Genesis 1

ปฐมกาล 01 คำอธิบายทั่วไป

โครงร่างและการจัดรูปแบบ

บทนี้นำเสนอเรื่องแรกของพระเจ้าที่ทรงสร้างโลก มีรูปแบบเรื่องดังนี้ "พระเจ้าตรัสว่า...พระเจ้าทรงเห็นว่าดี...นี่คือเวลาเช้าและเวลาเย็นในวันแรก" ผู้แปลควรรักษารูปแบบนี้ในฉบับของพวกเขา

แนวคิดเฉพาะในบทนี้

จักรวาล

เรื่องราวของการทรงสร้างนี้ถูกเล่าภายในกรอบความคิดของชาวฮีบรูสมัยโบราณเกี่ยวกับจักรวาลคือ โลกถูกล้อมรอบไปด้วยน้ำและข้างล่างก็มีน้ำ แต่เหนือแผ่นดินโลกมีบางสิ่งที่เหมือนโดมอันกว้างใหญ่ที่เรียกว่า "พื้นที่กว้างใหญ่ระหว่างน้ำ" (1: 6) ด้านบนที่ซึ่งมีน้ำมากกว่านี้อีก ผู้แปลควรพยายามเก็บภาพต้นฉบับเหล่านี้ไว้ในงาน แม้ว่าผู้อ่านงานภาษาของพวกเขาอาจมีแนวคิดที่แตกต่างอย่างสิ้นเชิงว่าจักรวาลเหมือนกับอะไร

เวลาเย็นและเวลาเช้า

ปฐมกาล 1 แสดงให้เห็นแนวความคิดคนฮีบรูโบราณในหนึ่งวันคือ เริ่มต้นด้วยดวงอาทิตย์ตก, คงอยู่ตลอดทั้งคืนและยังคงอยู่ต่อไปตลอดเวลากลางวันจนกระทั่งดวงอาทิตย์ตก ในการแปลควรจะรักษารูปแบบเดิมนี้ไว้ แม้ว่าผู้อ่านงานภาษาจะกำหนด "วัน" อย่างแตกต่างกัน

การแปลที่ยากอื่นๆ ในบทนี้

"ในปฐมกาล"

บางภาษาและวัฒนธรรมพูดถึงโลกเหมือนกับว่ามันดำรงอยู่ตลอด และเหมือนกับว่ามันไม่มีการเริ่มต้น แต่ "นานมาแล้ว" คือแตกต่างจาก "ในปฐมกาล" และท่านต้องการให้แน่ใจว่าการแปลของท่านสื่อสารอย่างถูกต้อง

"พระเจ้าตรัสว่า 'จงเกิดขึ้น'"

คำกล่าวนี้เกิดขึ้นบ่อยครั้งในบทนี้ มันอาจเป็นเรื่องยากในการแปล เพราะพระเจ้าไม่ได้แสดงว่าพูดคุยกับบุคคลใดบุคคลหนึ่ง ถ้าพระเจ้ากำลังพูดถึงสิ่งใด ก็เป็นสิ่งที่ยังไม่มีอยู่ ผู้แปลควรหาวิธีที่เป็นธรรมชาติที่สุดในงานภาษาเพื่อทำเครื่องหมายแนวคิดที่ว่าพระเจ้าตรัสสิ่งต่างๆ ให้มีอยู่ พระองค์ทรงสร้างโลกและสิ่งต่างๆ ในโลกโดยเพียงแค่บัญชา สิ่งเหล่านั้นก็เกิดขึ้น

| >>

Genesis 1:1

ในปฐมกาล พระเจ้าทรงสร้างฟ้าและแผ่นดิน

"นี่เป็นเรื่องเกี่ยวกับพระเจ้าทรงสร้างฟ้าและแผ่นดินโลกในปฐมกาล" คำกล่าวนี้สรุปส่วนที่เหลือของบทนี้ บางภาษาแปลว่า "นานมาแล้วที่พระเจ้าทรงสร้างฟ้าและแผ่นดิน" การแปลในแบบที่แสดงให้เห็นว่าสิ่งนี้เกิดขึ้นจริงและไม่ใช่นิทาน

ในปฐมกาล

นี่หมายถึงจุดเริ่มต้นของโลกและทุกสิ่งในนั้น

ฟ้าและแผ่นดิน

"ท้องฟ้า พื้นดิน และทุกสิ่งในนั้น"

