนที่ได้รับชีวิตใหม่ฝ่ายวิญญาณด้วย

  • มนุษย์ที่เกิดมาทุกคนตายฝ่ายวิญญาณ และได้รับ "การบังเกิดใหม่" เมื่อพวกเขายอมรับพระเยซูคริสต์เป็นพระผู้ช่วยให้รอดของพวกเขา
  • ในทันทีที่บังเกิดใหม่ฝ่ายวิญญาณ พระวิญญาณบริสุทธิ์ของพระเจ้าเข้ามาสถิตในผู้ศรัทธาใหม่ และสร้างเขาให้เกิดผลดีฝ่ายวิญญาณในชีวิตของเขา
  • การกระทำของพระเจ้าทำให้คนบังเกิดอีกครั้ง และได้เป็นบุตรของพระองค์

คำแนะนำในการแปล

  • การแปลคำว่า "บังเกิดอีกครั้ง" ในรูปแบบอื่นๆ สามารถรวมถึง "บังเกิดใหม่" หรือ "บังเกิดฝ่ายวิญญาณ"
  • การแปลคำนี้ที่ดีที่สุดคือการแปลตามตัวอักษร และใช้คำทั่วไปในภาษาที่ใช้สำหรับการเกิด
  • คำว่า "บังเกิดใหม่" อาจจะแปลได้ว่า "บังเกิดฝ่ายวิญญาณ"
  • วลี "บังเกิดจากพระเจ้า" สามารถแปลได้ว่า "พระเจ้าทรงทำให้มีชีวิตใหม่เช่นเดียวกับทารกแรกเกิด" หรือ "พระเจ้าทรงประทานชีวิตใหม่"
  • ในทางเดียวกัน "บังเกิดจากพระวิญญาณ" สามารถแปลได้ว่า "ได้รับชีวิตใหม่โดยพระวิญญาณบริสุทธิ์" หรือ "ได้รับการสร้างโดยพระวิญญาณบริสุทธิ์ให้กลายเป็นบุตรของพระเจ้า" หรือ "พระวิญญาณทรงทำให้มีชีวิตใหม่เหมือนกับทารกแรกเกิด"

บาป, เต็มไปด้วยบาป, คนบาป, การทำบาป

คำจำกัดความ

คำว่า "บาป" อ้างถึงการกระทำ ความคิด และคำพูดต่างๆ ที่ต่อต้านน้ำพระทัยและกฏเกณฑ์ของพระเจ้า บาปยังอ้างถึงการไม่ทำในสิ่งที่พระเจ้าประสงค์ให้เราทำ

  • บาปรวมถึงสิ่งอื่นใดที่เราทำโดยที่ไม่เชื่อฟังหรือทำให้พระเจ้าพอพระทัย แม้ว่าจะเป็นสิ่งที่ไม่มีใครรู้ก็ตาม
  • ความคิดและการกระทำที่ไม่เชื่อฟังน้ำพระทัยพระเจ้าเรียกว่า "เต็มไปด้วยบาป"
  • เพราะว่าอาดัมได้ทำบาป มนุษย์ทุกคนจึงเกิดมาภายใต้ธรรมชาติของบาปที่ควบคุมพวกเขา
  • "คนบาป" คือคนที่ทำบาป ดังนั้นมนุษย์ทุกคนจึงเป็นคนบาป
  • บางครั้งคำว่า "คนบาป" เป็นคำที่เหล่าคนในศาสนาเช่นพวกฟาริสีใช้เพื่อเปรียบถึงคนที่ไม่รักษากฏบัญญัติตามที่พวกฟาริสีคิดว่าพวกเขาควรทำตาม
  • คำว่า "คนบาป" ใช้เพื่อพูดถึงคนที่ถือว่ามีบาปกว่าคนอื่นๆ ตัวอย่างเช่นคนเก็บภาษีและหญิงโสเภณีถูกตราหน้าให้เป็นคนบาป

คำแนะนำในการแปล

  • คำว่า "บาป" สามารถแปลด้วยคำ หรือวลีที่มีความหมายว่า "ไม่เชื่อฟังพระเจ้า" หรือ "ต่อต้านพระประสงค์ของพระเจ้า" หรือ "ความประพฤติและความคิดที่ชั่วร้าย" หรือ "การทำผิด"
  • "ทำบาป" สามารถแปลว่า "ไม่เชื่อฟังพระเจ้า" หรือ "ทำความผิด"
  • ขึ้นอยู่กับบริบท คำว่า "คนบาป" สามารถแปลด้วยคำหรือวลีมีหมายความว่า "บุคคลที่เป็นคนบาป" หรือ "บุคคลที่ทำความผิด" หรือ "บุคคลผู้ไม่เชื่อฟังพระเจ้า" หรือ "บุคคลผู้ไม่เชื่อฟังพระบัญญัติ"
  • คำว่า "เหล่าคนบาป" สามาคถแปลโดยใช้คำหรือวลีที่มีความหมายว่า "ประชาชนที่มีบาปหนา" หรือ "ประชาชนที่ได้รับการพิจารณาว่ามีบาปหนา" หรือ "ประชาชนที่ไม่มีศีลธรรม"
  • วิธีที่แปล "คนเก็บภาษีและคนบาปทั้งหลาย" สามารถแปลว่า "ประชาชนผู้ที่เก็บเงินสำหรับรัฐบาล และประชาชนคนบาปคนอื่นๆ " หรือ "ประชาชนที่มีบาปหนา" ก็รวมอยู่ด้วย

บุตร, บุตรของ

คำจำกัดความ

คำว่า "บุตร" อ้างถึงเด็กผู้ชายหรือผู้ชายที่มีความสัมพันธ์เป็นพ่อแม่ของเขา และยังอ้างถึงเชื้อสายของใครบางคนหรือลูกบุญธรรม

  • คำว่า "บุตร" มักใช้เป็นคำเปรียบเปรยในพระคัมภีร์ที่อ้างถึงผู้สืบเชื้อสายที่เป็นผู้ชาย อย่างเช่นหลานชายหรือเหลนชาย
  • คำว่า "บุตร" สามารถใช้เป็นรูปแบบที่สุภาพในการเรียกเด็กผู้ชายหรือผู้ชายที่มีอายุน้อยกว่า
  • บางครั้งคำว่า "บรรดาบุตรของพระเจ้า" ถูกใช้ในพันธสัญญาใหม่ที่หมายถึงเหล่าผู้เชื่อในพระเยซูคริสต์
  • พระเจ้าทรงเรียกชนชาติอิสราเอลว่า "บุตรหัวปี" ของพระองค์ นี่อ้างถึงชนชาติที่พระเจ้าทรงเลือกสรรไว้ให้เป็นประชากรพิเศษของพระองค์ โดยผ่านทางพวกเขาพระวจนะของพระเจ้าแห่งการทรงไถ่และการทรงช่วยกู้โดยได้มาถึง ซึ่งเป็นผลให้หลายคนได้มาเป็นบุตรทางฝ่ายวิญญาณของพระองค์
  • วลีว่า "บุตรของ" มักมีคำอุปมาที่หมายถึง "มีลักษณะของ" ตัวอย่างเช่น "บุตรของความสว่าง" "บุตรของความไม่เชื่อฟัง" "บุตรแห่งสันติสุข"และ "บุตรแห่งฟ้าร้อง"
  • วลีว่า "บุตรของ" ยังใช้เพื่อบอกว่าใครเป็นพ่อของใคร วลีนี้ยังใช้ในลำดับวงศ์ตระกูลและที่อื่นๆ อีกหลายที่
  • การใช้ "บุตรของ" เพื่อช่วยให้ชื่อพ่อช่วยแยกแยะประชาชนที่มีชื่อเหมือนกัน ตัวอย่างเช่น "อาซาริยาห์ บุตรแห่งศาโดก" และ "อาซาริยาห์ บุตรแห่งนาธัน" ใน1พงกษัตริย์ บทที่ 4 และ "อาซาริยาห์ บุตรแห่งอามาซิยาห์ ใน 2 พงกษัตริย์ บทที่15 มีผู้ชายที่ชื่อเดียวกันสามคน"

คำแนะนำในการแปล

  • ในสิ่งที่ปรากฏของคำนี้ เป็นการดีที่สุดที่จะแปล "บุตร" โดยการใช้คำตรงตัวในภาษาที่ใช้อ้างถึงบุตร
  • เมื่อแปลคำว่า "พระบุตรของพระเจ้า" ควรใชคำธรรมดาในภาษาเป้าหมายที่จะแปลคำว่า "บุตร"
  • เมื่อได้ใช้อ้างอิงถึงผู้สืบเชื้อสายมากว่าบุตรชายดดยตรง คว่า "เชื้อสาย" ควรจะนำมาใช้ ที่อ้างอิงถึงพระเยซูในฐานะ "ผู้สืบเชื้อสายของดาวิด" หรือในการสืบวงศ์ตระกูลบางครั้ง "บุตรชาย" อ้างอิงผู้สืบเชื้อสายที่เป็นผู้ชาย ไม่ได้หมายถึงบุตรชายจริงๆ
  • บางครั้ง "พวกบุตรชาย" สามารถแปลว่า "ลูกหลาน" เมื่อมีทั้งผู้ชายและผู้หญิงได้รับการอ้างถึง ตัวอย่างเช่น "พวกบุตรชายของพระเจ้า" สามารถแปลว่า "ลูกหลานของพระเจ้า" เนื่องจากคำกล่าวนี้รวมทั้งผู้หญิงและผู้ชายด้วย
  • คำกล่าวเปรียบเทียบ "บุตรของ" สามารถแปลว่า "บางคนผู้มีบุคลิกลักษณะของ" หรือ "บางคนผู้ที่เหมือน" หรือ "บางคนผู้ที่มี" หรือ"บางคนผู้ที่กระทำเหมือน"

บุตรมนุษย์, บุตรมนุษย์

คำจำกัดความ

คำว่า "บุตรมนุษย์" จะใช้เรียกพระเยซูซึ่งหมายถึงตัวของพระองค์เอง พระองค์มักใช้คำนี้เพื่อแทนการเรียกว่า "เรา" หรือ "ตัวเรา"

  • ในพระคัมภีร์ "บุตรมนุษย์" สามารถเป็นวิธีในการอ้างถึงหมายถึงหรือกล่าวถึงชายคนหนึ่ง และยังหมายถึง "มนุษย์"
  • ตลอดพันธสัญญาเดิมในพระธรรมเอเสเคียล บ่อยครั้งพระเจ้ามักพูดถึงเอเสเคียลว่า "บุตรมนุษย์" ตัวอย่างเช่น พระองค์ตรัสว่า "เจ้า บุตรมนุษย์ จะต้องเผยพระวจนะ"
  • ผู้เผยพระวจนะดาเนียลได้เห็นนิมิตของ "บุตรมนุษย์" มาด้วยก้อนเมฆซึ่งเล็งถึงการเสด็จมาของพระเมสิยาห์
  • พระเยซูได้ตรัสว่าบุตรมนุษย์จะเสด็จกลับมาสักวันหนึ่งบนเก้อนเมฆทั้งหลาย
  • นี่อ้างอิงถึงบุตรมนุษย์เสด็จมาในก้อนเมฆปรากฏเปิดเผยให้เห็นว่าพระเยซูพระเมสิยาห์ทรงเป็นพระเจ้า

คำแนะนำในการแปล

  • เมื่อพระเยซูทรงใช้คำว่า "บุตรมนุษย์" นี่สามารถแปลว่า "ท่านผู้ที่ได้กลายเป็นมนุษย์" หรือ "ผู้ชายจากสวรรค์"
  • ผู้แปลบางคนจะรวมเอาคำว่า "เรา" หรือ "ตัวเรา" ในตำแหน่งนี้ด้วย

ประกอบด้วยพระวิญญาณ

คำจำกัดความ

คำว่า "ประกอบด้วยพระวิญญาณ" เป็นรูปแบบการแสดงออกในเชิงเปรียบเทียบที่หมายความว่าพระวิญญาณบริสุทธ์กำลังเพิ่มอำนาจให้บุคคลที่จะทำตามน้ำพระทัยของพระเจ้า

  • ประโยค "ประกอบด้วย" เป็นสำนวนที่บ่อยครั้งหมายถึง "ควบคุมโดย"
  • ผู้คน "ประกอบด้วยพระวิญญาณ" เมื่อพวกเขาติดตามการทรงนำของพระวิญญาณบริสุทธิ์ และพึ่งพาพระองค์อย่างเต็มที่ให้ช่วยพวกเขาสามารถทำตามที่พระเจ้าทรงต้องการได้

คำแนะนำการแปล

  • คำนี้สามารถแปลได้ว่า "เพิ่มอำนาจโดยพระวิญญาณบริสุทธิ์" หรือ "ควบคุุมโดยพระวิญญาณบริสุทธิ์" แต่ไม่ควรจะแปลให้ฟังดูเหมือนกับว่าพระวิญญาณบริสุทธิ์กำลังบังคับบุคคลให้ทำบางสิ่ง
  • ตัวอย่างประโยคเช่นนี้ "เขาได้ประกอบไปด้วยพระวิญญาณ" สามารถแปลได้อีกว่า "เขามีชีวิตที่เต็มล้นได้ด้วยพลังของพระวิญญาณ" หรือ "เขาได้รับการทรงนำอย่างสมบูรณ์โดยพระวิญญาณบริสุทธิ์" หรือ "พระวิญญาณบริสุทธิ์ทรงได้นำเขาอย่างสมบูรณ์"
  • คำนี้มีความหมายที่คล้ายกันกับสำนวนที่ว่า "มีชีวิตอยู่โดยพระวิญญาณ" แต่ "ประกอบด้วยพระวิญญาณ" เน้นได้อย่างสมบูรณ์แบบที่ว่าคนนั้นได้อนุญาตให้พระวิญญาณบริสุทธิ์ในการควบคุม หรือมีอิทธิพลเหนือชีวิตของเขา ดังนั้นถ้าเป็นไปได้สำนวนทั้งสองควรมีแปลที่แตกต่างกัน

ประจักษ์พยาน เป็นพยาน

คำจำกัดความ

คำว่า "ประจักษ์พยาน" และ "เป็นพยาน" อ้างถึงการทำคำกล่าวเกี่ยวกับบางสิ่งที่คนรู้ว่าเป็นความจริง

  • บ่อยครั้งที่บุคคล "เป็นพยาน" เกี่ยวกับสิ่งที่เขาได้มีประสบการณ์โดยตรง
  • พยานที่ให้ "การเป็นพยานเท็จ" ไม่ได้บอกความจริงเกี่ยวกับสิ่งที่ได้เกิดขึ้น
  • บางครั้งคำว่า "ประจักษ์พยาน" อ้างถึงคำเผยพระจนะที่ผู้เผยพระวจนะได้กล่าวไว้
  • ในพันธสัญญาใหม่ คำนี้มักใช้เพื่ออ้างถึงว่าผู้ติดตามของพระเยซูได้เป็นพยานถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในชีวิต ความตายและการคืนพระชนม์ของพระเยซู

คำแนะนำในการแปล

  • คำว่า "เป็นพยาน" หรือ "ให้การเป็นพยาน" สามารถแปลว่า "บอกข้อเท็จจริง" หรือ "บอกสิ่งที่ได้เห็นหรือได้ยิน" หรือ "บอกเล่าจากประสบการณ์ส่วนตัว" หรือ "ให้หลักฐาน" หรือ "บอกสิ่งที่ได้เกิดขึ้น"
  • วิธีการแปล "การเป็นพยาน" สามารถรวมถึง "รายงานว่าเกิดอะไรขึ้น" หรือ "คำแถลงว่าอะไรเป็นความจริง" หรือ "หลักฐาน" หรือ "สิ่งที่ได้รับการกล่าว" หรือ "คำทำนาย"
  • วลี "เป็นพยานให้กับพวกเขา" อาจแปลว่า "เพื่อแสดงให้พวกเขาเห็นว่าอะไรเป็นความจริง" หรือ "เพื่อพิสูจน์ว่าอะไรเป็นความจริง"
  • วลี "เป็นพยานต่อด้านกับพวกเขา" อาจแปลว่า "ซึ่งจะแสดงให้พวกเขาเห็นถึงความบาปของพวกเขา" หรือ "เปิดเผยความหน้าซื่อใจคดของพวกเขา" หรือ "ซึ่งจะพิสูจน์ได้ว่าพวกเขาผิด"
  • การ "ให้คำพยานเท็จ" สามารถแปลว่า "พูดเรื่องเท็จเกี่ยวกับ" หรือ "ระบุสิ่งที่ไม่เป็นความจริง"

ประชากรของพระเจ้า, ประชากรของเรา

คำจำกัดความ

คำว่า "ประชากรของพระเจ้า" อ้างถึงประชาชนซึ่งพระเจ้าทรงเรียกออกมาจากโลกเพื่อให้มีความสัมพันธ์พิเศษกับพระองค์

  • เมื่อพระเจ้าตรัสว่า "ประชากรของเรา" นั้นพระองค์ทรงกำลังกล่าวถึงประชากรซึ่งพระองค์ทรงเลือกและผู้ที่มีความสัมพันธ์กับพระองค์
  • ประชากรของพระเจ้าได้รับการทรงเลือกโดยพระองค์เองและถูกแยกออกมาจากโลกเพื่อดำเนินชีวิตให้เป็นที่พอพระทัยของพระองค์ พระองค์ทรงเรียกพวกเขาว่าลูกหลานของพระองค์
  • ในพันธสัญญาเดิม คำว่า "ประชากรของพระเจ้า" อ้างถึงชนชาติอิสราเอลซึ่งได้รับการทรงเลือกจากพระเจ้าและถูกแยกออกมาจากชนชาติอื่นๆ ของโลกเพื่อรับใช้และเชื่อฟังพระองค์
  • ในพันธสัญญาใหม่ คำว่า "ประชากรของพระเจ้า" อ้างถึงเป็นพิเศษถึงคนทั้งหมดที่เชื่อในพระเยซูและถูกเรียกว่าคริสตจักร นี่รวมถึงชาวยิวและชาวต่างชาติ

คำแนะนำในการแปล

  • คำว่า "ประชากรของพระเจ้า" สามารถแปลอีกอย่างได้ว่า "ประชากรของพระเจ้า" หรือ "ประชากรที่นมัสการพระเจ้า" หรือ "ประชากรผู้รับใช้พระเจ้า" หรือ "ประชากรซึ่งเป็นของพระเจ้า"
  • วิธีอื่นที่แปล "ประชากรของเรา" เมื่อพระเจ้าทรงกล่าวนั้น สามารถรวม "ประชากรที่เราได้เลือกสรร" หรือ "ประชากรซึ่งนมัสการเรา" หรือ "ประชากรซึ่งเป็นของเรา"
  • ในทำนองคล้ายกัน คำว่า "ประชากรของท่าน" สามารถแปลอีกอย่างได้ว่า "ประชากรซึ่งเป็นของท่าน" หรือ "ประชากรซึ่งท่านได้เลือกให้เป็นของท่าน"
  • "ประชากรของพระองค์เจ้า" สามารถแปลอีกอย่างได้ว่า "ประชากรซึ่งเป็นของพระองค์เจ้า" หรือ "ประชากรซึ่งพระเจ้าทรงเลือกให้เป็นของพระองค์"

ประนาม, การประนาม

คำจำกัดความ

คำว่า "ประนาม" และ "การประนาม" กล่าวถึงการตัดสินคนใดคนหนึ่งที่ทำผิดบางอย่าง

  • บ่อยครั้งที่คำว่า "ประนาม" รวมถึงการลงโทษคนนั้นสำหรับความผิดที่เขาได้กระทำ
  • บางครั้ง คำว่า "ประนาม" กล่าวถึง การกล่าวหาคนใดคนหนึ่งอย่างผิดๆ หรือการตัดสินบางคนอย่างหยาบๆ
  • คำว่า "การประนาม" กล่าวถึงการกระทำของการประนาม หรือการด่าบางคน

คำแนะนำในการแปล

  • คำนี้สามารถแปลตามบริบทได้ว่า "การตัดสินอย่างหยาบๆ" หรือ "วิพากษ์วิจารณ์อย่างผิดๆ"
  • วลี "ประนามเขา" สามารถแปลได้ว่า "ตัดสินว่าเขามีความผิด" หรือ "กล่าวว่าเขาต้องถูกลงโทษเพราะบาปของเขา"
  • คำว่า "การประนาม" สามารถแปลได้ว่า "การตัดสินที่หยาบ" หรือ "การประกาศว่ามีความผิด" หรือ "การลงโทษความผิด"

ปราศจากตำหนิ

คำจำกัดความ

คำว่า "ปราศจากตำหนิ" แปลตามตัวอักษรว่า "ปราศจากข้อตำหนิ" ใช้กล่าวถึงคนที่เชื่อฟังพระเจ้าด้วยสุดใจ แต่ไม่ได้หมายความว่าคนนั้นไม่มีบาป

  • อับราฮัมและโนอาห์ ได้รับการยอมรับว่าปราศจากตำหนิต่อพระพักตร์พระเจ้า
  • คนที่ได้ชื่อว่า "ปราศจากตำหนิ" ประพฤติตนในทางที่ถวายพระเกียรติแด่พระเจ้า
  • ตามพระคัมภีร์ข้อหนึ่ง คนที่ปราศจากตำหนิ คือ "คนที่ยำเกรงพระเจ้าและหันไปจากความชั่วร้าย"

คำแนะนำในการแปล

  • คำนี้สามารถแปลได้อีกว่า "ไม่มีความผิดใดๆ ในบุคลิกลักษณะของเขา" หรือ "เชื่อฟังพระเจ้าอย่างสมบูรณ์" หรือ "หลีกเลี่ยงบาป" หรือ "ห่างไกลจากความชั่วร้าย"

ปัสกา

คำจำกัดความ

คำว่า "ปัสกา" นั้นเป็นชื่อของเทศกาลทางศาสนาซึ่งชาวยิวเฉลิมฉลองเป็นประจำทุกปีเพื่อรำลึกว่าพระเจ้าทรงช่วยกู้บรรพบุรุษของพวกเขาชาวอิสราเอลให้พ้นจากการเป็นทาสในอียิปต์ได้อย่างไร

  • ชื่อของเทศกาลตามจริงแล้วมีที่มาจากข้อเท็จจริงว่าพระเจ้าทรง "ผ่านข้ามไป" บ้านทั้งหลายของชาวอิสราเอล และไม่ได้ประหารบุตรชายของชาวอิสราเอลเมื่อครั้งที่พระองค์ทรงประหารบุตรชายหัวปีทุกคนของชาวอียิปต์
  • การเฉลิมฉลองเทศกาลปัสการวมไปถึงอาหารมื้อพิเศษคือลูกแกะที่ปราศจากตำหนิซึ่งพวกเขาได้ฆ่าและอบ เช่นเดียวกับขนมปังที่ปราศจากยีสต์ อาหารเหล่านี้เป็นที่ระลึกถึงมื้ออาหารที่ชาวอิสราเอลได้รับประทานในคืนก่อนที่พวกเขาจะหนีออกจากอียิปต์
  • พระเจ้าตรัสบอกกับชาวอิสราเอลให้รับประทานอาหารมื้อนี้ทุกปีเพื่อรำลึกและเฉลิมฉลองที่พระเจ้าได้ "ข้ามผ่าน" บ้านของพวกเขาไปและทำให้พวกเขาเป็นอิสระจากการเป็นทาสในอียิปต์อย่างไร

คำแนะนำในการแปล

  • คำว่า "ปัสกา" สามารถแปลโดยการนำเอาสองคำมารวมกันนั่นคือคำว่า "ผ่าน" และ "ข้าม" หรือประสมกับคำอื่นที่มีความหมายนี้
  • จะเป็นประโยชน์มากหากชื่อของเทศกาลนี้มีความเชื่อมโยงที่ชัดเจนระหว่างคำซึ่งสามารถใช้อธิบายได้ว่าทูตขององค์พระผู้เป็นเจ้าได้ข้ามผ่านบ้านทั้งหลายของชาวอิสราเอลและไว้ชีวิตบุตรชายของพวกเขาอย่างไร

ปุโรหิต, ความเป็นปุโรหิต

คำจำกัดความ

ในพระคัมภีร์ปุโรหิตเป็นคนที่ถูกรับเลือกให้ถวายเครื่องบูชาแด่พระเจ้าในนามของประชากรของพระเจ้า "ความเป็นปุโรหิต" เป็นชื่อสำหรับที่ทำงานหรือเงื่อไขในการเป็นปุโรหิต

  • ในพันธสัญญาเดิมพระเจ้าได้เลือกอาโรนและลูกหลานของเขาให้เป็นปุโรหิตของพระองค์สำหรับประชากรอิสราเอล
  • "ความเป็นปุโรหิต" เป็นสิทธิ์และเป็นความรับผิดชอบที่สืบทอดจากบิดาสู่บุตรในตระกูลเลวี
  • ปุโรหิตอิสราเอลมีความรับผิดชอบที่ต้องถวายเครื่องบูชาของประชาชนต่อพระเจ้า พร้อมกับหน้าที่อื่นๆในพระวิหาร
  • ปุโรหิตยังถวายคำอธิษฐานประจำแด่พระเจ้าในนามของประชากรของพระองค์และประกอบพิธีกรรมอื่นๆ ทางศาสนา
  • ปุโรหิตเปล่งเสียงออกให้พระพรเป็นทางการแก่ประชาชนและสอนธรรมบัญญัติของพระเจ้าให้พวกเขา
  • ในสมัยของพระเยซูมีระดับปุโรหิตที่แตกต่างกัน รวมไปถึงหัวหน้าปุโรหิตและมหาปุโรหิต
  • พระเยซูทรงเป็น "มหาปุโรหิตที่ยิ่งใหญ่" ของเรา ผู้ทรงวิงวอนเพื่อเราต่อพระพักตร์ของพระเจ้า พระองค์ทรงถวายตัวของพระองค์เป็นเครื่องบูชาสูงสุดให้กับความบาป นี่หมายความว่าเครื่องบูชาที่ทำด้วยปุโรหิตที่เป็นมนุษย์ไม่จำเป็นอีกต่อไป
  • ในพันธสัญญาใหม่ ทุกคนที่เชื่อในพระเยซูจะถูกเรียกว่า "ปุโรหิต" ผู้ซึ่งสามารถมาถึงพระเจ้าโดยตรงได้ด้วยคำอธิษฐานเพื่อขอร้องให้กับตัวเองและเพื่อคนอื่นด้วย
  • ในสมัยโบราณมีปุโรหิตนอกศาสนาผู้ถวายเครื่องบูชาแด่พระเท็จเช่นพระบาอัล

คำแนะนำในการแปล

  • ขึ้นอยู่กับบริบท คำว่า "ปุโรหิต" สามารถแปลว่า "เครื่องถวายบูชาที่เป็นบุคคล" หรือ "ตัวกลางของพระเจ้า" หรือ "เครื่องถวายบูชาตัวกลาง" หรือ "บุคคลที่พระเจ้าทรงแต่งตั้งเพื่อเป็นตัวแทนของพระองค์"
  • การแปลคำว่า "ปุโรหิต" ควรจะแตกต่างจากคำว่า "คนกลาง"
  • การแปลบางครั้งอาจต้องกล่าวถึงบางสิ่งเช่น "ปุโรหิตของอิสราเอล" หรือ "ปุโรหิตของชาวยิว" หรือ "ปุโรหิตของพระยาห์เวห์" หรือ ปุโรหิตของพระบาอัล" เพื่อให้ชัดเจนว่านี่ไม่ได้อ้างถึงประเภทของปุโรหิตสมัยใหม่
  • คำที่ใช้แปลว่า "ปุโรหิต" ควรแตกต่างจากคำว่า "หัวหน้าปุโรหิต" และ "ปุโรหิตหลวง" และ เลวี" และ"ผู้เผยพระวจนะ"

เป็นธรรม , เที่ยงธรรม, อย่างเที่ยงธรรม

คำจำกัดความ

คำเหล่านี้อ้างถึงการปฏิบัติต่อผู้คนอย่างยุติธรรมตามกฎหมายของพระเจ้า กฎหมายของมนุษย์ที่สะท้อนถึงมาตรฐานของพระเจ้าในเรื่องการประพฤติที่ถูกต้องต่อผู้อื่นนั้นเป็นความชอบธรรมด้วย

  • "เป็นธรรม" คือ การกระทำด้วยความยุติธรรมและด้วยวิธีการที่ถูกต้องต่อผู้อื่น อีกทั้งยังหมายถึงความซื่อสัตย์และความสุจริตในการทำสิ่งที่ถูกต้องในทางศีลธรรมในสายตาของพระเจ้า
  • การกระทำ "อย่างเที่ยงธรรม" หมายถึง การปฏิบัติต่อผู้คนด้วยวิธีการที่ถูกต้อง ดี และเหมาะสมตามกฎหมายของพระเจ้า
  • การรับ "ความเที่ยงธรรม" หมายถึงการได้รับการปฏิบัติอย่างยุติธรรมภายใต้กฎหมาย รวมถึงการได้รับการปกป้องโดยกฎหมาย หรือได้รับการลงโทษสำหรับการฝ่าฝืนกฎหมาย
  • บางครั้งคำว่า "เป็นธรรม" เป็นคำที่มีความหมายแบบกว้างของคำว่า "ชอบธรรม" หรือ "การทำตามกฎหมายของพระเจ้า"

คำแนะนำในการแปล

  • ขึ้นอยู่กับบริบท วิธีการแปลอีกอย่างของคำว่า "เป็นธรรม" สามารถรวมคำว่า "ถูกต้องตามศีลธรรม" หรือ "ยุติธรรม"
  • คำว่า "เที่ยงธรรม" สามารถแปลว่า "การปฏิบัติอย่างยุติธรรม" หรือ "ได้รับผลที่ตามมาอย่างเหมาะสม"
  • การ "กระทำอย่างเที่ยงธรรม" สามารถแปลได้อีกว่า "การปฏิบัติอย่างยุติธรรม" หรือ "ประพฤติในทางที่เที่ยงธรรม"
  • ในบางบริบท คำว่า "เป็นธรรม" สามารถแปลว่า "ชอบธรรม" หรือ "เที่ยงตรง"

ผลงาน, การกระทำ, ทำงาน, การกระทำ

คำจำกัดความ

ในพระคัมภีร์คำว่า "ผลงาน" "การกระทำ" และ "การกระทำ" จะใช้เพื่ออ้างถึงสิ่งต่างๆที่พระเจ้าหรือมนุษย์ทำ

  • คำว่า "ทำงาน" หมายถึงการทำงานหรืออะไรก็ตามที่ทำเพื่อคนอื่น
  • "ผลงาน" ของพระเจ้า และ "ผลงานจากพระหัตถ์ของพระองค์" เป็นสำนวนที่กล่าวถึงทุกสิ่งที่พระองค์ทำหรือได้กระทำรวมถึงการสร้างโลก ช่วยคนบาปให้รอด ดูแลใส่ใจต่อความต้องการของสิ่งที่ทรงสร้างทั้งหมดและรักษาจักรวาลทั้งสิ้นให้อยู่ในที่ คำว่า "การกระทำ" และ "การกระทำ" ยังใช้เพื่ออ้างถึงการอัศจรรย์ของพระเจ้าในการแสดงออกเช่น "การกระทำที่ยิ่งใหญ่" หรือ "การกระทำที่น่าอัศจรรย์"
  • ผลงานหรือการกระทำที่บุคคลทำสมารถเป็นได้ทั้งดีหรือชั่ว
  • พระวิญญาณบริสุทธิ์ให้อำนาจผู้เชื่อในการทำดีซึ่งเรียกอีกอย่างว่า "ผลที่ดี"
  • คนทั้งหลายไม่ได้รับการช่วยให้รอดโดยการทำดีของพวกเขา แต่พวกเขารอดด้วยศรัทธาในพระเยซูคริสต์
  • "งาน" ของบุคคลหนึ่งสามารถเป็นสิ่งที่เขาทำเพื่อหาเลี้ยงชีพหรือเพื่อรับใช้พระเจ้า พระคัมภีร์ยังกล่าวถึงพระเจ้าว่า "ทรงทำงาน"

คำแนะนำในการแปล

  • การแปล "ผลงาน" หรือ "การกระทำ" อื่น ๆ อาจเป็น "การกระทำ" หรือ "สิ่งต่างๆที่ได้ทำแล้ว"
  • เมื่อพูดถึง "ผลงาน" หรือ "การกระทำ" ของพระเจ้าและ "การทำงานของมือของพระองค์" คำพูดเหล่านี้อาจแปลว่า "การอัศจรรย์" หรือ "การกระทำที่ยิ่งใหญ่" หรือ "สิ่งมหัศจรรย์ที่พระองค์ทำ"
  • วลี "งานของพระเจ้า" สามารถแปลว่า "สิ่งที่พระเจ้าทรงกำลังทำ" หรือ "สิ่งมหัศจรรย์ที่พระเจ้าทรงกระทำ" หรือ "สิ่งน่าอัศจรรย์ที่พระเจ้าทรงกระทำ" หรือ "ทุกสิ่งที่พระเจ้าทรงกระทำ"
  • คำว่า "งาน" สามารถเป็นเพียงคำเดียวใน "ผลงาน" เช่นเดียวกับ "งานดีทุกอย่าง" หรือ "ผลงานดีทุกอย่าง"
  • คำว่า "งาน" อาจมีความหมายกว้าง ๆ ของ "บริการ" หรือ "พันธกิจ" ตัวอย่างเช่นคำว่า "งานของท่านในองค์พระผู้เป็นเจ้า" สามารถแปลว่า "สิ่งที่ท่านทำเพื่อองค์พระผู้เป็นเจ้า"
  • คำว่า "ตรวจสอบงานของท่านเอง" สามารถแปลเป็น "ให้แน่ใจว่าคุณกำลังทำอะไรอยู่คือพระประสงค์ของพระเจ้า" หรือ "ทำให้แน่ใจว่าท่านกำลังทำอยู่เป็นที่ชอบต่อน้ำพระทัยของพระเจ้า"
    *คำที่กล่าวว่า "การทำงานของพระวิญญาณบริสุทธิ์" สามารถแปลว่า "การเสริมอำนาจของพระวิญญาณบริสุทธิ์" หรือ "พันธกิจของพระวิญญาณบริสุทธิ์" หรือ "สิ่งที่พระวิญญาณบริสุทธิ์ทรงกระทำ"

