เยเซเบลได้บอกเอลียาห์ว่าในวันรุ่งขึ้นพระนางจะทำให้เขาเป็นเหมือนหนึ่งในพวกผู้เผยพระวจนะที่ตายแล้วนั้น
เยเซเบลได้บอกเอลียาห์ว่าในวันรุ่งขึ้นพระนางจะทำให้เขาเป็นเหมือนหนึ่งในพวกผู้เผยพระวจนะที่ตายแล้วนั้น
เอลียาห์ได้หนีเอาชีวิตรอดไปยังเบเออร์เชบา
เอลียาห์ได้ร้องขอว่าให้เขาตายเพราะเขาได้รู้สึกว่าเขาไม่ได้ดีกว่าพวกบรรพบุรุษของเขาที่ได้ตายไปแล้ว
ทูตสวรรค์องค์หนึ่งได้มาสัมผัสเอลียาห์และได้กล่าวแก่เขาว่า "ลุกขึ้นและกินเถิด"
เอลียาห์ได้มองเห็นขนมปังที่ได้ผิงบนพวกถ่านร้อนและเหยือกน้ำเหยือกหนึ่ง เอลียาห์ได้กินและได้ดื่มและล้มตัวลงนอนอีกครั้ง
เอลียาห์ได้เดินทางสี่สิบวันและสี่สิบคืนไปยังโฮเรบ
เอลียาห์ได้ทูลพระยาห์เวห์ว่าเขาได้ร้อนรนเพื่อพระองค์อย่างมาก แต่ประชาชนอิสราเอลได้ทอดทิ้งพันธสัญญาของพระองค์ ได้ทำลายแท่นบูชาทั้งหลายของพระองค์ และได้ฆ่าพวกผู้เผยพระวจนะของพระองค์ และเขาเป็นเพียงคนเดียวที่เหลืออยู่
เอลียาห์ได้ทูลพระยาห์เวห์ว่าเขาได้ร้อนรนเพื่อพระองค์อย่างมาก แต่ประชาชนอิสราเอลได้ทอดทิ้งพันธสัญญาของพระองค์ ได้ทำลายแท่นบูชาทั้งหลายของพระองค์ และได้ฆ่าพวกผู้เผยพระวจนะของพระองค์ และเขาเป็นเพียงคนเดียวที่เหลืออยู่
พระยาห์เวห์ได้ตรัสให้เอลียาห์หันกลับไปยังถิ่นทุรกันดารเพื่อเจิมฮาซาเอลให้เป็นกษัตริย์เหนืออารัม เจิมเยฮูให้เป็นกษัตริย์เหนืออิสราเอล และเจิมเอลีชาให้เป็นผู้เผยพระวจนะแทนที่เขา
พระยาห์เวห์ได้ตรัสให้เอลียาห์หันกลับไปยังถิ่นทุรกันดารเพื่อเจิมฮาซาเอลให้เป็นกษัตริย์เหนืออารัม เจิมเยฮูให้เป็นกษัตริย์เหนืออิสราเอล และเจิมเอลีชาให้เป็นผู้เผยพระวจนะแทนที่เขา
พระยาห์เวห์ได้ตรัสกับเอลียาห์ว่ายังมีประชาชนอีกเจ็ดพันคนในอิสราเอลที่ได้สัตย์ซื่อต่อพระองค์
เอลีชาได้ขอให้เอลียาห์ยอมอนุญาตให้เขาไปจูบลามารดาและบิดาของเขาก่อนที่เขาจะได้ติดตามเอลียาห์ไป
เอลีชาได้ขอให้เอลียาห์ยอมอให้เขาไปจูบลามารดาและบิดาของเขาก่อนที่เขาจะได้ติดตามเอลียาห์ไป