ฟ้า

นี่หมายถึงท้องฟ้า

Genesis 1:2

ไม่มีสัณฐาน และว่างเปล่าอยู่

พระเจ้ายังไม่ได้ทรงทำให้โลกเป็นระเบียบ

ที่ลึก

"น้ำ" หรือ "น้ำลึก" หรือ "น้ำกว้างใหญ่"

เหนือผิวน้ำนั้น

"พื้นผิวของน้ำ" หรือ "น้ำ"

Genesis 1:3

จงเกิดความสว่าง

นี่คือคำบัญชา โดยการสั่งว่าความสว่างจงเกิดขึ้นพระเจ้าทรงสร้างมันให้เกิดขึ้น (ดูที่: /WA-Catalog/th_tm?section=translate#figs-imperative)

Genesis 1:4

พระเจ้าทรงเห็นว่าความสว่างนั้นดี

"พระเจ้าทรงพิจารณาความสว่างและพอใจกับมัน" "ดี" ที่นี่หมายถึง "ถูกใจ" หรือ "เหมาะสม"

ทรงแยกความสว่างออกจากความมืด

"แยกความสว่างและความมืดออกจากกัน" หรือ "ทำให้เกิดความสว่างครั้งหนึ่ง และอีกครั้งหนึ่งทำให้เกิดความมืด" นี่หมายถึงพระเจ้าทรงกำลังสร้างเวลากลางวันและเวลากลางคืน

Genesis 1:5

มีเวลาเย็น และเวลาเช้าเป็นวันที่หนึ่ง

พระเจ้าได้ทรงทำสิ่งเหล่านี้ในวันแรกที่จักรวาลได้ดำรงอยู่

เวลาเย็น และเวลาเช้า

นี่หมายถึงตลอดทั้งวัน ผู้เขียนกล่าวถึงตลอดทั้งวันเหมือนกับว่าเป็นสองส่วน ในวัฒนธรรมของชาวยิวหนึ่งวันจะเริ่มต้นตั้งแต่ดวงอาทิตย์ตก (ดูที่: /WA-Catalog/th_tm?section=translate#figs-merism)

Genesis 1:6

จงเกิดภาคพื้นระหว่างน้ำ...ออกจากกัน

คำเหล่านี้คือคำคำบัญชา โดยการสั่งว่าภาคพื้นที่กว้างใหญ่ดำรงอยู่และแยกน้ำออก พระเจ้าทรงทำให้มีอยู่จริงและแยกน้ำออก (ดูที่: /WA-Catalog/th_tm?section=translate#figs-imperative)

ภาคพื้น

พื้นที่ว่างขนาดใหญ่ ชาวยิวคิดว่าพื้นที่นี้มีรูปร่างเหมือนด้านในของโดมหรือด้านในของชามที่คว่ำลง

ระหว่างน้ำ

"ในน้ำ"

Genesis 1:7

พระเจ้าทรงสร้างภาคพื้น และแบ่งแยกน้ำ

"ด้วยวิธีนี้พระเจ้าทรงสร้างภาคพื้นและแบ่งแยกน้ำ" เมื่อพระเจ้าตรัสแล้วก็เกิดขึ้น ประโยคนี้อธิบายสิ่งที่พระเจ้าทำเมื่อพระองค์ตรัส

ก็เป็นอย่างนั้น

"มันเกิดขึ้นเช่นนั้น" หรือ "นั่นคือสิ่งที่เกิดขึ้น" สิ่งที่พระเจ้าทรงบัญชาเกิดขึ้นเช่นเดียวกับที่พระองค์ทรงตรัสว่าควร วลีนี้ปรากฏตลอดทั้งบทและมีความหมายเหมือนกันทุกที่ที่ปรากฏ

Genesis 1:8

เวลาเย็นและเวลาเช้า

นี่หมายถึงตลอดทั้งวัน ผู้เขียนกล่าวถึงตลอดทั้งวันเหมือนกับว่าเป็นสองส่วน ในวัฒนธรรมของชาวยิวหนึ่งวันจะเริ่มต้นเมื่อดวงอาทิตย์ตก ดูที่เคยแปลไว้ใน ปฐมกาล 1:5 (ดูที่: /WA-Catalog/th_tm?section=translate#figs-merism)