ผีเข้า

คำจำกัดความ

คนที่ถูกผีเข้า มีผีหรือวิญญาณชั่วร้ายที่ควบคุมสิ่งที่เขาทำและคิด

  • บ่อยครั้งที่บุคคลที่ถูกผีเข้าจะทำร้ายตัวเอง หรือคนอื่นเพราะว่าผีร้ายทำให้เขาต้องทำเช่นนั้น
  • พระเยซูทรงได้รักษาคนที่มีผีเข้าโดยการสั่งให้ผีร้ายออกจากพวกเขา นี่มักจะเรียกว่า "ขับไล่" ผีออก

คำแนะนำในการแปล

  • วิธีอื่นในการแปลคำนี้อาจรวมถึง "ผีร้ายเข้าควบคุม" หรือ "ถูกควบคุมด้วยวิญญาณชั่ว" หรือ "มีวิญญาณชั่วร้ายอาศัยอยู่ภายใน"

ผีร้าย วิญญาณชั่วร้าย ผีโสโครก

คำจำกัดความ

คำศัพท์เหล่านี้ทั้งหมดหมายถึงผีร้ายซึ่งเป็นวิญญาณที่ต่อต้านพระประสงค์ของพระเจ้า

  • พระเจ้าทรงได้สร้างทูตสวรรค์เพื่อรับใช้พระองค์ เมื่อผีมาร กบฏต่อพระเจ้าเหล่าทูตสวรรค์บางตนก็กบฏด้วย และถูกขับออกมาจากสวรรค์ เป็นที่เชื่อกันว่าผีมารและวิญญาณชั่วร้ายคือ "เหล่าทูตสวรรค์ที่ตกสวรรค์"
  • บางครั้งผีมารเหล่านี้ถูกเรียกว่า "ผีโสโครก" คำว่า "โสโครก" หมายถึง "ไม่บริสุทธิ์" หรือ "ชั่วร้าย" หรือ "ไม่ศักดื์สิทธิ์"
  • เพราะว่าผีร้ายปรนนิบัติผีมารพวกเขาทำสิ่งชั่วร้าย บางครั้งพวกเขาอาศัยอยู่ภายในคนและควบคุมพวกเขา
  • ผีร้ายมีพลังอำนาจมากกว่ามนุษย์ แต่ไม่มีพลังอำนาจเท่าพระเจ้า

คำแนะนำในการแปล

  • คำว่า "ผีร้าย" อาจแปลว่า "วิญญาณชั่ว"
  • คำว่า "ผีโสโครก" อาจแปลว่า "วิญญาณโสโครก" หรือ "วิญญาณที่ฉ้อฉล" หรือ "วิญญาณชั่ว"
  • ตรวจสอบให้แน่ใจว่าคำหรือวลีที่เคยใช้ในการแปลคำนี้แตกต่างจากคำที่เคยใช้เพื่อหมายถึงปีศาจ
  • พิจารณาคำว่า "ผีร้าย" ด้วยภาษาท้องถิ่นหรือภาษากลางด้วย

ผูกมัด, การผูกมัด, ถูกผูกมัด, เครื่องพันธนาการ

คำจำกัดความ

คำว่า "ผูกมัด" หมายถึง การผูกบางสิ่งบางอย่าง หรือมัดไว้อย่างแน่นหนา บางสิ่งบางอย่างที่ผูกหรือรวมเข้าด้วยกัน เรียกว่า "การผูกมัด"

  • "ถูกผูกมัด" หมายถึงการผูกบางสิ่งหรือพันรอบบางสิ่งไว้
  • ในเรื่องการเปรียบเทียบ คนหนึ่งอาจ "ถูกผูกมัด" ด้วยสัญญา ซึ่งหมายความว่า "เขาจะต้อง "ทำให้สำเร็จ" ในสิ่งที่เขาได้สัญญาว่าจะทำ
  • คำว่า "เครื่องพันธนาการ" กล่าวถึงสิ่งใดสิ่งหนึ่งที่ผูกมัด คุมขัง หรือขังคุกคนใดคนหนึ่ง คำนี้มักจะหมายถึงโซ่ ตรวน หรือเชือกที่ทำให้คนไม่สามารถเคลื่อนไหวได้อย่างเสรี
  • ในสมัยพระคัมภีร์ เครื่องพันธนาการอย่างเช่นเชือก หรือโซ่ จะใช้ในการล่ามนักโทษให้ติดกับกำแพง หรือพื้นหินของคุก
  • คำว่า "ผูกมัด" ยังสามารถใช้บอกเกี่ยวกับการพันบาดแผลด้วยผ้า เพื่อช่วยให้หายดีได้ด้วย
  • คนตายจะ "ถูกผูกมัด" ด้วยผ้า ในการเตรียมนำไปฝัง
  • คำว่า "เครื่องพันธนาการ" ยังใช้เป็นคำเปรียบเทียบที่กล่าวถึงบางสิ่งเช่นบาปที่ควบคุม หรือทำให้คนเป็นทาส
  • คำว่า ผูกพัน ยังใช้กับความสัมพันธ์ที่ใกล้ชิดระหว่างผู้คนในลักษณะที่มีการช่วยเหลือกันและกันทางด้านอารมณ์ วิญญาณ จิตและร่างกาย คำนี้นำไปใช้สำหรับความผูกพันของการแต่งงาน
  • ตัวอย่างเช่น สามีและภรรยา "ถูกผูกมัด" หรือผูกเข้าด้วยกัน ซึ่งเป็นความผูกพันที่พระเจ้าไม่ทรงประสงค์ให้พรากจากกัน

คำแนะนำในการแปล

  • คำว่า "ผูกมัด" สามารถแปลได้อีกว่า "ผูก" หรือ "ผูกติดกัน" หรือ "พัน"

ผู้ได้รับเลือก, ได้รับเลือก, ประชากรผู้ได้รับเลือก, ผู้ถูกเลือก, ผู้ที่ถูกคัดเลือก

คำจำกัดความ

คำว่า "ผู้ที่ถูกคัดเลือก" ตามตัวอักษรหมายถึง "ผู้ได้รับเลือก" หรือ "ประชากรผู้ได้รับเลือก" และกล่าวถึงคนเหล่านั้นผู้ซึ่งพระเจ้าทรงได้แต่งตั้งให้เป็นประชากรของพระองค์ "ผู้ได้รับเลือก" หรือ "ผู้ได้รับเลือกของพระเจ้า" คือคำนำหน้าชื่อที่กล่าวถึงพระเยซู ผู้ที่ถูกเลือกเป็นพระเมสสิยาห์

  • คำว่า "ถูกเลือก" หมายถึงเลือกบางสิ่ง หรือบางคน หรือตัดสินใจบางสิ่ง บ่อยครั้งมักใช้กล่าวถึงพระเจ้าทรงแต่งตั้งประชากรให้เป็นของพระองค์และรับใช้พระองค์
  • ได้รับการถูก "เลือก" หมายความว่า ได้รับการถูก "คัดเลือก" หรือ "แต่งตั้ง" เพื่อเป็น หรือทำบางสิ่ง
  • พระเจ้าทรงเลือกประชากรให้บริสุทธิ์ แยกออกต่างหากโดยพระองค์เพื่อวัตถุประสงค์ให้เกิดผลดีฝ่ายจิตวิญญาณ นั่นคือเหตุผลว่าทำไมพวกเขาจึงถูกเรียกว่า "ผู้ที่ได้ถูกเลือก" หรือ "ผู้ถูกคัดเลือก"
  • คำว่า"ผู้ได้รับเลือก" บางครั้งใช้ในพระคัมภีร์เพื่อกล่าวถึงคนเฉพาะกลุ่มเช่น โมเสส และกษัตริย์ดาวิดผู้ที่พระเจ้าได้แต่งตั้งให้เป็นผู้นำประชากรของพระองค์ และยังได้ใช้กล่าวถึงชนชาติอิสราเอลว่าเป็น "ประชากรที่พระเจ้าได้เลือก"
  • วลีที่ว่า "ผู้ที่ถูกคัดเลือก" เป็นคำเก่าที่มีความหมายตามตัวอักษรว่า "ผู้ได้รับเลือก" หรือ "ประชากรที่ได้รับการเลือก" วลีนี้ในภาษาเดิมเป็นพหูพจน์เมื่อกล่าวถึงผู้ศรัทธาในพระคริสต์
  • ในพระคัมภีร์ภาษาอังกฤษฉบับเก่า คำว่า "คัดเลือก" ใช้ทั้งในพันธสัญญาเดิม และพันธสัญญาใหม่ ที่จะแปลคำว่า "ผู้ได้รับเลือก" พระคัมภีร์ฉบับสมัยใหม่ใช้คำว่า "คัดเลือก" ในพันธสัญญาใหม่เท่านั้น ที่กล่าวถึงประชากรผู้ซึ่งได้รับความรอดโดยพระเจ้าผ่านความเชื่อในพระเยซู ตามที่ต่าง ๆ ในพระคัมภีร์ มีการแปลคำนี้ค่อนข้างตามตัวอักษรว่า "ผู้ได้รับเลือก"

คำแนะนำในการแปล

  • ดีที่สุดที่จะแปลคำว่า "คัดเลือก" ด้วยคำ หรือวลีที่หมายความว่า "ผู้ได้รับเลือก" หรือ "ประชากรที่ได้รับเลือก" เหล่านี้สามารถแปลได้อีกว่า "ประชากรผู้ที่พระเจ้าเลือก" หรือ "ผู้ที่พระเจ้าทรงได้แต่งตั้งให้เป็นประชากรของพระองค์"
  • วลีที่ว่า "ผู้ที่ถูกเลือก" สามารถแปลได้อีกอย่างว่า "ผู้ที่พระเจ้าทรงได้แต่งตั้ง" หรือ "ผู้ที่ถูกคัดเลือก" หรือ "ผู้ที่พระเจ้าเลือก"
  • "เราเลือกเจ้า" สามารถแปลได้ว่า "เราได้แต่งตั้งเจ้า" หรือ "เราคัดเลือกเจ้า"
  • ในการกล่าวถึงพระเยซูว่าเป็น "ผู้ได้รับเลือก" สามารถแปลได้ว่า "ผู้ที่ได้รับเลือกของพระเจ้า" หรือ "การแต่งตั้งพระเมสสิยาห์เป็นพิเศษของพระเจ้า" หรือ "ผู้ที่พระเจ้าทรงได้แต่งตั้ง"

ผู้ประกาศ, ผู้ประกาศข่าวประเสริฐ

คำจำกัดความ

คำว่า "ผู้ประกาศ" คือคนที่บอกคนอื่นถึงข่าวประเสริฐเรื่องพระเยซูคริสต์

  • ความหมายตามตัวอักษรของคำว่า "ผู้ประกาศ" คือ "บางคนที่เทศนาข่าวประเสริฐ"
  • พระเยซูทรงได้ส่งอัครทูตของพระองค์ออกไปเผยแพร่ข่าวประเสริฐเกี่ยวกับการจะเป็นส่วนหนึ่งของอาณาจักรของพระเจ้า โดยการวางใจในพระเยซู และการถวายบูชาของพระองค์เพื่อความบาป
  • คริสเตียนทุกคนถูกกระตุ้นให้แบ่งปันข่าวประเสริฐนี้
  • คริสเตียนบางคนได้รับของประทานฝ่ายวิญญาณเฉพาะเพื่อบอกเล่าข่าวประเสริฐได้อย่างมีประสิทธิภาพแก่ผู้อื่น กล่าวไว้ว่าคนเหล่านี้มีของประทานในการประกาศและถูกเรียกให้เป็น "ผู้ประกาศ"

คำแนะนำการแปล

  • คำว่า "ผู้ประกาศ" สามารถแปลได้อีกว่า "บางคนที่เทศนาข่าวประเสริฐ" หรือ"ผู้สอนข่าวประเสริฐ" หรือ "คนที่ประกาศข่าวประเสริฐ"

ผู้เป็นที่รัก

คำจำกัดความ

คำว่า "ผู้เป็นที่รัก" เป็นคำที่แสดงถึงความรักที่อธิบายถึงคนที่ได้รับความรัก และเป็นที่รักต่ออีกคนหนึ่ง

  • คำว่า "ผู้เป็นที่รัก" มีความหมายตามตัวอักษรว่า "รัก (คนใดคนหนึ่ง)" หรือ "(ผู้ที่)ได้รับความรัก"
  • พระเจ้าทรงกล่าวถึงพระเยซูว่าเป็น "บุตรที่รัก" ของพระองค์
  • ในจดหมายของอัครทูตที่เขียนไปถึงคริสตจักรทั้งหลาย พวกอัครทูตมักจะเรียกพวกพี่น้องผู้ศรัทธาว่า "ผู้เป็นที่รัก"

คำแนะนำในการแปล

  • คำนี้สามารถแปลได้อีกว่า "ที่รัก" หรือ "ผู้เป็นที่รัก" หรือ "ผู้เป็นที่รักมาก" หรือ "ที่รักอย่างยิ่ง"
  • ในบริบทที่พูดถึงเพื่อนสนิท สามารถแปลได้ว่า "เพื่อนที่รักของข้าพเจ้า" หรือ "เพื่อนสนิทของข้าพเจ้า" ในภาษาอังกฤษ โดยทั่วไปจะพูดว่า "เพื่อนที่รักของข้าพเจ้า เปาโล" หรือ "เปาโล ผู้ที่เป็นเพื่อนที่รักของข้าพเจ้า" ในภาษาอื่นอาจจะมีคำแปลที่เป็นธรรมชาติมากกว่า เพื่อใช้คำนี้ในรูปแบบที่แตกต่างกัน
  • ขอให้สังเกตคำว่า "ผู้เป็นที่รัก" มาจากคำที่ใช้สำหรับความรักของพระเจ้า ที่ไม่มีเงื่อนไข ไม่เห็นแก่ตัว และเสียสละ

ผู้เผยพระวจนะ, คำเผยพระวจนะ, เผยพระวจนะ, ผู้พยากรณ์, ผู้เผยพระวจนะหญิง

คำจำกัดความ

"ผู้เผยพระวจนะ" คือ ผู้ชายที่พูดข่าวสารของพระเจ้าให้แก่ประชาชน ผู้หญิงที่ทำแบบนี้เรียกว่า "ผู้เผยพระวจนะหญิง"

  • บ่อยครั้งผู้เผยพระวจนะจะตักเตือนประชาชนให้หันกลับจากความบาปของพวกเขาและให้เชื่อพระเจ้า
  • "คำเผยพระวจนะ"เป็นข่าวสารที่ผู้เผยพระวจนะพูด การ"เผยพระวจนะ"หมายถึงการพูดข่าวสารของพระเจ้า
  • บ่อยครั้งข่าวสารของคำเผยพระวจนะนั้นจะเกี่ยวกับสิ่งที่จะเกิดขึ้นในอนาคต
  • คำเผยพระวจนะต่างๆ ในพันธสัญญาเดิมได้สำเร็จแล้ว
  • ในพระคัมภีร์ ชุดพระธรรมที่เขียนไว้โดยผู้เผยพระวจนะบางครั้งอ้างถึงในฐานะเป็น "ผู้เผยพระวจนะ" ด้วย
  • ตัวอย่างเช่นวลีคำว่า"ธรรมบัญญัติและผู้เผยพระวจนะ" เป็นวิธีที่จะอ้างอิงข้อพระคัมภีร์ภาษาฮีบรูทั้งหมด ซึ่งรู้จักกันในอีกคำว่า "พันธสัญญาเดิม"
  • คำศัพท์ที่เก่ากว่าอีกคำของคำว่าผู้เผยพระวจนะคือ "ผู้พยากรณ์" หรือ "บางคนที่รับรู้"
  • บางครั้งคำว่า "ผู้พยากรณ์" อ้างถึง ผู้เผยพระวจนะเทียมเท็จ หรือ คนที่ทำนายโชคชะตา

คำแนะนำในการแปล

  • คำว่า "ผู้เผยพระวจนะ" สามารถแปลว่า "ผู้ประกาศของพระเจ้า" หรือ "ผู้ชายผู้ที่พูดเพื่อพระเจ้า" หรือ "ผู้ชายที่พูดข่าวสารของพระเจ้า"
  • "ผู้พยากรณ์" สามารถแปลว่า "บุคคลผู้เห็นนิมิตทั้งหลาย" หรือ "ผู้ชายที่เห็นอนาคตจากพระเจ้า"
  • คำว่า "ผู้เผยพระวจนะหญิง" สามารถแปลว่า "ผู้ประกาศหญิงสำหรับพระเจ้า" หรือ "ผู้หญิงผู้ที่พูดสำหรับพระเจ้า" หรือ "ผู้หญิงผู้ที่พูดข่าวสรของพระเจ้า"
  • วิธีแปล "คำเผยพระวจนะ" สามารถรวม "ข่าวสารรจากพระเจ้า" หรือ "ผู้เผยพระจนะข่าวสาร"
  • คำว่า "การเผยพระวจนะ" สามารถแปลว่า "พูดพระคำจากพระเจ้า" หรือ "บอกข่าวสารของพระเจ้า"
  • คำกล่าวอุปมาอุปมัย "บัญญัติและผู้เผยพระวจนะทั้งหลาย" สามารถแปลว่า "หนังสือทั้งหลายของบัญญัติและผู้เผยพระวจนะทั้งหลาย" หรือ "ทุกสิ่งที่ได้เขียนเกี่ยวกับพระเจ้าและประชาชนของพระองค์ รวมทั้งบัญญัติของพระเจ้าและสิ่งที่ผู้เผยพระวจนะได้เทศนา"

ผู้รับใช้ , พันธกิจ

คำจำกัดความ

ในพระคัมภีร์ คำว่า "ผู้รับใช้" และ "พันธกิจ" อ้างถึงการรับใช้ผู้อื่นด้วยการสอนพระคำของพระเจ้าและการดูแลฝ่ายจิตวิญญาณ ส่วนคำว่า "ผู้รับใช้" นั้น สามารถอ้างถึงบุคคลผู้ที่รับใช้คนอื่นในทางนี้

  • ในพันธสัญญาเดิม ปุโรหิตจะ "ปรนนิบัติรับใช้" พระเจ้าในพระวิหารโดยการถวายเครื่องบูชาถวายองค์พระผู้เป็นเจ้า
  • "พันธกิจ" ของปุโรหิตนั้นอาจรวมไปถึงการดูแลพระวิหารและเป็นตัวแทนของประชาชนเพื่ออธิษฐานต่อพระเจ้า
  • ในพันธสัญญาใหม่ คำว่า "ผู้รับใช้" ของพระกิตติคุณหมายถึงบางคนผู้สั่งสอนประชาชนเกี่ยวกับการทรงไถ่ของพระองค์โดยทางความเชื่อในพระเยซู บางครั้งผู้รับใช้ก็ถูกเรียกว่า "ผู้รับใช้"
  • งานในการปรนนิบัติรับใช้ประชากรนั้นรวมไปถึงการรับใช้ประชาชนด้วยการรับใช้ฝ่ายจิตวิญญาณโดยการสั่งสอนเกี่ยวกับพระเจ้า
  • นี่สามารถอ้างถึงการรับใช้ประชาชนทางด้านร่างกายด้วย เช่น การดูแลคนเจ็บป่วยหรือการเลี้ยงอาหารผู้คนยากจน

คำแนะนำในการแปล

  • ในบริบทเกี่ยวกับการปรนนิบัติรับใช้ประชากร "การรับใช้" สามารถแปลว่า "รับใช้" หรือ "ดูแล" หรือ "ตอบสนองความจำเป็นของ"
  • เมื่ออ้างถึงการปรนนิบัติรับใช้ในพระวิหารนั้น คำว่า "ปรนนิบัติรับใช้" สามารถแปลว่า "รับใช้พระเจ้าในพระวิหาร" หรือ "ถวายเครื่องบูชาต่อพระเจ้าสำหรับประชากร"
  • ในบริบทที่เกี่ยวกับการปรนนิบัติรับใช้พระเจ้านั้น สามารถแปลอีกอย่างได้ว่า "รับใช้" หรือ "การทำงานเพื่อพระเจ้า"
  • วลี "รับใช้" สามารถแปลว่า "ดูแลสำหรับ" หรือ "จัดเตรียมสำหรับ" หรือ "ได้ช่วย"

ผู้ไร้เดียงสา, ผู้บริสุทธิ์

คำจำกัดความ

คำว่า "ผู้ไร้เดียงสา" หมายถึงไม่มีความผิดในอาชญากรรมหรือการกระทำผิดอื่นๆ คำนี้โดยทั่วไปยังอาจอ้างถึงคนที่ไม่ได้มีส่วนในการทำสิ่งชั่ว

  • คนหนึ่งที่ถูกกล่าวหาว่าทำบางอย่างผิดจะปราศจากความผิดถ้าเขาไม่ได้ทำความผิดนั้น
  • บางครั้ "ผู้ไร้เดียงสา" ถูกใช้เพื่ออ้างถึงคนที่ไม่ได้ทำอะไรผิดที่จะต้องได้รับการปฎิบัติอันเลวร้ายที่พวกเขาได้รับอยู่ เช่นการที่กองทัพศัตรูโจมตี "ผู้บริสุทธิ์"

คำแนะนำในการแปล

  • ในบริบทส่วนใหญ่ คำว่า "ผู้ไร้เดียงสา" สามารถแปลได้ว่า "ไม่มีความผิด" หรือ "ไม่ต้องรับผิดชอบ" หรือ "ไม่ควรถูกตำหนิ" สำหรับบางอย่าง
  • เมื่ออ้างถึงคนที่ปราศจากความผิดโดยทั่วไป คำนี้สามารถแปลได้ว่า "ผู้ที่ไม่ได้ทำอะไรผิด" หรือ "ผู้ที่ไม่ได้มีส่วนร่วมในความชั่ว"
  • คำกล่าวที่ปรากฏบ่อยอย่าง "เลือดของผู้บริสุทธิ์" สามารถแปลได้ว่า "คนที่ไม่ได้ทำอะไรผิดที่สมควรจะต้องถูกฆ่า"
  • คำกล่าว "ทำให้เลือดบริสุทธิ์หลั่งออกมา" อาจจะแปลได้ว่า "ฆ่าผู้บริสุทธิ์" หรือ "ฆ่าคนที่ไม่ได้ทำอะไรผิดที่จะต้องถูกฆ่า"
  • ในบริบทที่คนหนึ่งที่กำลังถูกฆ่า "บริสุทธิ์ในเรื่องความตายของ" สามารถแปลได้ว่า "ไม่ได้มีความผิดในการตายของ"
  • เมื่อพูดถึงคนที่ไม่ยอมรับข่าวประเสริฐเกี่ยวกับพระเยซู แต่ไม่ยอมรับนั้น "บริสุทธิ์ในเรื่องความตายของ" สามารถแปลได้ว่า "ไม่รับผิดชอบไม่ว่าพวกเขาจะตายในฝ่ายวิญญาณต่อไปหรือไม่" หรือ "ไม่รับผิดชอบไม่ว่าพวกเขาจะรับข่าวนี้หรือไม่"
  • เมื่อยูดาสได้พูดว่า "ข้าพเจ้าได้ทรยศโลหิตอันบริสุทธิ์" เขากำลังพูดว่า "ข้าพเจ้าได้ทรยศคนที่ไม่ได้ทำอะไรผิด" หรือ "ข้าพเจ้าได้เป็นสาเหตุแห่งการตายของคนที่ไม่มีบาป"
  • เมื่อปีลาตได้พูดเกี่ยวกับพระเยซูว่า "เราบริสุทธิ์ในโลหิตของคนบริสุทธิ์นี้" ประโยคนี้อาจจะแปลได้ว่า "เราไม่ขอรับผิดชอบต่อการประหารผู้ชายคนนี้ที่ไม่ได้ทำอะไรผิดจนต้องถูกประหาร"

แผ่นดินแห่งพระสัญญา

คำจำกัดความ

คำว่า "แผ่นดินแห่งพระสัญญา" มีอยู่ในเรื่องราวของพระคัมภีร์เท่านั้น ไม่ใช่ข้อความพระคัมภีร์ แต่เป็นทางเลือกหนึ่งที่อ้างถึงแผ่นดินคานาอันที่พระเจ้าได้ทรงสัญญาไว้ว่าจะประทานแก่อับราฮัมและลูกหลานของเขา

  • เมื่ออับราฮัมยังอยู่ที่เมืองเออร์ พระเจ้าได้ทรงบัญชาเขาให้ไปอยู่ในแผ่นดินคานาอัน เขาและลูกหลานของเขา ชาวอิสราเอล ได้อยู่ที่นั่นหลายปี
  • เมื่อเกิดการกันดารอาหารอย่างรุนแรงทำให้ที่นั่นไม่มีอาหารในคานาอัน ชาวอิสราเอลจึงได้ย้ายไปยังอียิปต์
  • สี่ร้อยปีต่อมา พระเจ้าได้ทรงช่วยกู้ชนชาติอิสราเอลจากการเป็นทาสในอียิปต์และได้นำพวกเขากลับมายังคานาอันแผ่นดินซึ่งพระเจ้าได้ทรงสัญญาจะประทานให้พวกเขาอีกครั้งหนึ่ง

คำแนะนำในการแปล

  • คำว่า "แผ่นดินแห่งพระสัญญา" สามารถแปลว่า "แผ่นดินที่พระเจ้าได้ตรัสว่าพระองค์จะประทานให้แก่อับราฮัม" หรือ "แผ่นดินที่พระเจ้าทรงสัญญาแก่อับราฮัม" หรือ "แผ่นดินพระเจ้าทรงสัญญากับพระชากรของพระองค์" หรือ "แผ่นดินคานาอัน"
  • ในพระคัมภีร์ คำนี้ปรากฏในรูปแบบของ "แผ่นดินที่พระเจ้าทรงสัญญาไว้"

ฝาแห่งการคืนดี

คำจำกัดความ

"ฝาแห่งการคืนดี" เป็นฝาที่ทำจากทองคำเพื่อใช้เป็นเป็นฝาปิดบนหีบพันธสัญญา ในภาษาอังกฤษหลายฉบับใช้คำเรียกว่า "แผ่นปิดแห่งการคืนดี"

  • ฝาแห่งการคืนดีมีความยาวประมาณ 115 เซนติเมตรและกว้างประมาณ 70 เซนติเมตร
  • บนฝาแห่งการคืนดีนั้นมีเครูบทองคำสองรูปที่มีปลายปีกมาบรรจบกัน
  • พระยาห์เวห์ได้ตรัสว่าพระองค์จะพบคนอิสราเอลเหนือฝาแห่งการคืนดี ภายใต้ปีกที่กางออกของเครูบ มีเพียงมหาปุโรหิตเท่านั้นที่จะได้รับอนุญาตให้กระทำการนี้ ในฐานะตัวแทนของประชาชน
  • บางครั้งฝาแห่งการคืนดีนี้ถูกเรียกว่า "พระที่นั่งกรุณา" เพราะว่าเป็นที่สื่อพระเมตตาของพระเจ้าในการเสด็จลงมาเพื่อไถ่มนุษย์คนบาป

ข้อแนะนำในการแปล

  • วิธีอื่นที่จะแปลคำนี้ก็อาจรวมถึงคำว่า "ฝาหีบที่พระเจ้าทรงสัญญาว่าจะไถ่บาป" หรือ "ที่พระเจ้าทรงคืนดี" หรือ "ฝาหีบที่พระเจ้าทรงให้อภัยและทรงรื้อฟื้นขึ้นใหม่"
  • หรืออาจมีความหมายว่า "สถานที่แห่งการปลอบโยน"
  • ให้เปรียบเทียบคำนี้กับคำที่ท่านใช้แปลคำว่า "การคืนดี" "การปลอบโยน" หรือ "การไถ่บาป"

พระคริสต์, พระเมสสิยาห์

คำจำกัดความ

คำว่า "พระเมสสิยาห์" และ "พระคริสต์" หมายถึง "ผู้ที่ได้รับการทรงเจิม" และกล่าวถึงพระเยซู พระบุตรของพระเจ้า

  • ทั้งคำว่า "พระเมสสิยาห์" และ "พระคริสต์" ใช้ในพันธสัญญาใหม่ที่กล่าวถึงพระบุตรของพระเจ้าผู้ที่พระเจ้าพระบิดาทรงแต่งตั้งเพื่อให้ครอบครองเป็นกษัตริย์เหนือประชากรของพระองค์และช่วยพวกเขาให้รอดจากความบาปและความตาย
  • ในพันธสัญญาเดิมผู้เผยพระวจนะได้เขียนคำเผยพระวจนะเกี่ยวกับพระเมสสิยาห์ไว้หลายร้อยปีก่อนที่พระองค์จะเสด็จเข้ามาในโลก
  • บ่อยครั้งที่ความหมายของคำว่า "(ผู้ที่)ได้รับการทรงเจิม" ได้ใช้ในพันธสัญญาเดิมในการกล่าวถึงพระเมสสิยาห์ผู้ที่จะเสด็จมา
  • พระเยซูทรงทำให้คำเผยพระวจนะเหล่านี้สำเร็จเป็นจริงและทำการอัศจรรย์มากมายที่เป็นการพิสูจน์ว่าพระองค์ทรงเป็นพระเมสสิยาห์ คำเผยพระวจนะที่เหลืออยู่เหล่านี้จะสำเร็จเมื่อพระองค์เสด็จกลับมา
  • คำว่า "พระคริสต์" มักจะใช้เรียกพระนาม อย่างเช่น "พระคริสต์" และ "พระเยซูคริสต์"
  • "พระคริสต์" ถูกนำมาใช้เป็นส่วนหนึ่งของพระนาม อย่างเช่น "พระเยซูคริสต์"

คำแนะนำในการแปล

  • คำนี้สามารถแปลได้โดยการใช้ความหมายของ "ผู้ทรงรับการเจิม" หรือ "พระผู้ช่วยให้รอดที่ได้รับการทรงเจิมของพระเจ้า"
  • หลายภาษาที่ใช้คำแปลที่ดูเหมือน หรือน่าจะเหมือน "พระคริสต์" หรือ "พระเมสสิยาห์"

พระคุณ, มีพระคุณ

คำจำกัดความ

คำว่า "พระคุณ" อ้างถึงการช่วยเหลือหรือคำอวยพรแก่ผู้ที่ยังไม่ได้รับ คำว่า "มีพระคุณ" จะอธิบายถึงคนที่แสดงพระคุณต่อผู้อื่น

  • พระคุณของพระเจ้าต่อมนุษย์ที่เต็มไปด้วยความบาปคือของขวัญที่ให้โดยหวังไม่หวังการตอบแทน
  • แนวคิดเรื่องพระคุณยังอ้างถึงการเป็นคนที่ใจดีและให้อภัยบางคนที่ทำผิดหรือทำสิ่งที่เจ็บปวดแก่ผู้อื่น
  • ตำกล่าว "แสวงหาพระคุณ" เป็นคำกล่าวที่หมายถึงได้รับความช่วยเหลือและความเมตตาจากพระเจ้า บ่อยครั้งรวมถึงพระเจ้าทรงพอพระทัยในบางคนและช่วยคนนั้น

คำแนะนำการแปล

  • อีกแนวทางในการแปล "พระคุณ" สามารถแปลได้อีกว่า "ความเมตตาของพระเจ้า" หรือ "เป็นที่ชอบใจของพระเจ้า" หรือ "ความเมตตาและการอภัยของพระเจ้าแก่คนบาป" หรือ "ความเมตตาคุณ"
  • คำว่า "มีพระคุณ" สามารถแปลว่า "เต็มไปด้วยพระคุณ" หรือ "กรุณา" หรือ "เมตตา" หรือ "เมตตากรุณา"
  • คำกล่าวว่า "เขาพบพระคุณในสายพระเนตรของพระเจ้า" สามารถแปลได้อีกว่า "เขาได้รับพระเมตตาจากพระเจ้า" หรือ "พระเจ้าทรงพระเมตตาช่วยเหลือเขา" หรือ "พระเจ้าทรงสำแดงความชอบใจแก่เขา" หรือ "พระเจ้าชอบใจเขาและช่วยเขา"

พระเจ้า

คำจำกัดความ

คำว่า "พระเจ้า" กล่าวถึงบรรดาสิ่งที่เกี่ยวกับพระเจ้า

  • บางคำใช้คำนี้ร่วมด้วย ได้แก่ "สิทธิอำนาจของพระเจ้า" "การพิพากษาของพระเจ้า" "พระลักษณะของพระเจ้า" "ฤทธิ์อำนาจของพระเจ้า" และ "พระสิริของพระเจ้า"
  • ในข้อความหนึ่งในพระคัมภีร์ คำว่า "พระเจ้า" ถูกใช้เพื่ออธิบายสิ่งที่เกี่ยวกับพระเทียมเท็จ

