เนื้อหาในส่วนนี้ยอห์นได้พูดถึงธรรมชาติใหม่ซึ่งไม่สามารถทำบาปต่อไปได้
"ให้ลองคิดดูเถอะว่าพระบิดาทรงรักเรามากแค่ไหน"
"พระบิดาทรงเรียกเราว่าเป็นบุตรของพระองค์"
หมายถึงบุคคลผู้ที่เป็นของพระเจ้าผ่านทางความเชื่อในพระเยซู
มีความหมายที่เป็นไปได้คือ 1) "เพราะว่าเราเป็นลูกของพระเจ้า และเพราะโลกนั้นไม่รู้จักพระเจ้าโลกจึงไม่รู้จักเราด้วย" หรือ 2) "เพราะว่าโลกไม่รู้จักพระเจ้า โลกจึงไม่รู้จักเรา"
คำว่า "โลก" ในที่นี้หมายถึงผู้คนที่ไม่ได้ถวายเกียรติแด่พระเจ้า ผู้แปลสามารถแปลอย่างชัดเจนไปเลยก็ได้ว่าโลกนั้นไม่รู้จักสิ่งใด คำแปลอีกอย่างหนึ่ง "คนเหล่านั้นที่ไม่ได้ถวายเกียรติแด่พระเจ้า ก็ไม่รู้ว่าเรานั้นเป็นของพระเจ้าเพราะว่าพวกเขาไม่รู้จักพระเจ้า" (ดูที่: figs_metonymy และ figs_explicit)
"ท่านทั้งหลายที่ข้าพเจ้ารัก" หรือ "สหายที่รักทั้งหลาย" ดูที่เคยแปลไว้ใน 1 ยอห์น 2:7
ประโยคนี้สามารถอยู่ในรูปประโยคที่มีประธานเป็นผู้กระทำ คำแปลอีกอย่างหนึ่ง "พระเจ้ายังไม่ทรงเปิดเผยว่า" (ดูที่: figs_activepassive)
หมายถึงคำใดก็ได้ระหว่างคำว่า "บอก" หรือ "แสดง" หรือ "สำแดงให้เห็น"
"ทุกคนที่ตั้งความหวังอย่างตั้งมั่นแล้วว่าจะเห็นองค์พระคริสต์อย่างที่พระองค์ทรงเป็นจริงๆ นั้นจะต้องรักษาตนให้บริสุทธิ์เพราะว่าพระคริสต์ทรงบริสุทธิ์"
"ปฏิเสธที่จะเชื่อฟังธรรมบัญญัติของพระเจ้า"
ประโยคนี้สามารถอยู่ในรูปประโยคที่มีประธานเป็นผู้กระทำ คำแปลอีกอย่างหนึ่ง "พระคริสต์ทรงปรากฎขึ้น" หรือ "พระบิดาทรงสำแดงให้เห็นพระคริสต์" (ดูที่: figs_activepassive)
"มีสัมพันธภาพกับองค์พระเจ้า" ดูที่เคยแปลไว้ใน 1 ยอห์น 2:6
ยอห์นใช้คำว่า "เห็น" และ "รู้จัก" เพื่อจะแสดงให้เห็นว่าผู้ที่ทำบาปอยู่ก็ไม่เคยพบองค์พระเยซูคริสต์ฝ่ายจิตวิญญาณ ส่วนคนที่ประพฤติตัวตามธรรมชาติบาปของตนนั้นก็ไม่สามารถที่จะรู้จักองค์พระเยซูคริสต์ได้ คำแปลอีกอย่างหนึ่ง "ไม่มีผู้ใด...ที่เคยเชื่อในพระองค์อย่างแท้จริง" (ดูที่: figs_doublet)
ยอห์นนั้นเป็นคนมีอายุและยังเป็นผู้นำของพวกเขาด้วย ยอห์นใช้คำเรียกดังกล่าวเพื่อแสดงให้เห็นถึงความรักของเขาที่มีต่อพวกเขา คำแปลอีกอย่างหนึ่ง "ลูกที่รักของข้าพเจ้าในพระคริสต์" หรือ "ท่านเป็นที่รักของข้าพเจ้าเสมือนกับเป็นลูกแท้ๆ ของข้าพเจ้า" ดูที่เคยแปลไว้ใน 1 ยอห์น 2:1 (ดูที่: figs_metaphor)