วันที่สอง

นี่หมายถึงวันที่สองที่จักรวาลดำรงอยู่ ดูที่เคยแปล "วันแรก" ใน ปฐมกาล 1:5 และตัดสินใจว่าท่านควรแปลในลักษณะเดียวกัน

Genesis 1:9

ให้น้ำที่อยู่ใต้ฟ้ารวมอยู่ในที่ที่เดียวกัน

นี่สามารถแปลได้ด้วยประโยคบอกเล่า นี่คือคำสั่งโดยการสั่งให้น้ำรวมตัวกัน พระเจ้าทรงทำให้น้ำรวมตัวกัน คำแปลอีกอย่างหนึ่ง "ให้น้ำ...รวม" หรือ "ให้น้ำ...มารวมกัน" (ดูที่: /WA-Catalog/th_tm?section=translate#figs-activepassive และ /WA-Catalog/th_tm?section=translate#figs-imperative)

ให้พื้นดินแห้งปรากฎขึ้น

น้ำปกคลุมพื้นดิน ขณะนี้น้ำจะเคลื่อนไปข้างหน้าและดินแดนบางส่วนจะถูกเปิดออก นี่คือคำบัญชา โดยการสั่งว่าพื้นดินแห้งปรากฏขึ้น พระเจ้าทรงทำให้พื้นดินแห้งปรากฏ คำแปลอีกอย่างหนึ่ง "ให้พื้นดินแห้งแล้งปรากฏ" หรือ "ให้พื้นดินแห้งมองเห็นได้" หรือ "ให้พื้นดินถูกเปิดเผยออก" (ดูที่: /WA-Catalog/th_tm?section=translate#figs-imperative)

พื้นดินแห้ง

นี่หมายถึงพื้นดินที่ไม่มีน้ำปกคลุม ไม่ได้หมายถึงที่ดินที่แห้งเกินไปสำหรับการทำการเกษตร

ก็เป็นอย่างนั้น

"มันเกิดขึ้นเช่นนั้น" หรือ "นั่นคือสิ่งที่เกิดขึ้น" สิ่งที่พระเจ้าบัญชาเกิดขึ้นเช่นเดียวกับที่พระองค์ตรัสว่า จง วลีนี้ปรากฏตลอดทั้งบทและมีความหมายเหมือนกันในทุกที่ที่ปรากฏ ดูที่เคยแปลไว้ใน ปฐมกาล 1:7

Genesis 1:10

พื้นดินแห้งว่า "แผ่นดิน" และ

"ส่วนที่แห้งเรียกว่าแผ่นดินและ"

พระองค์ทรงเห็นว่าดี

ในที่นี้ "พระองค์ทรงเห็นว่าดี" หมายถึงแผ่นดินและทะเล ดูที่เคยแปลไว้ใน ปฐมกาล 1:4

Genesis 1:11

ให้แผ่นดินมีผักเกิดขึ้น

นี่คือคำบัญชา โดยการสั่งให้พืชพันธุ์งอกขึ้นมาบนแผ่นดินโลก พระเจ้าทรงทำให้ผักงอก คำแปลอีกอย่างหนึ่ง "ให้ผักงอกขึ้นมาบนโลก" หรือ "ให้ผักงอกขึ้นบนโลก" (ดูที่: /WA-Catalog/th_tm?section=translate#figs-imperative)

ผักเกิดขึ้น พืชต่างๆ ที่มีเมล็ด และต้นไม้ผลที่ให้ผลไม้ที่มีเมล็ดข้างในผล

"ผักแต่ละต้นที่มีเมล็ดและต้นไม้แต่ละต้นที่มีผล" หรือ "ให้พวกผักเป็นพืชที่ผลิตเมล็ดและต้นไม้ที่มีผลให้ออกผล" ในที่นี้คำว่า "ผัก" ถูกใช้เป็นคำทั่วไปที่รวมถึงพืชและต้นไม้ทั้งหมด

พืชต่างๆ

คำเหล่านี้เป็นพันธุ์ไม้ที่มีลำต้นอ่อนมากกว่าลำต้นเป็นไม้

ต้นไม้ผลที่ให้ผลไม้ที่มีเมล็ดข้างในผล

"ต้นไม้ที่ออกผลด้วยเมล็ดในผลของมันเอง"