คำแนะนำในการแปล

  • วิธีการแปลคำว่า "พระเจ้า" อาจรวมถึง "ของพระเจ้า" หรือ "จากพระเจ้า" หรือ "เกี่ยวข้องกับพระเจ้า" หรือ "มีลักษณะของพระเจ้า"
  • ตัวอย่างเช่น "สิทธิอำนาจของพระเจ้า" อาจแปลว่า "อำนาจของพระเจ้า" หรือ "อำนาจที่มาจากพระเจ้า"
  • วลี "พระสิริของพระเจ้า" สามารถแปลเป็น "พระสิริของพระเจ้า" หรือ "พระสิริที่พระเจ้ามี" หรือ "พระสิริที่มาจากพระเจ้า"
  • การแปลบางฉบับอาจต้องการใช้คำอื่นในการอธิบายสิ่งที่เกี่ยวกับพระเทียมเท็จ

พระเจ้า

คำจำกัดความ

ในพระคัมภีร์คำว่า "พระเจ้า" อ้างถึงผู้ที่มีชีวิตนิรันดร์ ผู้ทรงสร้างจักรวาลจากความว่างเปล่า พระเจ้าทรงเป็นอยู่ในฐานะ พระบิดา พระบุตร พระวิญญาณบริสุทธิ์ พระนามของพระเจ้าคือ "พระยาห์เวห์"

  • พระเจ้าทรงเป็นอยู่เสมอ พระองค์อยู่ก่อนสิ่งอื่นใดจะเกิดขึ้น และพระองค์จะอยู่เสมอเป็นนิตย์
  • พระองค์ทรงเป็นพระเจ้าเที่ยงแท้เพียงผู้เดียวที่มีอำนาจเหนือทุกสิ่งในจักรวาล
  • พระเจ้าเที่ยงธรรมดีพร้อม สติปัญญาอนันต์ บริสุทธิ์ ไม่มีบาป ยุติธรรม เมตตาและมีความรัก
  • พระองค์เป็นพระเจ้าที่รักษาคำสัญญา และเติมเต็มคำสัญญาของพระองค์เสมอ
  • มนุษย์ถูกสร้างมาเพื่อนมัสการพระเจ้าและพระองค์เป็นผู้เดียวที่พวกเขาควรสรรเสริญ
  • พระเจ้าทรงเปิดเผยพระนามของพระองค์คือ "พระยาห์เวห์" หมายถึง" พระองค์เป็น" หรือ "เราเป็น" หรือ "ผู้ทรงเป็นอยู่เป็นนิตย์"
  • พระคัมภีร์ก็สอนถึง "พระ" เทียมเท็จด้วยซึ่งก็คือรูปเคารพที่ไม่มีชีวิตที่ผู้คนหลงไปนมัสการแบบผิดๆ

คำแนะนำการแปล

  • แนวทางในการแปลคำว่า "พระเจ้า" สามารถรวมทั้ง "เทพ" หรือ "พระผู้สร้าง" หรือ "ผู้เลอเลิศ"
  • อีกแนวทางในการแปลคำว่า "พระเจ้า" สามารถรวม "พระผู้สร้างเลอเลิศ" หรือ "องค์อธิปไตยนิรันดร์" หรือ "พระผู้ทรงดำรงอยู่และเลอเลิศ"
  • พิจารณาว่าพระเจ้าจะถูกอ้างถึงใช้ภาษาท้องถิ่นหรือระดับชาติอย่างไร นอกจากนี้อาจมีคำว่า "พระเจ้า" อยู่ในภาษาที่แปลแล้ว ถ้าเป็นเช่นนั้นสิ่งสำคัญคือต้องตรวจสอบให้แน่ใจว่าคำนี้ตรงกับลักษณะเฉพาะของพระเจ้าองค์เดียวอย่างที่อธิบายไว้ข้างต้น
  • หลายภาษาใช้อักษรตัวแรกเป็นตัวใหญ่เพื่อบ่งบอกถึงพระเจ้าผู้เที่ยงแท้แต่ผู้เดียว เพื่อแยกความแตกต่างจากคำพูดของพระเทียมเท็จหรือพระเจ้า
  • อีกวิธีหนึ่งที่จะทำให้เห็นความแตกต่างนี้คือการใช้คำที่แตกต่างคือคำว่า "พระเจ้า" และคำว่า "พระ"
  • วลี "เราจะเป็นพระเจ้าของพวกเขาและพวกเขาจะเป็นคนของเรา" แปลได้อีกว่า "เราคือพระเจ้าจะปกครองเหนือคนเหล่านี้และพวกเขาจะนมัสการเรา"

พระเจ้าพระบิดา, พระบิดาในสวรรค์, พระบิดา

คำจำกัดความ

คำว่า "พระเจ้าพระบิดา" และ "พระบิดาในสวรรค์" อ้างถึงพระยาห์เวห์ พระเจ้าผู้เที่ยงแท้แต่ผู้เดียว คำนี้บางครั้งก็เกิดขึ้นด้วยคำว่า "พระบิดา" โดยเฉพาะเวลาที่พระเยซูกำลังอ้างถึงพระองค์

  • พระเจ้าทรงเป็นอยู่ในฐานะพระเจ้าพระบิดา พระเจ้าพระบุตรและพระเจ้าพระวิญญาณบริสุทธิ์ แต่ละพระองค์ก็คือพระเจ้าอย่างสมบูรณ์และเป็นพระเจ้าองค์เดียวกัน นี่เป็นเรื่องลี้ลับที่มนุษย์ไม่สามารถเข้าใจได้
  • พระเจ้าพระบิดาได้ส่งพระเจ้าพระบุตร (พระเยซู) มาในโลกนี้และพระองค์ได้ส่งพระวิญญาณบริสุทธิ์มายังคนของพระองค์
  • ผู้ใดที่เชื่อในพระเจ้าพระบุตรจะได้เป็นบุตรของพระเจ้าพระบิดาและพระเจ้าพระวิญญาณบริสุทธิ์จะมาอยู่ในคนนั้น นี่ก็เป็นอีกเรื่องลี้ลับที่มนุษย์ไม่สามารถเข้าใจได้ทั้งหมด

คำแนะนำการแปล

  • ในวลีที่ว่า "พระเจ้าพระบิดา" จะดีที่สุดถ้าแปลเป็น "พระบิดา" ด้วยคำเดียวกันกับภาษาที่เป็นธรรมชาติที่ใช้เพื่ออ้างถึงพ่อในแบบมนุษย์
  • คำว่า "พระบิดาในสวรรค์" สามารถแปลได้อีกว่า "พระบิดาผู้ทรงสถิตในสวรรค์" หรือ "พระเจ้าพระบิดาผู้ทรงสถิตในสวรรค์" หรือ "พระเจ้าพระบิดาของเราผู้มาจากสวรรค์"
  • ปกติแล้ว "พระบิดา" จะใช้ตัวอักษรใหญ่เพื่อแสดงให้เห็นว่าอ้างถึงพระเจ้า

พระฉายาของพระเจ้า, ฉายา

คำจำกัดความ

คำว่า "ฉายา" อ้างถึงบางสิ่งที่ดูเหมือนสิ่งอื่นหรือเหมือนบางคนในบุคลิกลักษณะหรือสาระ วลีที่ว่า "พระฉายาของพระเจ้า" ถูกใช้ในหลายวิธี ขึ้นอยู่กับบริบท

  • เมื่อเดิมนั้น พระเจ้าทรงสร้างมนุษย์ "ตามพระฉายาของพระองค์" นั่นคือ "ให้เหมือนกับพระองค์" นี่หมายความว่าคนเรามีลักษณะพิเศษบางอย่างที่สะท้อนถึงพระฉายาของพระเจ้า เช่น ความสามารถในการรับรู้ถึงอารมณ์ต่างๆ ความสามารถในการให้เหตุผลและสื่อสาร และวิญญาณที่ดำรงอยู่ตลอดกาล
  • พระคัมภีร์สอนว่าพระเยซู พระบุตรของพระเจ้า คือ "พระฉายาของพระเจ้า" นั่นคือ พระองค์เองทรงเป็นพระเจ้า ไม่เหมือนกับมนุณษย์ พระเยซูไม่ได้ถูกเนรมิตขึ้นมา ตลอดนิรันดร์กาล พระเจ้าพระบุตรทรงมีพระลักษณะของพระเจ้าทั้งหมดเพราะว่าพระองค์ทรงมีสาระเดียวกันกับพระเจ้าพระบิดา

คำแนะนำในการแปล

  • เมื่ออ้างอิงถึงพระเยซู "พระฉายาของพระเจ้า" สามารถแปลได้ว่า "ความเหมือนกับพระเจ้าทุกประการ" หรือ "สาระเดียวกันกับพระเจ้า" หรือ "การดำรงอยู่เช่นเดียวกันกับพระเจ้า"
  • เมื่ออ้างอิงถึงมนุษย์ "พระเจ้าทรงสร้างพวกเขาตามพระฉายาของพระองค์" สามารถแปลได้ด้วยวลีที่หมายความว่า "พระเจ้าทรงสร้างพวกเขาให้เหมือนกับพระองค์" หรือ "พระเจ้าทรงสร้างพวกเขาให้มีบุคลิกลักษณะเหมือนพระองค์เอง"

พระเทียมเท็จ, พระเทียมเท็จต่างชาติ, เทพ, เทพธิดา

คำจำกัดความ

พระเทียมเท็จคือบางสิ่งที่ผู้คนนมัสการแทนพระเจ้าผู้แท้จริง คำว่า "เทพี" กล่าวถึงโดยเฉพาะอย่างยิ่งพระเทียมเท็จที่เป็นผู้หญิง

  • พระเทียมเท็จเหล่านี้ หรือเทพีไม่มีอยู่จริง พระยาเวห์คือพระเจ้าแต่เพียงองค์เดียว
  • บางครั้งผู้คนสร้างรูปเคารพจากวัตถุเพื่อนมัสการเสมือนสิ่งนั้นเป็นสัญลักษณ์พระเทียมเท็จของพวกเขา
  • ในพระคัมภีร์ ประชากรของพระเจ้ามักจะหันไปจากการเชื่อฟังพระองค์เพื่อไปนมัสการพระเทียมเท็จอื่นๆ
  • บ่อยครั้งปีศาจจะหลอกลวงผู้คนให้มาศรัทธาว่าพระเทียมเท็จและรูปเคารพต่าง ๆ ที่พวกเขานมัสการนั้นมีพลังอำนาจ
  • พระบาอัล พระดาโกน และพระโมเลค คือพระสามองค์ในบรรดาพระเทียมเท็จทั้งหลายที่ผู้คนได้นมัสการในช่วงเวลาของพระคัมภีร์
  • พระอาเช-ราห์และอารเทมีส (ไดน่า) คือเทพีสององค์ที่ผู้คนในยุคโบราณได้นมมัสการ

คำแนะนำการแปล

  • อาจจะมีคำสำหรับคำว่า "พระ" หรือ "พระเทียมเท็จ" อยู่แล้วในภาษาที่จะแปล หรือภาษาที่ใกล้เคียง
  • คำว่า"รูปเคารพ" อาจใช้เพื่อกล่าวถึงพระเทียมเท็จได้
  • ในภาษาอังกฤษ ตัวอักษรพิมพ์เล็ก "g" ใช้เพื่อกล่าวถึงพระเทียมเท็จ และตัวอักษรพิมพ์ใหญ่ "G" ใช้เพื่อกล่าวถึงพระเจ้าเที่ยงแท้แต่องค์เดียว ภาษาอื่นๆ ก็เป็นเช่นนั้น
  • อีกตัวเลือกก็คือการใช้คำที่แตกต่างกันโดยสิ้นเชิงเพื่อกล่าวถึงพระเทียมเท็จ
  • บางภาษาอาจจะเพิ่มคำเฉพาะบางคำอาจจะเป็นพระเทียมเท็จที่บรรยายเป็นชาย หรือหญิง

พระบุตรของพระเจ้า, พระบุตร, บุตร

คำจำกัดความ

คำว่า "พระบุตรของพระเจ้า" อ้างถึงพระเยซู พระวาทะของพระเจ้าได้เข้ามายังในโลกในฐานะมนุษย์ บ่อยครั้งพระองค์ยังถูกอ้างอิงให้เป็น "พระบุตร"

  • พระบุตรของพระเจ้ามีพระลักษณะเช่นเดียวกับพระเจ้าพระบิดาและเป็นพระเจ้าอย่างครบบริบูรณ์
  • พระเจ้าพระบิดา พระเจ้าพระบุตร พระวิญญาณบริสุทธิ์ทรงเป็นองค์เดียวกัน
  • ไม่เหมือนกับบุตรชายของมนุษย์ พระบุตรพระเจ้านั้นทรงดำรงอยู่เป็นนิตย์
  • เมื่อเดิมนั้นพระบุตรของพระเจ้า ทรงเนรมิตสร้างโลกร่วมกับพระบิดาและพระวิญญาณบริสุทธิ์
  • เพราะว่าพระเยซูทรงเป็นพระบุตรของพระเจ้า พระองค์ทรงรักและเชื่อฟังพระบิดาของพระองค์และพระบิดาของพระองค์ทรงรักพระองค์

คำแนะนำในการแปล

  • คำว่า "พระบุตรของพระเจ้า" เป็นการดีที่สุดให้แปล "พระบุตร" ด้วยคำที่เหมือนกันภาษาควรใช้ให้เป็นธรรมชาติเพื่ออ้างถึงบุตรมนุษย์
  • ให้แน่ใจว่าคำที่ใช้แปลคำว่า "บุตร" เหมาะสมกับคำที่ใช้แปลคำว่า "บิดา" และคำเหล่านี้เป็นคำที่เป็นธรรมชาติที่ใช้แสดงถึงความสัมพันธ์ระหว่างบิดากับบุตรในภาษาที่แปล
  • ให้ใช้อักษรตัวใหญ่เป็นตัวอักษรเริ่มต้นคำว่า "พระบุตร" จะช่วยแสดงว่านี่เป็นการพูดถึงพระเจ้า
  • วลี "พระบุตร" เป็นรูปแบบที่ทำให้สั้นลงของคำว่า "พระบุตรของพระเจ้า" เฉพาะอย่างยิ่งเมื่อใช้ในบริบทเดียวกับคำว่า "พระบิดา"

พระประสงค์ของพระเจ้า

คำจำกัดความ

"พระประสงค์ของพระเจ้า" อ้างถึงความต้องการและแผนการของพระเจ้า

  • พระประสงค์ของพระเจ้า เฉพาะอย่างยิ่งเกี่ยวข้องกับการปฏิสัมพันธ์กับคนและการที่พระองค์ต้องการให้คนตอบสนองต่อพระองค์อย่างไร
  • ยังอ้างถึงแผนการต่างๆ หรือพระประสงค์ต่างๆ ของพระองค์สำหรับสิ่งอื่นๆ ในการทรงสร้างของพระองค์
  • คำว่า "ประสงค์" หมายถึง "มุ่งมั่น" หรือ "ต้องการ"

คำแนะนำในการแปล

  • "พระประสงค์ของพระเจ้า" อาจแปลว่า "สิ่งที่พระเจ้าทรงต้องการ" หรือ "สิ่งที่พระเจ้าได้ทรงวางแผนไว้" หรือ "วัตถุประสงค์ของพระเจ้า" หรือ "สิ่งที่พระเจ้าทรงพอพระทัย"

พระผู้ช่วยให้รอด

คำจำกัดความ

คำว่า "พระผู้ช่วยให้รอด" อ้างถึงบุคคลผู้ที่ช่วยให้รอดหรือช่วยกู้ผู้อื่นจากอันตราย และยังสามารถอ้างถึงบางคนที่ให้กำลังแก่ผู้อื่นหรือจัดเตรียมสำหรับพวกเขา

  • ในพันธสัญญาเดิม พระเจ้าถูกอ้างถึงว่าเป็นพระผู้ช่วยให้รอดของชนชาติอิสราเอลเพราะพระองค์ทรงช่วยกู้ชนชาติอิสราเอลให้พ้นจากศัตรูของพวกเขา และประทานกำลังให้พวกเขา และจัดเตรียมสิ่งที่พวกเขาต้องการในการดำเนินชีวิต
  • ในพันธสัญญาใหม่ คำว่า"พระผู้ช่วยให้รอด"ได้ใช้อธิบายหรือใช้เรียกตำแหน่งของพระเยซูคริสต์ เพราะว่าพระองค์ได้ทรงช่วยประชาชนจากการถูกลงโทษชั่วนิรันดร์เพราะบาปของพวกเขา พระองค์ยังช่วยกู้พวกเขาให้พ้นจากการถูกควบคุมโดยบาปของพวกเขา

คำอธิบายในการแปล

  • ถ้าเป็นไปได้ "พระผู้ช่วยให้รอด" ควรแปลด้วยคำที่เกี่ยวข้องกับคำว่า "ช่วยเหลือ" และ "ช่วยให้รอด"
  • วิธีที่แปลคำนี้สามารถรวม "ผู้ที่ช่วย" หรือ "พระเจ้าผู้ทรงช่วย" หรือ "ผู้ได้ช่วยให้พ้นจากอันตราย" หรือ "ผู้ที่ช่วยเหลือจากข้าศึก" หรือ "พระเยซูผู้นั้นที่ได้ช่วยกู้"

พระยาห์เวห์

คำจำกัดความ

คำว่า "พระยาห์เวห์" เป็นชื่อส่วนตัวของพระเจ้าซึ่งพระองค์ทรงสำแดงแก่โมเสสที่พุ่มไม้ที่กำลังลุกไหม้

  • ชื่อ "พระยาห์เวห์" มาจากคำที่หมายถึง "เป็นอยู่" หรือ "ดำรงอยู่"
  • ความหมายที่เป็นไปได้ของ "พระยาห์เวห์" รวมทั้ง "พระองค์เป็น" หรือ "เราเป็น" หรือ "ผู้ที่ทำให้เกิด"
  • ชื่อนี้เผยให้เห็นว่าพระเจ้าทรงสถิตอยู่เสมอและจะยังดำรงอยู่ต่อไปเป็นนิจ ยังมีหมายความว่า พระองค์ดำรงอยู่เสมอ
  • ตามธรรมเนียมปฎิบัติ พระคัมภีร์หลายคำแปลใช้คำศัพท์ "องค์พระผู้เป็นเจ้า" หรือ "พระผู้เป็นเจ้า" แทนที่ "พระยาห์เวห์" ธรรมเนียมหฎิบัตินี้เป็นผลจากข้อเท็จจริงทางประวัติศาสตร์ คนยิวกลัวการออกพระนามของพระยาห์เวห์ และเลี่ยงไปใช้คำว่า "องค์พระผู้เป็นเจ้า" ทุกครั้งที่เห็นคำว่า "พระยาห์เวห์" ปรากฏ ในพระคัมภีร์สมัยใหม่เขียน "องค์พระผู้เป็นเจ้า" ด้วยตัวพิมพ์ใหญ่เพื่อแสดงความเคารพในพระนามของพระองค์เพื่อให้แตกต่างจาก "พระเจ้า" ซึ่งเป็นภาษาฮีบรูคำอื่น
  • พระคัมภีร์ ULB และ UDB มักแปลคำนี้ว่า "พระยาห์เวห์" ตามที่ปรากฏในข้อความภาษาฮีบรูในพันธสัญญาเดิม
  • ตำว่า "พระยาห์เวห์" ไม่มีปรากฏเลยเลยในต้นฉบับของพระคัมภีร์พันธสัญญาใหม่ ใช้เพียงคำภาษากรีกว่า "พระผู้เป็นเจ้า " แม้แต่ในการอ้างอิงพระคัมภีร์ภาคพันธสัญญาเดิม

คำแนะนำในการแปล

  • "พระยาห์เวห์" สามารถแปลโดยคำหรือวลีที่แปลว่า "เราเป็น" หรือ "เราดำรงอยู่" หรือ "เราผู้ที่เป็น" หรือ "พระองค์ผู้ทรงพระชนม์อยู่"
  • คำนี้อาจเขียนในลักษณะที่คล้ายคลึงกับคำสะกด "พระยาห์เวห์"
  • คริสตจักรบางคณะนิกายไม่ชอบที่จะให้คำ "พระยาห์เวห์" และใช้คำตามธรรมเนียม "องค์พระผู้เป็นเจ้า" การพิจารณาที่สำคัญคือนี่อาจทำให้สับสนเมื่ออ่านออกเสียง เพราะมันจะออกเสียงเช่นเดียวกับคำว่า "พระผู้เป็นเจ้า" ในบางภาษาอาจมีคำนำหน้าหรือหมายเหตุทางไวยากรณ์ที่เพิ่มเข้ามาให้เป็นความแตกต่าง ของคำว่า "องค์พระผู้เป็นเจ้า"

พระยาห์เวห์จอมเจ้าทั้งมวล, พระเจ้าจอมเจ้าทั้งมวล, จอมเจ้า

คำจำกัดความ

คำว่า "พระยาห์เวห์จอมเจ้า" และ "พระเจ้าจอมเจ้าทั้งมวล" เป็นตำแหน่งที่แสดงถึงอำนาจสิทธิ์ขาดของพระเจ้าเหนือบรรดาทูตสวรรค์นับหลายพันที่เชื่อฟังพระองค์

  • คำว่า "จอมเจ้า" หรือ "จอมเจ้าทั้งมวล" เป็นคำที่หมายถึงสิ่งต่างๆ จำนวนมาก เช่นกองทัพของคนหรือจำนวนดาวจำนวนมหาศาล นี่สามารถอ้างอิงถึงดวงวิญญาณต่างๆ จำนวนมาก รวมทั้งวิญญาณชั่วทั้งหลาย บริบทนี้ทำให้ชัดเจนว่ากำลังอ้างถึงอะไร
  • วลีที่คล้ายคลึงกับ "จอมเจ้าแห่งสวรรค์" อ้างถึงดาวทั้งหมด ดาวเคราะห์และสิ่งต่างๆ แห่งสวรรค์
  • ในพันธสัญญาใหม่ วลี "องค์พระผู้เป็นเจ้าของจอมเจ้า" มีความหมายเช่นเดียวกับ "พระยาห์เวห์จอมเจ้าทั้งมวล" แต่นี่ไม่สามารถแปลเช่นนั้นได้ เพราะภาษาฮีบรู "พระยาห์เวห์" ไม่ได้ใช้ในพันธสัญญาใหม่

คำแนะนำในการแปล

  • วิธีการแปลชื่อตำแหน่ง "พระยาห์เวห์จอมเจ้าทั้งมวล" สามารถรวมเอา "พระยาห์เวห์ ผู้ทรงปกครองทูตสวรรค์ทั้งปวง" หรือ "พระยาห์เวห์ผู้ทรงปกครองเหนือกองทัพของทูตสวรรค์" หรือพระยาห์เวห์ ผู้ทรงปกครองเหนือการทรงสร้าง"
  • วลี "จอมเจ้าทั้งมวล" ในคำศัพท์ "พระเจ้าจอมเจ้าทั้งมวล" และ "องค์พระผู้เป็นเจ้าจอมเจ้าทั้งมวล" จะแปลเหมือนกันในวลี "พระยาห์เวห์จอมเจ้าทั้งมวล" ตามข้างต้น
  • คริสตจักรหลายแห่งไม่ยอมรับคำว่า "พระยาห์เวห์" และชอบที่จะใช้คำศัพท์ตัวอักษรใหญ่ "องค์พระผู้เป็นเจ้า" แทน ตามธรรมเนียมของพระคัมภีร์หลายๆ สำนวน สำหรับคริสตจักรเหล่านี้ การแปลคำว่า "องค์พระผู้เป็นเจ้าจอมเจ้าทั้งมวล" จะใช้พระคัมภีร์ภาคพันธสัญญาเดิม สำหรับ "พระยาห์เวห์จอมเจ้าทั้งมวล"

พระเยซู, พระเยซูคริสต์, พระคริสต์เยซู

คำจำกัดความ

พระเยซูทรงเป็นพระบุตรของพระเจ้า พระนาม "เยซู" หมายถึง "พระยาห์เวห์ทรงช่วยให้รอด" คำว่า "พระคริสต์" เป็นตำแหน่งที่หมายถึง "ผู้ได้รับการเจิม" และเป็นอีกคำหนึ่งที่แปลว่าพระเมสสิยาห์

  • ทั้งสองชื่อมักจะรวมกันเป็น "พระเยซูคริสต์" หรือ "พระคริสต์เยซู" พระนามเหล่านี้เน้นว่าพระบุตรของพระเจ้าคือพระเมสสิยาห์ผู้เสด็จมาช่วยผู้คนจากการถูกลงโทษนิรันดร์สำหรับความบาปของพวกเขา
  • ในทางการอัศจรรย์ พระวิญญาณบริสุทธิ์ได้ทรงทำให้พระบุตรนิรันดร์ของพระเจ้าลงมาบังเกิดเป็นเช่นมนุษย์ บิดามารดาบนโลกได้รับการบอกกล่าวจากทูตสวรรค์ให้เรียกพระองค์ว่า "พระเยซู" เพราะพระองค์ได้ทรงถูกกำหนดให้มาช่วยผู้คนจากความบาปของพวกเขา
  • พระเยซูทรงกระทำการอัศจรรย์หลายอย่างที่แสดงว่าพระองค์ทรงเป็นพระเจ้าและพระองค์ทรงเป็นพระคริสต์หรือพระเมสสิยาห์

ตำแนะนำในการแปล

  • หลายภาษาสะกด "พระเยซู" และ "พระคริสต์" ในวิธีที่รักษาการออกเสียงหรือตัวสะกดไว้ให้เหมือนกับภาษาต้นฉบับมากที่สุดเท่าที่จะทำได้ ยกตัวอย่างเช่น "เจสูคริสโต" เจซูส คริสตุส" "เยซุส คริสตุส" และ "เฮสูคริสโต" นี่เป็นบางวิธีที่พระนามเหล่านี้ได้รับการแปลให้เป็นภาษาต่างๆ
  • สำหรับคำว่า "พระคริสต์" บางภาษาอาจต้องการใช้รูปแบบของคำว่า "พระเมสสิยาห์" ตลอดทั้งฉบับ
  • ให้พิจารณาถึงวิธีการสะกดพระนามเหล่านี้ในภาษาท้องถิ่นหรือประจำชาติด้วย

พระวาทะของพระเจ้า, พระวาทะของพระยาห์เวห์, พระวาทะขององค์พระผู้เป็นเจ้า, พระคัมภีร์

คำจำกัดความ

ในพระคัมภีร์คำว่า "พระวาทะของพระเจ้า" อ้างถึงสิ่งที่พระเจ้าทรงสื่อสารต่อประชาชน นี่รวมถึงข้อความที่พูดและเขียน พระเยซูทรงถูกเรียกว่า "พระวาทะของพระเจ้า" ด้วย

  • คำว่า "พระคัมภีร์" หมายถึง "งานเขียน" ใช้เฉพาะในพันธสัญญาใหม่และหมายถึงพระคัมภีร์ภาษาฮีบรู หรือ "พันธสัญญาเดิม" งานเขียนเหล่านี้เป็นข้อความของพระเจ้าที่พระองค์ทรงบอกให้คนเขียนลงไป ดังนั้นหลายปีในอนาคตประชาชนก็ยังสามารถอ่านได้
  • คำที่เกี่ยวข้องกัน "พระวาทะของพระยาห์เวห์" และ "พระวาทะของพระเจ้า" บ่อยครั้งมักอ้างถึงข้อความเฉพาะจากพระเจ้าที่ประทานแก่ผู้เผยพระวจนะหรือบุคคลอื่นในพระคัมภีร์
  • บางครั้งคำนี้เกิดขึ้นง่ายๆ "วาทะ" หรือ "วาทะของเรา" หรือ "พระวาทะของพระองค์" (เมื่อพูดถึงพระคำของพระเจ้า)
  • ในพันธสัญญาใหม่พระเยซูทรงถูกเรียกว่าเป็น "พระวาทะ" และ "พระวาทะของพระเจ้า" ชื่อเหล่านี้หมายความว่าพระเยซูทรงเปิดเผยว่าพระเจ้าเป็นผู้ใด เพราะพระองค์ทรงเป็นพระเจ้าเอง

คำแนะนำในการแปล

  • ขึ้นอยู่กับบริบท วิธีอื่นในการแปลคำนี้สามารถรวมถึง "ข้อความของพระยาห์เวห์" หรือ "ข้อความของพระเจ้า" หรือ "คำสอนจากพระเจ้า"
  • ในบางภาษาอาจมีความเป็นธรรมชาติมากกว่าที่จะทำให้คำนี้เป็นพหูพจน์และพูดว่า "เหล่าพระคำของพระเจ้า" หรือ "มวลถ้อยคำของพระยาห์เวห์"
  • คำกล่าวที่ว่า "พระวาทะของพระยาห์เวห์มาถึง" มักใช้เพื่อแนะนำสิ่งที่พระเจ้าตรัสกับผู้เผยพระวจนะหรือประชาชนของพระองค์ นี่อาจแปลได้ว่า "พระยาห์เวห์ได้ตรัสข้อความนี้" หรือ "พระยาห์เวห์ตรัสคำเหล่านี้"
  • คำว่า "พระคัมภีร์" หรือ "พระคัมภีร์ทั้งหลาย" สามารถแปลว่า "งานเขียน" หรือ "ข้อความที่ได้การบันทึกจากพระเจ้า" คำนี้ควรได้รับการแปลแตกต่างจากคำแปลของคำว่า "พระวาทะ"
  • เมื่อ "พระวาทะ" ปรากฎขึ้นเพียงอย่างเดียวอาจแปลว่า "ข้อความ" หรือ "พระวาทะของพระเจ้า" หรือ "คำสอน" ขึ้นอยู่กับบริบท ลองพิจารณาคำแปลอื่นที่แนะนำไว้ด้านบน

พระวิญญาณบริสุทธิ์, พระวิญญาณของพระเจ้า, พระวิญญาณขององค์พระผู้เป็นเจ้า

คำจำกัดความ

คำเหล่านี้ล้วนหมายถึงพระวิญญาณบริสุทธิ์ผู้ซึ่งเป็นพระเจ้า พระเจ้าเที่ยงแท้เพียงองค์เดียวทรงเป็นอยู่ตลอดกาลในฐานะพระบิดา พระบุตร และพระวิญญาณบริสุทธิ์

  • พระวิญญาณบริสุทธิ์ยังมีการอ้างถึงว่าเป็น "พระวิญญาณ" และ "พระวิญญาณแห่งพระยาห์เวห์" และ "พระวิญญาณแห่งความจริง"
  • เพราะพระวิญญาณบริสุทธิ์คือพระเจ้า พระองค์จึงทรงบริสุทธิ์อย่างแท้จริง ไร้มลทินอย่างยิ่ง และสมบูรณ์แบบในทางศีลธรรมในพระลักษณะโดยธรรมชาติทั้งหมดของพระองค์และทุกสิ่งที่พระองค์ทรงกระทำ
  • ร่วมกับพระบิดา และพระบุตร พระวิญญาณบริสุทธิ์ทรงเนรมิตสร้างโลก
  • เมื่อพระบุตรของพระเจ้า พระเยซูเสด็จกลับสู่สวรรค์ พระเจ้าทรงส่งพระวิญญาณบริสุทธิ์มายังคนของพระองค์เพื่อจะนำพวกเขา สอนพวกเขา ปลอบโยนพวกเขา และช่วยให้พวกเขาทำตามน้ำพระทัยของพระเจ้าได้
  • พระวิญญาณบริสุทธิ์ทรงนำพระเยซูและพระองค์ทรงนำคนเหล่านั้นที่เชื่อในพระเยซู

คำแนะนำในการแปล

  • คำนี้สามารถแปลได้ง่ายๆ ด้วยคำที่ใช้ในการแปล "บริสุทธิ์" และ "พระวิญญาณ"
  • วิธีการที่จะแปลคำนี้อาจรวมถึง "พระวิญญาณบริสุทธิ์" หรือ "พระวิญญาณที่ทรงบริสุทธิ์" หรือ "พระเจ้าพระวิญญาณ"

พระวิหาร

คำจำกัดความ

วิหารเป็นอาคารที่ล้อมรอบด้วยลานที่มีกำแพงล้อมรอบที่ชาวอิสราเอลได้มาอธิษฐานและถวายเครื่องบูชาให้แด่พระเจ้า ตัววิหารตั้งอยู่ที่ภูเขาโมริอาห์ในกรุงเยรูซาเล็ม

  • บ่อยครั้งคำว่า"พระวิหาร" อ้างถึงส่วนประกอบของวิหารทั้งหมดที่รวมถึงลานวิหารที่ล้อมรอบอาคารหลัก บางครั้งก็อ้างถึงอาคารเท่านั้น
  • อาคารพระวิหารมีอยู่สองห้อง คือห้องวิสุทธิสถานและห้องอภิสุทธิสถาน
  • พระเจ้าได้อ้างอิงพระวิหารว่าเป็นที่ประทับของพระองค์
  • ในรัชสมัยของกษัตริย์ซาโลมอน พระองค์ได้ทรงสร้างพระวิหาร ซึ่งเป็นสถานที่ถาวรสำหรับการนมัสการในกรุงเยรูซาเล็ม
  • ในพันธสัญญาใหม่คำว่า"พระวิหารของพระวิญญาณบริสุทธิ์" ก็ใช้อ้างอิงถึงเหล่าผู้เชื่อในพระเยซูคริสต์ เพราะพระวิญญาณบริสุทธิ์สถิตอยู่ในพวกเขา

