หลังจากการสิ้นพระชนม์ของซาอูล ดาวิดได้กลับมาจากการโจมตีคนอามาเลขและยังได้คงอยู่ในศิกลากเป็นเวลาสองวัน
ในวันที่สาม ผู้ชายคนหนึ่งที่ได้สวมเสื้อผ้าที่ฉีกขาด และมีฝุ่นบนศีรษะของเขาได้มาหาดาวิด
ชายหนุ่มได้พูดว่าซาอูลและโยนาธานโอรสของพระองค์ได้สิ้นพระชนม์แล้ว
ชายหนุ่มได้พูดว่าเขาได้อยู่บนภูเขากิโบอา และซาอูลกำลังยืนพิงหอกของพระองค์อยู่ที่นั่น
ชายหนุ่มได้พูดว่าซาอูลได้ทรงขอให้เขามายืนอยู่เหนือพระองค์และประหารพระองค์
ซาอูลได้ทรงขอให้ชายหนุ่มชาวอามาเลขประหารพระองค์ เพราะพระองค์ได้ตรัสว่า "...ความเจ็บปวดแสนสาหัสได้เกาะกุมเรา เพราะชีวิตยังอยู่ในเรา"
ชายหนุ่มได้เอามงกุฎที่อยู่บนพระเศียรของซาอูลและกำไลที่พระกรของพระองค์ไป
ดาวิดและพวกผู้ชายของเขาได้ฉีกเสื้อผ้าของตนและพวกเขาได้คร่ำครวญ ร้องไห้ และอดอาหารจนถึงเวลาเย็น
ดาวิดและพวกผู้ชายของเขายังได้คร่ำครวญ ร้องไห้ และได้อดอาหารให้กับประชากรของพระยาห์เวห์ และให้กับวงศ์วานอิสราเอล เพราะพวกเขาได้ล้มลงด้วยดาบ
ดาวิดได้ประหารชายหนุ่มชาวอามาเลข เพราะเขาได้ประหารกษัตริย์ที่พระยาห์เวห์ได้ทรงเจิมไว้
ดาวิดได้ประหารชายหนุ่มชาวอามาเลข เพราะเขาได้ประหารกษัตริย์ที่พระยาห์เวห์ได้ทรงเจิมไว้
เพลงพิธีศพที่ดาวิดได้ร้องเกี่ยวกับซาอูลและโอรสของพระองค์ที่ได้เขียนไว้ในหนังสือยาชาร์
ศักดิ์ศรีของอิสราเอลได้สิ้นไปแล้ว
ดาวิดไม่ได้ประกาศว่าเรื่องนั้นไม่ได้อยู่ในเมืองกัทหรือในถนนต่างๆ ของอัชเคโลนเพื่อที่ธิดาทั้งหลายของฟีลิสเตียจะไม่ได้รื่นเริงยินดี และเพื่อให้ธิดาทั้งหลายของคนที่ไม่เข้าสุหนัตจะไม่ได้เฉลิมฉลองกัน
โล่ของผู้แกล้วกล้าได้เป็นมลทินบนภูเขาทั้งหลายของกิเบอา
ซาอูลได้สวมเสื้อผ้าสีแดงเข้มอย่างประณีตให้พวกเธอ และได้ใส่เครื่องประดับที่เป็นทองคำบนเสื้อผ้าของพวกเธอ
ดาวิดได้กล่าวว่าความรักของโยนาธานที่มีต่อดาวิดช่างน่าอัศจรรย์ เหนือกว่าความรักของสตรีทั้งหล