ตามชนิดของพวกมัน

เมล็ดจะผลิตพืชและต้นไม้ที่เหมือนกับเมล็ดที่มาจากต้น ด้วยวิธีนี้พืชและป่าไม้จะ "เกิดผลเอง"

ก็เป็นอย่างนั้น

"มันเกิดขึ้นเช่นนั้น" หรือ "นั่นคือสิ่งที่เกิดขึ้น" สิ่งที่พระเจ้าบัญชาเกิดขึ้นเช่นเดียวกับที่พระองค์ตรัสว่าจงเกิด วลีนี้ปรากฏตลอดทั้งบทและมีความหมายเหมือนกันทุกที่ที่ปรากฏ ดูที่เคยแปลไว้ใน ปฐมกาล 1:7

Genesis 1:12

พระเจ้าทรงเห็นว่าดี

ในที่นี้ "พระเจ้าทรงเห็นว่าดี" อ้างถึงพืชผักและป่าไม้ ดูที่เคยแปลไว้ใน ปฐมกาล 1:10

Genesis 1:13

เวลาเย็นและเวลาเช้า

นี่หมายถึงตลอดทั้งวัน ผู้เขียนกล่าวถึงตลอดทั้งวันเหมือนกับว่าเป็นสองส่วน ในวัฒนธรรมของชาวยิวหนึ่งวันจะเริ่มต้นเมื่อดวงอาทิตย์ตก ดูที่เคยแปลไว้ใน ปฐมกาล 1:5 (ดูที่: /WA-Catalog/th_tm?section=translate#figs-merism)

วันที่สาม

นี่หมายถึงวันที่สามที่จักรวาลดำรงอยู่ ดูที่เคยแปล "วันแรก" ใน ปฐมกาล 1:5 และตัดสินใจว่าท่านควรแปลในลักษณะเดียวกันนี้

Genesis 1:14

จงมีดวงสว่างในท้องฟ้า

นี่คือคำบัญชา โดยการสั่งว่าจงมีแสงสว่าง พระเจ้าทรงทำให้พวกมันดำรงอยู่ (ดูที่: /WA-Catalog/th_tm?section=translate#figs-imperative)

ดวงสว่างในท้องฟ้า

"สิ่งที่ส่องแสงบนท้องฟ้า" หรือ "สิ่งที่ให้แสงสว่างบนท้องฟ้า" นี่หมายถึงดวงอาทิตย์ ดวงจันทร์ และดวงดาว

ในท้องฟ้า

"ในภาคพื้นที่กว้างใหญ่ของท้องฟ้า" หรือ "ในพื้นที่ขนาดใหญ่ของท้องฟ้า"

เพื่อแยกวันออกจากคืน

"เพื่อแยกวันออกจากคืน" หมายความว่า "เพื่อช่วยให้เราสามารถบอกความแตกต่างระหว่างกลางวันและกลางคืน" ดวงอาทิตย์หมายถึงเป็นเวลากลางวัน ดวงจันทร์ และดาวหมายถึงเป็นเวลากลางคืน

ให้พวกมันเป็นสัญลักษณ์

นี่คือคำบัญชา โดยการสั่งว่าพวกมันควรทำหน้าที่เป็นสัญลักษณ์ พระเจ้าทำให้พวกมันเป็นสัญลักษณ์ คำแปลอีกอย่างหนึ่ง "ให้พวกมันเป็นสัญลักษณ์" หรือ "ให้พวกมันแสดง" (ดูที่: /WA-Catalog/th_tm?section=translate#figs-imperative)

สัญลักษณ์

นี่หมายถึงสิ่งที่เปิดเผยหรือชี้ไปที่บางสิ่ง

สำหรับฤดูต่างๆ สำหรับวันต่างๆ และปีทั้งหลาย

ดวงอาทิตย์ ดวงจันทร์ และดวงดาวแสดงเวลาที่ผ่านไป สิ่งนี้ทำให้เรารู้ว่าถึงเวลาสำหรับกิจกรรมต่างๆ ที่เกิดขึ้นในแต่ละสัปดาห์ เดือน หรือปี