คำแนะนำในการแปล

  • โดยปกติเมื่อพระคัมภีร์กล่าวว่าประชาชน "อยู่ในพระวิหาร" นี่อ้างถึงบริเวณพระวิหารนอกอาคาร นี่สามารถแปลว่า "ในลานพระวิหาร" หรือ "ในส่วนประกอบของพระวิหาร"
  • เมื่ออ้างถึงตัวอาคาร คำแปลบางคำแปลจะแปลว่า "พระวิหาร" เป็นอาคารพระวิหาร" เพื่อทำให้ชัดเจนว่ากำลังอ้างถึงอะไร
  • วิธีแปล "พระวิหาร" สามารถรวม "บ้านบริสุทธิ์ของพระเจ้า" หรือ "สถานนมัสการศักดิ์สิทธิ์"
  • บ่อยครั้งในพระคัมภีร์ พระวิหารอ้างถึงว่าเป็น "บ้านของพระยาห์เวห์" หรือ "บ้านของพระเจ้า"

พระสิริ, สง่าราศี

คำจำกัดความ

่้ทั่วไปแล้วคำว่า "พระสิริ" หมายถึงเกียรติ ความสง่างามและความยิ่งใหญ่ที่สุด สิ่งใดก็ตามที่มีพระสิริก็คือการมี "สง่าราศี"

  • บางครั้ง "พระสิริ" อ้างถึงบางสิ่งที่มีคุณค่ายิ่งใหญ่และสำคัญ ในบริบทอื่นคือการสื่อสารถึงความสง่างาม ความสว่าง และการพิพากษา
  • ตัวอย่างเช่น ประโยคที่ว่า "เกียรติของคนเลี้ยงแกะ" หมายถึงทุ่งหญ้าเขียวชอุ่มที่แกะของเขาได้มีกินอย่างสมบูรณ์
  • พระสิริโดยเฉพาะแล้วจะใช้เพื่ออธิบายถึงพระเจ้า ผู้ที่ทรงมีสง่าราศีมากยิ่งกว่าผู้ใดหรือสิ่งใดในจักรวาลนี้ ทุกสิ่งในพระลักษณะของพระองค์เปิดเผยพระสิริและสง่าราศีของพระองค์
  • คำกล่าว "ถวายพระสิริใน" หมายถึงการโอ้อวดในสิ่งนั้นหรือการภาคภูมิใจในบางสิ่ง

คำแนะนำการแปล

  • ขึ้นอยู่กับบริบท ;bTuที่แตกต่างในการแปล "พระสิริ" สามารถรวมทั้ง "สง่าราศี" หรือ "ความสว่าง" หรือ "โอ่อ่าตระการ" หรือ "ยิ่งใหญ่" หรือ "มีคุณค่ายิ่ง"
  • คำว่า "สง่าราศี" สามารถแปล "เต็มด้วยพระสิริ" หรือ "มีค่ายิ่งนัก" หรือ "สว่างไสว" หรือ "ยอดเยี่ยมโอ่อ่า"
  • คำกล่าวที่ว่า "ถวายพระสิริแด่พระเจ้า" สามารถแปลได้ว่า "ถวายเกียรติแด่ความยิ่งใหญ่ของพระเจ้า" หรือ "สรรเสริญพระเจ้าเพราะความโอ่อ่าตระการของพระองค์" หรือ "บอกคนอื่นถึงความยิ่งใหญ่ของพระองค์"

คำกล่าว "พระสิริใน" สามารถแปลว่า "สรรเสริญ" หรือ "ภูมิใจใน" หรือ "โอ้อวดเรื่อง" หรือ "ชื่นชมใน"


พลับพลา

คำจำกัดความ

พลับพลาเป็นโครงสร้างที่เหมือนเต็นท์พิเศษที่ชาวอิสราเอลได้มนัสการพระเจ้าในช่วงเวลา 40 ปีที่พวกเขาได้เดินทางในทะเลทราย

  • พระเจ้าได้ประทานรายละเอียดข้อปฏิบัติต่างๆในการสร้างเต้นท์ใหญ่นี้ ซึ่งมีสองห้องและถูกล้อมด้วยลานล้อมรอบ
  • ทุกครั้งที่ชาวอิสราเอลย้ายไปอยู่ต่างสถานที่ในทะเลทรายเพื่ออาศัยอยู่ที่นั่นอยู่พวกปุโรหิตจะแยกพลับพลาออกและนำไปที่ที่ตั้งแคมป์ถัดไป จากนั้นพวกเขาก็ตั้งพลับพลาขึ้นใหม่อีกครั้งที่ตรงกลางค่ายใหม่
  • พลับพลานั้นสร้างขึ้นด้วยโครงไม้และขึงกับผ้าม่านที่ทำด้วยผ้า ขนแพะ และหนังสัตว์ต่างๆ บริเวณลานรอบพลับพลาปิดด้วยม่าน
  • พลับพลามีสองส่วนคือ ส่วนที่เป็นสถานที่บริสุทธิ์ (ที่แท่นบูชาเผ่าเครื่องบูชาตั้งอยู่) และห้องอภิสุทธิสถาน(ที่ซึ่งหีบพันธสัญญาถูกเก็บไว้)
  • ลานของพลับพลามีแท่นบูชาสำหรับเผาบูชาสัตว์และอ่างล้างมือพิเศษสำหรับชำระในพิธีกรรม
  • คนอิสราเอลได้หยุดใช้พลับพลาเมื่อพระวิหารของซาดลมอนในกรุงเยรูซาเล็มสร้างเสร็จ

คำแนะนำในการแปล

  • คำว่า "พลับพลา" มีความหมายว่า "สถาที่อาศัย" อีกวิธีที่แปลสามารถรวมเรา "เต็นท์ศักดิ์สิทธิ์" หรือ "เต็นท์ที่พระเจ้าประทับ" หรือ "เต็นท์ของพระเจ้า"
  • ให้แน่ใจว่าการแปลคำนี้นั้นแตกต่างจากการแปลคำว่า "พระวิหาร"

พวกเด็ก, เด็ก, บุตร

คำจำกัดความ

ในพระคัมภีร์ คำว่า "เด็ก" มักจะใช้โดยทั่วไปที่กล่าวถึงคนที่อยู่ในวัยเด็ก รวมถึงทารกด้วย คำว่า "พวกเด็ก" เป็นรูปพหูพจน์ และยังใช้เป็นคำเปรียบเทียบด้วย

  • ในพระคัมภีร์ พวกสาวก หรือพวกคนที่ติดตาม บางครั้งก็ถูกเรียกว่า "พวกเด็ก"
  • คำว่า "พวกเด็ก" มักจะใช้หมายถึงเชื้อสายของบุคคล
  • วลี "พวกเด็กของ" สามารถใช้ในความหมายของการเป็นบอกลักษณะของบางสิ่ง มีตัวอย่างของคำนี้อยู่บ้าง เช่น
  • พวกบุตรของความสว่าง
  • พวกบุตรแห่งการเชื่อฟัง
  • พวกบุตรของมาร
  • คำนี้สามารถกล่าวถึงคนที่เป็นเหมือนพวกบุตรฝ่ายวิญญาณก็ได้ ตัวอย่างเช่น "พวกบุตรของพระเจ้า" ซึ่งกล่าวถึงคนที่เป็นของพระเจ้าโดยทางความเชื่อในพระเยซู

คำแนะนำในการแปล

  • คำว่า "พวกบุตร" สามารถแปลได้ว่า "พวกเชื้อสาย" เมื่อคำนี้กล่าวถึงคนที่เป็นเหลน หรือโหลนเป็นต้น
  • "พวกบุตรของ" สามารถแปลได้ว่า คนที่มีลักษณะของ" หรือ "คนที่ประพฤติเหมือนกับ" ขึ้นอยู่กับบริบท
  • ถ้าเป็นไปได้ วลี "พวกบุตรของพระเจ้า" ควรจะแปลตามตัวอักษร เนื่องจากความหมายที่สำคัญตามพระคัมภีร์ คือพระเจ้าทรงเป็นพระบิดาแห่งสวรรค์ของเรา การแปลที่เลือกมาใช้ได้อาจจะเป็น "คนที่เป็นของพระเจ้า" หรือ "พวกบุตรฝ่ายวิญญาณของพระเจ้า"
  • เมื่อพระเยซูทรงเรียกพวกสาวกของพระองค์ว่า "พวกบุตร" คำนี้ควรจะแปลว่า "พวกเพื่อนที่รัก" หรือ "พวกสาวกอันเป็นที่รักของเรา"
  • เมื่อเปาโล และยอห์นกล่าวถึงผู้ศรัทธาในพระเยซูว่า "พวกบุตร" คำนี้สามารถแปลได้ว่า "พวกเพื่อนผู้ศรัทธาที่รัก" ก็ได้
  • วลี "พวกบุตรแห่งพระสัญญา" สามารถแปลได้ว่า "คนที่รับสิ่งที่พระเจ้าได้ทรงสัญญากับพวกเขา"

พวกสิบสองคน, พวกสิบเอ็ดคน

คำจำกัดความ

คำว่า "พวกสิบสองคน" อ้างถึงผู้ชายสิบสองคนที่พระเยซูได้ทรงเลือกให้เป็นสาวกที่ใกล้ชิดที่สุดของพระองค์ หรืออัครทูต หลังจากที่ยูดาสได้ฆ่าตัวตายพวกเขาก็ถูกเรียกว่า "พวกสิบเอ็ดคน"

  • พระเยซูทรงมีสาวกอื่นอีกหลายคน แต่ตำแหน่ง "พวกสิบสองคน" ได้แสดงความแตกต่างแก่บรรดาผู้ที่ติดตามพระองค์ตลอดสามปีของพันธกิจ
  • ชื่อของเหล่าสาวกสิบสองคนนี้แสดงไว้ในมัทธิว 10, มารโก 3 และลูกา 6
  • บางครั้งหลังจากที่พระเยซูได้เสด็จกลับไปยังสวรรค์ "พวกสิบเอ็ดคน" ได้เลือกสรรสาวกชื่อแมทเธียสเพื่อไปแทนที่ของยูดาส แล้วพวกเขาจึงถูกเรียกว่า "พวกสิบสองคน" อีกครั้งหนึ่ง

คำแนะนำในการแปล

  • สำหรับหลายภาษาอาจชัดเจนหรือเป็นธรรมชาติมากขึ้นโดยเพิ่มคำนามและพูดว่า "อัครสาวกสิบสองคน" หรือ "สาวกสิบสองคนที่ใกล้ชิดที่สุดของพระเยซู"
  • "พวกสิบเอ็ดคน" สามารถแปลว่า "สาวกสิบเอ็ดคนของพระเยซูที่เหลืออยู่"
  • คำแปลบางคำแปล อาจต้องการใช้อักษรตัวใหญ่เพื่อแสดงว่าเป็นตำแหน่ง อย่างเช่นที่ใช้ใน "พวกสิบสองคน" และ "พวกสิบเอ็ดคน"

พันธสัญญา

คำจำกัดความ

พันธสัญญาเป็นข้อตกลงอย่างเป็นทางการและมีผลผูกพันระหว่างสองฝ่ายที่คู่สัญญาฝ่ายหนึ่ง หรือทั้งสองฝ่ายต้องปฏิบัติตาม

  • ข้อตกลงนี้สามารถทำระหว่างบุคคล ระหว่างกลุ่มคน หรือระหว่างพระเจ้ากับปรชากร
  • เมื่อคนทำสัญญาต่อกันและกัน พวกเขาสัญญาว่าพวกเขาจะทำสิ่งใด ๆ แล้วพวกเขาต้องทำสิ่งนั้น
  • ตัวอย่างพันธสัญญาของมนุษย์รวมถึงพันธสัญญาการแต่งงานข้อตกลงทางธุรกิจและสนธิสัญญาระหว่างประเทศ
  • ตลอดพระคัมภีร์พระเจ้าทรงทำพันธสัญญากับประชากรของพระองค์หลายพันธสัญญาที่แตกต่างกัน
  • ในบางพันธสัญญาพระเจ้าได้ทรงสัญญาว่าจะปฏิบัติตามเงื่อนไขของพระองค์โดยไม่มีเงื่อนไข ตัวอย่างเช่นเมื่อพระเจ้าทรงกำหนดพันธสัญญากับมนุษยชาติโดยสัญญาว่าจะไม่ทำลายโลกอีกด้วยน้ำท่วมทั่วโลก สัญญานี้ไม่มีเงื่อนไขสำหรับคนที่จะทำตาม
  • ในพันธสัญญาอื่น พระเจ้าได้ทรงสัญญาว่าจะปฏิบัติตามส่วนของพระองค์เฉพาะเมื่อบรรดาประชากรเชื่อฟังพระองค์และปฏิบัติตามพันธสัญญาในส่วนของพวกเขาที่สัญญาไว้กับพระองค์เท่านั้น

คำแนะนำในการแปล

  • วิธีการแปลคำนี้อาจรวมถึง "ข้อตกลงที่มีผลผูกพัน" หรือ "ความมุ่งมั่นอย่างเป็นทางการ" หรือ "คำมั่นสัญญา" หรือ "สัญญา" ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับบริบทนั้น ๆ
  • บางภาษาอาจมีคำที่แตกต่างกันสำหรับข้อตกลงขึ้นอยู่กับว่าฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งหรือทั้งสองฝ่ายได้ทำสัญญาว่าจะต้องปฏิบัติ ถ้าพันธสัญญาเป็นแบบด้านเดียวก็สามารถแปลเป็น "สัญญา" หรือ "คำมั่นสัญญา"
  • ตรวจสอบให้แน่ใจว่าคำแปลของคำนี้ไม่ได้เป็นการที่ประชาชนเสนอข้อตกลง ในทุกกรณีของพันธสัญญาระหว่างพระเจ้ากับมนุษย์พระเจ้าเป็นผู้ริเริ่มพันธสัญญานั้น

พินาศ, ตายอนาถ, ซึ่งย่อยยับได้

คำจำกัดความ

คำว่า "พินาศ" หมายถึงตายหรือถูกทำลายซึ่งมักจะเป็นผลมมาจากความรุนแรงหรือภัยพิบัติ ในพระคัมภีร์นั้น คำนี้มีความหมายว่าถูกลงโทษในนรกชั่วนิจนิรันดร์

  • ผู้คนซึ่งกำลัง "พินาศ" หมายถึงผู้คนซึ่งปลายทางของเขานั้นคือนรกเพราะพวกเขาปฏิเสธที่จะเชื่อในพระเยซูสำหรับการช่วยให้รอดจากพระองค์
  • ในยอห์น 3:16 ได้สอนเราในเรื่องของความ "พินาศ" ว่าหมายถึงการไม่ได้อยู่ในสวรรค์นิรันดร์

คำแนะนำในการแปล

  • ขึ้นอยู่กับบริบทของเนื้อความ วิธีการแปลคำนี้สามารถรวม "ตายนิรันดร์" หรือ "ถูกลงโทษในนรก" หรือ "ถูกทำลาย"
  • ให้แน่ใจว่าเมื่อแปลคำว่า "พินาศ" สามารถมีความหมายว่าอยู่ในนรกชั่วนิรันดร์ ไม่ได้มีหมายความว่า "หยุดที่จะมีชีวิตอยู่"

พี่ชาย / น้องชาย

คำจำกัดความ

คำว่า "พี่ชาย/น้องชาย" โดยทั่วไปกล่าวถึง คนที่เป็นผู้ชายที่อย่างน้อยที่สุดก็ร่วมสายเลือดพ่อหรือแม่เดียวกันกับอีกคนหนึ่ง

  • ในพันธสัญญาเดิม คำว่า "พี่น้อง" ใช้ทั่วไปในการกล่าวถึงญาติ อย่างเช่นสมาชิกของเผ่าเดียวกัน คนที่อยู่ในเผ่าเดียวกัน หรือคนกลุ่มเดียวกัน
  • ในพันธสัญญาใหม่ อัครทูตมักจะใช้คำ "พี่น้อง" ในการกล่าวถึงเพื่อนคริสเตียน รวมทั้งผู้ชายและผู้หญิง เนื่องจากผู้ศรัทธาในพระคริสต์เป็นสมาชิกของครอบครัวฝ่ายวิญญาณเดียวกันที่มีพระเจ้าเป็นพระบิดาแห่งสวรรค์ของพวกเขา
  • มีไม่กี่ครั้งในพันธสัญญาใหม่ ที่อัครทูตใช้คำว่า "พี่สาว/น้องสาว" เมื่อกล่าวถึงเพื่อนคริสเตียนที่เป็นผู้หญิงอย่างเฉพาะเจาะจง หรือเป็นการเน้นย้ำว่าทั้งผู้ชายและผู้หญิงมีส่วนร่วม ตัวอย่างเช่น ยากอบเน้นว่าเขากำลังพูดเกี่ยวกับผู้ที่ศรัทธาทุกคน เมื่อเขากล่าวถึง "พี่น้องผู้ชาย หรือ พี่น้องผู้หญิงผู้ที่ต้องการอาหารหรือเสื้อผ้า"

คำแนะนำในการแปล

  • การแปลคำนี้ที่ดีที่สุดด้วยคำตามตัวอักษรที่ใช้ในภาษาที่แปลที่หมายถึงพี่น้องทางธรรมชาติ หรือทางสายเลือด นอกจากคำนี้จะให้ความหมายที่ผิด
  • ในพันธสัญญาเดิม โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อใช้คำว่า "พี่น้อง" ที่ใช้กล่าวถึงโดยทั่วไปที่หมายถึงสมาชิกครอบครัว ตระกูลและกลุ่มคนเดียวกัน มีความเป็นไปได้ที่จะแปลรวมถึง "ญาติ" หรือ "สมาชิกที่อยู่ในเผ่าเดียวกัน" หรือ "เพื่อนชาวอิสารเอล"
  • ในบริบทที่กล่าวถึงเพื่อนผู้ที่ศรัทธาในพระคริสต์ คำนี้สามารถแปลได้อีกว่า "พี่น้องในพระคริสต์" หรือ "พี่น้องฝ่ายจิตวิญญาณ"
  • ถ้าทั้งชายและหญิงที่ถูกกล่าวถึง และคำว่า "พี่น้อง" ใช้ในความหมายที่ผิดแล้ว ก็ควรจะใช้คำทั่วไปที่กล่าวถึงความเป็นญาติกันที่รวมทั้งชายและหญิง
  • วิธีมีอื่น ๆ ที่จะแปลคำนี้ เพื่อที่จะกล่าวถึงผู้ที่ศรัทธาทั้งผู้ชายและผู้หญิง ก็น่าจะเป็นคำว่า "เพื่อนผู้ศรัทธา"หรือ "พี่น้องคริสเตียนชายหญิง"
  • ขอให้แน่ใจว่าได้ตรวจสอบบริบท เพื่อที่จะมั่นใจได้ว่าเป็นการกล่าวถึงเฉพาะผู้ชายเท่านั้นหรือไม่ หรือรวมทั้งผู้ชายและผู้หญิงหรือไม่

เพนเตคอสต์, เทศกาลสัปดาห์

คำจำกัดความ

"เทศกาลสัปดาห์" หมายถึงเทศกาลประจำชนชาติยิวซึ่งจะมีขึ้นเป็นระยะเวลาห้าสิบวัน จัดขึ้นหลังจากเทศกาลปัสกา ซึ่งต่อมาอ้างถึงว่า "เพนเตคอสต์"

  • เทศกาลสัปดาห์ คือระยะเวลาถึงเจ็ดสัปดาห์ (ห้าสิบวัน) หลังการเลี้ยงฉลองผลแรก ในพันธสัญญาใหม่ เทศกาลนี้เรียกว่า "เพนเตคอสต์" ซึ่งมี "ห้าสิบ" เป็นส่วนหนึ่งของความหมาย
  • เทศกาลสัปดาห์จัดขึ้นเพื่อเฉลิมฉลองการเริ่มต้นการเก็บเกี่ยวข้าว นอกจากนี้ยังเป็นช่วงเวลาที่จะระลึกถึงครั้งแรกที่พระเจ้าประทานพระบัญญัติของพระองค์ให้กับอิสราเอลบนแผ่นศิลาซึ่งประทานให้แก่โมเสส
  • ในพันธสัญญาใหม่นั้น วันเพนเตคอสต์มีความสำคัญเป็นพิเศษ เพราะเป็นช่วงเวลาที่บรรดาผู้เชื่อในพระเยซูคริสต์ได้รับพระวิญญาณบริสุทธิ์ในวิธีใหม่

ฟาริสี

คำจำกัดความ

ฟาริสีคือกลุ่มผู้นำศาสนาชาวยิวซึ่งมีความสำคัญและมีอำนาจมากในสมัยของพระเยซู

  • ฟาริสีหลายคนเป็นนักธุรกิจจากชนชั้นกลางและบางคนเป็นปุโรหิตด้วย
  • ในบรรดาผู้นำศาสนาชาวยิวทั้งหมด ฟาริสีเป็นกลุ่มที่เข้มงวดมากที่สุดในการทำตามบทบัญญัติของโมเสสรวมไปถึงธรรมเนียมปฏิบัติและบทบัญญัติอื่นๆ ของชาวยิว
  • พวกเขาวิตกเกี่ยวกับการรักษาให้ชาวยิวแยกออกมาจากอิทธิพลของชาวต่างชาติรอบตัวพวกเขา คำว่า "ฟาริสี" มาจากคำว่า "แยกออกมา"
  • พวกฟาริสีเชื่อในชีวิตหลังความตาย พวกเขายังเชื่อในบรรดาทูตสวรรค์และวิญญาณต่างๆ ว่ามีอยู่จริงอีกด้วย
  • ฟาริสีและสะดูสีต่างก็ต่อต้านพระเยซูและคริสเตียนในสมัยเริ่มแรกอย่างแข็งขัน

มดยอบ

คำจำกัดความ

มดยอบคือน้ำมันหรือเครื่องเทศซึ่งทำมาจากยางของต้นมดยอบซึ่งปลูกในทวีปอัฟริกาและเอเชีย มันเกี่ยวพันกับกำยาน

  • มดยอบถูกใช้เป็นธูป น้ำหอมและยา และเตรียมร่างของคนตายก่อนทำการฝัง
  • มดยอบคือหนึ่งในเครื่องบรรณาการที่บรรดาโหราจารย์ได้ถวายให้แก่พระเยซูเมื่อพระองค์ทรงบังเกิด
  • พระเยซูได้รับการมอบเหล้าองุ่นผสมมดยอบเพื่อที่จะระงับความเจ็บปวดเมื่อพระองค์ทรงถูกตรึงที่กางเขน

มโนธรรม

คำจำกัดความ

มโนธรรมเป็นส่วนหนึ่งของความคิดของบุคคล ซึ่งพระเจ้าให้เขาตระหนักว่าเขาทำสิ่งที่ผิดบาป

  • พระเจ้าได้ให้มโนธรรมแก่มนุษย์ที่จะช่วยพวกเขาให้รู้ถึงความแตกต่างระหว่างสิ่งที่ถูกต้องและสิ่งที่ผิด
  • บุคคลที่เชื่อฟังพระเจ้าพูดได้ว่าเขามีมโนธรรมที่ "บริสุทธิ์" หรือ "ชัดเจน" หรือ "สะอาด"
  • ถ้าบุคคลมี "มโนธรรมที่ชัดเจน" หมายถึง เขาไม่ได้ปิดซ่อนความบาปใดๆ
  • ถ้าบุคคลเพิกเฉยต่อมโนธรรมของตนและไม่รู้สึกผิดใดๆเมื่อเขาทำความบาป นั่นหมายความว่า มโนธรรมของเขาไม่มีความรู้สึกต่อการทำผิด พระคัมภีร์เรียกสิ่งนี้ว่ามโนธรรมที่ "ขุ่นมัว" ซึ่งนี้ก็จะ "ตราหน้าว่า" เป็นเหมือนเหล็กร้อน มโนธรรมเช่นนี้ยังเรียกว่า "เฉยชา" และเป็น "มลพิษ"
  • วิธีแปลที่น่าจะเป็นไปได้สำหรับคำนี้ควรจะรวม "ข้อแนะนำศีลธรรมภายใน" หรือ "ความคิดทางด้านศีลธรรม"

มหาปุโรหิต

คำจำกัดความ

คำว่า "มหาปุโรหิต"อ้างถึงปุโรหิตพิเศษที่ได้รับการแต่งตั้งให้รับใช้เป็นเวลาหนึ่งปีในฐานะผู้นำของปุโรหิตอิสราเอลคนอื่นทั้งหมด

  • มหาปุโรหิตมีหน้าที่ความรับผิดชอบพิเศษ เขาเป็นเพียงคนเดียวที่ได้รับอนุญาตให้เข้าไปในส่วนของวิหารที่บริสุทธิ์ที่สุดเพื่อจะถวายเครื่องบูชาพิเศษปีละครั้ง
  • อิสราเอลได้มีปุโรหิตหลายคน แต่มีมหาปุโรหิตเพียงคนเดียวในช่วงเวลาหนึ่ง
  • เมื่อพระเยซูทรงถูกจับ คายาฟาสเป็นมหาปุโรหิตอย่างเป็นทางการ พ่อตาของคายาฟาส อันนาสถูกกล่าวถึงในบางครั้งเพราะเขาเคยเป็นมหาปุโรหิตคนก่อนที่อาจจะยังมีอำนาจและอำนาจสิทธิขาดเหนือผู้คน

คำแนะนำในการแปล

  • "มหาปุโรหิต" สามารถแปลได้ว่า "ปุโรหิตสูงสุด" หรือ "ปุโรหิตที่มีตำแหน่งสูงสุด"
  • ให้แน่ใจว่าคำนี้ใช้คำแปลต่างจากคำว่า "หัวหน้าปุโรหิต"

มหิทธิฤทธิ์

คำจำกัดความ

คำว่า "มหิทธิฤทธิ์" แปลตามตัวอักษรหมายความว่า "มีฤทธิ์อำนาจทั้งหมด" ในพระคัมภีร์ มักจะหมายถึงพระเจ้า

  • คำนำหน้าชื่อ "ทรงมหิทธิฤทธิ์" หรือ "ผู้ทรงมหิทธิฤทธิ์องค์เดียว" หมายถึงพระเจ้าและแสดงให้เห็นว่าพระองค์ทรงมีอำนาจและสิทธิเหนือทุกสิ่งอย่างสมบูรณ์
  • คำนี้ถูกใช้เพื่ออธิบายถึงพระเจ้า โดยเรียกว่า "พระเจ้าผู้ทรงมหิทธิฤทธิ์" หรือ "พระเจ้าผู้ทรงฤทธานุภาพสูงสุด" หรือ "องค์พระผู้เป็นเจ้าพระเจ้าผู้ทรงฤทธานุภาพสูงสุด" หรือ "องค์พระผู้เป็นเจ้า พระเจ้าผู้ทรงฤทธานุภาพสูงสุด"

ข้อแนะนำในการแปล

  • คำนี้สามารถแปลได้อีกว่า "มีอำนาจเหนือทั้งหมดทั้งปวง" หรือ "องค์เดียวที่มีฤทธิ์อำนาจอย่างสมบูรณ์" หรือ "พระเจ้าผู้ทรงมีฤทธิ์อำนาจอย่างบริบูรณ์"
  • วิธีแปลวลีนี้มีหลายอย่าง "องค์พระผู้เป็นเจ้า พระเจ้าผู้ทรงมหิทธิฤทธิ์สูงสุด" ซึ่งสามารถรวมถึง "พระเจ้าผู้ครอบครอง ผู้ทรงมีอำนาจสูงสุด" หรือ "พระเจ้าผู้ทรงมีอำนาจอย่างเต็มที่ในการครอบครอง" หรือ "พระเจ้าผู้ทรงมหิทธิฤทธิ์ ผู้เป็นเจ้านายเหนือทุกสิ่งทุกอย่าง"

มัคนายก

คำจำกัดความ

มัคนายกคือบุคคลที่รับใช้ในคริสตจักรท้องถิ่น ช่วยเหลือบรรดาเพื่อนร่วมศรัทธาในความต้องการที่จำเป็นเช่น อาหาร หรือเงิน

  • คำว่า "มัคนายก" มาจากคำภาษากรีกหมายถึง "คนรับใช้" หรือ "ผู้รับใช้พระเจ้า"
  • ตั้งแต่ช่วงเริ่มต้นของคริสเตียน การเป็นมัคนายกได้รับบทบาทและพันธกิจที่ชัดเจนในองค์กรคริสตจักร
  • ตัวอย่างเช่น ในพันธสัญญาใหม่ บรรดามัคนายกจะต้องสร้างความมั่นใจว่า ไม่ว่าจะเป็นเงิน หรือ อาหารที่ผู้ศรัทธาได้ถวายให้จะต้องแบ่งปันแม่หม้ายท่ามกลางพวกเขาอย่างยุติธรรม
  • คำว่า "มัคนายก" อาจแปลเป็น "ผู้รับใช้พระเจ้าของคริสตจักร" หรือ "คนงานของคริสตจักร" หรือ "ผู้รับใช้ของคริสตจักร" หรือวลีอื่น ๆ ที่แสดงให้เห็นว่าบุคคลนั้นได้รับการแต่งตั้งอย่างเป็นทางการเพื่อทำภารกิจเฉพาะที่เป็นประโยชน์ต่อชุมชนคริสเตียนในท้องถิ่นนั้นๆ-

มานา

คำจำกัดความ

มานาเป็นอาหารแผ่นบาง เหมือนกับขนมปังที่พระเจ้าได้ทรงเตรียมให้กับชาวอิสราเอลได้กินระหว่างที่อยู่ในถิ่นทุรกันดารหลังจากที่พวกเขาได้ออกจากอียิปต์

  • มานาดูเหมือนเกล็ดสีขาวที่ปรากฎในตอนเช้าของแต่ละวันบนพื้นดิน ภายใต้น้ำค้าง มีรสชาติหวานเหมือนน้ำผึ้ง
  • พวกอิสราเอลได้เก็บรวบรวมมานาทุกวันยกเว้นวันสะบาโต
  • ในวันก่อนวันสะบาโต พระเจ้าทรงบอกให้พวกอิสราเอลเก็บมานาเพิ่มเป็นสองเท่าเพื่อพวกเขาจะไม่ต้องเก็บในวันพักผ่อนของพวกเขา
  • ในพระคัมภีร์ มานาได้ถูกอ้างถึงว่า เป็น "ขนมปังจากสวรรค์" และ "ได้รับจากสวรรค์"

คำแนะนำในการแปล

  • อีกวิธีหนึ่งของการแปลคำนี้สามารถรวม "อาหารที่เป็นเกล็ดสีขาวบาง" หรือ "อาหารจากสวรรค์"
  • ให้พิจารณาว่าคำนี้ได้รับการแปลในพระคัมภีร์ในภาษาท้องถิ่นหรือในภาษากลางอย่างไร

มือขวา, เบื้องขวา

คำจำกัดความ

คำกล่าวคำอปุมาอุปมัยว่า "เบื้องขวา" อ้างถึงสถานที่แห่งเกียรติหรือกำลังทางข้างขวาของผู้ปกครองหรือบุคคลสำคัญอื่นๆ

  • มือขวายังใช้เป็นเหมือนสัญลักษณ์ของพลัง อำนาจ หรือกำลังที่เข้มแข็ง
  • พระคัมภีร์อธิบายว่าพระเยซูประทับ" ที่เบื้องขวาพระหัตถ์ของ" พระเจ้าพระบิดาในฐานะศีรษะของร่างกายของผู้เชื่อ (คริสตจักร) และควบคุมในฐานะผู้ปกครองของสิ่งทรงสร้างทั้งปวง
  • มือขวาของบุคคลถูกนำมาใช้เพื่อแสดงถึงเกียรติพิเศษเมื่อวางบนศีรษะของใครคนหนึ่งเพื่อเป็นการอวยพร (เช่นเดียวกับตอนที่บรรพบุรุษยาโคบได้อวยพรเอฟราอิมบุตรชายของโยเซฟ)
  • การ "รับใช้ที่เบื้องขวา" ของใครสักคนหมายถึงการเป็นผู้ที่รับใช้ที่มีประโยชน์เป็นพิเศษและสำคัญต่อบุคคลนั้น

คำแนะนำในการแปล

  • บางครั้งคำว่า "มือขวา" ตามตัวอักษรอ้างถึงมือขวาของบุคคล อย่างเช่นทหารโรมันยื่นไม้ให้พระเยซูเพื่อเยาะเย้ยพระองค์ นี่ควรแปลที่ใช้คำว่าในภาษาที่อ้างถึงมือนี้
  • ในแง่การใช่แบบอุปมาอุปมัย ถ้าคำกล่าวนั้นรวมถึงคำว่า "มือขวา" ที่ไม่มีความหมายเดียวกันในภาษาที่แปล ควรพิจารณาว่าภาษานั้นมีคำกล่าวที่แตกต่างด้วยความหมายเดียวกันหรือไม่
  • คำกล่าว "ที่ขวามือของ" สามารถแปลว่า "บนข้างขวาของ" หรือ "ในสถานที่แห่งเกียรติยศข้าง" หรือ "ในตำแหน่งของกำลัง" หรือ"เร้อมที่จะช่วยเหลือ"
  • วิธีที่จะแปล "ด้วยมือขวาของ" สามารถรวม "พร้อมด้วยอำนาจสิทธิ์ขาด" หรือ "การใช้อำนาจ" หรือ "พร้อมด้วยกำลังอันมหัศจรรย์ของเขา"
  • คำกล่าวอุปมาอุปมัย "พระหัตถ์ขวาของพระองค์และพระพาหะอันทรงพลัง" ใช้ในสองทางเพื่อย้ำถึงอำนาจของพระเจ้าและพลังอันยิ่งใหญ่ วิธีหนึ่งที่จะแปลคำกล่าวนี้สามารถแปลว่า "อำนาจอันมหัศจรรย์และอำนาจอันทรงพลังของพระองค์"