การถูกโน้มน้าวให้ไม่เชื่อฟังพระเจ้าได้รับการเปรียบเทียบให้เหมือนกับการที่คนหนึ่งถูกนำให้เดินออกนอกทางไป คำแปลอีกอย่างหนึ่ง "อย่าให้ใครหลอกท่านได้" หรือ "อย่าให้ใครล่อลวงท่านได้" (ดูที่: figs_metaphor)
"ผู้ซึ่งทำสิ่งที่ถูกต้องนั้นก็เป็นที่พอพระทัยพระเจ้าเหมือนกับที่พระเยซูคริสต์ทรงเป็นที่พอพระทัยพระเจ้า"
"เป็นของมาร" หรือ "เหมือนกับมาร"
หมายถึงตอนเริ่มแรกที่ทุกสิ่งทุกอย่างถูกสร้างขึ้นก่อนที่มนุษย์จะตกอยู่ในบาปครั้งแรก คำแปลอีกอย่างหนึ่ง "ตั้งแต่การทรงสร้างเริ่มแรก" (ดูที่: figs_metonymy)
ประโยคนี้สามารถอยู่ในรูปประโยคที่มีประธานเป็นผู้กระทำ คำแปลอีกอย่างหนึ่ง "พระเจ้าทรงสำแดงให้เห็นพระบุตรของพระองค์" (ดูที่: figs_activepassive)
"คำดังกล่าวแสดงให้เห็นฐานะที่สำคัญของพระเยซู ทำให้เราเข้าใจถึงความสัมพันธ์ของพระเยซูกับพระเป็นเจ้า" (ดูที่: guidelines_sonofgodprinciples)
ในข้อนี้เป็นส่วนที่ยอห์นทิ้งท้ายในเรื่องของการบังเกิดใหม่และธรรมชาติใหม่ซึ่งจะทำบาปต่อไปอีกไม่ได้
ประโยคนี้สามารถอยู่ในรูปประโยคที่มีประธานเป็นผู้กระทำ คำแปลอีกอย่างหนึ่ง "ผู้ใดก็ตามที่พระเป็นเจ้าทรงทำให้เป็นบุตรของพระองค์" (ดูที่: figs_activepassive)
หมายถึงพระวิญญาณบริสุทธิ์ผู้ซึ่งพระเจ้าทรงประทานให้แก่บรรดาผู้เชื่อ เป็นพระวิญญาณที่ช่วยให้บรรดาผู้เชื่ออดกลั้นที่จะไม่กระทำบาปได้ รวมไปถึงทำสิ่งที่เป็นที่พอพระทัยพระเจ้า สิ่งเหล่านี้ได้รับการเปรียบเทียบให้เป็นเหมือนเมล็ดพันธุ์ซึ่งได้เพาะลงบนดินและเจริญเติบโต ในบางครั้งผู้เขียนอาจใช้คำว่า "ธรรมชาติใหม่" เพื่ออธิบายลักษณะดังกล่าว แปลอีกอย่างว่า "พระวิญญาณบริสุทธิ์" (ดูที่: figs_metaphor)
ประโยคนี้สามารถอยู่ในรูปประโยคที่มีประธานเป็นผู้กระทำ คำแปลอีกอย่างหนึ่ง "พระเจ้าได้ประทานชีวิตฝ่ายจิตวิญญาณใหม่ให้แก่เขา" หรือ "เขาเป็นบุตรของพระเจ้า" (ดูที่: figs_activepassive)
ประโยคนี้สามารถอยู่ในรูปประโยคที่มีประธานเป็นผู้กระทำ คำแปลอีกอย่างหนึ่ง "ด้วยวิธีการนี้เองเราจึงรู้ว่าใครเป็นบุตรของพระเจ้าและใครเป็นลูกของมาร" (ดูที่: figs_activepassive)
คำว่า "พี่น้อง" ในที่นี้หมายถึงผู้เชื่อคริสเตียนด้วยกัน "ผู้ซึ่งทำสิ่งที่ชอบธรรมก็มาจากพระเจ้า และผู้ซึ่งรักพี่น้องของตนก็มาจากพระเจ้า" (ดูที่: figs_doublenegatives และ figs_ellipsis)