ฤดูต่างๆ

เวลาที่จัดไว้สำหรับเทศกาลต่างๆ และสิ่งอื่นๆ ที่ผู้คนทำ

Genesis 1:15

ให้มันทั้งหลายเป็นดวงสว่างในท้องฟ้าเพื่อที่จะให้แสงสว่างเหนือแผ่นดิน

นี่คือคำบัญชา โดยการสั่งให้พวกมันส่องสว่างบนแผ่นดินโลก พระเจ้าทรงทำให้พวกมันส่องสว่างบนโลก (ดูที่: /WA-Catalog/th_tm?section=translate#figs-imperative)

ให้แสงสว่างเหนือแผ่นดิน

"เพื่อส่องแสงบนโลก" หรือ "เพื่อเพิ่มความสว่างให้โลก" โลกไม่ได้ส่องแสงในตัวเอง แต่มันสว่างและสะท้อนแสง

ก็เป็นอย่างนั้น

"มันเกิดขึ้นเช่นนั้น" หรือ "นั่นคือสิ่งที่เกิดขึ้น" สิ่งที่พระเจ้าบัญชาเกิดขึ้นเช่นเดียวกับที่พระองค์ตรัสว่า จง วลีนี้ปรากฏตลอดทั้งบทและมีความหมายเหมือนกัน ดูที่เคยแปลไว้ใน ปฐมกาล 1:7

Genesis 1:16

พระเจ้าทรงสร้างดวงสว่างใหญ่สองดวง

"ด้วยวิธีนี้พระเจ้าทรงสร้างดวงสว่างใหญ่สองดวง" ประโยคนี้อธิบายสิ่งที่พระเจ้าทรงกระทำเมื่อพระองค์ตรัส

ดวงสว่างใหญ่สองดวง

"ดวงสว่างใหญ่สองดวง" หรือ "ดวงสว่างสองดวง" ดวงสว่างใหญ่สองดวงคือดวงอาทิตย์และดวงจันทร์

ครองวัน

ดวงสว่างที่ควบคุมวันถูกพูดถึงเหมือนกับว่าเป็นผู้ปกครองมนุษย์ที่ควบคุมสิ่งที่ผู้คนทำ คำแปลอีกอย่างหนึ่ง "เพื่อควบคุมกลางวันในขณะที่ผู้ปกครองควบคุมกลุ่มคน" หรือ "เพื่อทำเป็นเครื่องหมายเวลาของวัน" (ดูที่: /WA-Catalog/th_tm?section=translate#figs-personification และ /WA-Catalog/th_tm?section=translate#figs-metaphor)

วัน

นี่หมายถึงเฉพาะเวลากลางวัน

ดวงสว่างที่เล็กกว่า

"ดวงสว่างที่เล็กกว่า" หรือ "ดวงที่แสงหรี่ๆ"

Genesis 1:17

ไว้ในท้องฟ้า

"ในท้องฟ้า" หรือ "ในที่เปิดโล่งของท้องฟ้า"

Genesis 1:18

เพื่อจะแยกความสว่างออกจากความมืด

"เพื่อแยกแสงสว่างออกจากความมืด" หรือ "เพื่อให้แสงสว่างในครั้งเดียวและมืดที่อื่นๆ" ดูที่เคยแปลไว้ใน ปฐมกาล 1:4.

พระเจ้าทรงเห็นว่าดี

ในที่นี้ "มัน" หมายถึงดวงอาทิตย์ ดวงจันทร์ และดวงดาว ดูที่เคยแปลไว้ใน ปฐมกาล 1:4.

Genesis 1:19

เวลาเย็นและเวลาเช้า

นี่หมายถึงตลอดทั้งวัน ผู้เขียนพูดถึงตลอดทั้งวันเหมือนกับว่าเป็นสองส่วน ในวัฒนธรรมของชาวยิววันหนึ่งจะเริ่มต้นเมื่อดวงอาทิตย์ตก ปฐมกาล 1:5. (ดูที่: /WA-Catalog/th_tm?section=translate#figs-merism)

วันที่สี่

นี่หมายถึงวันที่สี่ที่จักรวาลดำรงอยู่ ดูที่เคยแปล "วันแรก" ใน ปฐมกาล 1:5 และตัดสินใจว่าท่านควรแปลในลักษณะเดียวกันนี้