เมตตา, เปี่ยมไปด้วยความเมตตา

คำจำกัดความ

คำว่า "เมตตา" หรือ "เปี่ยมด้วยเมตตา" อ้างถึงการให้ความช่วยเหลือต่อคนที่ต้องการความช่วยเหลือ เฉพาะอย่างยิ่งเมื่อพวกเขาตกอยู่ในสถานะที่ตกต่ำ

  • คำว่า "เมตตา" สามารถรวมถึงความหมายของการไม่ลงโทษคนสำหรับบางสิ่งที่พวกเขาได้ทำผิดด้วยเช่นกัน
  • บุคคลผู้ซึ่งมีอำนาจมากอย่างเช่นกษัตริย์ผู้ซึ่งได้รับการอธิบายว่า "เปี่ยมไปด้วยความเมตตา" เมื่อกษัตริย์องค์นั้นกระทำต่อประชากรด้วยใจกรุณามิใช่่ด้วยการทำร้ายพวกเขา
  • การเปี่ยมไปด้วยความเมตตายังหมายถึงการยกโทษให้บางคนซึ่งได้กระทำผิดต่อเรา
  • เราแสดงความเมตตาเมื่อเราช่วยเหลือคนที่อยู่ในความจำเป็นอย่างมาก
  • พระเจ้าทรงมีความเมตตาต่อเรา และพระองค์ทรงต้องการให้เรามีความเมตตาต่อผู้อื่น

คำแนะนำในการแปล

  • นั้นขึ้นอยู่กับบริบท "ความเมตตา" สามารถแปลว่า "ความกรุณา" หรือ "ความเห็นอกเห็นใจ" หรือ "ความสงสาร"
  • คำว่า "เปี่ยมด้วยความเมตตา" สามารถแปลว่า "แสดงความรู้สึกสงสาร" หรือ "มีใจกรุณาต่อ" หรือ "ให้อภัยแก่"
  • "แสดงความเมตตาแก่" หรือ "มีความเมตตาต่อ" สามารถแปลว่า "ปฏิบัติด้วยใจกรุณา" หรือ "มีความเห็นใจสงสารต่อ"

ไม้กางเขน

คำจำกัดความ

ในช่วงเวลาของพระคัมภีร์ไม้กางเขนเป็นเสาไม้ที่ตั้งอยู่ในพื้นโดยมีไม้คานแนวนอนติดอยู่ใกล้กับด้านบน

  • ในช่วงเวลาของจักรวรรดิโรมัน รัฐบาลโรมันจะประหารอาชญากรโดยผูกหรือตอกตะปูพวกเขากับไม้กางเขนและทิ้งไว้ให้ตาย
  • พระเยซูได้ถูกกล่าวโทษอย่างผิด ๆ ว่าเป็นอาชญากร ที่พระองค์ไม่ได้กระทำและชาวโรมันได้ทำให้พระองค์เสียชีวิตบนไม้กางเขน
  • โปรดทราบว่านี่เป็นคำที่แตกต่างไปจากคำกริยาว่า "ข้าม" ซึ่งหมายถึงการข้ามไปยังอีกด้านหนึ่งของบางสิ่งบางอย่างเช่นแม่น้ำหรือทะเลสาบ

คำแนะนำในการแปล

  • คำนี้อาจแปลโดยใช้คำในภาษาที่จะแปลซึ่งกล่าวถึงรูปแบบของไม้กางเขน
  • พิจารณาอธิบายไม้กางเขนว่าเป็นสิ่งที่ใช้ฆ่าคน จึงมีการใช้วลีเช่น "หลักประหาร" หรือ "ต้นไม้แห่งความตาย"
  • พิจารณาคำแปลนี้ในการแปลพระคัมภีร์ด้วยภาษาท้องถิ่นหรือภาษากลางด้วย

ยกชู, การเทิดทูน

คำจำกัดความ

การยกชู คือการสรรเสริญที่สูงส่งและการให้เกียรติบางคน อีกทั้งสามารถหมายถึงการวางบางคนในตำแหน่งที่สูง

  • ในพระคัมภีร์ คำว่า "ยกชู" ส่วนใหญ่แล้วใช้เพื่อการยกชูพระเจ้า
  • เมื่อมนุษย์ยกชูตัวเอง นั้นหมายความว่าเขากำลังคิดถึงตัวเองในแบบที่อวดดีหรือหยิ่งยโส

คำแนะนำการแปล

  • แนวทางการแปล "ยกชู" สามารถรวมถึง "การสรรเสริญที่สูงส่ง" หรือ "ให้เกียรติอย่างยิ่งใหญ่" หรือ "สดุดี" หรือ "การพูดสรรเสริญ"
  • ในบางบริบท สามารถแปลได้ด้วยคำ หรือวลีที่มีความหมายว่า "การวางในตำแหน่งที่สูง" หรือ "ให้เกียรติอย่างมากขึ้นแก่" หรือ "พูดถึงด้วยความชื่นชม"
  • "อย่ายกชูตนเอง" สามารถแปลได้อีกว่า "อย่าคิดถึงแต่ตนเองสูงเกินไป" หรือ "อย่าอวดดีเกี่ยวกับตนเอง"
  • "คนเหล่านั้นที่ยกชูตนเอง" สามารถแปลได้อีกว่า "คนเหล่านั้นที่คิดอย่างหยิ่งยโสเกี่ยวกับพวกเขาเอง" หรือ "คนเหล่านั้นที่โอ้อวดเกี่ยวกับพวกเขาเอง"

ยกโทษ, การยกโทษ

คำจำกัดความ

ยกโทษให้บางคนหมายถึงการไม่ยึดเหนี่ยวความขุ่นเคืองใจที่มีต่อบุคคลผู้ที่ได้ทำบางสิ่งที่แสนเจ็บปวด "การยกโทษ" คือการกระทำของการยกโทษให้บางคน

  • การยกโทษให้บางคนบ่อยครั้งหมายถึงการไม่ลงโทษคนนั้นสำหรับสิ่งที่ไม่ถูกต้อง ที่เขาได้กระทำ
  • คำนี้สามารถใช้ในรูปการเปรียบเทียบที่หมายถึง "ยกเลิก" เพื่อเป็นการแสดงออก "ยกเลิกหนี้"
  • เมื่อมนุษย์นั้นสารภาพบาปของพวกเขา พระเจ้ายกโทษพวกเขาบนพื้นฐานการเสียสละของพระเยซูที่ยอมตายบนไม้กางเขน
  • พระเยซูทรงได้สอนสาวกของพระองค์ให้ยกโทษคนอื่นเพราะพระองค์ทรงได้ยกโทษแก่พวกเขา

คำแนะนำการแปล

  • คำว่า "ยกโทษ" สามารถแปลได้อีกว่า "อภัย" หรือ "ยกเลิก" หรือ "ปลดปล่อย" หรือ "ไม่ถือสา" ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับบริบทนั้น ๆ

แยกออก

คำจำกัดความ

คำว่า "แยกออกมา" มีความหมายว่าถูกแยกออกมาจากบางสิ่งเพื่อให้สำเร็จตามวัตถุประสงค์

  • ชนชาติอิสราเอลถูกแยกออกมาเพื่อการปรนนิบัติพระเจ้า
  • พระวิญญาณบริสุทธิ์ได้สั่งให้คริสเตียนที่อยู่ในเมืองอันทิโอกแยกจากเปาโลและบารนาบัสเพื่องานที่พระเจ้าทรงพระประสงค์จะให้พวกเขาทำ
  • ผู้เชื่อที่ถูก "แยกออกมา" เพื่อการปรนนิบัติรับใช้พระเจ้า เป็น "อุทิศถวายเพื่อ " ให้พระประสงค์ของพระเจ้าสำเร็จ
  • ความหมายของคำว่า "บริสุทธิ์" เป็นคำที่ถูกแยกออกมาเพื่อใช้กับพระเจ้าและแยกออกมาจากทางแห่งความบาปของโลกนี้
  • คำว่า "ทำให้บริสุทธิ์" หมายถึงแยกคนคนหนึ่งออกมาเพื่อการปรนนิบัติรับใช้พระเจ้า

คำแนะนำในการแปล

  • วิธีแปล "แยกออกมา" สามารถรวม "คัดเลือกเป็นพิเศษ" หรือ "แยกออกมาจากท่ามกลางท่าน" หรือ " เลือกออกมาเพื่อทำงานพิเศษ"
  • "แยกออกมา" สามารถแปลว่า "ถูกแยกออกแล้ว"

รับบัพติศมา, บัพติศมา

คำจำกัดความ

ในพันธสัญญาใหม่ คำว่า "รับบัพติศมา" และ "บัพติศมา" ปกติจะกล่าวถึงพิธีกรรมการชำระคริสเตียนด้วยน้ำเพื่อแสดงว่าเขาได้ถูกทำให้สะอาดจากความบาปและได้รวมเข้ากับพระคริสต์

  • นอกเหนือจากบัพติศมาด้วยน้ำแล้ว พระคัมภีร์พูดถึง "รับบัพติศมาด้วยพระวิญญาณบริสุทธิ์" และ "รับบัพติศมาด้วยไฟ"
  • คำว่า "บัพติศมา" ถูกใช้ในพระคัมภีร์เพื่อหมายถึงการผ่านความทุกข์ที่ยิ่งใหญ่ด้วย

ข้อแนะนำในการแปล

  • คริสเตียนมีความเห็นที่แตกต่างกันถึงวิธีที่คนหนึ่งควรบัพติศมาด้วยน้ำ บางทีคำแปลที่ดีที่สุดสำหรับคำนี้แบบทั่วๆ ไป ที่จะทำให้มีหลายรูปแบบในการใช้น้ำ
  • คำว่า "บัพติศมา" อาจแปลได้ว่า "ชำระให้บริสุทธิ์" "เทลงบน" "จุ่ม" ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับบริบทนั้นๆ

รับไบ ครู

คำจำกัดความ

คำว่า "รับไบ" ตามตัวอักษรหมายถึง "นายของข้าพเจ้า" หรือ "ครูของข้าพเจ้า"

  • เป็นตำแหน่งที่แสดงความนับถือที่ใช้เรียกผู้ชายชาวยิวที่เป็นครูด้านศาสนา โดยเฉพาะครูผู้สอนพระบัญญัติของพระเจ้า
  • ยอห์นผู้ให้บัพติศมาและพระเยซูทั้งสองท่านนี้บางครั้งถูกเรียกว่า "รับไบ" โดยเหล่าสาวกของท่านทั้งสอง

คำแนะนำในการแปล

  • วิธีแปลคำนี้สามารถรวมเอา "นายของข้าพเจ้า" หรือ "ครูของข้าพเจ้า" หรือ "ครูผู้มีเกียรติ" หรือ "ครูด้านศาสนา" บางภาษาอาจขึ้นต้นด้วยอักษรตัวใหญ่สำหรับคำทักทายเช่นนี้ ในขณะที่ภาษาอื่นไม่มี
  • ภาษาที่แปลอาจมีวิธีพิเศษที่บรรดาครูจะมีวิธีเรียกชื่อ
  • ให้แน่ใจว่าการแปลคำนี้จะไม่เป็นเหมือนเรียกพระเยซูเหมือนเรียกครูโรงเรียน
  • ให้พิจารณาด้วยว่า "รับไบ" แปลอย่างไรในพระคัมภีร์ในภาษาท้องถิ่นหรือภาษากลาง

รับมรดก, มรดก, สิ่งที่สืบทอด, ทายาท

คำจำกัดความ

คำว่า "รับมรดก" และ "การรับมรดก" อ้างถึงการรับบางอย่างที่มีค่าจากพ่อแม่หรือบุคคลอื่นเพราะความสัมพันธ์พิเศษที่มีกับคนนั้น คำว่า "ทายาท" คือคนที่รับมรดก

  • มรดกทางกายภาพที่ได้รับอาจจะเป็นเงิน ที่ดิน หรือทรัพย์สินประเภทอื่นๆ
  • มรดกฝ่ายวิญญาณคือทุกสิ่งที่พระเจ้าประทานให้แก่คนที่เชื่อในพระเยซู รวมถึงพระพรในชีวิตปัจจุบันเช่นเดียวกับชีวิตนิรันดร์กับพระองค์
  • พระคัมภีร์ยังเรียกคนของพระเจ้าว่าเป็นมรดกของพระองค์ ซึ่งหมายความว่าพวกเขาเป็นของพระองค์ พวกเขาเป็นสมบัติอันล้ำค่าของพระองค์
  • พระเจ้าได้ทรงสัญญากับอับราฮัมและเชื้อสายของเขาว่าพวกเขาจะได้รับแผ่นดินคานาอันเป็นมรดกและแผ่นดินนั้นจะเป็นของพวกเขาตลอดไป
  • ยังมีความหมายในเชิงอุปมาอุปมัยฝ่ายวิญญาณที่ว่าคนที่เป็นของพระเจ้าจะได้ชื่อว่า "ได้รับแผ่นดินเป็นมรดก" สิ่งนี้หมายความว่าพวกเขาจะเจริญรุ่งเรืองและได้รับการอวยพรจากพระเจ้าทั้งในทางร่างกายและวิญญาณ
  • ในพันธสัญญาใหม่ พระเจ้าทรงสัญญาว่าคนเหล่านั้นที่เชื่อในพระเยซูจะ "ได้รับความรอดเป็นมรดก" และ "ได้รับชีวิตนิรันดร์เป็นมรดก" รวมถึงมีการแสดงออกว่า "ได้รับอาณาจักรของพระเจ้าเป็นมรดก" นี่เป็นมรดกฝ่ายวิญญาณที่คงอยู่ตลอดไป
  • ยังมีความหมายเชิงอุปมาอุปมัยอื่นๆสำหรับคำเหล่านี้
  • พระคัมภีร์กล่าวว่าคนฉลาดจะ "ได้รับสง่าราศีเป็นมรดก" และคนชอบธรรมจะ "ได้รับสิ่งดีเป็นมรดก"
  • "ได้รับพระสัญญาเป็นมรดก" หมายถึงการได้รับสิ่งดีที่พระเจ้าได้ทรงสัญญาที่จะประทานให้แก่คนของพระองค์
  • คำนี้ยังใช้ในความหมายเชิงลบอ้างถึงคนโง่หรือคนไม่เชื่อฟังที่ "ได้รับลมเป็นมรดก" หรือ "ได้รับความโง่เขลาเป็นมรดก" นี่หมายความว่าพวกเขาได้รับผลจากการประพฤติในความบาป รวมถึงการลงโทษและการดำเนินชีวิตอย่างไร้ประโยชน์

คำแนะนำในการแปล

  • เหมือนเช่นเคย ให้พิจารณาก่อนว่ามีคำที่ใช้กันอยู่แล้วในภาษาเป้าหมายสำหรับแนวคิดในเรื่องทายาทหรือมรดกอยู่แล้วหรือไม่แล้วใช้คำเหล่านั้น
  • ขึ้นอยู่กับบริบท วิธีอื่นที่คำว่า "รับมรดก" สามารถแปลได้อาจรวมถึง "ได้รับ" หรือ "เป็นเจ้าของ" หรือ "เข้ามาเป็นเจ้าของ"
  • วิธีที่จะแปล "มรดก"สามารถรวมถึง "ของประทานที่สัญญาไว้" หรือ "สมบัติที่แน่นอน"
  • เมื่อคนของพระเจ้าถูกกล่าวถึงในฐานะที่เป็นมรดกของพระองค์ นี่สามารถแปลได้ว่า "คนที่มีค่าที่เป็นของพระองค์"
  • คำว่า "ทายาท" สามารถแปลได้ด้วยคำหนึ่งคำหรือวลีที่หมายถึง "บุตรผู้มีสิทธิพิเศษที่จะได้รับทรัพย์สมบัติของบิดา" หรือ "บุคคลที่ได้รับเลือกให้เป็นผู้รับ"

ร่างกาย, พระกาย

คำจำกัดความ

คำว่า "ร่างกาย" มีการกล่าวตามตัวอักษรว่าร่างกายทางกายภาพของคนหรือสัตว์ คำนี้ยังใช้เป็นคำเปรียบเทียบที่กล่าวถึงวัตถุสิ่งของ หรือทั้งกลุ่มที่มีสมาชิกรวมเป็นสิ่งเดียว

  • บ่อยครั้งที่คำว่า "ร่างกาย" กล่าวถึงคนหรือสัตว์ที่ตายแล้ว บางครั้งคำนี้ก็กล่าวถึง "ร่างกายที่ตายแล้ว" หรือ "ศพ"
  • เมื่อพระเยซูตรัสกับพวกสาวกในอาหารปัสกาครั้งสุดท้ายของพระองค์ว่า "นี่ (ขนมปัง) คือกายของเรา" พระองค์ทรงกล่าวถึง พระกายทางกายภาพของพระองค์จะถูก "หัก" (ฆ่า) เพื่อชดใช้ความบาปของพวกเขา
  • ในพระคัมภีร์ คริสเตียนเป็นกลุ่มคนที่กล่าวถึง "พระกายของพระคริสต์"
  • เช่นเดียวกันกับร่างกายที่มีอวัยวะหลายส่วน "พระกายของพระคริสต์" ก็มีสมาชิกมากมาย
  • ผู้ที่เชื่อแต่ละคนมีหน้าที่อย่างเฉพาะเจาะจงในพระกายของพระคริสต์ เพื่อที่จะช่วยให้ทั้งกลุ่มทำงานด้วยกันในการรับใช้พระเจ้าและถวายพระเกียรติแด่พระองค์
  • พระเยซูยังกล่าวถึงการเป็น "ศีรษะ" (ผู้นำ) ของ"พระกาย" ของผู้ศรัทธาของพระองค์ เช่นเดียวกับที่ศีรษะของคนเราที่บอกให้ร่างกายทำสิ่งที่ต้องทำ พระเยซูทรงเป็นผู้เดียวที่นำทางและชี้นำคริสเตียนที่เป็นส่วนต่างๆ ของ "พระกาย" ของพระองค์

คำแนะนำในการแปล

  • วิธีการแปลคำนี้ที่ดีที่สุด น่าจะแปลด้วยคำที่ใช้กันทั่วไปที่หมายถึงร่างกายทางกายภาพในภาษาที่แปล ขอให้แน่ใจว่า คำที่ใช้ไม่เป็นคำที่ขัดกัน
  • เมื่อกล่าวถึงผู้ศรัทธาที่มาอยู่รวมกัน สำหรับบางภาษา คำนี้อาจจะเป็นธรรมชาติและถูกต้องมากกว่า ที่จะกล่าวว่า "พระกายฝ่ายวิญญาณของพระคริสต์"
  • เมื่อพระเยซูตรัสว่า "นี่เป็นกายของเรา" การแปลคำนี้ตามตัวอักษรที่ดีที่สุดด้วยการทำหมายเหตุเพื่ออธิบายคำนี้ถ้าจำเป็น
  • บางภาษาอาจจะใช้คำแยกกัน เมื่อกล่าวถึงร่างกายที่ตายแล้ว อย่างเช่น "ศพ" สำหรับคน หรือ "ซาก" สำหรับสัตว์ ขอให้แน่ใจว่าคำ ที่ใช้แปลคำนี้สามารถเข้าใจได้ในบริบท และยอมรับได้

รื้อฟื้น, การรื้อฟื้น

คำจำกัดความ

คำว่า "รื้อฟื้น" และ "การรื้อฟื้น" อ้างถึงการทำให้บางสิ่งบางอย่างกลับไปเป็นเหมือนสภาพเดิมของมันและมีสภาวะที่ดีกว่า

  • เมื่อส่วนของร่างกายที่ป่วยได้รับการรื้อฟื้นนั่นหมายความว่าได้รับการ"รักษาแล้ว"
  • ความสัมพันธ์ที่แตกหักไปได้รับการรื้อฟื้น คือได้รับการ"คืนดี" พระเจ้าทรงรื้อฟื้นคนบาปและนำพวกเขาให้กลับมาหาพระองค์
  • หากคนถูกส่งกลับสู่ประเทศบ้านเกิดนั่นหมายถึงพวกเขาถูก"ส่งกลับ"หรือ"ได้กลับมา"สู่ประเทศนั้น

คำแนะนำในการแปล

  • ขึ้นอยู่กับบริบท วิธีที่แปลคำว่า "รื้อฟื้น" สามารถแปลว่า "ปรับปรุงใหม่" หรือ "จ่ายให้ใหม่" หรือ "กลับคืน" หรือ "รักษา" หรือ "นำกลับมา"
  • คำกล่าวสำหรับคำนี้สามารถแปลว่า "ทำให้ใหม่" หรือ "ทำให้เหมือนใหม่อีกครั้ง"
  • เมื่อทรัพย์สินได้ "ถุกรื้อฟืัน" มันหมายความว่า ได้รับการ "ซ่อมแซม" หรือ "เปลี่ยนใหม่" หรือ "ให้คืนมา" แก่เจ้าของ
  • ขึ้นอยู่กับบริบท "การรื้อฟื้น" สามารถแปลว่า "ทำให้ใหม่" หรือ "การรักษา" หรือ "การคืนดีกัน"

เรียก, การเรียก, ได้รับการเรียก, ร้องเรียก

คำจำกัดความ

คำว่า "เรียก" และ "ร้องเรียก" มีความหมายตามตัวอักษรว่าการพูดบางอย่างด้วยเสียงดังกับคนใดคนหนึ่งที่ไม่ได้อยู่ใกล้ๆ ยังมีคำที่มีความหมายเปรียบเทียบอีกหลายคำ

  • "ร้องเรียก" คนใดคนหนึ่ง หมายความว่า ตะโกน หรือพูดเสียงดังกับคนที่อยู่ไกลออกไป คำนี้ยังมีความหมายว่าร้องขอความช่วยเหลือจากคนใดคนหนึ่ง โดยเฉพาะอย่างยิ่งเป็นการร้องขอพระเจ้า
  • บ่อยครั้งที่ในพระคัมภีร์ "เรียก" หมายความว่า "เรียก" หรือ "คำสั่งให้มา" หรือ "เรียกร้องให้มา"
  • พระเจ้าทรงเรียกคนให้เข้ามาหาพระองค์ และเป็นประชากรของพระองค์ นี่เป็น "การทรงเรียก" ของพวกเขา
  • คำว่า "ทรงเรียก" ที่ใช้ในพระคัมภีร์หมายความว่า พระเจ้าทรงแต่งตั้ง หรือทรงเลือกประชาชนให้เป็นบุตรของพระองค์ ให้เป็นผู้รับใช้ของพระองค์ และผู้ประกาศถ้อยคำแห่งความรอดของพระองค์ผ่านทางพระเยซู
  • คำนี้ยังใช้ในบริบทของการเรียกชื่อของคนหนึ่งคนใด ตัวอย่างเช่น "เขาถูกเรียกว่ายอห์น" หมายถึง "เขาได้ชื่อว่ายอห์น" หรือ "ชื่อของเขาคือยอห์น"
  • การถูก "เรียกตามชื่อของ" หมายความว่า คนใดคนหนึ่งได้รับชื่อของคนอื่น พระเจ้าตรัสว่าพระองค์ทรงเรียกประชากรของพระองค์ตามพระนามของพระองค์
  • การแสดงออกที่ต่างกัน "เราได้เรียกเจ้าด้วยชื่อ" หมายความว่าพระเจ้าทรงรู้จักชื่อของคนคนนั้นเป็นส่วนตัว และได้ทรงเลือกเขาเป็นพิเศษ

คำแนะนำในการแปล

  • คำว่า "เรียก" สามารถแปลได้โดยคำที่มีความหมายว่า "การเรียกตัว" ที่รวมถึงแนวความคิดของการมีจุดมุ่งหมายหรือวัตถุประสงค์ในการเรียก
  • สำนวน "ร้องเรียกพระองค์" สามารถแปลได้ว่า "ขอความช่วยเหลือจากพระองค์" หรือ "อธิษฐานต่อพระองค์อย่างเร่งร้อน"
  • เมื่อพระคัมภีร์บอกว่าพระเจ้า "ทรงเรียก" เราให้เป็นผู้รับใช้ของพระองค์ คำนี้สามารถแปลได้ว่า "ทรงเลือกเราไว้โดยเฉพาะ" หรือ "ทรงแต่งตั้งเรา" ให้เป็นผู้รับใช้ของพระองค์
  • "เจ้าต้องร้องออกพระนามพระองค์" ยังแปลได้อีกว่า "เจ้าต้องเรียกพระนามพระองค์"
  • "พระนามของพระองค์ได้รับการเรียกว่า" แปลได้ว่า "พระนามของพระองค์คือ" หรือ "พระองค์ทรงพระนามว่า"
  • "การร้องออกมา" แปลได้ว่า "พูดเสียงดัง" หรือ "ตะโกน" หรือ "พูดด้วยเสียงดัง" ขอให้แน่ใจว่าการแปลคำนี้ไม่ได้ดูเหมือนคนที่กำลังโกรธ
  • วลี "การทรงเรียกของพระองค์" แปลได้ว่า "พระประสงค์ของพระองค์" หรือ "พระประสงค์ของพระเจ้าที่มีต่อคุณ" หรือ "พันธกิจพิเศษของพระเจ้าสำหรับคุณ"
  • "ร้องออกพระนามขององค์พระผู้เป็นเจ้า" สามารถแปลได้ว่า "แสวงหาองค์พระผู้เป็นเจ้าและพึ่งพาพระองค์" หรือ "วางใจในองค์พระผู้เป็นเจ้าและเชื่อฟังพระองค์"
  • "เรียกร้อง" บางสิ่ง สามารถแปลโดยคำว่า "ต้องการ" หรือ "ร้องขอ" หรือ "สั่ง"
  • วลี "เจ้าได้ถูกเรียกโดยนามของเรา" สามารถแปลได้ว่า "เราให้ชื่อของเราแก่เจ้า ที่แสดงให้เห็นว่าเจ้าเป็นของเรา"
  • เมื่อพระเจ้าตรัสว่า "เราเรียกเจ้าด้วยชื่อ" คำนี้สามารถแปลได้ว่า "เรารู้จักชื่อของเจ้าและได้เลือกเจ้า"

ฤทธิ์เดช

คำจำกัดความ

คำว่า "ฤทธิ์เดช" อ้างถึงความสามารถในการทำสิ่งต่างๆ หรือทำให้สิ่งต่างๆ เกิดขึ้น บ่อยครั้งมักจะใช้กำลังมาก "ฤทธิ์เดช" อ้างถึงคนหรือวิญญาณที่มีความสามารถเศษยิ่งใหญ่ที่ทำให้สิ่งต่างๆเกิดขึ้นได้

  • "ฤทธิ์เดชของพระเจ้า" อ้างถึงความสามารถของพระเจ้าที่จะกระทำทุกสิ่งทุกอย่าง เฉพาะอย่างยิ่งสิ่งที่มนุษย์ไม่สามารถทำได้
  • พระเจ้าทรงมีฤทธิ์เดชเหนือทุกสิ่งที่พระองค์ได้ทรงสร้าง
  • พระเจ้าประทานฤทธิ์เดชให้แก่คนของพระองค์เพื่อทำในสิ่งที่พระองค์ประสงค์ เพื่อว่าเมื่อพวกเขารักษาคนหรือทำสิ่งอัศจรรย์ พวกเขาทำสิ่งเหล่านี้ด้วยฤทธิ์เดชของพระเจ้า
  • เพราะว่าพระเยซูและพระวิญญาณบริสุทธิ์เป็นพระเจ้าด้วยเช่นกัน จึงมีฤทธิ์เดชนี้ด้วย

คำแนะนำในการแปล

  • ขึ้นอยู่กับบริบท คำว่า "ฤทธิ์เดช" สามารถแปลว่า "ความสามารถ" หรือ "ความแข็งแรง" หรือ "พลังงาน" หรือ "ความสามารถที่จะทำการอัศจรรย์" หรือ "บังคับ"
  • เป็นไปได้ที่จะแปลคำว่า "ฤทธิ์เดช" สามารถรวมเอา "ชีวิตที่มีอำนาจ" หรือ "วิญญาณที่บังคับ" หรือ "คนเหล่านั้นที่ควบคุมคนอื่น"
  • คำกล่าว เช่น "ขอช่วยพวกเราจากอำนาจของเหล่าศัตรูของเรา" สามารถแปลว่า "ขอช่วยเราจะการกดขี่โดยศัตรูของพวกเรา" หรือ "ขอช่วยเราให้รอดพ้นจากการถูกควบคุมโดยศัตรูของพวกเรา" ในกรณีนี้ "ฤทธิ์เดช" มีความหมายของการใช้กำลังของบางคนบควบคุมหรือกดขี่คนอื่น

ละทิ้ง, ถูกทอดทิ้ง

คำจำกัดความ

คำว่า "ละทิ้ง" หมายถึงการทอดทิ้งบางคน หรือยอมแพ้บางสิ่ง บางคนที่ถูก "ทอดทิ้ง" ได้เคยถูกทิ้ง หรือทอดทิ้งโดยบางคน

  • เมื่อมนุษย์ "ละทิ้ง" พระเจ้า นั่นหมายความว่าพวกเขาเป็นคนที่ไม่สัตย์ซื่อต่อพระองค์โดยการไม่เชื่อฟังพระองค์
  • เมื่อพระเจ้า "ละทิ้ง" มนุษย์นั่นหมายความว่าพระองค์ได้หยุดการช่วยเหลือพวกเขา และปล่อยให้พวกเขามีประสบการณ์ที่ยากลำบากเพื่อที่จะทำให้พวกเขาหันหลับมาหาพระองค์
  • คำนี้สามารถหมายถึงการละทิ้งสิ่งของ เช่นการละทิ้ง หรือไม่ติดตามคำสอนของพระเจ้า
  • คำว่า "ละทิ้ง" สามารถใช้ในรูปอดีตกาลเหมือนในประโยคที่ว่า "เขาได้ละทิ้งท่าน" หรือเพื่อบ่งบอกถึงบางคนที่ได้ "ถูกละทิ้ง"

คำแนะนำการแปล

  • อีกแนวทางที่จะแปลคำนี้สามารถรวมทั้งคำว่า "ทอดทิ้ง" หรือ "ละเลย" หรือ "ยอมแพ้" หรือ "จากไป" หรือ "ทิ้งไว้ข้างหลัง" ขึ้นอยู่กับบริบทนั้น ๆ
  • ที่จะ "ละทิ้ง" ธรรมบัญญัติของพระเจ้าสามารถแปลได้อีกว่า "ไม่เชื่อฟังธรรมบัญญัติของพระเจ้า" คำนี้สามารถแปลได้อีกว่า "ทอดทิ้ง" หรือ "ยอมแพ้บน" หรือ "หยุดการเชื่อฟัง" การสอนของพระองค์หรือธรรมบัญญัติของพระองค์
  • วลีที่ว่า "ถูกละทิ้ง" สามารถแปลได้อีกว่า "ถูกทอดทิ้ง" หรือ "ถูกทิ้งร้าง"
  • คำในภาษาที่แปลอาจจะชัดเจนมากกว่าหากใช้คำที่แตกต่างในการแปลคำนี้ ขึ้นอยู่กับว่าในข้อนั้นกำลังพูดถึงการละทิ้งแบบไหน สิ่งของหรือคน

ละเมิด, การล่วงละเมิด

คำจำกัดความ

คำว่า "ละเมิด" และ "การล่วงละเมิด" ฮ็ษ.ถึงการไม่ปฎิบัติตามคำสั่ง กฎหมาย หรือหลักศีลธรรม

  • ตามการเปรียบเทียบ "การล่วงละเมิด" อาจกล่าวได้ว่าเป็น "ข้ามเส้น" นั่นคือไปมากกว่าขีด จำกัด หรือขอบเขตที่กำหนดไว้เพื่อสิ่งดีของบุคคลและบุคคลอื่น
  • คำว่า "ละเมิด" "บาป" "ความชั่วช้า" และ "ล่วงละเมิด" ทั้งหมดนี้มีความหมายถึงการแสดงออกถึงการไม่เชื่อฟังต่อนำ้พระทัยของพระเจ้าและไม่เชื่อฟังคำสั่งของพระองค์

คำแนะนำในการแปล

  • "การละเมิด" สามารถแปลว่า "บาป" หรือ "ไม่เชื่อฟัง" หรือ "กบฎ"
  • หากข้อหรือข้อความใช้คำสองคำซึ่งแปลว่า "บาป" หรือ "ละเมิด" หรือ "ล่วงเกิน" สิ่งสำคัญมาก ให้ใช้วิธีต่างๆในการแปลคำเหล่านี้ เมื่อพระคัมภีร์ใช้คำสองคำขึ้นไปที่มีความหมายคล้ายคลึงกันในบริบทเดียวกัน ปกติมักมีจุดประสงค์เพื่อเน้นย้ำถึงสิ่งที่กำลังถูกพูดถึงหรือแสดงความสำคัญของเรื่องนั้น

