พระยาห์เวห์ได้ตรัสกับโมเสสในถิ่นทุรกันดารของซีนาย
พระยาห์เวห์ได้ตรัสกับโมเสสในเดือนที่หนึ่งของปีที่สองหลังจากที่พวกเขาได้ออกมาจากแผ่นดินอียิปต์
ทุกปีพวกเขาได้ถือปฏิบัติเทศกาลปัสกาในวันที่สิบสี่ของเดือนที่หนึ่ง
โมเสสได้ไปหาพระยาห์เวห์ด้วยคำถามหนึ่ง เพราะมีพวกผู้ชายที่เป็นมลทินแต่ได้ต้องการถือเทศกาลปัสกา
พระยาห์เวห์ได้ตรัสกับโมเสสว่าถ้าผู้ชายที่เป็นมลทินเนื่องจากซากศพ หรือเพราะเขาอยู่ในการเดินทางไกล เขาก็ยังคงถือเทศกาลปัสกาต่อไปได้
ผู้ชายเหล่านั้นที่เป็นมลทินหรือเดินทางไกลได้ถือเทศกาลปัสกาในวันที่ 14 ของเดือนที่ 2
พวกเขาได้รับประทานปัสกากับขนมปังที่ไม่มีเชื้อยีสต์และผักรสขมและไม่ทิ้งมันให้เหลือจนถึงเช้า ในขณะที่ไม่ให้หักกระดูกของสัตว์
พวกเขาได้รับประทานปัสกากับขนมปังที่ไม่มีเชื้อยีสต์และผักรสขมและไม่ทิ้งมันให้เหลือจนถึงเช้า ในขณะที่ไม่ให้หักกระดูกของสัตว์
บุคคลที่สะอาดและไม่ได้เดินทางไกล แต่ไม่ยอมถือเทศกาลปัสกาที่พระยาห์เวห์ได้ทรงกำหนดไว้จะต้องถูกตัดออกจากชนชาติของเขา
เขาต้องถือเทศกาลปัสกา ทำตามพระบัญชาทุกอย่าง และเชื่อฟังตามกฎต่างๆ ที่ได้กำหนดไว้
เมฆนั้นได้ปรากฏเหมือนเปลวไฟในตอนกลางคืน
เมฆนั้นได้ปรากฏเหมือนเปลวไฟในตอนกลางคืน
เมื่อเมฆนั้นได้ลอยขึ้นไปจากเหนือเต็นท์ ประชาชนก็จะออกเดินทาง เมื่อเมฆนั้นหยุด ประชาชนก็อยู่ในค่ายพักของตน
ประชาชนได้เชื่อฟังพระบัญชาของพระยาห์เวห์และไม่ออกเดินทาง
ประชาชนสามารถออกเดินได้เฉพาะตอนที่เมฆนั้นได้ลอยขึ้นตามพระบัญชาของพระยาห์เวห์เท่านั้น
ประชาชนสามารถออกเดินได้เฉพาะตอนที่เมฆนั้นได้ลอยขึ้นตามพระบัญชาของพระยาห์เวห์เท่านั้น
เมื่อเมฆนั้นได้คงอยู่เหนือพลับพลา ประชาชนอิสราเอลได้พักอยู่ในค่ายพักของตนและไม่ได้เดินทาง
ประชาชนอิสราเอลได้รับพระบัญชาทั้งหลายของพระยาห์เวห์ผ่านทางโมเสส