Genesis 1:20

ในน้ำจงเต็มไปด้วยสิ่งมีชีวิตจำนวนมาก

นี่คือคำบัญชา โดยการสั่งว่าในน้ำจงเต็มไปด้วยสิ่งมีชีวิต พระเจ้าทรงทำให้พวกมันเกิดขึ้น บางภาษาอาจมีหนึ่งคำที่หมายถึงปลาและสัตว์ทะเลทุกชนิด คำแปลอีกอย่างหนึ่ง "ให้น้ำเต็มไปด้วยสิ่งมีชีวิตมากมาย" หรือ "ปล่อยให้สัตว์หลายชนิดที่ว่ายน้ำอาศัยอยู่ในมหาสมุทร" (ดูที่: /WA-Catalog/th_tm?section=translate#figs-imperative)

ให้นกทั้งหลายบิน

นี่คือคำบัญชา โดยการสั่งให้นกบินได้ พระเจ้าทรงทำให้พวกมันบิน (ดูที่: /WA-Catalog/th_tm?section=translate#figs-imperative)

นกทั้งหลาย

"สัตว์ที่บินได้" หรือ "สิ่งที่บินได้"

ในภาคพื้นแห่งท้องฟ้า

"พื้นที่เปิดโล่งของท้องฟ้า" หรือ "ท้องฟ้า"

Genesis 1:21

พระเจ้าทรงสร้าง

"ด้วยวิธีนี้พระเจ้าทรงสร้าง"

สัตว์ทะเลขนาดใหญ่

"สัตว์ใหญ่ที่อาศัยอยู่ในทะเล"

ตามชนิดของพวกมัน

สิ่งมีชีวิตที่มี "ชนิด" เหมือนกันเป็นสิ่งที่พวกมันเกิดมา ดูที่เคยแปล "ชนิด" ใน ปฐมกาล 1:11,12

นกที่บินได้ทั้งหลาย

"ทุกสิ่งที่มีปีกบินได้" หากใช้คำว่านกอาจเป็นเรื่องปกติในบางภาษาที่จะพูดว่า "นกทุกตัว" เนื่องจากนกทุกตัวมีปีก

พระเจ้าทรงเห็นว่าดี

ในที่นี้ "พระเจ้าทรงเห็นว่าดี" หมายถึงนกและปลา ดูที่เคยแปลไว้ใน ปฐมกาล 1:4

Genesis 1:22

อวยพรพวกมัน

"อวยพรสัตว์ที่พระองค์ทรงสร้าง"

จงแพร่พันธ์ุ และทวีมากขึ้น

นี่คือพระพรของพระเจ้า พระองค์ทรงบอกสัตว์ทะเลให้แพร่พันธ์ุสัตว์ทะเลมากขึ้นเหมือนตัวมันเอง เพื่อที่จะมีพวกมันอยู่ในทะเล คำว่า "ทวีคูณ" อธิบายว่าพวกมันจะ "แพร่พันธ์ุ" ได้อย่างไร (ดูที่: /WA-Catalog/th_tm?section=translate#figs-doublet และ /WA-Catalog/th_tm?section=translate#figs-idiom)

ทวีมากขึ้น

เพิ่มขึ้นอย่างมากในจำนวน

ให้นกทั้งหลายทวีมากขึ้น

นี่คือคำบัญชา โดยการสั่งนกจงทวีมากขึ้น พระเจ้าทรงสร้างนกทวีคูณ (ดูที่: /WA-Catalog/th_tm?section=translate#figs-imperative)

นกทั้งหลาย

"สัตว์ที่บินได้" หรือ "สิ่งที่บินได้" ดูที่เคยแปลไว้ใน ปฐมกาล 1:20

Genesis 1:23

เวลาเย็นและเวลาเช้า

นี่หมายถึงตลอดทั้งวัน ผู้เขียนพูดถึงตลอดทั้งวันเหมือนกับว่าเป็นสองส่วน ในวัฒนธรรมของชาวยิวหนึ่งวันจะเริ่มต้นเมื่อดวงอาทิตย์ตก ดูที่เคยแปลไว้ใน ปฐมกาล 1:5 (ดูที่: /WA-Catalog/th_tm?section=translate#figs-merism)

วันที่ห้า

นี่หมายถึงวันที่ห้าที่จักรวาลดำรงอยู่ ดูที่เคยแปล "วันแรก" ใน ปฐมกาล 1:5 และตัดสินใจว่าท่านควรแปลในลักษณะเดียวกันนี้