ลูกแกะ, ลูกแกะของพระเจ้า

คำจำกัดความ

คำว่า "ลูกแกะ" อ้างถึงแกะที่ยังอายุน้อย แกะเป็นสัตว์ที่มีสี่ขา มีขนหนาปุกปุย ใช้เพื่อเป็นเครื่องบูชาถวายแด่พระเจ้า พระเยซูทรงถูกเรียกว่าเป็น "ลูกแกะของพระเจ้า" เพราะพระองค์ถูกถวายเป็นเครื่องบูชาเพื่อความบาปของคน

  • สัตว์เหล่านี้ถูกนำให้หลงทางได้อย่างง่ายดายและต้องการการปกป้อง พระเจ้าทรงเปรียบมนุษย์ว่าเป็นแกะ
  • พระเจ้าทรงสั่งให้ประชากรของพระองค์ถวายแกะและลูกแกะที่ปราศจากตำหนิเป็นเครื่องบูชาแด่พระองค์
  • พระเยซูทรงถูกเรียกว่าเป็น "ลูกแกะของพระเจ้า" ผู้ที่ถูกถวายเป็นเครื่องบูชาเพื่อความบาปของคน พระองค์ทรงสมบูรณ์ ปราศจากตำหนิ เพราะพระองค์ทรงไม่มีบาปเลย

คำแนะนำในการแปล

  • ถ้าแกะเป็นที่รู้จักกันดีในด้านภาษาท้องถิ่น ชื่อสำหรับแกะที่ยังอายุน้อยควรแปลโดยใช้คำว่า "ลูกแกะ" หรือ "ลูกแกะของพระเจ้า"
  • "ลูกแกะของพระเจ้า" สามารถแปลได้ว่า "ของพระเจ้า"

เลือด, พระโลหิต

คำจำกัดความ

คำว่า "เลือด" กล่าวถึงของเหลวสีแดงที่ออกมาจากผิวหนังของคนเมื่อตอนที่ได้รับบาดเจ็บหรือมีบาดแผล เลือดนำสิ่งที่บำรุงเลี้ยงชีวิตไปทั่วร่างกายของคน

  • เลือดเป็นเครื่องหมายของชีวิต และเมื่อเลือดหลั่งหรือเทออกมา เป็นเครื่องหมายของการสูญเสียชีวิตหรือความตาย
  • เมื่อประชาชนถวายเครื่องบูชาแแด่พระเจ้า พวกเขาฆ่าสัตว์และเทเลือดของมันบนแท่นบูชา การทำเช่นนี้เป็นเครื่องหมายแสดงว่าการถวายเครื่องบูชาชีวิตของสัตว์ตัวนั้นเป็นการชดใช้บาปของประชาชน
  • โดยการสวรรคตบนไม้กางเขน พระโลหิตของพระเยซูเป็นเครื่องหมายของการชำระประชาชนให้บริสุทธิ์จากบาปของพวกเขา และเป็นการชดใช้โทษที่พวกเขาสมควรได้รับจากบาปเหล่านั้น
  • สำนวน "เนื้อและเลือด" เป็นสำนวนที่กล่าวถึงมนุษย์
  • สำนวน "เนื้อและเลือดของตนเอง" กล่าวถึง คนที่เป็นญาติกันทางพันธุกรรม

ข้อแนะนำในการแปล

  • คำนี้สามารถแปลด้วยคำที่ใช้แปลคำว่าเลือด ในภาษาที่แปลได้
  • สำนวน "เนื้อและเลือด" สามารถแปลได้ว่า "ผู้คน" หรือ "มนุษย์"
  • สำนวน "เนื้อและเลือดของฉันเอง" สามารถแปลตามบริบทได้ว่า "ครอบครัวของฉันเอง" หรือ "ญาติของฉันเอง" หรือ "ประชาชนของฉันเอง"
  • ถ้ามีสำนวนในภาษาที่แปลที่ใช้กับความหมายนี้ สำนวนนั้นสามารถแปลได้ว่า "เนื้อและเลือด"

โลก, โลกียวิสัย

คำจำกัดความ

คำว่า "โลก" โดยปกติหมายถึงส่วนหนึ่งของจักรวาลที่ผู้คนอาศัยอยู่: แผ่นดินโลก คำว่า "โลกียวิสัย" อธิบายค่านิยมและพฤติกรรมที่ชั่วร้ายของผู้คนที่อาศัยอยู่ในโลกนี้

  • ในแง่ทั่วไปที่สุดคำว่า "โลก" หมายถึงฟ้าสวรรค์และแผ่นดินโลกตลอดจนทุกสิ่งทุกอย่างที่อยู่ในนั้น
  • ในบางบริบท "โลก" แท้จริง หมายถึง "ผู้คนในโลก"
  • บางครั้งก็เป็นนัยที่ว่าคำนี้หมายถึงคนชั่วร้ายบนแผ่นดินโลกหรือคนที่ไม่เชื่อฟังพระเจ้า
  • พวกอัครสาวกได้ใช้ "โลก" เพื่ออ้างถึงพฤติกรรมที่เห็นแก่ตัวและคุณค่าที่ทุจริตของผู้คนที่อาศัยอยู่ในโลกนี้ นี่รวมถึงการปฏิบัติทางศาสนาที่ให้ตนเองชอบธรรมซึ่งขึ้นอยู่กับความพยายามของมนุษย์เอง
  • ผู้คนและสิ่งต่างๆ ที่จัดประเภทให้มีคุณค่าเหล่านี้กล่าวกันว่าเป็น "โลกียวิสัย"

คำแนะนำในการแปล

  • ขึ้นอยู่กับบริบท "โลก" สามารถแปลว่า "จักรวาล" หรือ "คนในโลกนี้" หรือ "สิ่งเลวร้ายในโลก" หรือ "ทัศนคติที่ชั่วร้ายของผู้คนในโลก"
  • คำว่า "ทั่วทั้งโลก" มักหมายถึง "คนจำนวนมาก" และอ้างถึงคนที่อาศัยอยู่ในพื้นที่หนึ่งเฉพาะ ตัวอย่างเช่น "คนทั่วทั้งโลกมายังอียิปต์" สามารถแปลได้ว่า "หลายคนจากประเทศโดยรอบเข้ามาในอียิปต์" หรือ "คนจากทุกประเทศรอบ ๆ ประเทศอียิปต์เข้ามาที่นั่น"
  • อีกวิธีหนึ่งในการแปล "ทั่วทั้งทั่วโลกได้กลับไปบ้านเกิดของพวกเขาเพื่อลงทะเบียนในสำมะโนประชากรโรมัน" จะเป็น "หลายคนที่อาศัยอยู่ในดินแดนที่ปกครองโดยจักรวรรดิโรมันได้ไป ... "
  • ขึ้นอยู่กับบริบท คำว่า "โลกียวิสัย" อาจแปลว่า "ชั่ว" หรือ "บาป" หรือ "เห็นแก่ตัว" หรือ "อธรรม" หรือ "ทุจริต" หรือ "ได้รับอิทธิพลจากความเสื่อมทรามของคนในโลกนี้"
  • วลี "กล่าวถึงสิ่งเหล่านี้ในโลก" สามารถแปลว่า "กล่าวถึงสิ่งเหล่านี้แก่ผู้คนในโลก"
  • ในบริบทอื่นๆ "ในโลก" สามารถแปลได้ว่า"ดำรงชีวิตท่ามกลางประชากรในโลก" หรือ "ดำรงชีวิตท่ามกลางคนอธรรม"

วันพิพากษา

คำจำกัดความ

คำว่า "วันพิพากษา" อ้างถึงเวลาในอนาคตเมื่อพระเจ้าจะตัดสินทุกคน

  • พระเจ้าได้ทรงสร้างพระบุตรของพระองค์ คือ พระเยซูคริสต์ ผู้ตัดสินมนุษย์ทุกคน
  • ในวันพิพากษา พระคริสต์จะตัดสินผู้คนบนพื้นฐานของพระลักษณะอันชอบธรรมของพระองค์

คำแนะนำในการแปล

  • คำนี้สามารถแปลได้อีกว่า "เวลาพิพากษา" เนื่องจากสามารถอ้างถึงเวลามากกว่าหนึ่งวัน
  • อีกวิธีในการแปลคำนี้คือสามารถแปลรวม "ยุคสุดท้ายเมื่อพระเจ้าจะตัดสินมนุษย์ทุกคน"
  • ในการแปลบางครั้งใช้ตัวพิมพ์ใหญ่สำหรับคำนี้เพื่อแสดงให้เห็นว่าเป็นชื่อของวันหรือเวลาที่พิเศษ "วันพิพากษา" หรือ "ช่วงเวลาพิพากษา" (เฉพาะภาษาอังกฤษ ทีมีการขึ้นต้นด้วยตัวอักษรใหญ่)

วันสะบาโต

คำจำกัดความ

คำว่า "วันสะบาโต" อ้างถึงวันที่เจ็ดของสัปดาห์ ที่พระเจ้าได้บัญชาได้ให้ชาวอิสราเอลแยกออกให้เป็นวันของการพักผ่อนและไม่ทำงาน

  • หลังจากที่พระเจ้าเสร็จสิ้นการเนรมิตสร้างโลกในวันที่หก พระองค์ทรงพักผ่อนในวันที่เจ็ด ในทำนองเดียวกัน พระเจ้าได้บัญชาให้ชาวอิสราเอลตั้งวันที่เจ็ดให้เป็นวันพิเศษเพื่อพักผ่อนและนมัสการพระองค์
  • คำบัญชาให้ "รักษาวันสะบาโตให้บริสุทธิ์" เป็นข้อหนึ่งในพระบัญญัติสิบประการที่พระเจ้าได้เขียนบนแผ่นศิลาซึ่งพระองค์ได้ประทานให้โมเสสไว้เพื่อชาวอิสราเอล
  • ตามระบบการนับวันต่างๆ ของชาวยิว วันสะบาโตเริ่มต้นในวันศุกร์ช่วงที่ดวงอาทิตย์ตกและไปจนถึงวันเสาร์ตอนดวงอาทิตย์ตก
  • บางครั้งในพระคัมภีร์จะเรียกสะบาโตว่า "วันสะบาโต" มากกว่าแทนที่จะเรียกแค่สะบาโตเฉยๆ

คำแนะนำในการแปล

  • นี่สามารถแปลว่า "วันหยุดพัก" หรือ "วันสำหรับการหยุดพัก" หรือ "วันที่ไม่ทำงาน" หรือ "วันแห่งการหยุดของพระเจ้า"
  • คำแปลบางสำนวนได้ขึ้นต้นคำนี้ด้วยตัวอักษรใหญ่เพื่อแสดงว่านี่เป็นวันพิเศษ เช่น "วันสะบาโต" หรือ วันหยุดพักผ่อน"
  • ให้พิจารณาว่าคำนี้ได้แปลอย่างไรในท้องถิ่นและภาษากลาง

วันสุดท้าย, วาระสุดท้าย, ในสมัยปัจจบัน

คำจำกัดความ

คำว่า "วันสุดท้าย" หรือ "สมัยปัจจุบัน" โดยทั่วไปอ้างถึงช่วงเวลาที่กำลังนำไปสู่เวลาปัจจุบัน

  • ช่วงเวลานี้จะเป็นช่วงเวลาที่ไม่มีใครรู้
  • "วาระสุดท้าย" คือเวลาแห่งพิพากษาแก่คนเหล่านั้นที่ได้หันไปจากพระเจ้า

คำแนะนำในการแปล

  • คำว่า "วาระสุดท้าย" สามารถแปลว่า "วันสิ้นสุด" หรือ "ช่วงเวลาสุดท้าย" หรือ "เวลาสิ้นสุด"
  • ในบางบริบท นี่สามารถแปลว่า "เวลาสิ้นสุดของโลก" หรือ "เมื่อโลกนี้สิ้นสุด"

วันแห่งองค์พระผู้เป็นเจ้า วันแห่งพระยาห์เวห์

คำจำกัดความ

คำว่า "วันแห่งพระยาห์เวห์" ในพันธสัญญาเดิมใช้เพื่ออ้างถึงเวลาที่เฉพาะเจาะจงเมื่อพระเจ้าทรงลงโทษประชากรเพราะความบาปของพวกเขา

  • คำว่า "วันแห่งองค์พระผู้เป็นเจ้า" ในพันธสัญญาใหม่ มักกล่าวถึงวันหรือเวลาที่พระเยซูคริสต์จะเสด็จกลับมาพิพากษาประชากรเมื่อเวลาสิ้นยุค
  • สุดท้ายนี้ เวลาในอนาคตของการพิพากษาและการคืนชีพในบางครั้งเรียกว่า "วันสุดท้าย" เวลานี้จะเริ่มต้นเมื่อพระเยซู องค์พระผู้เป็นเจ้ากลับมาพิพากษาพวกคนบาปและจะสร้างการปกครองของพระองค์อย่างถาวร
  • คำว่า "วัน" ในวลีเหล่านี้อาจอ้างถึงวันตามตัวอักษร หรืออาจกล่าวถึง "เวลา" หรือ "โอกาส" ที่ยาวนานกว่าหนึ่งวัน
  • บางครั้งการลงโทษก็มักกล่าวถึงว่า "หลั่งความกริ้วของพระเจ้า" ลงบนบรรดาคนทั้งหลายที่ไม่ศรัทธา

คำแนะนำในการแปล

  • วิธีอื่น ๆ ในการแปล "วันแห่งพระยาห์เวห์" อาจรวมถึง "เวลาของพระยาห์เวห์" หรือ "เวลาซึ่งพระยาห์เวห์จะทรงลงโทษพวกศัตรูของพระองค์" หรือ "เวลาแห่งพระพิโรธของพระยาห์เวห์" ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับบริบทนั้น ๆ
  • ในการแปลอื่น ๆ "เวลาของพระผู้เป็นเจ้า" อาจรวมถึง "เวลาแห่งการพิพากษาขององค์พระผู้เป็นเจ้า" หรือ "เวลาที่พระเยซู องค์พระผู้เป็นเจ้าจะกลับมาพิพากษาบรรดาประชากร"

วิงวอนเพื่อคนอื่น, การวิงวอนเพื่อคนอื่น

คำจำกัดความ

คำว่า "วิงวอนให้คนอื่น" และ "การวิงวอนให้คนอื่น" อ้างถึงการขอร้องต่อบางคนในนามของอีกคนหนึ่ง ในพระคัมภีร์คำนี้มักจะหมายถึงการอธิษฐานเผื่อคนอื่น

  • คำว่า "ทำการวิงวอนเพื่อ" และ "วิงวอนเพื่อ" หมายถึงการขอร้องต่อพระเจ้าเพื่อผลประโยชน์ของคนอื่น
  • พระคัมภีร์สอนว่าพระวิญญาณบริสุทธิ์วิงวอนเพื่อเรา นั่นคือ พระองค์อธิษฐานต่อพระเจ้าเพื่อเรา
  • บุคคลวิงวอนเพื่อคนอื่นโดยการขอร้องเพื่อพวกเขาต่อคนที่มีสิทธิอำนาจ

คำแนะนำในการแปล

  • วิธีอื่นที่จะแปล "วิงวอนเพื่อ" สามารถรวมถึง "ขอร้องกับ" หรือ "กระตุ้น"

วิญญาณ, ฝ่ายวิญญาณ

คำจำกัดความ

คำว่า "วิญญาณ" อ้างถึงส่วนที่ไม่ใช่เนื้อหนังของคนซึ่งไม่สามารถมองเห็นได้ เมื่อบุคคลตายวิญญาณของเขาได้จากร่างของเขา "วิญญาณ" สามารถอ้างถึงทัศนคติหรือสภาพทางอารมณ์

  • คำว่า "วิญญาณ" หมายถึงตัวตนที่ไม่มีร่างกายโดยเฉพาะวิญญาณชั่ว
  • วิญญาณของบุคคล เป็นส่วนหนึ่งของเขาที่สามารถรู้จักพระเจ้าและเชื่อในพระองค์
  • โดยทั่วไป คำว่า "ฝ่ายวิญญาณ" อธิบายถึงสิ่งที่ไม่ใช่เนื้อหนังทางโลก
  • ในพระคัมภีร์ จะมีความหมายโดยเฉพาะอ้างถึงสิ่งใดที่เกี่ยวข้องกับพระเจ้า โดยเฉพาะกับพระวิญญาณบริสุทธิ์
  • ยกตัวอย่างเช่น "อาหารฝ่ายวิญญาณ" อ้างถึงคำสอนของพระเจ้าที่ให้การหล่อเลี้ยงวิญญาณของบุคคล "สติปัญญาฝ่ายวิญญาณ" อ้างถึงความรู้และการประพฤติที่ชอบธรรมที่มาจากฤทธิ์ของพระวิญญาณบริสุทธิ์
  • พระเจ้าทรงเป็นพระวิญญาณและพระองค์ทรงเป็นพระผู้เนรมิตเหล่าวิญญาณอื่นที่ไม่มีร่างกายเนื้อหนัง
  • เหล่าทูตสวรรค์เป็นวิญญาณที่มีชีวิต รวมถึงเหล่าวิญญาณที่กบฏต่อพระเจ้าและกลายเป็นวิญญาณชั่ว
  • คำว่า "วิญญาณแห่ง" สามารถหมายถึง "การมีคุณลักษณะของ" อย่างเช่นใน "จิตวิญญาณของปัญญา" หรือ "ในวิญญาณของเอลียาห์"
  • ตัวอย่างของ"วิญญาณ" เช่นในทัศนคติหรืออารมณ์จะรวมถึง "วิญญาณแห่งความกลัว" หรือ "วิญญาณแห่งความริษยา"

คำแนะนำในการแปล

  • ขึ้นอยู่กับบริบท บางวิธีในการแปล "วิญญาณ" อาจรวม "ไม่เป็นด้านร่างกาย" หรือ "ส่วนข้างใน" หรือ "ชีวิตที่อยู่ข้างใน"
  • ในบางบริบท คำว่า "วิญญาณ" สามารถแปลว่า "วิญญาณชั่ว" หรือ "ตัวตนวิญญาณชั่ว"
  • บางครั้ง คำว่า "วิญญาณ" ถูกใช้เพื่อแสดงถึงความรู้สึกของบุคคลที่อยู่ข้างใน "วิญญาณของฉันโศกเศร้าอยู่ในร่างของฉัน" นี่สามารถแปลว่า "ฉันรู้สึกโศกเศร้าในวิญญาณของฉัน" หรือ "ฉันรู้สึกโศกเศร้าอยู่ลึกๆ"
  • วลี "วิญญาณของ" สามารถแปลว่า "บุคลิกลักษณะของ" หรือ "อิทธิพลของ" หรือ "ทัศนคติของ" หรือ "ความคิดของ"

วินัย ควบคุมตนเอง

คำจำกัดความ

คำว่า "วินัย" กล่าวถึงการฝึกให้คนที่จะเชื่อตามหลักเกณฑ์พฤติกรรมทางศีลธรรม

  • บิดามารดาฝึกวินัยบรรดาบุตรของพวกเขาโดยการจัดแนวทางศีลธรรมสำหรับพวกเขา และสอนให้พวกเขาเชื่อฟัง
  • ในทำนองเดียวกันพระเจ้าทรงฝึกวินัยลูก ๆ ของพระองค์ เพื่อช่วยพวกเขาเกิดผลดีในการดำรงชีวิตฝ่ายวิญญาณ เช่นความยินดี ความรักและความอดทน
  • การมีวินัยเกี่ยวข้องกับคำแนะนำเกี่ยวกับวิธีที่จะมีชีวิตอยู่เพื่อจะเป็นที่โปรดปรานของพระเจ้า และเหมือนการลงโทษสำหรับพฤติกรรมที่ขัดต่อพระประสงค์ของพระเจ้า
  • ควบคุมตนเองคือกระบวนการของการใช้หลักการทางศีลธรรมและฝ่ายวิญญาณแก่ชีวิตของแต่ละคน

คำแนะนำในการแปล

  • ขึ้นอยู่กับบริบท "วินัย" อาจแปลว่า "อบรมและสั่งสอน" หรือ "แนวทางศีลธรรม" หรือ "ลงโทษสำหรับการกระทำผิด"
  • คำนามว่า "วินัย" อาจแปลว่า "การฝึกฝนทางศีลธรรม" หรือ "การลงโทษ" หรือ "การแก้ไขทางศีลธรรม" หรือ "คำแนะนำทางศีลธรรมและการสั่งสอน"

วิบัติ

คำจำกัดความ

คำว่า "วิบัติ" อ้างถึงความรู้สึกทุกข์ใจอย่างยิ่ง มันยังให้คำเตือนที่ใครบางคนจะประสบปัญหารุนแรง

  • ข้อความ "วิบัติแก่" จะตามด้วยคำเตือนแก่ประชาชนที่พวกเขาประสบกับความทุกข์ทรมานถือเป็นการลงโทษสำหรับความบาปของพวกเขา
  • ในพระคัมภีร์หลายตอน คำว่า "วิบัติ" จะถูกพูดซ้ำเพื่อเน้นถึงเฉพาะอย่างยิ่งการพิพากษาอันน่ากลัว
  • บุคคลที่กล่าวว่า "วิบัติคือข้าพเจ้า" หรือ "วิบัติแก่ข้าพเจ้า" คือการแสดงออกถึงความทุกข์ทรมานอย่างรุนแรง

คำแนะนำในการแปล

  • ขึ้นอยู่กับบริบท คำว่า "วิบัติ" สามารถแปลว่า "ความเศร้าโศกอย่างยิ่ง" หรือ "ความเศร้า" หรือ "ภัยพิบัติ" หรือ "ความพินาศ"
  • วิธีอื่นในการแปลข้อความนี้ "วิบัติแก่"

วิสุทธิสถาน, อภิสุทธิสถาน

คำจำกัดความ

ในพระคัมภีร์ คำว่า "วิสุทธิสถาน" และ "อภิสุทธิสถาน" อ้างถึงห้องสองห้องในพลับพลาหรืออาคารพระวิหาร

  • "วิสุทธิสถาน" เป็นห้องแรกและประกอบด้วยแท่นบูชาสำหรับเครื่องหอมและโต๊ะที่มี "ขนมปังศักดิ์สิทธิ์" วางอยู่
  • "อภิสุทธิสถาน" เป็นห้องที่สองที่อยู่ในสุดและมีหีบพันธสัญญาตั้งอยู่
  • ผ้าม่านที่หนาและหนักจะแยำห้องที่อยู่ทางด้านนอกออกจากห้องที่อยู่ทางด้านใน
  • มหาปุโรหิตเป็นเพียงคนเดียวที่ได้รับอนุญาตให้เข้าไปในอภิสุทธิสถาน
  • บางครั้ง "วิสุทธิสถาน" อ้างอาคารทั้งสองแห่งและบริวเณล้อมรอบของพระวิหารหรือพลับพลา และยังสามารถอ้างถึงสถานที่ใดก็ได้ที่แยกไว้สำหรับพระเจ้า

คำแนะนำในการแปล

  • "อภิสุทธิสถาน" เป็นห้องที่สองที่อยู่ในสุดและมีหีบพันธสัญญาตั้งอยู่
  • บางครั้ง "วิสุทธิสถาน" หมายถึงอาคารที่มีหลายห้องทั้งอาคารของวิหารหรือพลับพลา ข้อแนะนำในการแปล
  • คำว่า "วิสุทธิสถาน" สามารถแปลว่า "ห้องที่แยกไว้สำหรับพระเจ้า" หรือ "ห้องพิเศษสำหรับการพบกับพระเจ้า" หรือ "สถานที่ที่สงวนไว้สำหรับพระเจ้า"
  • คำว่า "อภิสุทธิสถาน" สามารถแปลว่า "ห้องที่แยกไว้สำหรับพระเจ้าโดยเฉพาะ" หรือ "ห้องที่พิเศษที่สุดสำหรับการพบพระเจ้า"
  • ขึ้นกับบริบท วิธีที่จะแปลคำกล่าวดดยทั่วไป "วิสุทธิสถาน" สามารถรวม "สถานที่ศักดิ์สิทธิ์" หรือ "สถานที่ที่พระเจ้าทรงแยกไว้" หรือ "สถานที่ในบริเวณพระวิหาร" ซึ่งศักดิ์สิทธิ์" หรือ "ลานแห่งพระวิหารของพระเจ้าองค์บริสุทธิ์"

ไว้วางใจ, เชื่อถือได้, ความน่าเชื่อถือ

คำจำกัดความ

คำว่า "ไว้วางใจ" อ้างถึงการเชื่อว่าบางสิ่งบางอย่างหรือบางคนเป็นความจริงหรือเชื่อถือได้ บุคคลที่ "น่าเชื่อถือ" สามารถที่จะได้รับการวางใจเพื่อทำหรือกล่าวสิ่งที่ถูกต้องและเป็นความจริง

  • ความไว้วางใจเกี่ยวข้องใกล้ชิดกับความเชื่อ ถ้าเราไว้วางใจใครสักคนเราก็มีศรัทธาในบุคคลนั้นเพื่อทำตามที่พวกเขาสัญญาจะทำ
  • การมีความไว้วางใจบางคนหมายความว่าขึ้นอยู่กับบุคคลนั้นเช่นกัน
  • "เชื่อมั่นใน" พระเยซูหมายความว่าเชื่อว่าพระองค์ทรงเป็นพระเจ้าและทรงสิ้นพระชนม์บนไม้กางเขนเพื่อชำระบาปของเราและพึ่งพาพระองค์เพื่อช่วยเราให้รอด
  • "คำพูดที่น่าเชื่อถือ" อ้างถึงบางสิ่งบางอย่างที่ได้กล่าวได้ว่าสามารถนับได้ว่าเป็นความจริง

คำแนะนำในการแปล

  • วิธีการแปลคำว่า "ไว้วางใจ" สามารถรวมถึง "เชื่อ" หรือ "มีศรัทธา" หรือ "มีความเชื่อมั่น" หรือ "ขึ้นอยู่กับ"
  • วลีที่ว่า "ท่านไว้วางใจใน" มีความคล้ายคลึงกันมากในความหมายของ "ไว้วางใจ"
  • คำว่า "เชื่อถือได้" สามารถแปลเป็น "วางใจได้" หรือ "น่าไว้วางใจ" หรือ "สามารถเชื่อถือได้เสมอ"

ศรัทธา, ศรัทธาใน, ความศรัทธา

คำจำกัดความ

คำว่า "ศรัทธา" และ "ศรัทธาใน" มีความหมายใกล้เคียงกัน แต่มีความหมายแตกต่างกันเล็กน้อย

คำแนะนำในการแปล

  • "ศรัทธา" สามารถแปลได้ว่า "รู้ว่าเป็นจริง" หรือ "รู้ว่าถูกต้อง"
  • "ศรัทธาใน" สามารถแปลได้ว่า "วางใจอย่างเต็มที่" หรือ "วางใจและเชื่อฟัง" หรือ "วางใจอย่างเต็มที่และทำตาม"

ศัตรูพระคริสต์, ปฏิปักษ์พระคริสต์

คำจำกัดความ

คำว่า "ศัตรูพระคริสต์" กล่าวถึงบุคคลหรือคำสอนที่ต่อต้านพระเยซูคริสต์และพระราชกิจของพระองค์ มีศัตรูของพระคริสต์อยู่มากมายในโลกนี้

  • อัตรทูตยอห์นได้เขียนไว้ว่า คนผู้เป็นศัตรูพระคริสต์ เขาจะหลอกลวงผู้คนโดยกล่าวว่า พระเยซูไม่ใช่พระเมสสิยาห์ หรือเขาปฏิเสธว่าพระเยซูไม่ใช่ทั้งพระเจ้าและมนุษย์
  • พระคัมภีร์ยังสอนอีกว่ามีวิญญาณทั่วไปที่เป็นศัตรูพระคริสต์ในโลกนี้ที่ต่อต้านพระราชกิจของพระเยซู
  • ในพระธรรมวิวรณ์ในพันธสัญญาใหม่อธิบายว่า จะมีคนที่เรียกว่า "ศัตรูพระคริสต์" มาปรากฏในวาระสุดท้าย ชายคนนี้จะหาทางทำลายประชากรของพระเจ้า แต่ในที่สุดเขาจะพ่ายแพ้แก่พระเยซู

ข้อแนะนำในการแปล

  • มีอีกหลายวิธีหนึ่งที่จะแปลคำนี้ อาจจะรวมทั้งคำหรือวลีที่หมายความถึง "ผู้ต่อต้านพระคริสต์" หรือ "ศัตรูพระคริสต์" หรือ "คนที่ต่อต้านพระคริสต์"
  • วลีที่ว่า "วิญญาณของศัตรูพระคริสต์" อาจแปลได้อีกว่า "วิญญาณที่ต่อต้านพระคริสต์"

ศิโยน, ภูเขาศิโยน

คำจำกัดความ

เดิมคำว่า "ศิโยน" หรือ "ภูเขาศิโยน" อ้างถึงที่มั่นหรือป้อมปราการที่กษัตริย์ดาวิดยึดจากคนเยบุส คำทั้งสองนี้ได้กลายมาเป็นการอ้างอิงถึงกรุงเยรูซาเล็ม

  • ภูเขาศิโยนและภูเขาโมริยาห์เป็นเนินเขาสองแห่งซึ่งกรุงเยรูซาเล็มตั้งอยู่ ต่อมาภายหลัง "ศิโยน" และ "ภูเขาศิโยน" ได้กลายเป็นคำศัพท์ทั่วไปที่อ้างถึงวิหารที่ตั้งอยู่ในกรุงเยรูซาเล็ม (ดู : metonymy)
  • ดาวิดได้ตั้งชื่อ ศิโยน หรือ กรุงเยรูซาเล็ม ว่า "เมืองของดาวิด" นี่แตกต่างจากบ้านเกิดของดาวิด คือเมืองเบธเลเฮ็ม ซึ่งได้ถูกเรียกว่าเมืองของดาวิด
  • คำว่า "ศิโยน" ได้ใช้ในเชิงเปรียบเทียบอื่น ๆ อีก เพื่ออ้างถึงอิสราเอลหรืออาณาจักรแห่งจิตวิญญาณของพระเจ้า หรือ กรุงเยรูซาเล็มใหม่ กรุงเยรูซาเล็มแห่งสวรรค์ใหม่ซึ่งพระเจ้าจะทรงเนรมิตสร้าง

ศิลามุมเอก

คำจำกัดความ

คำว่า "ศิลามุมเอก" กล่าวถึงหินขนาดใหญ่ที่ถูกตัดเป็นพิเศษและวางไว้ตรงมุมของฐานรากของอาคาร

  • หินอื่น ๆ ทั้งหมดของอาคารจะถูกวัดและวางไว้ในความสัมพันธ์กับศิลามุมเอกนี้
  • เป็นสิ่งสำคัญมากสำหรับความแข็งแรงและความมั่นคงของโครงสร้างทั้งหมด
  • ในพระคัมภีร์ใหม่ การชุมนุมของผู้ศรัทธาเปรียบกับอาคารที่มีพระเยซูคริสต์เป็น "ศิลามุมเอก"
  • ในลักษณะเดียวกับที่ศิลามุมเอกของอาคารจะค้ำและกำหนดตำแหน่งของอาคารทั้งหลัง ดังนั้นพระเยซูคริสต์จึงเป็นศิลามุมเอกที่สำคัญสำหรับการก่อตั้งและสนับสนุนการชุมนุมของผู้ศรัทธา

คำแนะนำในการแปล

  • คำว่า "ศิลามุมเอก" อาจแปลว่า "ศิลาหลักของอาคาร" หรือ "ศิลาฐานราก"
  • พิจารณาว่าภาษาเป้าหมายในการแปลมีคำสำหรับส่วนที่เป็นรากฐานของอาคารที่เป็นส่วนค้ำหลักหรือไม่ ถ้ามีให้ใช้คำนี้ได้
  • อีกวิธีหนึ่งในการแปลคำนี้คือ "ศิลาฐานราก"ที่ใช้สำหรับมุมของอาคาร"
  • สิ่งสำคัญคือต้องรักษาความจริงที่ว่านี่เป็นหินขนาดใหญ่ที่ใช้เป็นวัสดุก่อสร้างที่แข็งแรงและมั่นคง ถ้าหินไม่ได้ใช้สำหรับสร้างอาคารอาจมีคำอื่นที่สามารถนำมาใช้ซึ่งหมายความว่า "หินขนาดใหญ่"

ศิษย์

คำจำกัดความ

คำว่า "ศิษย์" กล่าวถึงบุคคลที่ใช้เวลาส่วนใหญ่กับครู เรียนรู้บุคลิกลักษณะ และการสอนของครูผู้นั้น

  • คนที่ติดตามพระเยซูไปเรื่อย ๆ ฟังคำสอนของพระองค์าและเชื่อฟังคำสอนนั้น ๆ พวกเขาถูกเรียกว่า "ศิษย์" ของพระองค์
  • ยอห์นผู้ให้รับบัพติศมาก็มีศิษย์ด้วย
  • ในช่วงพันธกิจของพระเยซู มีศิษย์หลายคนที่ติดตามพระองค์และได้ฟังคำสอนของพระองค์
  • พระเยซูเลือกศิษย์สิบสองคนให้เป็นผู้ติดตามที่ใกล้ชิดกับพระองค์มากที่สุด คนเหล่านี้กลายเป็นที่รู้จักในฐานะ "อัครทูต" ของพระองค์
  • อัครทูตสิบสองคนของพระเยซูยังคงเป็นที่รู้จักในฐานะ "ศิษย์" หรือ "สิบสองคน" ของพระองค์
  • ก่อนที่พระเยซูเสด็จขึ้นสวรรค์พระองค์ทรงบัญชาให้ศิษย์ของพระองค์สอนคนอื่นเกี่ยวกับการเป็นศิษย์ของพระพระองค์เช่นกัน
  • คนที่ศรัทธาในพระเยซูและเชื่อตามคำสอนของพระองค์ถูกเรียกว่า ศิษย์ของพระเยซู