พระธรรมข้อนี้ยอห์นสั่งสอนบรรดาผู้เชื่อว่าคนจะรู้ได้ว่าเขาเป็นผู้เชื่อก็โดยวิธีการดำเนินชีวิตของพวกเขา นอกจากนี้ยอห์นยังได้สั่งสอนให้พวกเขารักกันและกันอีกด้วย
คาอินกับอาเบลเป็นบุตรชายคู่แรกของอาดัมและเอวาซึ่งเป็นมนุษย์คู่แรก
เราไม่ควรทำเช่นเดียวกับที่คาอินได้กระทำ (ดูที่: figs_ellipsis)
หมายถึงน้องชายของคาอินนามว่าอาเบล
ยอห์นใช้คำถามนี้เพื่อสั่งสอนผู้อ่านของเขา อย่างไรก็ตามสามารถแปลเป็นประโยคบอกเล่าได้ คำแปลอีกอย่างหนึ่ง "เขาฆ่าน้องของเขาเพราะว่า" (ดูที่: figs_rquestion)
การกระทำของน้องเขานั้นชอบธรรม คำแปลอีกอย่างหนึ่ง "เขากระทำสิ่งชั่วร้ายส่วนน้องเขานั้นได้ทำในสิ่งที่ถูกต้อง" (ดูที่: figs_ellipsis)
"สหายผู้เชื่อทั้งหลาย"
คำว่า "โลก" ในที่นี้หมายถึงผู้คนที่ไม่ได้ถวายเกียรติแด่พระเจ้า คำแปลอีกอย่างหนึ่ง "หากคนเหล่านั้นที่ไม่ได้ถวายเกียรติแด่พระเจ้าเกลียดท่านผู้ซึ่งถวายเกียรติองค์พระผู้เป็นเจ้า" (ดูที่: figs_metonymy)
การมีชีวิตอยู่หรือการตายจากไปได้รับการเปรียบเทียบว่าเป็นเหมือนกับสถานที่ทางกายภาพซึ่งคนๆ หนึ่งสามารถจากไปที่อื่นได้ คำแปลอีกอย่างหนึ่ง "เราไม่ได้ตายฝ่ายจิตวิญญาณอีกต่อไปแต่มีชีวิตอยู่ฝ่ายจิตวิญญาณ" (ดูที่: figs_abstractnouns)
คำว่า "ชีวิต" ที่ใช้ตลอดพระธรรมข้อนี้ไม่ได้หมายถึงชีวิตฝ่ายร่างกายเท่านั้น แต่หมายถึงพระเยซูผู้ซึ่งเป็นชีวิตนิรันดร์ ดูที่เคยแปลไว้ใน 1 ยอห์น 1:1 (ดูที่: figs_metonymy)
"ยังตายฝ่ายจิตวิญญาณอยู่"
ยอห์นกล่าวถึงบุคคลผู้ซึ่งเกลียดชังผู้เชื่ออีกคนหนึ่งว่าเขาคนนั้นเป็นเหมือนฆาตกร เนื่องจากฆาตกรนั้นฆ่าเพราะความเกลียดชัง พระเจ้าจึงทรงมองผู้ที่เกลียดชังอีกคนหนึ่งว่ามีความผิดเทียบเท่ากับคนที่ฆ่าคน คำแปลอีกอย่างหนึ่ง "ใครก็ตามที่เกลียดชังผู้เชื่อคนอื่นก็มีความผิดเหมือนกันกับผู้ที่ได้ฆ่าคน" (ดูที่: figs_metaphor)
คำกล่าวนี้หมายถึง "พระคริสต์ทรงสละชีวิตของพระองค์เพื่อเราอย่างเต็มใจ" หรือ "พระคริสต์ทรงสิ้นพระชนม์อย่างเต็มใจเพื่อเรา" (ดูที่: figs_idiom)
วัตถุสิ่งของ เช่น เงิน อาหาร หรือ เสื้อผ้า
"และตระหนักว่าพี่น้องของตนต้องการความช่วยเหลือ"
"ไม่มีใจเมตตาความรัก" เป็นสำนวน คำแปลอีกอย่างหนึ่ง "แต่ไม่แสดงความรักเมตตา" หรือ "แต่ไม่ยอมช่วยเหลือเขา" (ดูที่: figs_metaphor)