Genesis 1:24

ให้แผ่นดินเกิดสัตว์ที่มีชีวิต

"ให้โลกสร้างสิ่งมีชีวิต" หรือ "ให้สัตว์ที่มีชีวิตมากมายอาศัยอยู่บนโลก" นี่คือคำบัญชา โดยการสั่งให้แผ่นดินโลกเกิดสิ่งมีชีวิต พระเจ้าทรงทำแผ่นดินโลกให้เกิดสิ่งมีชีวิต (ดูที่: /WA-Catalog/th_tm?section=translate#figs-imperative)

แต่ละอย่างตามชนิดของพวกมัน

"เพื่อให้สัตว์แต่ละชนิดจะแพร่พันธ์ุของตัวเองมากขึ้น"

สัตว์ใช้งาน สัตว์เลื้อยคลาน และสัตว์ป่าของแผ่นดิน

นี่แสดงว่าพระเจ้าทรงสร้างสัตว์ทุกชนิด หากภาษาของท่านมีวิธีการจัดกลุ่มสัตว์ทั้งหมด ท่านสามารถใช้สิ่งนั้นหรือท่านสามารถใช้กลุ่มเหล่านี้

สัตว์ใช้งาน

สัตว์ที่ผู้คนดูแล

สัตว์เลื้อยคลาน

"สัตว์เล็ก"

สัตว์ป่าของแผ่นดิน

"สัตว์ป่า" หรือ "สัตว์อันตราย"

ก็เป็นอย่างนั้น

"มันเกิดขึ้นเช่นนั้น" หรือ "นั่นคือสิ่งที่เกิดขึ้น" สิ่งที่พระเจ้าทรงบัญชาเกิดขึ้นเช่นเดียวกับที่พระองค์ตรัสว่าจง วลีนี้ปรากฏตลอดทั้งบทและมีความหมายเหมือนกัน ดูที่เคยแปลไว้ใน ปฐมกาล 1:7

Genesis 1:25

พระเจ้าได้ทรงสร้างสัตว์ป่า

"ด้วยวิธีนี้พระเจ้าทรงสร้างสัตว์ป่า"

พระองค์ทรงเห็นว่าดี

ในที่นี้ "มัน" หมายถึงสิ่งมีชีวิตบนโลก ดูที่เคยแปลไว้ใน ปฐมกาล 1:4

Genesis 1:26

ให้เราสร้าง

คำว่า "เรา" ในที่นี้หมายถึงพระเจ้า พระเจ้ากำลังตรัสในสิ่งที่พระองค์ทรงตั้งใจว่าจะกระทำ คำสรรพนาม "เรา" เป็นพหูพจน์ เหตุผลที่เป็นไปได้สำหรับการใช้พหูพจน์คือ 1) รูปแบบพหูพจน์แสดงให้เห็นว่าพระเจ้ากำลังพูดคุยบางสิ่งกับทูตสวรรค์ที่ทรงกระทำที่อยู่ของชาวฟ้าของพระองค์หรือ 2) รูปแบบพหูพจน์ของภาพจำลอง ต่อมาพันธสัญญาใหม่ที่พระเจ้าทรงดำรงอยู่ในรูปแบบตรีเอกานุภาพ บ้างก็แปลว่า "ให้เราทำ" หรือ "เราจะทำเอง" ถ้าท่านทำสิ่งนี้ให้พิจารณาเพิ่มเชิงอรรถว่าคำนั้นเป็นพหูพจน์(ดูที่: /WA-Catalog/th_tm?section=translate#figs-pronouns)

มนุษย์

มนุษย์

ตามฉายาของเรา ตามลักษณะของเรา

สองวลีนี้หมายถึงสิ่งเดียวกันและเน้นย้ำว่าพระเจ้าทรงทำให้มนุษยชาติเป็นเหมือนพระองค์ ข้อนี้ไม่ได้บอกว่าพระเจ้าทำให้ผู้คนเป็นเหมือนพระองค์เองโดยวิธีไหน พระเจ้าไม่ได้มีร่างกาย ดังนั้นจึงไม่ได้หมายความว่าผู้คนจะมองดูลักษณะเหมือนพระเจ้า คำแปลอีกอย่างหนึ่ง "เพื่อเป็นเหมือนเราจริงๆ" (ดูที่: /WA-Catalog/th_tm?section=translate#figs-doublet และ/WA-Catalog/th_tm?section=translate#figs-pronouns)