คำแนะนำในการแปล

  • คำว่า "ศิษย์" สามารถแปลโดยคำหรือวลีที่หมายถึง "ผู้ติดตาม" หรือ "นักศึกษา" หรือ "นักเรียน" หรือ "ผู้เรียน"
  • ตรวจสอบให้แน่ใจว่าการแปลของคำนี้ไม่ได้หมายถึงเฉพาะนักศึกษาที่เรียนรู้ในห้องเรียนเท่านั้น
  • การแปลคำนี้ควรแตกต่างจากคำแปลของคำว่า "apostle"

ศิษยาภิบาล

คำจำกัดความ

คำว่า "ศิษยาภิบาล" มีความหมายตามตัวอักษรเช่นเดียวกันกับคำว่า "ผู้เลี้ยงแกะ" ใช้เป็นคำซึ่งบอกตำแหน่งของคนซึ่งเป็นผู้นำฝ่ายจิตวิญญาณของกลุ่มผู้เชื่อ

  • ในพระคัมภีร์ฉบับภาษาอังกฤษนั้น คำว่า "ศิษยาภิบาล" ปรากฎเพียงครั้งเดียวในพระธรรมเอเฟซัส คำดังกล่าวเป็นคำเดียวกับคำว่า "ผู้เลี้ยงแกะ" ซึ่งปรากฎในพระธรรมข้ออื่นๆ
  • สำหรับภาษาอื่นๆนั้น คำว่า "ศิษยาภิบาล" อาจเป็นคำเดียวกับคำว่า "ผู้เลี้ยงแกะ"
  • เป็นคำเดียวกับคำที่ใช้อ้างถึงพระเยซูในฐานะ "ผู้เลี้ยงแกะที่ดี"

คำแนะนำในการแปล

  • ทางที่ดีที่สุดควรแปลคำนี้เป็นคำเดียวที่แปลว่า "ผู้เลี้ยงแกะ" ในภาษาตามโครงการแปล
  • วิธีอื่นในการแปลคำนี้รวมถึง"ผู้เลี้ยงฝ่ายจิตวิญญาณ" หรือ "ผู้นำผู้เลี้ยงคริสเตียน"

สง่าผ่าเผย

คำจำกัดความ

คำว่า "สง่าผ่าเผย" อ้างถึงความยิ่งใหญ่และความรุ่งโรจน์ บ่อยครั้งมักเกี่ยวข้องกับคุณสมบัติของกษัตริย์

  • ในพระคัมภีร์คำว่า "สง่าผ่าเผย" บ่อยครั้งมักจะอ้างถึงความยิ่งใหญ่ของพระเจ้าผู้ซึ่งเป็นกษัตริย์ผู้ยิ่งใหญ่เหนือจักรวาล
  • "ฝ่าละอองธุลีพระบาท" เป็นวิธีพูดกับกษัตริย์

คำแนะนำในการแปล

  • คำนี้สามารถแปลเป็น "พระบารมี" หรือ "ใต้ฝ่าละอองธุลีพระบาท"
  • "ฝ่าละอองธุลีพระบาท" สามารถแปลว่า "ความสง่าผ่าเผย" หรือ "ความมีอำนาจ" หรือใช้แบบธรรมดาในการกล่าวกับผู้ปกครองในภาษาที่แปลนั้น

สดุดี

คำจำกัดความ

คำว่า "สดุดี" อ้างถึงบทเพลงศักดิ์สิทธิ์ มักจะเป็นในรูปแบบของบทกวีที่ถูกเขียนขึ้นมาเพื่อการร้อง

  • ในพันธสัญญาเดิม พระธรรมสดุดีได้รวบรวมเพลงเหล่านี้ที่เขียนขึ้นโดยกษัตริย์ดาวิดและชาวอิสราเอลทั้งหลาย เช่น โมเสส ซาโลมอน และอาสาฟ ท่ามกลางคนอื่นๆ
  • พระธรรมสดุดีถูกใช้โดยชนชาติอิสราเอลในการนมัสการพระเจ้าของพวกเขา
  • พระธรรมสดุดีสามารถใช้เพื่อแสดงความชื่นชมยินดี ความเชื่อ และความเคารพน่าถือ ตลอดจนความเจ็บปวดและความโศกเศร้า
  • ในพันธสัญญาใหม่ คริสเตียนถูกสอนให้ร้องเพลงสดุดีถวายแด่พระเจ้าเพื่อเป็นการนมัสการพระองค์

สถานศักดิ์สิทธิ์

คำจำกัดความ

คำว่า "สถานศักดิ์สิทธิ์"ตามตัวอักษรความหมายว่า "สถานที่บริสุทธิ์" และอ้างถึงสถานที่ที่พระเจ้าถูกทำให้เป็นที่ศักดิ์สิทธิ์และบริสุทธิ์ และยังสามารถอ้างถึงสถานที่ที่มีการคุ้มครองและความปลอดภัย

  • ในพันธสัญญาเดิม คำว่า "สถานศักดิ์สิทธิ์" ถูกใช้บ่อยเพื่ออ้างถึงพลับพลาหรืออาคารพระวิหารที่ "สถานที่ศักดิ์สิทธิ์" และ "สถานที่ศักดิ์สิทธิ์ที่สุด" ตั้งอยู่
  • พระเจ้าได้อ้างอิงสถานศักดิ์สิทธิ์ดั่งเป็นสถานที่ซึ่งพระองค์สถิตในท่ามกลางประชากรของพระองค์ คือพวกอิสราเอล
  • พระองค์ได้ทรงเรียกพระองค์ว่า"สถานศักดิ์สิทธิ์" หรือเป็นที่ปลอดภัยสำหรับประชาชนที่พวกเขาสามารถหาการอารักขาได้

คำแนะนำในการแปล

  • คำนี้มีความหมายธรรมดาของ "สถานที่ศักดิ์สิทธิ์" หรือ "สถานที่ถูกแยกออกมา"
  • ขึ้นอยู่กับบริบท คำว่า "สถานศักดิ์สิทธิ์" สามารถแปลว่า "สถานที่ศักดิ์สิทธิ์" หรือ "อาคารศักดิ์สิทธิ์" หรือ "สถานที่ความศักดิ์สิทธิ์ของพระเจ้าดำรงอยู่" หรือ "สถาที่ศักดิ์สิทธิ์ของการอารักขา" หรือ "สถานศักดิ์สิทธิ์แห่งความปลอดภัย"
  • วลี "เงินเชเขลของสถานศักดิ์สิทธิ์" สามารถแปลว่า "ชนิดของเงินเชเขลที่ได้ให้สำหรับพลับพลา" หรือ "เงินเชเขลที่ใช้เป็นเหมือนภาษีเพื่อดูแลพระวิหาร"
  • หมายเหตุ จงระวังว่าการแปลคำนี้จะไม่อ้างถึงห้องนมัสการในคริสตจักรสมัยใหม่

สวรรค์, ท้องฟ้า, ท้องฟ้าทั้งมวล, ดังสวรรค์

คำจำกัดความ

คำที่แปลว่า "สวรรค์" อ้างถึงสถานที่ที่พระเจ้าประทับอยู่ คำเดียวกันอาจจะหมายถึง "ท้องฟ้า" ขึ้นอยู่กับบริบท

  • คำว่า "ท้องฟ้าทั้งมวล" อ้างถึงทุกสิ่งที่เราเห็นเหนือแผ่นดินโลก รวมถึงดวงอาทิตย์ ดวงจันทร์ และดวงดาว ซึ่งรวมถึงสิ่งต่างๆในท้องฟ้า เช่น ดาวเคราะห์ที่อยู่ห่างออกไป ซึ่งเราไม่สามารถมองเห็นได้โดยตรงจากโลก
  • คำว่า "ท้องฟ้า" อ้างถึงพื้นที่กว้างใหญ่ไพศาลสีฟ้าเหนือแผ่นดินโลกที่มีเมฆและอากาศที่เราหายใจเข้าไป ดวงอาทิตย์และดวงจันทร์มักจะถูกกล่าวถึงว่าอยู่ "บนท้องฟ้า"
  • ในบางบริบทในพระคัมภีร์ คำว่า "สวรรค์" อาจหมายถึงท้องฟ้าหรือสถานที่ที่พระเจ้าประทับอยู่
  • เมื่อ "สวรรค์" ถูกใช้ในเชิงอุปมาอุปไมย นั่นเป็นวิธีที่กล่าวถึงพระเจ้า ยกตัวอย่างเช่น เมื่อมัทธิวเขียนเกี่ยวกับ "อาณาจักรแห่งสวรรค์" เขากำลังอ้างถึงอาณาจักรของพระเจ้า

คำแนะนำในการแปล

  • เมื่อ "สวรรค์" ถูกใช้ในเชิงอุปมาอุปไมย สามารถแปลได้ว่า "พระเจ้า"
  • สำหรับ "อาณาจักรแห่งสวรรค์" ในหนังสือมัทธิวนั้น เป็นการดีที่สุดที่จะรักษาคำว่า "สวรรค์" ไว้เนื่องจากนี่เป็นลักษณะเฉพาะของพระกิตติคุณมัทธิว
  • คำว่า "สวรรค์" หรือ "ดวงดาวในท้องฟ้า" สามารถแปลได้ว่า "ดวงอาทิตย์ ดวงจันทร์ และดวงดาว" หรือ "ดวงดาวทั้งหมดในจักรวาล"
  • วลี "ดวงดาวทั้งหลายแห่งสวรรค์" สามารถแปลได้ว่า "ดวงดาวทั้งหลายในท้องฟ้า" หรือ "ดวงดาวทั้งหลายในทางช้างเผือก" หรือ "ดวงดาวทั้งหลายในจักรวาล"

สะดูสี

คำจำกัดความ

พวกสะดูสีเป็นกลุ่มที่เกี่ยวข้องกับการเมืองของพวกปุโรหิตชาวยิวในช่วงเวลาของพระเยซูคริสต์ เป็นผู้ที่สนับสนุนการปกครองของชาวโรมันและไม่เชื่อในเรื่องการฟื้นคืนชีพ

  • สะดูสีหลายคนเป็นคนมั่งมี เป็นชาวยิวชั้นสูงและเป็นผู้ที่ดำรงตำแหน่งผู้นำที่มีอำนาจ อย่างเช่น หัวหน้าปุโรหิต และมหาปุโรหิต
  • หน้าที่ของพวกสะดูสี รวมถึง การดูแลรักษาบริเวณรอบพระวิหารและงานในหน้าที่ปุโรหิต อย่างเช่น การถวายเครื่องบูชา
  • พวกสะดูสีและฟาริสีมีอิทธิพลอย่างมากต่อผู้นำชาวโรมันในการตรึงพระเยซู
  • พระเยซูได้พูดต่อต้านผู้นำทางศาสนาสองกลุ่มนี้เพราะความเห็นแก่ตัวและการเสแสร้งของพวกเขา

สะอาด, ชำระให้สะอาด

คำจำกัดความ

คำว่า "สะอาด" มีความหมายตามตัวอักษรว่าไม่มีความสกปรกหรือมลทินใดๆ ในพระคัมภีร์ คำนี้มักใช้เป็นคำเปรียบเทียบที่หมายถึง "ทำให้บริสุทธิ์" "บริสุทธิ์" หรือ "ปราศจากบาป"

  • "การชำระให้สะอาด" เป็นกระบวนการของการทำให้สิ่งใดสิ่งหนึ่ง "สะอาด" คำนี้สามารถแปลได้ว่า "ชำระล้าง" หรือ "ทำให้บริสุทธิ์"
  • ในพันธสัญญาเดิม พระเจ้าได้ทรงบอกชนชาติอิสราเอลว่าสัตว์ชนิดใดที่ชี้เฉพาะเจาะจงว่าเป็นสัตว์ที่ "สะอาด" ที่ใช้ถวายบูชา และสัตว์ชนิดใดที่เป็น "มลทิน" สัตว์ที่สะอาดเท่านั้นที่ได้รับอนุญาตให้ใช้เพื่อกินหรือถวายบูชา ในบริบทนี้ คำว่า "สะอาด" มีความหมายว่า สัตว์ตัวนั้นได้รับการยอมรับจากพระเจ้าเพื่อใช้เป็นเครื่องถวายบูชา
  • คนที่เป็นโรคผิวหนังบางอย่างจะเป็นมลทินจนกว่าผิวหนังจะได้รับการรักษาให้หายพอที่จะไม่แพร่เชื้อโรคอีกต่อไป คำสอนเกี่ยวกับการชำระผิวหนังให้สะอาดที่ต้องเชื่อฟัง เพื่อที่คนนั้นจะได้รับการประกาศว่า "สะอาด" อีกครั้ง
  • บางครั้ง "สะอาด" ใช้เป็นคำเปรียบเทียบที่กล่าวถึง ความบริสุทธิ์ทางศีลธรรม

คำแนะนำในการแปล

  • คำนี้สามารถแปลด้วยคำทั่วๆ ไป สำหรับคำว่า "สะอาด" หรือ "บริสุทธิ์"

สัญญา, คำสัญญา, พระสัญญา

คำจำกัดความ

คำสัญญาคือ คำปฏิญาณเพื่อทำบางอย่าง เมื่อมีคนสัญญาบางอย่างนั่นแปลว่าเขากำลังให้คำมั่นสัญญาที่จะทำบางสิ่งบางอย่าง

  • พระคัมภีร์บันทึกพระสัญญาหลายประการที่พระเจ้าได้ทรงกระทำเพื่อประชากรของพระองค์
  • คำสัญญาเป็นส่วนสำคัญส่วนหนึ่งของข้อตกลงอย่างเป็นทางการเช่น พันธสัญญา
  • คำสัญญาบ่อยครั้งมาพร้อมกับคำปฏิญาณเพื่อยืนยันว่ามันจะต้องทำดังนั้น

คำแนะนำในการแปล

  • คำว่า "สัญญา" สามารถแปลว่า "ความมุ่งมั่น" หรือ "การให้คำมั่นใจ" หรือ "การรับประกัน"
  • "สัญญาว่าจะทำ" สามารถแปลว่า "รับประกันกับบางคนว่าท่านจะทำบางอย่าง" หรือ "มุ่งมั่นที่จะทำบางอย่าง"

สัญญาณ, พิสูจน์, การแจ้งเตือน

คำจำกัดความ

สัญญาณสามารถหมายถึง สิ่งของ เหตุการณ์ หรือการสื่อสารถึงความหมายพิเศษ

  • สัญญาณ สามารถเป็นเครื่องเตือนความบางสิ่งที่ได้สัญญาไว้แล้ว
  • รุ้งที่พระเจ้าได้เนรมิตไว้บนท้องฟ้าเป็นสัญญาณที่เตือนผู้คนว่าพระเจ้าจะไม่ทำลายทุกชีวิตด้วยการให้น้ำท่วมโลกอีก
  • พระเจ้าตรัสสั่งคนอิสราเอลให้บุตรชายของเขาเข้าสุหนัตเพื่อเป็นสัญญาณแห่งพันธสัญญากับพวกเขา
  • สัญญาณสามารถเปิดเผยหรือชี้ให้เห็นถึงบางสิ่งบางอย่างได้
  • ทูตสวรรค์องค์หนึ่งได้ให้สัญญาณแก่คนเลี้ยงแกะที่จะช่วยให้พวกเขารู้ว่าทารกคนไหนในเมืองเบธเลเฮ็มที่เป็นพระเมสิยาห์ที่บังเกิดใหม่
  • ยูดัสได้จูบพระเยซูเพื่อสัญญาณให้แก่พวกผู้นำศาสนาว่าพระเยซูเป็นผู้ที่พวกเขาควรจะจับ
  • สํญญาณสามารถพิสูจน์บางอย่างว่าเป็นความจริง
  • การอัศจรรย์ต่างๆที่ได้กระทำโดยพวกผู้เผยพระวจนะและเหล่าสาวกเป็นสัญญาณที่พิสูจน์ว่าคนเหล่านี้กำลังพูดถึงพระวจนะของพระเจ้า
  • การอัศจรรย์ต่างๆที่พระเยซูได้กระทำเป็นเครื่องหมายที่พิสูจน์ว่าแท้จริงพระองค์ทรงเป็นพระเมสิยาห์

คำแนะนำในการแปล

  • ขึ้นอยู่กับบริบท "สัญญาณ" สามารถแปลว่า "สัญญาณ" หรือ "สัญลักาณ์" หรือ "เครื่องหมาย" หรือ "หลักฐาน" หรือ "ข้อพิสูจน์" หรือ "การให้สัญญาณ"
  • "การทำสัญญาณด้วยมือ" สามารถแปลว่า ""การเคลื่อนไหวด้วยมือ" หรือ "การให้สัญญาณด้วยมือ" หรือ "ทำสัญญาณ"
  • ในบางภาษา อาจจะมีหลายคำสำหรับ "สัญญาณ" ที่พิสูจน์บางสิ่งและคำต่างกันสำหรับ "สัญญาณ" นั่นคือการอัศจรรย์

สัตย์ซื่อ, ความสัตย์ซื่อ

คำจำกัดความ

"สัตย์ซื่อ" ต่อพระเจ้าหมายถึงการดำเนินชีวิตอย่างต่อเนื่องตามคำสอนของพระเจ้า นั่นหมายถึงการจงรักภักดีต่อพระองค์โดยการเชื่อฟังพระองค์ คำกล่าว หรือเงื่อนไขของการสัตย์ซื่อคือ "ความซื่อสัตย์"

  • คนที่สัตย์ซื่อสามารถไว้วางใจที่จะรักษาสัญญาของเขาและเติมเต็มความรับผิดชอบของเขาต่อผู้อื่นเสมอ
  • คนที่สัตย์ซื่อจะมีความมุ่งมั่นในการทำงาน ถึงแม้ว่าจะยากและใช้เวลานาน
  • ความสัตย์ซื่อต่อพระเจ้าคือการกระทำอย่างต่อเนื่องในสิ่งที่พระเจ้าต้องการให้เราทำ

คำแนะนำการแปล

  • ในหลายๆ ข้อความ คำว่า "สัตย์ซื่อ" สามารถแปลได้อีกอย่างว่า "ภักดี" หรือ "อุทิศ" หรือ "พึ่งพาได้"
  • ในข้อความอื่นๆ คำว่า "สัตย์ซื่อ" สามารถแปลได้โดยใช้คำหรือวลีที่หมายถึง "ศรัทธาอย่างต่อเนื่อง" หรือ "พากเพียรในความศรัทธาและเชื่อฟังพระเจ้า"
  • แนวทางที่ "ความสัตย์ซื่อ" สามารถแปลได้รวมทั้ง "พากเพียรในความศรัทธา" หรือ "จงรักภักดี" หรือ "ความเชื่อถือได้" หรือ "ความศรัทธาและเชื่อฟังพระเจ้า"

สาปแช่ง ถูกสาปแช่ง

คำจำกัดความ

คำว่า "สาปแช่ง" หมายถึงก่อให้เกิดสิ่งเชิงลบที่จะเกิดกับบุคคลหรือสิ่งที่ถูกสาปแช่ง

  • สาปแช่งอาจเป็นข้อความว่าอันตรายจะเกิดขึ้นกับบุคคลหรือของบางสิ่ง
  • การสาปแช่งบางคนยังสามารถแสดงออกถึงความปรารถนาที่ให้สิ่งเลวร้ายจะเกิดขึ้นกับพวกเขา
  • นอกจากนี้ยังกล่าวถึงการลงโทษหรือสิ่งที่เป็นเชิงลบอื่น ๆ ที่บางคนเป็นเหตุให้เกิดขึ้นกับบางคน

คำแนะนำในการแปล

  • คำนี้อาจแปลว่า "ทำให้เกิดสิ่งเลวร้ายขึ้น" หรือ "ประกาศว่ามีบางอย่างที่ไม่ดีจะเกิดขึ้น" หรือ "สาบานว่าจะก่อให้เกิดสิ่งชั่วร้ายขึ้น"
  • ในบริบทของพระเจ้าที่ส่งคำสาปแช่งไปยังประชากรที่ไม่เชื่อฟังของพระองค์ อาจแปลว่า "ลงโทษด้วยการปล่อยให้สิ่งเลวร้ายเกิดขึ้น"
  • คำว่า "สาปแช่ง" เมื่อใช้เพื่ออธิบายประชาชนสามารถแปลได้เช่นนี้

สามัคคีธรรม, ความสามัคคีธรรม

คำจำกัดความ

โดยทั่วไปคำว่า "สามัคคีธรรม" กล่าวถึงการมีปฏิสัมพันธ์แบบเพื่อนระหว่างสมาชิกในกลุ่มคนที่แบ่งปันความสนใจและประสบการณ์ที่คล้ายกัน

  • ในพระคัมภีร์ คำว่า "สามัคคีธรรม" ปกติแล้วกล่าวถึงความเป็นหนึ่งเดียวกันของผู้ศรัทธาในพระคริสต์
  • การสามัคคีธรรมของคริสเตียนคือการแบ่งปันความสัมพันธ์ที่ผู้ศรัทธามีระหว่างกัน ผ่านความสัมพันธ์ของพวกเขากับพระคริสต์และพระวิญญาณบริสุทธิ์
  • คริสเตียนช่วงแรกๆ แสดงการสามัคคีธรรมของพวกเขาผ่านการฟังคำสอนพระคำของพระเจ้าและอธิษฐานด้วยกัน ผ่านการแบ่งปันสิ่งของที่พวกเขามีและการรับประทานอาหารร่วมกัน
  • คริสเตียนก็มีการสามัคคีธรรมกับพระเจ้าผ่านความเชื่อของพวกเขาในพระเยซูและการสิ้นพระชนม์บนไม้กางเขนที่ได้ทำลายอุปสรรคระหว่างพระเจ้ากับมนุษย์

คำแนะนำการแปล

  • แนวทางการแปลคำว่า "สามัคคีธรรม" สามารถรวมทั้งคำว่า "การแบ่งปันซึ่งกันและกัน" หรือ "ความสัมพันธ์" หรือ "สัมพันธไมตรี" หรือ "ชุมชนคริสเตียน"

สารภาพ, ยอมรับ, การสารภาพ

คำจำกัดความ

สารภาพ หมายถึงการยอมรับ หรือการยืนยันว่าบางสิ่งเป็นความจริง "การสารภาพ" เป็นการกล่าว หรือการยอมรับว่าบางสิ่งเป็นความจริง

  • คำว่า "สารภาพ" สามารถกล่าวถึงการกล่าวความจริงเรื่องพระเจ้าอย่างกล้าหาญ คำนี้ยังกล่าวถึงการยอมรับว่าเราทำบาปด้วย
  • พระคัมภีร์บอกว่า ถ้าประชาชนสารภาพบาปของพวกเขาต่อพระเจ้า พระองค์จะทรงอภัยให้กับพวกเขา
  • อัครทูตยากอบได้เขียนในจดหมายของท่านว่า เมื่อผู้ศรัทธาสารภาพบาปของพวกเขาต่อกันและกัน นี่จะนำไปสู่การรักษาโรคฝ่ายวิญญาณ
  • อัครทูตเปาโลได้เขียนไปถึงชาวฟีลิปปีว่าวันหนึ่งทุกคนจะยอมรับ และประกาศว่าพระเยซูทรงเป็นองค์พระผู้เป็นเจ้า
  • เปาโลยังได้พูดอีกด้วยว่า ถ้าประชาชนยอมรับว่าพระเยซูทรงเป็นองค์พระผู้เป้นเจ้าและศรัทธาว่าพระเจ้าได้ทรงทำให้พระองค์เป็นขึ้นมาจากความตาย พวกเขาจะได้รับความรอด

คำแนะนำในการแปล

  • การแปลคำว่า "สารภาพ" ในรูปแบบต่างๆ ขึ้นอยู่กับบริบท ที่รวมถึง "ยอมรับ" หรือ "พิสูจน์แล้ว" หรือ "ประกาศ" หรือ "รับรู้" หรือ "ยืนยัน"
  • การแปล "การสารภาพ" ในรูปแบบที่แตกต่างออกไป คือ "การประกาศ" หรือ "การเป็นพยาน" หรือ "กล่าวเกี่ยวกับสิ่งที่เราศรัทธา" หรือ "ยอมรับว่าทำบาป"

สำแดง, การเปิดเผย

คำจำกัดความ

คำว่า "สำแดง" หมายถึงการทำให้บางสิ่งบางอย่างเป็นที่รู้ การเปิดเผย เป็นบางสิ่งบางอย่างที่ได้ทำให้รู้

  • ในพระคัมภีร์ คำว่า "สำแดง" มักใช้เพื่ออธิบายว่าพระเจ้าทรงให้พระองค์เป็นที่รู้้จักของมนุษย์อย่างไร
  • พระเจ้าได้สำแดงพระองค์ผ่านทางทุกสิ่งที่พระองค์ได้ทรงเนรมิตสร้างและผ่านทางการสื่อสารกับประชาชนโดยการพูดและเขียนข้อความ
  • พระเจ้ายังสำแดงพระองค์ผ่านทางความฝันหรือนิมิตทั้งหลาย
  • เมื่อเปาโลบอกว่าเขาได้รับข่าวประเสริฐโดย "การเปิดเผยจากพระเยซูคริสต์" เขาหมายถึงพระเยซูได้อธิบายข่าวประเสริฐให้ท่านด้วยตัวพระองค์เอง
  • ในพันธสัญญาใหม่พระธรรม "วิวรณ์" เป็นเรื่องราวการเปิดเผยของพระเจ้าถึงเหตุการณ์ที่จะเกิดขึ้นในยุคสุดท้าย พระองค์ได้ทรงเปิดเผยสิ่งเหล่าให้แก่อัครสาวกยอห์นผ่านทางนิมิต

คำแนะนำในการแปล

  • วิธีอื่นในการแปล "เปิดเผย" สามารถรวม "ทำให้รู้" หรือ "เปิดเผย" หรือ "แสดงอย่างชัดเจน"
  • ขึ้นอยู่กับบริบท การแปลที่เป็นไปได้ ของ "การเปิดเผย" สามารถแปลว่า "การสื่อสารจากพระเจ้า" หรือ "สิ่งที่พระเจ้าได้เปิดเผย" หรือ "คำสอนเกี่ยวกับพระเจ้า" เป็นการดีที่สุดให้คงความหมายของคำว่า "เปิดเผย" ในคำนี้
  • วลี "ในที่ที่ไม่มีการเปิดเผย" สามารถแปลว่า "เมื่อพระเจ้าไม่เปิดเผยพระองค์เองต่อประชาชน" หรือ "เมื่อพระเจ้าไม่ได้ตรัสกับประชาชน" หรือ "ท่ามกลางประชาชนผู้ที่พระเจ้าไม่ได้สื่อสารกับพวกเขา"

สิทธิบุตรหัวปี

คำจำกัดความ

คำว่า "สิทธิบุตรหัวปี" ในพระคัมภีร์ กล่าวถึงการให้เกียรติ ชื่อของครอบครัว และโดยปกติทั่วไป ความมั่งคั่งทางวัตถุจะมอบให้กับบุตรชายที่เกิดเป็นคนแรกในครอบครัว

  • สิทธิบุตรหัวปีของบุตรชายคนแรกรวมถึงการได้รับมรดกจากพ่อสองเท่า
  • โดยปกติทั่วไป บุตรชายคนแรกของกษัตริย์จะได้รับสิทธิบุตรหัวปีที่จะครองราชย์หลังจากที่บิดาสิ้นชีวิต
  • เอซาวได้ขายสิทธิบุตรหัวปีของเขาให้กับยาโคบน้องชาย เพราะเรื่องนี้ ยาโคบจึงได้รับมรดกพระพรของบุตรหัวปีแทนเอซาว
  • สิทธิบุตรหัวปียังรวมถึงเกียรติยศของการมีพงศ์พันธุ์ของครอบครัวผ่านทางเชื้อสายของบุตรชายหัวปี

คำแนะนำในการแปล

  • วิธีที่เป็นได้ที่จะแปลว่า "สิทธิบุตรหัวปี" สามารถรวมถึง "สิทธิและความมั่งคั่งของบุตรชายหัวปี" หรือ "เกียรติยศของครอบครัว" หรือ "สิทธิพิเศษและมรดกของบุตรหัวปี"

สิทธิอำนาจ

คำจำกัดความ

คำว่า "สิทธิอำนาจ" กล่าวถึงอำนาจหรืออิทธิพลและการควบคุมที่บางคนมีเหนือบางคน

  • กษัตริย์และผู้ปกครองคนอื่นๆ มีสิทธิอำนาจเหนือประชาชนที่พวกเขาปกครอง
  • คำว่า "ผู้มีอำนาจทั้งหลาย" กล่าวถึงประชาชน รัฐบาล หรือองค์การต่างๆ ที่มีสิทธิอำนาจเหนือคนอื่น
  • เจ้านายมีอำนาจเหนือพวกคนรับใช้ หรือพวกทาสของพวกเขา ผู้ปกครองมีอำนาจเหนือเด็กๆ ของพวกเขา
  • รัฐบาลมีอำนาจ หรือ สิทธิที่จะออกกฏหมายที่จะปกครองพวกพลเมืองของพวกเขา

ข้อแนะนำในการแปล

  • คำว่า "สิทธิอำนาจ" อาจแปลได้อีกว่า "ควบคุม" หรือ "สิทธิ์" หรือ "คุณสมบัติ"
  • บางครั้งคำว่า "สิทธิอำนาจ" ถูกใช้หมายความว่า "อำนาจ"
  • เมื่อคำว่า "ผู้มีอำนาจ" ถูกใช้เพื่อกล่าวถึงผู้คนหรือองค์การต่างๆ ที่ปกครองประชาชน คำนี้ก็สามารถแปลได้ว่า "พวกผู้นำ" หรือ "พวกผู้ปกครอง" หรือ "พวกผู้มีอำนาจ"
  • วลีที่ว่า "ด้วยสิทธิอำนาจของตนเอง" อาจแปลได้ว่า "ด้วยอำนาจในการนำของเขาเอง" หรือ "ขึ้นอยู่กับคุณสมับัติของเขาเอง"
  • วลีที่ว่า "ภายใต้สิทธิอำนาจ" อาจแปลได้ว่า "รับผิดชอบที่จะเชืื่อฟัง" หรือ "ต้องเชื่อฟังคำสั่งของคนอื่น"

หัวใจ

คำจำกัดความ

ในพระคัมภีร์ คำว่า "หัวใจ" มักจะถูกใช้ในเชิงอุปมาอุปไมยซึ่งอ้างถึงความคิด อารมณ์ ความปรารถนาหรือความตั้งใจของบุคคล

  • การมี "หัวใจแข็งกระด้าง" เป็นคำกล่าวทั่วไปที่หมารยถึงบุคคลที่ปฎิเสธที่จะเชื่อฟังพระเจ้าด้วยความดื้อรั้น
  • คำกล่าว "ด้วยสุดใจของข้าพเจ้า" หรือ "ด้วยหัวใจทั้งหมดของข้าพเจ้า" หมายถึงการทำบางอย่างโดยเต็มกำลัง โดยการทุ่มเทและตั้งใจอย่างเต็มที่
  • คำกล่าว "เอามาใส่ใจ" หมายถึงการปฏิบัติต่อบางอย่างด้วยความจริงจังและนำมาใช้ในชีวิตของตนเอง
  • คำว่า "ใจแตกสลาย" อธิบายถึงคนที่โศกเศร้าอย่างมาก พวกเขาถูกทำร้ายลึกด้านอารมณ์ความรู้สึก

คำแนะนำในการแปล

  • บางภาษาใช้ส่วนอื่นของร่างกาย เช่น "กระเพาะ" หรือ "ตับ" เพื่ออ้างถึงความคิดเหล่านี้
  • ภาษาอื่นๆอาจจะใช้คำเดียวในการอธิบายแนวคิดบางอย่างเหล่านี้และใช้อีกคำหนึ่งในการอธิบายแนวคิดอื่นๆ
  • ถ้า "หัวใจ" หรือร่างกายส่วนอื่นๆ ไม่ได้มีความหมายนี้ บางภาษาอาจจำเป็นต้องแปลตรงๆ ไม่ต้องเปรียบเทียบ และใช้คำว่า "ความคิด" หรือ "อารมณ์ความรู้สึก" หรือ "ความปรารถนา"
  • ขึ้นอยู่กับบริบท "ด้วยสุดใจของข้าพเจ้า" หรือ "ด้วยหัวใจทั้งหมดของข้าพเจ้า" สามารถแปลได้ว่า "ด้วยพลังทั้งหมดของข้าพเจ้า" หรือ "ด้วยการทุ่มเทอย่างเต็มกำลัง" หรือ "อย่างเต็มที่"
  • วลี "เอามาใส่ใจ" อาจจะแปลได้ว่า "ปฎิบัติต่อสิ่งนั้นด้วยความจริงจัง" หรือ "คิดอย่างรอบคอบเกี่ยวกับสิ่งนั้น"
  • คำกล่าว "หัวใจแข็งกระด้าง" อสามารถแปลได้ว่า "กบฎด้วยความดื้อดึง" หรือ "ปฎิเสธที่จะเชื่อฟัง" หรือ "ไม่เชื่อฟังพระเจ้าต่อไปเรื่อยๆ"
  • วิธีที่จะแปล "ใจแตกสลาย" สามารถรวมถึง "เสียใจมาก" หรือ "รู้สึกเจ็บปวดอย่างมาก"