ยอห์นใช้คำถามนี้เพื่อสั่งสอนผู้อ่าน คำแปลอีกอย่างหนึ่ง "ความรักของพระเจ้าไม่ได้อยู่ในเขา" (ดูที่: figs_rquestion)
ยอห์นนั้นเป็นคนมีอายุและยังเป็นผู้นำของพวกเขาด้วย ยอห์นใช้คำเรียกดังกล่าวเพื่อแสดงให้เห็นถึงความรักของเขาที่มีต่อพวกเขา คำแปลอีกอย่างหนึ่ง "ลูกที่รักของข้าพเจ้าในพระคริสต์" หรือ "ท่านเป็นที่รักของข้าพเจ้าเสมือนกับเป็นลูกแท้ๆ ของข้าพเจ้า" ดูที่เคยแปลไว้ใน 1 ยอห์น 2:1 (ดูที่: figs_metaphor)
วลีที่ว่า "ด้วยคำพูด" และ "ด้วยปาก" นั้นหมายถึงสิ่งที่พูดออกไป คำแปลอีกอย่างหนึ่ง "อย่าเพียงแต่พูดว่าท่านรักคนอื่นเท่านั้น" (ดูที่: figs_doublet และ figs_metonymy)
คำแปลอีกอย่างหนึ่ง "แต่จงแสดงให้เห็นว่าท่านรักผู้อื่นอย่างแท้จริงด้วยการช่วยเหลือพวกเขา" (ดูที่: figs_ellipsis)
ในบริบทนี้นั้นยอห์นอาจหมายความว่าความสามารถของบรรดาผู้เชื่อในการรักพระเจ้าและรักซึ่งกันและอย่างจริงใจ (1 ยอห์น 3:18) นั้นเป็นสัญญาณบ่งบอกถึงชีวิตใหม่ซึ่งมาจากความจริงเกี่ยวกับพระเยซูคริสต์
"เราเป็นของความจริง" หรือ คำแปลอีกอย่างหนึ่ง "เราดำเนินชีวิตตามวิถีทางซึ่งพระเยซูทรงสอนเรา"
คำว่า "ใจ" หมายถึงความรู้สึก คำแปลอีกอย่างหนึ่ง "เราไม่ได้รู้สึกผิด" (ดูที่: figs_metonymy)
เป็นคำอุปมา คำแปลอีกอย่างหนึ่ง "หากเรารู้ว่าเรานั้นมีความบาปแล้วรู้สึกผิด" (ดูที่: figs_metaphor)
พระเจ้าทรงรู้มากกว่าที่คนรู้และทรงพิพากษาตัดสินได้ดีกว่ามนุษย์ ซึ่งส่งผลให้พระเจ้ามีพระทัยที่เมตตากว่าที่จิตสำนึกของเรามี พระลักษณะข้อนี้ของพระเจ้านั้นแสดงให้เห็นในคำว่า "ยิ่งใหญ่กว่า" คำแปลอีกอย่างหนึ่ง "พระเจ้าทรงรู้มากกว่าที่เรารู้" (ดูที่: figs_metaphor)
"ท่านทั้งหลายที่ข้าพเจ้ารัก" หรือ "สหายที่รัก" ดูที่เคยแปลไว้ใน 1 ยอห์น 2:7
พระดำริของพระเจ้าได้รับการเปรียบเทียบเหมือนกับเหตุการณ์ซึ่งเกิดขึ้นจริงๆ ต่อหน้าเขา (ดูที่: figs_metaphor)
"นี่คือสิ่งที่พระเจ้าต้องการให้เราทำ"
คำนี้แสดงให้เห็นถึงฐานะที่สำคัญของพระเยซู ผู้ซึ่งเป็นพระบุตรของพระเจ้า (ดูที่: guidelines_sonofgodprinciples)
ความเป็นหนึ่งเดียวอันใกล้ชิดกับพระเจ้าของบรรดาผู้เชื่อซึ่งใช้คำว่า "อยู่ในพระองค์" ดูที่เคยแปลไว้ใน 1 ยอห์น 2:6 (ดูที่: figs_metaphor)