ครอบครอง

"ปกครองเหนือ" หรือ "มีสิทธิอำนาจเหนือ"

Genesis 1:27

พระเจ้าทรงสร้างมนุษย์...พระองค์ทรงสร้างพวกเขา

ประโยคทั้งสองนี้มีความหมายเหมือนกันและเน้นย้ำว่าพระเจ้าทรงสร้างผู้คนตามพระฉายาของพระองค์ (ดูที่: /WA-Catalog/th_tm?section=translate#figs-parallelism)

พระเจ้าทรงสร้างมนุษย์

วิธีที่พระเจ้าสร้างมนุษย์แตกต่างจากวิธีที่พระองค์ทรงสร้างทุกอย่าง อย่าเจาะจงว่าพระองค์ทรงสร้างมนุษย์โดยการตรัสง่ายๆ เหมือนที่กล่าวไว้ในข้อก่อนหน้านี้

Genesis 1:28

พระเจ้าทรงอวยพรพวกเขา

คำว่า "พวกเขา" หมายถึงชายและหญิงที่พระเจ้าสร้างขึ้น

จงแพร่พันธ์ุ และทวีมากยิ่งขึ้น

พระเจ้าตรัสแก่ชายและหญิงให้แพร่พันธุ์คนมากขึ้นเหมือนพวกเขาเองเพื่อที่จะมีพวกเขาจำนวนมาก คำว่า "ทวีคูณ" อธิบายว่าพวกเขาจะ "ลูกดก" ได้อย่างไร ดูที่เคยแปลไว้ใน ปฐมกาล 1:22 (ดูที่: /WA-Catalog/th_tm?section=translate#figs-doublet และ/WA-Catalog/th_tm?section=translate#figs-idiom)

เต็มแผ่นดิน

เติมโลกให้เต็มไปด้วยผู้คน

Genesis 1:29

ข้อมูลทั่วไป

หน้านี้ตั้งใจเว้นว่างไว้

Genesis 1:30

ข้อมูลทั่วไป

พระเจ้ายังคงตรัสต่อไป

นกทุกตัวของท้องฟ้า

"นกทุกตัวที่บินได้ในท้องฟ้า"

ซึ่งทรงสร้างที่มีลมหายใจ

"ซึ่งหายใจ" วลีนี้เน้นย้ำว่าสัตว์เหล่านี้มีชีวิตที่แตกต่างจากพืช พืชไม่หายใจและถูกใช้เป็นอาหารสำหรับสัตว์ ในที่นี้ "ชีวิต" หมายถึงชีวิตทางกายภาพ

ก็เป็นอย่างนั้น

"มันเกิดขึ้นเช่นนั้น" หรือ "นั่นคือสิ่งที่เกิดขึ้น" สิ่งที่พระเจ้าทรงบัญชาเกิดขึ้นเช่นเดียวกับที่พระองค์ตรัสว่าจง วลีนี้ปรากฏตลอดทั้งบทและมีความหมายเหมือนกัน ดูที่เคยแปลไว้ใน ปฐมกาล 1:7

Genesis 1:31

ดูเถิด

"นี่คือความจริงและสำคัญ"

มันดีมาก

ตอนนี้เมื่อพระเจ้าทอดพระเนตรทุกสิ่งที่พระองค์ทรงกระทำนั้น "ดีมาก" ดูที่เคยแปล "มัน" ไว้ใน ปฐมกาล 1:10

เวลาเย็นและเวลาเช้า

นี่หมายถึงตลอดทั้งวัน ผู้เขียนพูดถึงตลอดทั้งวันเหมือนกับว่าเป็นสองส่วน ในวัฒนธรรมของชาวยิววันหนึ่งจะเริ่มต้นเมื่อดวงอาทิตย์ตก ดูที่เคยแปลไว้ใน ปฐมกาล 1:5 (ดูที่: /WA-Catalog/th_tm?section=translate#figs-merism)

วันที่หก

นี่หมายถึงวันที่หกที่จักรวาลดำรงอยู่ ดูที่เคยแปล "วันแรก" ใน ปฐมกาล 1:5 และตัดสินใจว่าท่านควรแปลในลักษณะเดียวกันนี้