หีบ, เรือ, นาวา

คำจำกัดความ

คำว่า "หีบ" ตามตัวอักษรแล้วกล่าวถึงกล่องไม้ทรงสี่เหลี่ยมผืนผ้า ทำขึ้นมาเพื่อประคองหรือปกป้องบางอย่าง หีบอาจมีขนาดใหญ่หรือเล็กขึ้นอยู่กับว่าใช้เพื่ออะไร

  • ในพระคัมภีร์ภาษาอังกฤษ คำว่า "หีบ" ถูกใช้ครั้งแรกเมื่อพูดถึงเรือไม้สี่เหลี่ยมที่มีขนาดใหญ่ที่โนอาห์ได้สร้างขึ้นมาเพื่อจะหนีจากน้ำท่วมครั้งใหญ่ เรือนั้นมีพื้นเรียบ มีหลังคา และฝา
  • วิธีอื่นๆ ที่จะแปลคำนี้อาจรวมถึงคำว่า "เรือลำใหญ่มาก" หรือ "เรือบรรทุก" หรือ "เรือสินค้า" หรือ "เรือทรงกล่องขนาดใหญ่"
  • คำในภาษาฮีบรูที่ใช้เรียกเรือขนาดใหญ่นี้เป็นคำเดียวกับที่ใช้เรียกตะกร้าหรือกล่องที่ใส่ทารกโมเสส เมื่อมารดาของเขาเอาไปปล่อยในแม่น้ำไนล์เพื่อซ่อนเขา ปกติแล้วจะแปลว่า "ตะกร้า"
  • ส่วนคำว่า "หีบพันธสัญญา" ในภาษาฮีบรูจะใช้อีกคำหนึ่งสำหรับคำว่า "หีบ" คำนี้อาจแปลได้ว่า "กล่อง" หรือ "หีบ" หรือ "ภาชนะบรรจุ"
  • เมื่อเลือกคำแปลของคำว่า "หีบ" เป็นสิ่งสำคัญที่ต้องพิจารณาถึงแต่ละบริบทว่ามีขนาดเท่าไรและใช้เพื่ออะไร

หีบพันธสัญญา, หีบแห่งพันธสัญญาบัญชา, หีบของพระยาห์เวห์

คำจำกัดความ

คำเหล่านี้กล่าวถึงหีบไม้พิเศษขนาดใหญ่ หุ้มด้วยทองคำ ซึ่งบรรจุแผ่นศิลาสองแผ่นที่จารึกพระบัญญัติสิบประการไว้ ไม้เท้าของอาโรน และโถใส่มานา

  • คำว่า "หีบ" ในที่นี่อาจแปลได้อีกว่า "กล่อง" หรือ "หีบขนาดใหญ่" หรือ "ภาชนะบรรจุ"
  • วัตถุต่างๆ ในหีบขนาดใหญ่นี้ทำให้คนอิสราเอลระลึกถึงพันธสัญญาของพระเจ้าที่ทำกับพวกเขา
  • หีบพันธสัญญานี้วางไว้ใน "อภิสุทธิสถาน"
  • การทรงสถิตของพระเจ้าอยู่เหนือหีบพันธสัญญาในที่บริสุทธิ์ที่สุดของพลับพลา เป็นที่ซึ่งพระเจ้าตรัสกับโมเสสผู้เป็นตัวแทนของคนอิสราเอล
  • ในสมัยที่หีบพันธสัญญาตั้งอยู่ในที่บริสุทธิ์ที่สุดของพระวิหาร มหาปุโรหิตจะเป็นเพียงผู้เดียวที่จะสามารถเข้าถึงหีบนั้นได้ เพียงปีละหนึ่งครั้ง ในวันแห่งการไถ่บาป
  • พระคัมภีร์ภาษาอังกฤษหลายฉบับแปลคำว่า "พันธสัญญาบัญชา" ตรงตามตัวอักษรว่า "สักขีพยาน" ซึ่งหมายถึงความจริงที่ว่าพระบัญญัติสิบประการเป็นสักขีพยานหรือเป็นพยานให้แก่พันธสัญญาของพระเจ้ากับประชากรของพระองค์ และยังแปลได้อีกว่า "พระบัญญัติพันธสัญญา"

หึงหวง, ความหึงหวง

คำจำกัดความ

คำว่า "หึงหวง" และ "ความหึงหวง" อ้างถึงความปรารถนาอย่างแรงกล้าที่จะปกป้องความบริสุทธิ์ของความสัมพันธ์ และยังสามารถอ้างถึงความปรารถนาอย่างแรงกล้าที่จะรักษาความเป็นเจ้าของของบางสิ่งหรือบางคน

  • คำเหล่านี้มักจะใช้เพื่ออธิบายความรู้สึกโกรธที่บุคคลมีต่อคู่สมรสที่ไม่สัตย์ซื่อในการสมรสของพวกเขา
  • เมื่อใช้ในพระคัมภีร์ คำเหล่านี้มักจะหมายถึงความปรารถนาอย่างแรงกล้าของพระเจ้าที่จะให้คนของพระองค์รักษาความบริสุทธิ์และไร้มลทินความบาป
  • พระเจ้ายังทรง "หึงหวง" สำหรับพระนามของพระองค์ เพื่อที่ว่าพระนามนั้นจะได้รับการปฎิบัติด้วยเกียรติและความเคารพนับถือ
  • อีกความหมายหนึ่งของคำว่าหึงหวงเกี่ยวข้องกับการรู้สึกโกรธที่คนอื่นประสบความสำเร็จหรือมีชื่อเสียงมากกว่า สิ่งนี้มีความหมายใกล้กับคำว่า "อิจฉา"

คำแนะนำในการแปล

  • วิธีที่จะแปล "หึงหวง" สามารถรวมถึง "ความปรารถนาอย่างแรงกล้าที่จะปกป้อง" หรือ "ความปรารถนาที่จะเป็นเจ้าของ"
  • คำว่า "ความหึงหวง" สามารถแปลได้ว่า "ความรู้สึกอย่างแรงกล้าที่จะปกป้อง" หรือ "ความรู้สึกในการเป็นเจ้าของ"
  • เมื่อพูดถึงพระเจ้า ให้แน่ใจว่าคำแปลของคำเหล่านี้ไม่ได้มีความหมายในเชิงลบของการรู้สึกขุ่นเคืองใจกับคนอื่น
  • ในบริบทของคนมีความรู้สึกที่ผิดในความโกรธที่มีต่อคนอื่นที่ประสบความสำเร็จมากกว่า คำว่า "อิจฉา" หรือ "ริษยา" สามารถใช้ได้ แต่คำเหล่านี้ไม่ควรจะใช้สำหรับพระเจ้า

องค์บริสุทธิ์

คำจำกัดความ

คำว่า "องค์บริสุทธิ์" เป็นตำแหน่งในพระคัมภีร์ที่เกือืบจะอ้างถึงพระเจ้าเสมอ

  • ในพันธสัญญาเดิม ตำแหน่งนี้มักจะปรากฏในวลี "องค์บริสุทธิ์ของอิสราเอล"
  • ในพันธสัญญาใหม่ พระเยซูได้รับการอ้างถึงว่าเป็น "องค์บริสุทธิ์" เช่นกัน
  • คำว่า "องค์บริสุทธิ์" บางครั้งใช้ในพระคัมภีร์เพื่ออ้างถึงทูตสวรรค์

คำแนะนำในการแปล

  • คำแปลตรงตามตัวคือ "ผู้บริสุทธิ์"

องค์ผู้สูงสุด

คำจำกัดความ

คำว่า "องค์ผู้สูงสุด" เป็นตำแหน่งขององค์พระเจ้า ที่อ้างถึงความยิ่งใหญ่และอำนาจของพระองค์

  • ความหมายของคำนี้มีความหมายว่า "มีอำนาจครอบครองสูงสุด" หรือ "สูงสุด"
  • คำว่า "สูง" ในที่นี้ไม่ได้อ้างถึงความสูงทางกายภาพหรือระยะทาง แต่อ้างถึงความยิ่งใหญ่

คำแนะนำในการแปล

  • คำนี้สามารถแปลว่า "พระเจ้าสูงสุด" หรือ "พระองค์ผู้สูงสุด" หรือ "พระเจ้าองค์ผู้สูงสุด" หรือ "พระเจ้าผู้ทรงยิ่งใหญ่เหนือทุกสิ่ง"
  • หากมีคำว่า "สูง" ปรากฏอยู่ ให้แน่ใจว่าไม่ได้อ้างถึงความสูงทางกายภาพหรือระยะทาง

องค์พระผู้เป็นเจ้าพระยาห์เวห์, พระยาห์เวห์พระเจ้า

คำจำกัดความ

ในพันธสัญญาเดิม "องค์พระผู้เป็นเจ้าพระยาห์เวห์" ถูกใช้หลายครั้งเพื่ออ้างถึงพระเจ้าผู้เที่ยงแท้แต่องค์เดียว

  • คำว่า "องค์พระผู้เป็นเจ้า" เป็นตำแหน่งของพระเจ้า และ "พระยาห์เวห์" เป็นพระนามส่วนพระองค์ของพระเจ้า
  • "พระยาห์เวห์" มักจะรวมกับคำว่า "พระเจ้า" เพื่อเป็น "พระยาห์เวห์พระเจ้า"

คำแนะนำในการแปล

  • ในบางรูปแบบ "พระยาห์เวห์" ถูกใช้สำหรับการแปลพระนามส่วนพระองค์ของพระเจ้า คำว่า "องค์พระผู้เป็นเจ้าพระยาห์เวห์" และ "พระยาห์เวห์พระเจ้า" สามารถแปลตามตัวอักษร และให้พิจารณาว่าจะแปลคำเหล่านั้อย่างไร คือ "องค์พระผู้เป็นเจ้า" ในบริบทอื่นๆ เมื่ออ้างถึงพระเจ้า
  • บางภาษาใส่ตำแหน่งหลังจากพระนามและจะแปลว่า "พระยาห์เวห์องค์พระผู้เป็นเจ้า" ให้พิจารณาว่าแบบไหนที่เป็นธรรมชาติสำหรับภาษาในโครงการ ควรที่ตำแหน่ง "องค์พระผู้เป็นเจ้า" จะมาก่อนหรือหลัง "พระยาห์เวห์"
  • "พระยาห์เวห์พระเจ้า" สามารถถอดความว่า "พระเจ้าผู้ทรงได้รับการเรียกว่าพระยาห์เวห์" หรือ "พระเจ้าผู้ทรงเป็นผู้เดียวที่ทรงพระชนม์อยู่" หรือ "เราเป็น คือผู้ที่เป็นพระเจ้า"
  • ถ้าการแปลถอดความคำว่า "พระยาห์เวห์" เป็น "องค์พระผู้เป็นเจ้า" หรือ "องค์พระเจ้า" คำว่า "องค์พระผู้เป็นเจ้าพระยาห์เวห์" สามารถแแปลว่า "องค์พระเจ้าผุ้เป็นพระเจ้า" หรือ "พระเจ้าผู้ทรงเป็นองค์พระผู้เป็นเจ้า" การแปลอย่างอื่นสามารถแปลว่า "องค์พระเจ้าผู้ทรงเป็นเจ้านาย" หรือ "พระเจ้าผู้ทรงเป็นองค์พระผู้เป็นเจ้า"
  • คำว่า "องค์พระผู้เป็นเจ้าพระยาห์เวห์" ไม่สมควรถอดความว่าเป็น "องค์พระเจ้าองค์พระผู้เป็นเจ้า" เพราะผู้อ่านจะไม่ได้สังเกตความแตกต่างของตัวอักษรตามที่ได้ใช้กันนี้เพื่อแยกความแตกต่าง

อธิษฐาน, คำอธิษฐาน

คำจำกัดความ

คำว่า "อธิษฐาน" และ"คำอธิษฐาน" หมายถึงการสนทนากับพระเจ้า คำนี้ยังหมายถึงคนที่พยายามคุยกับพระเทียมเท็จด้วย

  • คนสามารถอธิษฐานอย่างเงียบๆ สนทนากับพระเจ้าด้วยความคิดของพวกเขาหรือพวกเขาสามารถอธิษฐานออกเสียง สนทนากับพระเจ้าด้วยเสียงของเขา บางครั้งคำอธิษฐานก็ถูกเขียนลงไว้เช่นเดียวกับดาวิดที่ได้เขียนคำอธิษฐานของเขาไว้ในพระธรรมสดุดี
  • คำอธิษฐานสามารถรวมไปถึงการขอพระเมตตาพระเจ้า ขอการช่วยเหลือแก้ปัญหา ขอสติปัญญาในการตัดสินใจ
  • บ่อยครั้งคนมักขอพระเจ้าให้รักษาคนที่ป่วยหรือคนที่ต้องการความช่วยเหลือในเรื่องอื่นๆ
  • ผู้คนยังขอบคุณพระเจ้าและสรรเสริญพระเจ้าเมื่อขณะพวกเขากำลังอธิษฐานทูลต่อพระองค์
  • การอธิษฐานรวมถึงการสารภาพบาปของเราต่อพระเจ้าและขอพระองค์อภัยบาปให้เรา
  • การสนทนากับพระเจ้าบางครั้งเรียกว่า"ไตร่ตรอง"กับพระองค์เหมือนที่จิตวิญญาณของเราติดต่อสื่อสารกับวิญญาณของพระองค์ แบ่งปันความรู้สึกของเราและชื่นชมยินดีต่อพระพักตร์พระองค์
  • คำนี้สามารถแปลได้ว่า"สนทนากับพระเจ้า" หรือ "ติดต่อสื่อสารกับพระเจ้า" คำแปลของคำนี้ควรรวมไปถึงการอธิษฐานที่เงียบ

อวยพร, ได้รับการอวยพร, พระพร

คำจำกัดความ

การ "อวยพร" คนใดคนหนึ่ง หรือสิ่งใดสิ่งหนึ่ง หมายถึงการทำให้สิ่งที่ดีและเป็นประโยชน์เกิดขึ้นกับคนนั้น หรือสิ่งนั้นที่ได้รับการอวยพร

  • การอวยพรคนใดคนหนึ่งยังหมายถึงการแสดงออกถึงความปรารถนาที่จะให้สิ่งที่ดีและเป็นประโยชน์เกิดขึ้นกับคนนั้น
  • ในสมัยพระคัมภีร์ พ่อมักจะประกาศการอวยพรอย่างเป็นทางการต่อลูกๆ ของเขา
  • เมื่อประชาชน "อวยพร" พระเจ้า หรือแสดงความปรารถนาให้พระเจ้าได้รับการอวยพร นี่หมายถึงพวกเขากำลังสรรเสริญพระองค์
  • บางครั้ง คำว่า "อวยพร" ใช้เพื่อชำระอาหารให้บริสุทธิ์ก่อนที่จะรับประทาน หรือเพื่อขอบพระคุณและสรรเสริญพระเจ้าสำหรับอาหาร

//จากความคิดเห็นข้างล่างนี้ : สิ่งที่สำคัญ อย่าเจาะจง มุ่งเน้น หรือจำกัด โดยการนำรากศัพท์ของคำว่า "อวยพร" ไปใช้ที่ทำให้นึกถึงความเจริญรุ่งเรืองหรือความอุดมสมบูรณ์ในสิ่งที่เป็นวัตถุสิ่งของ หรือการมีสุขภาพดีทางกายภาพเป็นสำคัญ ขอให้พิจารณาคำสอนในพระคัมภีร์เรื่องความรัก พระเมตตาและพระคุณของพระเจ้าไม่ไช่เฉพาะในสมัยโบราณเท่านั้น แต่มีในปัจจุบันด้วย ขอให้พิจารณาถึงการดูแล การปกปักรักษา และการสถิตของพระวิญญาณของพระเจ้า และสำหรับเราที่จะอวยพรพระเจ้า เราสามารถถวายการขอบพระคุณ ความชื่นชมยินดี และความเข้าใจ ในขณะที่เราเรียนรู้ที่จะติดตาม (เชื่อฟัง) พระองค์ //

คำแนะนำในการแปล

  • คำว่า "อวยพร" สามารถแปลได้ว่า "การให้ความอุดมสมบูรณ์แก่" หรือ "การมีความกรุณาและโปรดปรานอย่างมากต่อ"
  • "พระเจ้าทรงนำพระพรที่ยิ่งใหญ่มาสู่" สามารถแปลได้ว่า "พระเจ้าทรงประทานสิ่งที่ดีต่างๆ ให้กับ" หรือ "พระเจ้าทรงประทานความอุดมสมบูรณ์ให้กับ" หรือ "พระเจ้าทรงทำให้สิ่งที่ดีมากมายเกิดขึ้นกับ"
  • "เขาได้รับพระพร" สามารถแปลได้ว่า "เขาจะได้รับประโยชน์อย่างมาก" หรือ "เขาจะได้รับสิ่งที่ดี" หรือ "พระเจ้าจะทรงทำให้เขาเจริญรุ่งเรือง"
  • "ผู้ที่ได้รับพระพรคือคนที่" สามารถแปลได้ว่า "ช่างดีจริงๆ สำหรับคนนั้นที่"
  • สำนวนอย่างเช่น "ขอให้องค์พระผู้เป็นเจ้าได้รับการอวยพร" สามารถแปลได้ว่า "ขอให้องค์พระผู้เป็นเจ้าได้รับการสรรเสริญ" หรือ "สรรเสริญองค์พระผู้เป็นเจ้า" หรือ "ข้าพระองค์สรรเสริญองค์พระผู้เป็นเจ้า"
  • ในบริบทของการอวยพรอาหาร คำนี้สามารถแปลได้ว่า "ขอบพระคุณพระเจ้าสำหรับอาหาร" หรือ "สรรเสริญพระเจ้าที่ทรงประทานอาหารแก่พวกเขา" หรือ "ขอการชำระอาหารให้บริสุทธิ์โดยการสรรเสริญพระเจ้าสำหรับอาหารนั้น"

อัครทูต, ความเป็นอัครทูต

คำจำกัดความ

"อัครทูต" เป็นพวกคนที่พระเยซูได้ส่งออกไปเพื่อประกาศเรื่องพระเจ้าและอาณาจักรของพระองค์ คำว่า "ความเป็นอัครทูต" หมายถึงตำแหน่งและสิทธิอำนาจของบรรดาคนเหล่านั้นที่ถูกเลือกให้เป็นอัครทูต

  • คำว่า "อัครทูต" หมายถึง "บางคนที่ถูกส่งออกไปเพื่อจุดประสงค์โดยเฉพาะ" อัครทูตมีสิทธิอำนาจเดียวกันกับผู้ที่ส่งเขาไป
  • สาวกที่ใกล้ชิดพระเยซูทั้งสิบสองคนได้กลาเยป็นอัครทูตกลุ่มแรก คนอื่นๆ เช่น เปาโล และยากอบ ก็ได้มาเป็นอัครทูตด้วย
  • โดยฤทธิ์อำนาจของพระเจ้า พวกอัครทูตจึงสามารถที่จะประกาศข่าวประเสริฐอย่างกล้าหาญและรักษาผู้คน รวมทั้งการขับผีให้ออกจากผู้คน

ข้อแนะนำในการแปล

  • คำว่า "อัครทูต" สามารถแปลเป็นคำหรือวลีที่มีความหมายว่า "คนที่ถูกส่งออกไป" หรือ "ส่งบางคนออกไป" หรือ "คนที่ถูกเรียกให้ออกไปและประกาศข่าวของพระเจ้าให้แก่ผู้คน"
  • เป็นเรื่องสำคัญที่จะต้องแปลคำว่า "อัครทูต" และ "สาวก" ให้แตกกต่างกัน
  • ให้พิจารณาถึงการที่คำนี้ที่จะถูกแปลในพระคัมภีร์ฉบับภาษาท้องถิ่นหรือภาษากลางด้วย

อาณาจักรของพระเจ้า, อาณาจักรสวรรค์

คำจำกัดความ

คำว่า "อาณาจักรของพระเจ้า" และ "อาณาจักรสวรรค์" ทั้งสองคำอ้างถึงการปกครองและสิทธิอำนาจของพระเจ้าเหนือประชากรและเหนือสิ่งทรงสร้างทั้งปวง

  • ชาวยิวมักจะใช้คำว่า "สวรรค์" เพื่ออ้างถึงพระเจ้า เพื่อเป็นการหลีกเลี่ยงการกล่าวถึงพระนามของพระองค์โดยตรง (ดู: metonymy)
  • ในพันธสัญญาใหม่ที่มัทธิวได้เขียน เขาได้พูดถึงอาณาจักรของพระเจ้าว่าเป็น "อาณาจักรสวรรค์" บางทีเขากำลังเขียนถึงคนดั้งเดิมคือชาวยิว
  • อาณาจักรของพระเจ้าอ้างถึงพระเจ้าผู้กำลังปกครองเหนือประชากรฝ่ายวิญญาณเหมือนกับการปกครองเหนือโลกทางกายภาพ
  • ผู้เผยพระวจนะในพระคัมภีร์พันธสัญญาเดิมได้กล่าวว่าพระเจ้าจะส่งพระเมสสิยาห์เพื่อมาปกครองด้วยความชอบธรรม พระเยซูผู้ทรงเป็นพระบุตรของพระเจ้า คือพระเมสสิยาห์ผู้ที่จะปกครองเหนืออาณาจักรของพระเจ้าชั่วนิรันดร์

คำแนะนำในการแปล

  • ขึ้นอยู่กับบริบท คำว่า "อาณาจักรของพระเจ้า" สามารถแปลว่า "การปกครองของพระเจ้า"

อาเมน, เอเมน, แท้จริง, จริงๆ, ใช่

คำจำกัดความ

คำว่า "อาเมน" เป็นคำที่ใช้เน้นหรือเรียกความสนใจต่อสิ่งที่บุคคลนั้นได้พูด มักจะถูกใช้ในตอนจบของคำอธิษฐาน บางครั้งคำนี้ถูกแปลว่า "แท้จริง"

  • เมื่อใช้ในตอนจบของคำอธิษฐาน คำว่า "อาเมน" เป็นการสื่อถึงการเห็นด้วยกับคำอธิษฐาน หรือแสดงความปรารถนาที่อยากให้คำอธิษฐานนั้นสำเร็จ
  • ในคำสอน พระเยซูใช้คำว่า "อาเมน" เพื่อเน้นถึงความจริงในสิ่งที่พระองค์ตรัส พระองค์มักจะตามด้วยประโยคที่ว่า "และเราบอกแก่ท่านว่า" เพื่อเริ่มคำสอนต่อไปที่เกี่ยวข้องกับสิ่งที่พระองค์ได้ตรัสสอนไปแล้ว
  • เมื่อพระเยซูทรงใช้คำว่า "อาเมน" ในลักษณะนี้ พระคัมภีร์ภาษาอังกฤษบางฉบับ(และฉบับ ULB) แปลคำนี้ว่า "แท้จริง" หรือ "จริงๆ"
  • อีกคำหนึ่งที่หมายความว่า "แท้จริง" บางครั้งก็แปลว่า "แน่นอน" หรือ "แน่ละ" และคำนี้ได้ถูกใช้เพื่อเน้นว่าผู้พูดกำลังพูดอะไร

ข้อแนะนำในการแปล

  • ให้พิจารณาดูว่าภาษาที่จะแปลนั้นมีคำหรือวลีพิเศษที่จะใช้เน้นบางสิ่งที่ได้พูดไปแล้วหรือไม่
  • เมื่อใช้ในตอนจบของคำอธิษฐานหรือเพื่อยืนยันบางสิ่ง "อาเมน" ก็สามารถแปลได้อีกอย่างว่า "ขอให้เป็นดังนั้น" หรือ "ขอให้สิ่งนี้เกิดขึ้ัน" หรือ "นั่นเป็นเรื่องจริง"
  • เมื่อพระเยซูตรัสว่า "เราบอกความจริงแก่ท่านว่า" ก็สามารถแปลได้อีกอย่างว่า "เราบอกท่านอย่างจริงใจว่า" หรือ "นั่นคือความจริงและเราขอบอกท่านว่า"
  • วลีที่ว่า "แท้จริง แท้จริง เราขอบอกท่านว่า" อาจแปลได้อีกว่า "เราบอกเรื่องนี้แก่ท่านอย่างจริงใจว่า" หรือ "เราบอกเรื่องนี้แก่ท่านด้วยใจร้อนรนว่า" หรือ "สิ่งที่เรากำลังบอกแก่ท่านเป็นความจริง"

อาหารมื้อสุดท้ายขององค์พระผุ้เป็นเจ้า

คำจำกัดความ

คำว่า "อาหารมื้อสุดท้ายขององค์พระผู้เป็นเจ้า" ถูกใช้โดยอัครสาวกเปาโลเพื่ออ้างถึงมื้อปัสกาที่พระเยซูทรงรับประทานพร้อมกับเหล่าสาวกของพระองค์ในคืนที่พระองค์ทรงถูกอายัดโดยผู้นำชาวยิว

  • ในช่วงระหว่างมื้ออาหารนี้ พระเยซูทรงหักขนมปังปัสกาและทรงเรียกขนมปังนี้ว่าเป็นพระกายของพระองค์ซึ่งอีกไม่นานจะถูกเฆี่ยนตีและถูกฆ่า
  • พระองค์ทรงเรียกเหล้าองุ่นในถ้วยนี้ว่าพระโลหิตของพระองค์ ซึ่งอีกไม่นานจะถูกทำให้หลั่งออกเมื่อพระองค์สิ้นพระชนม์เพื่อเป็นเครื่องบูชาไถ่บาป
  • พระเยซูตรัสสั่งว่าไม่ว่าผู้ติดตามพระองค์รับมื้อนี้ด้วยกันบ่อยครั้งเท่าไหร่ พวกเขาสมควรระลึกถึงการสวรรคตและการฟื้นคืนพระชนม์ของพระองค์
  • ในจดหมายที่เขียนถึงผู้เชื่อชาวโครินธ์ อัครสาวกเปาโลได้ตั้งอาหารมื้อสุดท้ายขององค์พระผู้เป็นเจ้าให้เป็นการปฏิบัติที่กระทำกันเป็นประจำสำหรับบรรดาผู้เชื่อในพระเยซู
  • คริสตจักรทั้งหลายในทุกวันนี้ใช้คำว่า "มหาสนิท" เพื่ออ้างถึงอาหารมื้อสุดท้ายขององค์พระผู้เป็นเจ้า บางครั้งก็ใช้คำว่า "อาหารมื้อสุดท้าย" ด้วย

คำแนะนำในการแปล

  • คำนี้สามารถแปลได้อีกว่า "มื้ออาหารขององค์พระผู้เป็นเจ้า" หรือ "มื้ออาหารขององค์พระผู้เป็นเจ้าของเรา" หรือ "มื้ออาหารเพื่อระลึกถึงองค์พระผู้เป็นเจ้าพระเยซู"

อิสราเอล, คนอิสราเอล, ชนชาติอิสราเอล

คำจำกัดความ

คำว่า "อิสราเอล" เป็นชื่อที่พระเจ้าประทานให้แก่ยาโคบ อิสราเอลหมายความว่า "เขาปล้ำสู้กับพระเจ้า"

  • เชื้อสายของยาโคบกลายเป็นที่รู้จักในว่า "ประชากรอิสราเอล" "ชนชาติอิสราเอล" หรือ "คนอิสราเอล"
  • พระเจ้าทรงทำพันธสัญญากับประชากรอิสราเอล พวกเขาเป็นประชากรที่พระองค์ทรงเลือก
  • ประเทศอิสราเอลประกอบด้วยสิบสองเผ่า
  • หลังจากที่กษัตริย์ซาโลมอนสิ้นพระชนม์ไม่นาน อิสราเอลถูกแบ่งเป็นสองอาณาจักรคืออาณาจักรทางใต้เรียกว่า "ยูดาห์" และอาณาจักรทางเหนือเรียกว่า "อิสราเอล"
  • บ่อยครั้ง คำว่า "อิสราเอล" สามารถแปลว่า "ประชากรอิสราเอล" หรือ "ชนชาติอิสราเอล" ขึ้นอยู่กับบริบท

เอโฟด

คำจำกัดความ

อโฟดเป็นเสื้อคลุมคล้ายผ้ากันเปื้อนที่สวมใส่โดยบรรดาปุโรหิตอิสราเอล มันมีสองด้าน ด้านหน้าและด้านหลังที่มีการร่วมกันที่ไหล่และผูกรอบเอวด้วยเข็มขัดผ้า

  • เอโฟดอีกหนึ่งชนิดทำจากผ้าลินินธรรมดาและสวมใส่โดยปุโรหิตทั่วไป
  • เอโฟดที่สวมใส่โดยมหาปุโรหิตถูกปักเป็นพิเศษด้วยเส้นด้ายสีทอง สีฟ้า สีม่วงและสีแดง
  • ทับทรวงของมหาปุโรหิตติดอยู่ข้างหน้าเอโฟด หลังทับทรวงจะเป็นที่เก็บยูริม และธัมมิม ซึ่งเป็นหินที่ใช้ในการถามพระเจ้าว่าพระองค์มีพระประสงค์ในเรื่องใดเรื่องหนึ่งโดยเฉพาะ
  • ผู้วินิจฉัยกิเดโอนได้กระทำเอโฟดด้วยทองคำด้วยความเขลาและมันได้กลายเป็นสิ่งที่คนอิสราเอลนมัสการเหมือนรูปเคารพ

โอ้อวด, อวดดี

คำจำกัดความ

คำว่า "โอ้อวด" หมายถึงการพูดอย่างภาคภูมิใจเกี่ยวกับสิ่งใดสิ่งหนึ่งหรือคนใดคนหนึ่ง บ่อยครั้งที่คำนี้หมายถึงการพูดคุยโวโอ้อวดตนเอง

  • คนที่ "อวดดี" พูดถึงตัวเขาเองอย่างภาคภูมิใจ
  • พระเจ้าทรงต่อว่าชนชาติอิสราเอล เพราะ "การโอ้อวดใน" รูปเคารพของพวกเขา พวกเขาบังอาจนมัสการพระเทียมเท็จแทนที่พระเจ้าเที่ยงแท้
  • พระคัมภีร์ยังกล่าวถึงผู้คนที่โอ้อวดในสิ่งต่างๆ เช่นเป็นความมั่งคั่ง กำลังเรี่ยวแรง ทุ่งนาที่เกิดผล และบัญญัติของพวกเขา ซึ่งหมายความว่าพวกเขาภาคภูมิใจในสิ่งเหล่านี้ และไม่ยอมรับว่าพระเจ้าทรงเป็นผู้เดียวที่ทรงประทานสิ่งเหล่านี้
  • พระเจ้าทรงเร้าใจให้ชนชาติอิสราเอลที่จะ "อวด" หรือ ภาคภูมิใจเกี่ยวกับความจริงที่พวกเขารู้จักพระองค์
  • อัครทูตเปาโล กล่าวถึงการอวดในองค์พระผู้เป็นเจ้า ที่หมายถึงความยินดีและขอบพระคุณพระเจ้าสำหรับทุกสิ่งที่ทรงทำเพื่อพวกเขา

คำแนะนำในการแปล

  • การแปล "อวด" ในรูปแบบอื่นๆ สามารถรวมถึง "คุยโวโอ้อวด" หรือ "พูดอย่างภาคภูมิใจ" หรือ "ภาคภูมิใจ"
  • คำว่า "อวดดี" สามารถแปลด้วยคำ หรือวลีที่มีความหมายว่า "การพูดที่เต็มด้วยความภาคภูมิใจ" หรือ "เต็มด้วยความภาคภูมิใจ" หรือ "การพูดเกี่ยวกับตนเองอย่างภาคภูมิใจ"
  • ในบริบทของการอวดในเรื่องเกี่ยวกับการรู้จักพระเจ้า คำนี้สามารถแปลได้ว่า "อวดใน" หรือ "ยกย่องใน" หรือ "ยินดีมากเกี่ยวกับ" หรือ "ขอบพระคุณพระเจ้าเกี่ยวกับ"
  • บางภาษามีคำสองคำของคำว่า "ภูมิใจ" คำหนึ่งที่มีความหมายเชิงลบ ที่มีความหมายว่า ความจองหอง และอีกคำหนึ่งที่มีความหมายเชิงบวก ที่เป็นความหมายของการภาคภูมิใจในงาน ของตนเอง หรือครอบครัว หรือประเทศของตน

ฮีบรู

คำจำกัดความ

ชาว "ฮีบรู" คือคนที่สืบเชื้อสายมาจากอับราฮัมผ่านทางสายของอิสอัคและยาโคบ อับราฮัมเป็นคนแรกในพระคัมภีร์ที่ถูกเรียกว่า "ฮีบรู"

  • คำว่า "ฮีบรู" ยังอ้างถึงภาษาที่คนฮีบรูพูด พระคัมภีร์เดิมนั้นแรกเริ่มเขียนในภาษาฮีบรู
  • ในที่ต่างๆ กันในพระคัมภีร์ ชาวฮีบรูถูกเรียกว่า "คนยิว" หรือ "คนอิสราเอล" จะเป็นการดีที่สุดที่จะรักษาคำทั้งสามไว้ในบริบทต้นฉบับ ตราบใดที่ชัดเจนว่าคำเหล่านี้อ้างถึงคนกลุ่มเดียวกัน